พบความสุขบริบทใหม่ที่มาพร้อมความทันสมัย กับพรีเมียมทาวน์โฮมซีรีย์ล่าสุด Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน “คิดใหญ่ เพื่อสไตล์ชีวิตที่มากกว่า”

พฤกษาฯ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาโครงการแนวราบในรูปแบบทาวน์โฮมมาเป็นเวลาหลายสิบปี โดยในปีนี้แบรนด์ที่ค่อนข้างฮิตและทำการตลาดมายาวนานอย่าง Pruksa Ville (พฤกษา วิลล์) ก็ได้มีการเปิดตัวโครงการที่ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของโครงการลงไปให้ชัดเจนมากขึ้น โดยมีการออกแบบตามสไตล์ Colonial แถมยังอัดแน่นไปด้วย Living Solution สุดทันสมัยที่จะทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยดีขึ้นมาง่ายๆ อย่าง Pruksa Living Tech โดยโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน นอกจากมีการออกแบบฟังก์ชั่นและดีไซน์ใหม่หมดแล้ว ยังตั้งอยู่บนทำเลยอดฮิตสำหรับโครงการแนวราบในยุคปัจจุบันอย่างถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ หรือศรีนครินทร์ – ร่มเกล้านี่เอง

อาจสงสัยกันว่า Pruksa Living Tech ที่ถูกกล่าวในข้างต้นนั้นคืออะไร มีความสำคัญกับโครงการของพฤกษาฯ อย่างไร ฉะนั้นก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับระบบนี้กันเลยดีกว่า… Pruksa Living Tech เป็นเทคโนโลยีที่พฤกษาฯ พัฒนาขึ้นโดยนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่และการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นธรรมชาติมาผสานเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้ชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยดีขึ้นในทุกด้าน ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน คือ Healthy, Green, Safety และ Smart

Healthy คือ ระบบ O2 System ระบบที่ควบคุมออกซิเจนให้มีระดับเท่ากับบริเวณที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะๆ ซึ่งช่วยให้สมอง ผิวหนัง และเซลล์ในร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และยังมีระบบหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ซึ่งช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ผิวหนังมีสุขภาพดี และระบบเซลล์ทั้งหมดของร่างกายก็ดีขึ้นตามไปด้วย

Green คือ ระบบ Fresh Air System เป็นการใช้ลมเย็นมาไล่ลมร้อนออกไป เพื่อให้บ้านหายใจได้ ซึ่งประโยชน์ของระบบนี้ที่จะผู้อยู่อาศัยจะได้รับก็จะเป็น การช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทมากขึ้น, ลดอุณหภูมิภายในบ้าน, ประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศ, ช่วยระบายความร้อน ไม่ทำให้บ้านอบอ้าว และลดกลิ่นอับ

Safety คือ Security & Safety system CCTV ที่ทางโครงการติดตั้ง CCTV สามารถดูความปลอดภัยของบ้าน ผ่าน Smartphone ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีการเพิ่มระบบ Pruksa Home Automation & Security System ที่มีระบบป้องกันขโมย ป้องกันอัคคีภัย หากตรวจพบความผิดปกติระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือ  จึงตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยมากที่สุด

Smart คือ Home Automation ระบบสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟน และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เวลาที่เจ้าของบ้านอยู่นอกบ้าน สั่งการสะดวกสบาย ทำให้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ไฟฟ้า แสงสว่าง กล้องวงจรปิด เครื่องปรับอากาศ ระบบสัญญาณเตือนภัย ส่งตรงง่ายๆ จากมือถือเจ้าของบ้าน ซึ่งกล้องทำงานเพื่อตรวจสอบความผิดปกติภายในบ้านได้แบบ Real-time

ซึ่งในทาวน์โฮมเราจะได้เห็น Solution เหล่านี้ที่อยู่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์สำหรับผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกขึ้น และเป็นนวัตกรรมที่มีความทันสมัยสำหรับในยุคปัจจุบันอีกด้วย

Home Automation ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าของพฤกษาได้ง่ายๆ จากทั้งสมาร์ทโฟน และแผงควบคุมภายในบ้าน

