เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 6 March, 2019 เวลา 10.49 am
Prop score™: 3.8
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
MAZARINE Ratchayothin
บริษัทผู้สร้าง
Grand Unity Development
สถานที่
ถ.พหลโยธิน (ซอยพหลโยธิน 30)
สถานีรถไฟ BTS
BTS รัชโยธิน Distance 0 m.
สถานีรถไฟใต้ดิน
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
3-3-46.60 ไร่
ชั้น
37 ชั้น
ยูนิต
474 ยูนิต
ที่จอดรถ
70%
ลิฟท์
3 Passenger Lifts + 1 Service Lift
สิ่งอำนวยความสดวก
LOBBY, STUDY ROOM, MEETING ROOM, SHADE & SHINE SKY POOL, KIDS POOL, SKY FITNESS, PRIVATE GYM CLASS, KIDS ROOM, SKY LOUNGE, PARTY ROOM, EXCLUSIVE FOYER & BAR, EXCLUSIVE SKY DECK, GARDEN AND SKY GARDEN
ประเภทยูนิต
ประเภท
คอนโด High Rise/CONDO/Luxury Condo
studio
24.00 - 25.50 Sq.m.
1 bedroom
Type A 32.50 - 33.00 Sq.m., Type B 32.50 - 33.00 Sq.m., Corner Type A 39.50 Sq.m., Corner Type B 43.00 Sq.m., Flexi 41.50 - 43.00 Sq.m., Plus Corner Type A 39.00 Sq.m., Plus Corner Type B 48.00 Sq.m.
2 bedroom
Corner 48.00 sq.m.
3 bedroom
-
Duplex
-
Penthouse
-
ประเภทอื่นๆ
-
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
3 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
170,000 บาท/ ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
5.2 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
70 บาท/ตร.ม./เดือน
Sinking Fund fee
500 บาท/ตร.ม.
สร้างเสร็จ
คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 2563
เว็บไซต์
http://bit.ly/2EwnaIC
02 652 4000
MAZARINE Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน) คอนโดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่พิเศษยิ่งกว่า เพียง 0 เมตรจากสถานีรัชโยธิน
กรุงเทพตอนเหนือในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า มีการขยายตัวของบริบทเมืองออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือช่วง หมอชิต สะพานใหม่ คูคต ก็ยิ่งทำให้การพัฒนาก้าวกระโดดไปอีกขั้น ในปัจจุบันห้าแยกลาดพร้าวดูจะกลายเป็นทำเลที่มีความหนาแน่นในการอยู่อาศัยแนวสูง เพราะมีหลากหลายคอนโดไปตั้งอยู่โดยรอบบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งแต่ละโครงการก็มีจำนวนยูนิตเป็นพันยูนิต โดยชูจุดขายของทำเลการเดินทางใกล้สถานีกลางบางซื่อ ใกล้ห้าง และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ แต่ใจกลางย่านที่แวดล้อมไปด้วยการพัฒนา ก็ย่อมตามมาด้วยความพลุกพล่านของผู้คน และที่สำคัญ ก็คงหลีกเลี่ยงรถติดไม่ได้ อีกทั้งด้วยการที่เป็นย่านที่มี Supply คอนโดมากจนเกินไปเหล่านักลงทุนกาจจะปวดหัวในเรื่องของการหาลูกค้ามาเช่า หรือการทำกำไรจากการขายต่อในอนาคต
หลายคนคงทราบว่าการจราจรที่ติดขัดบริเวณแยกลาดพร้าว ได้ส่งผลกระทบไปยังถนนที่มาบรรจบในทุกๆเส้น แต่บรรดาถนนที่เชื่อมต่อโดยรอบ อย่างถนนพหลโยธิน แต่สำหรับย่านรัชโยธินกลับกลายเป็นย่านที่มีการเปลี่ยนแปลงรองรับรูปแบบการเดินทางมากที่สุด เนื่องจากแยกนี้มีการทุ่มเทพยายาม ในการแก้ปัญหาการจราจรอันแออัดด้วย การสร้างทั้งทางลอดแยก และทางยกระดับ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร ที่ปัจจุบันได้เปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งการนับถอยหลัง รอรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต สะพานใหม่ คูคต ที่รัฐบาลพยายามผลักดันเร่งการก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จปี 2562-2563 เมื่อทั้งหมดเปิดให้บริการพร้อมกันในอนาคตอันใกล้ ย่านรัชโยธินก็จะกลายเป็น แยกที่มีความน่าอยู่มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะจะกลายเป็นทำเลที่สามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย ทั้งรถยนต์ที่เข้าสู่ถนนหลักได้หลายทาง อาทิ รัชดา วิภาวดี ลาดพร้าว พหลโยธิน เสนานิคม วังหิน ใกล้ทางด่วนเชื่อมต่อไปเกษตรนวมินทร์ โทลล์เวย์ดอนเมือง และที่สำคัญก็คือระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญในแง่ของสายรถไฟฟ้าหลักที่วิ่งผ่านกลางเมือง ตลอดทั้งเส้น ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยัง CBD หลายแห่งในเมือง และยังสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้ทั้งใต้ดิน รถไฟฟ้าสายปัจจุบัน และสายสีเหลืองในอนาคต จากแยกรัชโยธินเพียง2-3 สถานี
จริงๆแล้ว ตั้งแต่อดีตย่านรัชโยธินถือเป็นย่านที่พักอาศัยราคาแพงทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด ที่หลีกหนีความวุ่นวายจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าว แต่ยังเดินทางไปไม่ไกลมาก รวมทั้งกลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพตอนเหนือ เพราะเป็นที่ตั้งของ Community mall อย่าง The Avenue เมเจอร์รัชโยธิน Villa Market ร้านค้าร้านอาหาร และยังเป็นทำเลที่ตั้งของอาคารสำนักงาน องค์กรระดับประเทศ อาทิ SCB park, ECO complex และย่านธุรกิจใหม่บางซื่อ ศูนย์กลางการคมนาคม การพัฒนา mega project ขนาดใหญ่ของกลุ่มทุน G Land (CPN ในปัจจุบัน) เช่นเดียวกับโครงการขนาดใหญ่ในย่านเกษตร-นวมินทร์ของกลุ่ม TCC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
แต่ตรงไหนของย่านรัชโยธินที่น่าอยู่ที่สุด?
ถ้าจะพูดถึงศักยภาพด้านทำเลของรัชโยธินในด้านที่ดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าย่านนี้คือพื้นที่กึ่งกลางระหว่างย่านธุรกิจ อย่างบริเวณโดยรอบแยกรัชโยธิน การศึกษา Lifestyle และย่านที่อยู่อาศัย ที่ครบครัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณแยกรัชโยธินมีศักยภาพมากขึ้นไปอีก เพราะสถานีที่ลงใกล้แยกมากที่สุดคือ สถานีรัชโยธิน นั่นแสดงว่า บนย่านรัชโยธิน พื้นที่ที่จะเพรียบพร้อมและครบทุกการใช้ชีวิตในย่านนี้ ก็ต้องยกให้กับ สถานีรัชโยธินเพียงแห่งเดียว เพราะมีทั้งอาคารสำนักงาน โรงหนัง Shopping Mall โรงเรียน โรงพยาบาล