Smart Switch ที่ใช้สมาร์ทโฟนควบคุมการเปิด-ปิดได้อย่างอัจฉริยะ

Wellness Solution นวัตกรรมพื้นกันลื่น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน

Fire Extinguisher เสริมความปลอดภัยด้วยถังดับเพลิงภายในบ้าน ที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านแก้ปัญหาในระดับเริ่มต้นได้เอง

LED Lighting ช่วยประหยัดพลังงาน, Pruksa Precast นวัตกรรมที่ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง และ Space Extension มีพื้นที่ภายในบ้านกว้าง

Skylight ที่จะช่วยเพิ่มแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาสู่ตัวบ้าน ช่วยประหยัดไฟในตอนกลางวัน และทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง มากยิ่งขึ้น

Pruksa Fresh Air System ช่วยให้อากาศในบ้านปลอดโปร่งมากขึ้น

โครงการ Pruksa Ville (พฤกษา วิลล์) กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน ตั้งอยู่ที่ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านถนนศรีนครินทร์ ร่มเกล้าได้ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า) ที่มีระยะทางรวม 16 กม. เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง ถนนศรีนครินทร์และถนนร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนที่สร้างเชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์ ผ่านถนนรามคำแหง 24 และถนนร่มเกล้า จุดนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของเมืองบริเวณแยกพระราม 9 ได้ง่าย แค่ 15 นาที ทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ ซึ่งก็มีสะพานข้ามถนนกาญจนาภิเษกที่เพิ่งเปิดใช้งานไปเมื่อไม่นานนี้เอง

โดยสะพานข้ามถนนกาญจนาภิเษกทำให้ข้ามมาฝั่งร่มเกล้าได้สะดวกรวดเร็ว เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณใกล้เคียงด้วย โดยบริเวณนี้ยังสามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังสร้างอยู่ได้สะดวกมาก ซึ่งจากความสำคัญดังกล่าวทำให้ราคาที่ดินในย่านนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยโครงการหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ในย่านนี้ก็มักจะมีระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่โครงการทาวน์โฮมส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่เกาะแนวถนนกาญจนาภิเษกฝั่งร่มเกล้า – ถนนราษฎร์พัฒนา เพื่อให้สอดรับกับดีมานท์ของคนในย่านพื้นที่นั้นๆ และราคาที่ดินช่วงที่เลยวงแหวนรอบนอก ก็มีเกณฑ์การปรับจากราคา 5-6 ลบ. พุ่งขึ้นถึง 10 ลบ./ไร่ ทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินในย่านกรุงเทพกรีฑา ช่วงก่อนที่จะข้ามวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นย่านที่มีที่พักอาศัยราคาสูง ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ขายกันในราคาหลายสิบล้านบาท เนื่องจากอยู่ติดกับ ถ.พระราม 9 – ศรีนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ใจกลาง CBD ได้อย่างรวดเร็ว

ภาพจาก : https://www.prachachat.net/property/news-381577

และรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เริ่มทำการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2560 ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีระยะทางประมาณ 22.57 กม. เชื่อมย่านรามคำแหง ไปสู่ BTS ราชเทวี และ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่อยู่ใจกลางเมือง และสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน มากที่สุดก็จะเป็นสถานีราษฎร์พัฒนา แต่ตอนนี้ก็มีบริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีลาดกระบังรองรับอยู่ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มก่อสร้างแล้วเสร็จ ยิ่งทำให้การเดินทางในย่านวงแหวนตะวันออกมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว

เส้นทางที่สามารถไปยังโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน ใช้ได้ 3 ทาง อย่าง 1. จากถนนรามคำแหงมาทางถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ระยะทาง 10.3 กม. 2. จากถนนรามคำแหงมาทางถนนเลียบทางกาญจนาภิเษก ระยะทาง 8.4 กม. และ 3. จากมอเตอร์เวย์มาทางถนนเลียบทางกาญจนาภิเษก ระยะทาง 2.8 กม. ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถใช้ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เชื่อมต่อสู่ย่านใจกลางเมืองอย่างสะดวกและรวดเร็ว เพียง 5 นาที จาก มอเตอร์เวย์, 15 นาที จาก BTS สายสีส้ม สถานีน้อมเกล้า, 15 นาที จาก สนามบินสุวรรณภูมิ และ 20 นาที จาก New CBD ย่านพระราม 9