โครงการที่พักอาศัยอย่างคอนโด ซึ่งในปัจจุบันก็ได้ถูกทยอยพัฒนา เพื่อให้สอดรับกับปริมาณคนท้องถิ่นดั้งเดิม และความต้องการของผู้อยู่อาศัยหน้าใหม่ที่เข้ามาในพื้นที่ รวมถึงกลุ่มคนทำงานในย่านรัชดา – ห้าแยกลาดพร้าว – วิภาวดี ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงแต่ใกล้ที่ทำงาน แต่ยังใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ในย่านที่ตัวเองคุ้นเคยอีกด้วย
เรียกว่าใครได้มาอยู่ย่านรัชโยธิน น่าจะได้เปรียบในการใช้ชีวิตที่เป็นต่อในเรื่องทำเลศักยภาพที่เพรียบพร้อมและครบครัน แต่คุณจะได้เปรียบมากยิ่งกว่า ถ้าได้พักอาศัยอยู่บนทำเล Extraordinary Location ทำเลพรีเมียมบนที่ตั้งที่ดีที่สุดของรัชโยธิน กับทำเลของโครงการ MAZARINE Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน) ที่ติดสถานีรัชโยธิน แบบ 0 เมตร เพราะทางเข้าออกโครงการ ติดทางขึ้นทางสถานี แบบก้าวเพียงไม่กี่ก้าว ก็สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมือง หรือต่อไปยังพื้นที่ต่างๆได้โดยง่าย เรียกว่าเป็นโครงการที่อยู่อาศัยโครงการเดียวโดยรอบสถานีที่ตั้งอยู่บนทำเลติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้าใกล้ที่สุดขนาดนี้
MAZARINE Ratchayothin เป็นคอนโดมิเนียมสูง 37 ชั้น บนพื้นที่ 3-3-46.60 ไร่ ติดถนนพหลโยธิน และติดสถานีรถไฟฟ้ารัชโยธิน อีกทั้งด้านหน้าคอนโดก็มีทั้งทางลอดข้ามแยกรัชโยธิน และสะพานข้ามแยกที่เพิ่งเปิดใช้บริการ ฝั่งตรงกันข้ามก็คือ เมเจอร์รัชโยธิน ที่เชื่อมต่อกับ The Avenue เรียกว่า เดินทาง กิน อยู่ แค่เดินเชื่อมถึงกันเพียงไม่กี่ก้าวจริงๆ
และจากความได้เปรียบของทำเลที่อยู่ประชิดติดสถานีรถไฟฟ้า โครงการจึงออกแบบเส้นทางเดินเข้าออกที่เชื่อมจากตัวอาคารส่งตรง ถึงบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าเลยทีเดียว หรือถ้าใครจะขับรถ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะโครงการจัดทำที่จอดรถไว้รองรับถึง 70% จากจำนวนยูนิต 474 ยูนิต ด้วยระบบ AUTO PARKING พร้อมพื้นที่จอดรถธรรมดา ที่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่ชอบขับรถแต่ไม่ชอบวนหาที่จอดรถ
แปลนของอาคาร แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ shop บริเวณติดถนนใหญ่ หน้าทางเข้าโครงการ ที่ปัจจุบันเป็น sale office และจะเปลี่ยนเป็นร้านค้าในอนาคต และตัวอาคารที่พักอาศัยที่ถอยร่นเข้าไปด้านใน มีพื้นที่สวนและทางเดิน เชื่อมกับทางเข้าออกโครงการ
บริเวณด้านหน้าส่วนร้านค้า
ที่จอดรถมีทั้งแบบ Automatic
และแบบช่องวนจอด
ตัวห้องชุดพักอาศัย เริ่มที่ชั้น 8 จนถึงชั้น 35 โดยที่ชั้น 8-21 มีแปลนห้องที่คล้ายกันเป็น Typical Floor Plan
คือ มีห้อง studio 24-25 sq.m.
และห้อง1bedroom type a -b 32.50-33 sq.m.อยู่ที่ปีกหลังของโครงการ
ส่วนปีกหน้าของโครงการ มี ห้อง1bedroom type a -b 32.50-33 sq.m. ห้อง 1 bedroom flexi 41.50-43 sq.m.
1 bedroom corner type 39.50 sq.m.
และห้อง 2 bedroom corner 48 sq.m.