เจาะจุดเด่น Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน

มาดูจุดเด่นของ Pruksa Ville ว่าโครงการนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ลบ. แต่บอกได้เลยว่าทั้งการออกแบบและนวัตกรรมภายในบ้านเพื่อผู้อยู่อาศัยก็อัดแน่นไม่แพ้กับโครงการ Pruksa Ville ในย่านอื่น หรือโครงการในย่านใกล้เคียงแน่นอน ที่นี่เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหาบ้านที่อยู่ในทำเลของวงแหวนกาญจนาภิเษก และหลีกหนีความวุ่นวาย จากการจราจรในใจกลางเมือง โดยที่ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้อย่างสะดวก และใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย

ในโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน มีขนาดส่วนกลางที่หรู Grand กว้างกว่า แถม Facilities แบบจัดเต็ม อย่าง clubhouse, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส และ Co-Working Space พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้านที่โปร่งโล่งสบายกว่า ด้วยหน้ากว้าง 5.7 ม. และเพดานชั้นสองที่สูงถึง 3.5 ม. พร้อมช่อง Sky Light ที่ไม่สามารถหาได้ในบ้านระดับราคานี้ และยังมีการออกแบบที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ Flexible ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทั้งในส่วนของ ห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างที่ปรับเป็นห้องเอนกประสงค์ได้ หรือการลงเสาเข็มขนาดเท่าตัวบ้านที่หลังบ้านให้เพื่อต่อเติมพื้นที่ครัว และซักล้างแบบปิดได้ในอนาคต

โดยบ้านทั้ง 2 แบบมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่อัดแน่นถึง 4 ห้องนอน หากคิดหารออกมาเป็นต่อห้องนอน ต่อตร.ม. ก็แค่ไม่กี่บาทเอง ประมาณ 26,000 บ./ตร.ม. เท่านั้น ซึ่งที่นี่เป็นทาวน์โฮมที่ให้ความสำคัญกับงานดีไซน์และเทคโนโลยี แตกต่างจากโครงการข้างเคียงในระดับราคาเดียวกัน ที่มักจะไม่มีดีไซน์อะไรเลยในส่วนของ Facade โดยที่นี่เป็นสไตล์ Colonial ที่มี Facade เล่นลวดลาย และยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรม Pruksa Living Tech อีกทั้งยังตั้งอยู่ในย่านที่แวดล้อมไปด้วยโครงการระดับไฮเอนด์ของทุกแบรนด์ อย่างถนนกรุงเทพกรีฑา

บริเวณหน้าโครงการ

ด้านหน้าโครงการมีป้ายขนาดใหญ่ที่ใช้ชื่อโครงการโดยรวมว่า Pruksa Avenue เนื่องจากพื้นที่ข้างในจะมีโครงการที่อยู่ภายในพฤกษาถึง 3 แบรนด์ด้วยกัน คือ The Palm, Patio และ Pruksa Ville ซึ่งที่นี่จะเป็นโครงการ Pruksa Avenue โครงการที่ 2 ต่อจากโครงการแรกในย่านพัฒนาการ 38 แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และจริงจังของพฤกษาฯในการพัฒนาโครงการในย่านนี้

บริเวณหน้าโครงการติดกับด่านเก็บเงินทับช้าง 1

ประตูโครงการอีกหนึ่งจุด ติดกับโครงการ The Palm ที่อยู่ซ้ายมือ

Main Gate ของแต่ละโครงการแยกกันหมด โดยแขกของลูกบ้านต้องแลกบัตรที่นี่ก่อนเข้าไปหาลูกบ้านด้านใน

โครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน บ้านพรีเมียมทาวน์โฮม จำนวน 443 หลัง บนพื้นที่ 44-0-05 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก มีบ้าน 2 แบบ คือ แบบบ้าน Colony ขนาด 116 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 2 ห้องนอน 1 ที่จอดรถ และแบบบ้าน Empire ขนาด 131 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “The New Colonial Masterpiece in Prime” ทาวน์โฮมหรูในสไตล์ Colonial และ Colonial Façade design ใช้เส้นสายเพิ่มความมีเอกลักษณ์ให้กับงานสถาปัตยกรรม รวมทั้งการออกแบบให้ทุกตารางนิ้วมีพื้นที่ใช้ประโยชน์สูงสุด ให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ที่กว้างกว่าและใช้ชีวิตสงบ สบาย ไปกับความเป็นธรรมชาติที่อยู่ในโครงการ

อีกทั้ง Facilities มากมายในโครงการ อย่าง Clubhouse, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Co-Working Space, สวนสาธารณะขนาดใหญ่, ระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานบ้านเดี่ยว Security Guard 24 ชั่วโมง, CCTV, Auto Access Card และ Double Security Main Gate

Clubhouse

สระว่ายน้ำระบบเกลือ

สวนสาธารณะ

Double Security Main Gate 

ในโครงการยังบ้านแปลงพิเศษที่เป็นแปลงหัวมุมทั้งสองหลัง ซึ่งจะได้หน้าต่างมากกว่าหลังที่อยู่ตรงกลางและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เช่น หลังที่อยู่คู่กันตรงหน้า Clubhouse

Plan แบบบ้าน Colony

พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. หน้าบ้านจอดรถได้ 1 คัน มีระยะหน้าบ้านเพิ่มความเป็นส่วนตัว บริเวณชั้น 1 ห้องครัวและห้องรับแขกเชื่อมต่อกัน ไม่รู้สึกอึดอัด มีห้องเอนกประสงค์รองรับการใช้งานมากขึ้น ห้องน้ำชั้นล่างแยกฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วน และทางโครงการลงเสาเข็มขนาดเท่าตัวบ้านรองรับการขยายพื้นที่หลังบ้านสามารถทำเป็นครัวปิดด้านนอกได้ ขึ้นมาชั้น 2 โถงบันไดมีช่องแสง Skylight เพิ่มแสงสว่างบริเวณมุมอับ ห้องนอน Master Bedroom มี Walking Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ และห้องนอน 2-3 รองรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวในอนาคต

บ้านตัวอย่าง Colony

พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 ม. ติดระแนงเหล็กตรงห้อง Master Bedroom ให้ทุกหลัง

Facade เป็นสไตล์ Colonial ที่มีการเล่นลวดลาย ใช้โทนสีเข้ม ใช้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวสูง 2.2 ม. อลูมิเนียมอบสี Powder Coat สีเทาเข้ม กระจกสีเขียวตัดแสง

พื้นที่ติดกับประตูหน้า เป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ 1 คัน

มีช่องปรับแสงด้านบน และห้องเก็บของด้านล่าง

หลังหัวมุม ด้านข้างแบบนี้ มีหน้าต่างเยอะกว่าหลังอื่นและรับแสงได้มากกว่า

บริเวณชั้น 1 เพดานสูง 2.8 ม. ต่างจากโครงการอื่นที่มีความสูงเพดานเพียง 2.7 ม. เท่านั้น

นำรูปมาเทียบกับบ้านเปล่า จะเห็นได้ว่าบ้านมีความโปร่งมาก เมื่อตกแต่งจะไม่รู้สึกอึดอัด และเป็นผนังเปล่าสีขาวทั้งหลัง

ส่วนของมุมนั่งเล่น สามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้

ใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็จะทำให้มีพื้นที่ในการเดินเพิ่มขึ้น และใช้โต๊ะใต้ทีวีวางของตกแต่งแทน

สวิตซ์ไฟใช้เป็นระบบสัมผัสแบบบ้านตัวอย่าง และทางโครงการได้ทำการติดสัญญาณกันขโมยให้บ้านทุกหลังด้วย

โต๊ะทานอาหารอยู่ติดกับประตูหลังบ้าน เพื่อสะดวกต่อการเก็บกวาด

ให้แอร์ติดผนังแบบปกติ ยี่ห้อ Daikin ไม่ได้ให้เหมือนในบ้านตัวอย่างซึ่งเป็นแบบ Cassette Type

สิ่งที่สะดุดตาที่สุดภายในบ้านก็คือ ถังดับเพลิง ที่ทางโครงการติดกับลูกบ้านทุกหลัง เพื่อช่วยป้องกันการเกิดไฟไหม้ในเบื้องต้นได้

ถังดับเพลิง จะอยู่ติดกับประตูหลังบ้าน

ห้องนอนชั้น 1 สามารถเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน หรือห้อง Theater

ด้านหน้าห้องนอน มีกระจกเข้ามุมแบบนี้

ห้องน้ำติดกับห้องนอนชั้น 1 ใช้เป็นประตูเลื่อน

แยกอ่างล้างหน้าไว้ด้านหน้า ใช้สุขภัณฑ์ของ COTTO

ส่วนครัวหลังบ้าน ทางโครงการลงเสาเข็มไว้ให้เพื่อให้เจ้าของบ้านทำการต่อเติมและใช้ประโยชน์ในส่วนนี้เอง เนื่องจากพื้นที่ภายในบ้านไม่มีครัว เจ้าของบ้านก็จะต่อเติมส่วนนี้ใช้เป็นครัวแทน จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของโครงการพฤกษาฯ เพราะจากการ Survey ก็จะพบว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ที่อยู่ทาวน์โฮมก็มักมีแนวโน้มที่จะต่อเติมพื้นที่หลังบ้าน เพื่อประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้นกันทั้งนั้น

ถ้าเป็นบ้านหลังหัวมุม ก็จะได้หน้าต่างเพื่อระบายอากาศตรงส่วนนี้ด้วย

ใช้มุมนี้เป็นมุมซักล้างได้

ส่วนของหลังบ้านจริงที่ลูกค้าจะได้ ซึ่งไม่มีการต่อเติมครัวให้ ทางโครงการเพียงลงเสาเข็มให้เท่านั้น ให้ผู้อยู่อาศัยได้ต่อเติมครัวตามความต้องการ

โครงการให้แทงก์น้ำทุกหลังพร้อมปั๊มน้ำในตัว สวยงามลงตัวไม่เปลืองพื้นที่

ถ้าเจ้าของบ้านจะต่อเติมหลังบ้านให้เหมือนกับบ้านตัวอย่าง ความสูงของกระจกรับแสงด้านบนอาจชนกับที่วาง คอมเพลสเซอร์แอร์ อาจต้องมีการปรับที่วาง คอมเพลสเซอร์แอร์ใหม่

เมื่อถึงเวลาล้างแอร์ ช่างน่าจะปีนจากห้องนอนชั้น 2 ออกมาแทน

บันไดขึ้นไปชั้น 2 ติดกับมุมนั่งเล่น เป็นบันไดแบบ Precast

ตรงบันไดมีช่องปรับแสง และระบายอากาศ

ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 12 มม.

ชั้น 2 ประกอบไปด้วย Master Bedroom ห้องนอน 2-3 และห้องน้ำ

เพดานตรงโถงชั้น 2 มี Pruksa Fresh Air System พัดลมระบายอากาศ

ช่องรับแสงช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในบ้าน

ห้องน้ำติดกับ Master Bedroom มี 2 ประตู โดย Master Bedroom เดินเข้าห้องน้ำจากในห้องได้เลย

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก มีตู้อาบน้ำให้ แต่เนื่องจากชั้น 2 มีห้องนอนถึง 3 ห้อง หากอยู่ในช่วงเร่งรีบแล้วต้องใช้ห้องพร้อมกัน ก็อาจต้องไปใช้ห้องน้ำข้างล่างแทน ไม่ให้เครื่องทำน้ำอุ่นแต่ติดตั้งงานระบบให้

Master Bedroom

ห้องอยู่ด้านหน้าบ้าน มีกระจกใหญ่สองจุด ทำให้ห้องสว่างอยู่ตลอด

ใช้แอร์ Daikin แบบติดผนังเหมือนชั้นล่าง

วางตู้เสื้อผ้าตรงมุมนี้เหมือนกับบ้านตัวอย่าง

ระเบียงใน Master Bedroom

บ้านจริง ส่วน Master Bedroom เพดานสูง 3.5 ม. สูงเกินมาตรฐานบ้านระดับราคานี้ไปมากเลย

ให้แอร์ติดผนังแบบในรูป

ห้องนอน 2 ตรงข้ามกับ Master Bedroom ใช้วางเตียงขนาด 3 ฟุตได้

ติดหน้าต่างทั้งสองมุม ทั้งหัวเตียงและข้างเตียง

ห้องนอน 3

เพดานสูง 3.5 ม.

สามารถปรับห้องนอนให้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นได้ หากเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่

Plan แบบบ้าน Empire

พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. บ้านมีหน้ากว้าง 5.7 ม. จอดรถได้ 2 คัน และมีระยะห่างรอบคัน เชื่อมต่อห้องนั่งเล่นและส่วนของโต๊ะทานอาหาร ห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานก็ได้ มีห้องน้ำ 1 ห้อง พร้อมพื้นที่ลงเสาเข็มไว้รองรับการขยายพื้นที่หลังบ้านต่อเติมเป็นครัวในอนาคต ชั้น 2 มีห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ ห้องนอน 2-3 ที่อยู่อาศัยกันแบบครอบครัวใหญ่ได้ และในห้องน้ำมีฟังก์ชั่น Walk Through แยกเป็นสัดส่วน

บ้านตัวอย่าง Empire

พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. จอดรถได้ 2 คัน ต่างกับหลังแรกคือพื้นที่ใช้สอยและที่จอดรถ

ด้านข้างของบ้านหลังหัวมุม มีหน้าต่างรับแสงเพิ่มทั้งสองชั้น

บ้านหน้ากว้าง 5.7 ม. จอดรถได้ 2 คัน

ใช้โทนสีสว่างกว่าบ้านหลังแรก

มีช่องรับแสงด้านหน้า ใช้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวสูง 2.2 ม. อลูมิเนียมอบสี Powder Coat สีเทาเข้ม กระจกสีเขียวตัดแสง

มุมนั่งเล่นติดกับประตูหน้าบ้าน มีพื้นที่ติดกับโต๊ะทานอาหาร

บ้านจริงจะได้แอร์ Daikin ติดผนังแบบนี้ ไม่ใช่แบบบ้านตัวอย่าง

วางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้

เลือกเป็นทีวีติดผนังจะสะดวกกว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับบันได อาจเสริมเป็นโต๊ะหน้าทีวีขนาดเล็กเพื่อใช้วางของได้ ใช้สวิตซ์ไฟแบบระบบสัมผัส

Home Automation ระบบสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Pruksa สั่งได้ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน และแผงควบคุมตรงนี้

หลังนี้จะมีช่องเก็บของใต้บันได

ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 60×60 มม.

โต๊ะทานอาหารติดกับประตูหลังบ้าน จัดเป็นโต๊ะ 4-6 ที่นั่งได้

ห้องน้ำชั้นล่าง ใช้เป็นประตูบานเลื่อน ไม่มีสเตป

แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน สุขภัณฑ์ของ COTTO

ไม่มีตู้อาบน้ำให้ เนื่องจากกั้นให้อ่างล้างหน้าไปไว้อีกส่วน

ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ปรับให้เป็น 4 ห้องนอนได้

มีประตูกระจกเข้ามุม

ช่องหน้าต่างเชื่อมต่อกับฝั่งหลังบ้าน

หลังบ้านเป็นประตูบานเลื่อน 2 พับ หลังม่านเป็นที่วางถังดับเพลิง และทางโครงการติดสัญญาณกันขโมยให้ทุกหลังด้วย

ส่วนหลังบ้านเหมือนกับบ้านหลังแรก โครงการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน เพื่อการต่อเติมในอนาคต

ต่อเติมครัวได้ตามแบบที่เจ้าของบ้านต้องการ

บ้านหัวมุมมีประตูอีกหนึ่งช่องอยู่หลังบ้าน

ติดกระจกทำเป็นช่องรับแสงแบบบ้านตัวอย่าง ก็จะทำให้ส่วนนี้สว่างอยู่ตลอด

แบ่งทำเป็นโซนซักล้างได้เช่นกัน ส่วนหลังบ้านของบ้านจริง โครงการมีแทงก์น้ำให้พร้อมปั้มน้ำในตัว มีปลั๊กรองรับเรียบร้อย

บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ด้านหน้าบ้านติดกับมุมทีวี

มีที่พักเท้าหนึ่งจุดเหมือนกับบ้านหลังแรก

เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เจ้าของบ้านต่อการอยู่อาศัย

ช่องรับแสงข้างบันได ขนาดใหญ่กว่าบ้านหลังแรก

บันไดไม้สังเคราะห์มีความแน่น เดินแล้วไม่มีเสียงดัง  ด้วยโครงสร้างด้านล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก

ช่อง Skylight ที่นำแสงธรรมชาติให้เข้าสู่บ้าน ช่วยเจ้าของบ้านประหยัดการใช้ไฟฟ้า

ชั้น 2 ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 12 มม.

ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เป็นผนังเปล่าสีขาว

มีพัดลมดูดอากาศติดเพดาน ทำให้บ้านเย็นและปลอดโปร่งมากขึ้น

Master Bedroom

บ้านจริงเป็นแบบนี้

ระเบียงนอกห้อง มองเห็น Clubhouse

วางตู้เสื้อผ้าไว้มุมเดียวกับบ้านตัวอย่างได้

เพดานชั้น 2 สูง 3.5 ม.

ห้องน้ำชั้น 2

เป็นห้องน้ำแบบ Multi Function แยกส่วนแห้งส่วนเปียก

ใช้สุขภัณฑ์ ยี่ห้อ COTTO

มีช่องรับแสงทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก

ห้องนอน 2 ติดกับห้องน้ำ มีหน้าต่าง 2 ด้าน ทำให้ห้องสว่างมากขึ้น

ห้องนอน 3 สามารถปรับให้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้ ถ้าเจ้าของบ้านอยู่กันแค่ 2-3 คน

จากข้อมูลของโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน ในข้างต้นนั้น จะเห็นได้ว่า โครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก เป็นทำเลที่ในอนาคตก็สามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ พร้อมทั้งยังอยู่ในย่านที่มีการเดินทางสะดวก คือ วงแหวนกาญจนาภิเษก และใกล้กับถนนกรุงเทพกรีฑาที่เป็นถนนตัดใหม่ ในขณะที่โครงการแถวนั้นก็เป็นโครงการแนวราบในระดับลักซ์ชัวรี่-ไฮเอนด์ ของหลายแบรนด์ จากหลายๆ ดีเวลลอปเปอร์ขึ้นเกือบเต็มพื้นที่แล้ว โดยในอนาคตราคาขายของบ้านเดี่ยวในทำเลกรุงเทพกรีฑา นั้นอาจมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังใกล้กับย่านศรีนครินทร์ที่เป็นศูนย์รวม Lifestyle แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเดียวกับแอร์พอร์ตลิงค์ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่นี่จึงเป็นตัวเลือก แต่มากด้วยความคุ้มค่าเพียงไม่กี่โครงการ ในทำเลไฮเอนด์แบบนี้

หากเปรียบเทียบกับโครงการคู่แข่งในย่านเดียวกันจะเห็นได้ว่าโปรดักส์ของโครงการ Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฯ – วงแหวน ดูจะมีเอกลักษณ์ในด้านดีไซน์ มีความทันสมัย และมอบพื้นที่ส่วนกลางที่กว้างใหญ่กว่ามาก แต่ขายในราคาที่คุ้มที่สุด โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ลบ. มีบ้านให้เลือกด้วยกันถึง 2 แบบ และยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรม Pruksa Living Tech  พร้อมการลงเสาเข็มขนาดเท่าตัวบ้านที่หลังบ้านให้เพื่อต่อเติมพื้นที่ครัวและซักล้างได้ในอนาคต การออกแบบที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ Flexible ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่และมีพื้นที่ใช้สอยให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว…ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อได้เปรียบที่ไม่อาจหาได้จากโครงการอื่นในย่านนี้ ที่ขายในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับทราบข้อมูล และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ www.pruksa.com หรือโทร. 1739