แต่มีความพิเศษอยู่ที่ชั้น 8 ที่มีสวนส่วนกลางที่ชั้นนี้
ส่วนที่ชั้น 22 ปีกหลังของโครงการจะไม่มี กลายเป็นสวน skyscraper deck แทน
และที่ชั้น 23-35 ก็เหลือแค่พื้นที่ห้องโครงการที่ปีกด้านหน้า
ส่วน facility หลักของโครงการ ถูกยกไปอยู่ที่ชั้น 36,37 และ rooftop
กับคอนเซปต์ Extraordinary Facility ส่วนกลางขนาดใหญ่ชั้นบนของอาคาร ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่พิเศษยิ่งกว่าได้อย่างสมบูรณ์แบบกับพื้นที่ Triple Floor Sky Facilities พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ชั้น โซนด้านบน ของอาคาร ที่รวบรวมความพิเศษไว้มากมาย ได้แก่
SHADE AND SHINE SKY POOL สระว่ายน้ำระบบเกลือ U SHAPE ที่มีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้ง พร้อมชมวิวเมืองในแบบพาโนรามิก
SKY FITNESS และ SKY LOUNGE ที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบด้าน
PARTY ROOM และ EXCLUSIVE FOYER & BAR บนชั้น 37 สำหรับการชวนเพื่อนมาร่วมงานปาร์ตี้ได้แบบส่วนตัว
อีกทั้งยังมี PRIVATE SALON ห้องเสริมสวยส่วนตัว ที่มีเพียงที่นี่เท่านั้นในย่านรัชโยธิน
ในส่วนห้องตัวอย่างที่ sale office ตกแต่งมาให้ชมกันถึง 3 ขนาด เป็นห้อง studio และ 1 bedroom type ที่มีเยอะที่สุดของโครงการ
โดยการออกแบบ โครงการเน้น Extraordinary Design คือการส่งผ่านความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่ความสวยงามของตัวตึก ที่เน้นกระจกในการตกแต่งเพื่อความพรีเมียมและโดดเด่น
ส่วนภายในห้องพักอาศัย ยังคงรักษาความเป็นมาตรฐาน ของ GRAND UNITY ผนวกกับการเลือกสรรวัสดุคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Safety Glass หรือกระจกนิรภัยทั้งโครงการและกระจกทุกบานในห้อง
การติดตั้ง WC Pod หรือห้องน้ำสำเร็จรูปที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากทางโรงงานผู้ผลิต (SCG) ง่ายต่อการดูแล ซ่อมแซมได้โดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยห้องด้านล่าง
และ Private Balcony หรือการออกแบบระเบียงให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง และให้ความเป็นส่วนตัว
พร้อมเพดานสูงกว่า3เมตร และหน้าต่างบานสูงเชื่อมวิวภายนอกได้กว้างยิ่งขึ้น
Walk-in closet ขนาดใหญ่ รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัว ทำให้มีพื้นที่ในการจัดสรรเสื้อผ้าได้มากขึ้น
Kitchen Island เคาเตอร์ครัว วัสดุคุณภาพ สำหรับผู้ที่รักในการทำอาหาร
เริ่มจากห้องตัวอย่างแรก studio ขนาด 24 sq.m.
ภายในห้องแบ่งเป็น 3 พื้นที่หลัก คือ ครัวติดทางเข้า
ห้องน้ำที่ด้านซ้ายของทางเข้า
และห้องนอน พื้นที่นั่งเล่น ที่ด้านในสุด โดยมีประตูบานเลื่อน กั้นระหว่างครัวและห้องนอน ทำให้เป็นห้อง studio ครัวปิด ที่สามารถใช้งานได้จริง
ห้องทุกห้องขายแบบ Fully Furnished ให้ครัว ห้องน้ำ แอร์แบบฝังฝ้าและตู้ Built-in ทั้งตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ และ Loose Furniture
พื้นที่ส่วนด้านหน้าติดทางเข้า เรียกว่า เป็นรายละเอียดพื้นฐานที่โครงการให้เหมือนกันทุกห้อง คือ ชุดครัว built-in เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น มีบานเปิดทั้งด้านบนและด้านล่าง ไว้ที่ติดประตูทางเข้า
ถัดไปเป็นเคาท์เตอร์ครัว ที่มีพื้นที่เตรียมอาหาร
เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ Teka
และอ่างล้างจานแบบฝังเคาท์เตอร์
ส่วนด้านบนเป็น built-in ตู้ และชั้นสำหรับวางอุปกรณ์ทำครัว
ส่วนที่ด้านล่างเคาท์เตอร์เป็นลิ้นชักเก็บเครื่องครัว
พร้อมเว้นช่องวางไมโครเวฟ (ติดตั้งเอง)
ส่วนที่ด้านซ้ายของทางเข้าเป็นห้องน้ำ WC pod ที่มีความแตกต่างกับห้องน้ำทั่วไปที่ พื้นห้องน้ำหนา ยกสูง เพื่อการดูแลรักษาที่ง่ายกว่าจากในห้องตัวเอง
โดยในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งไว้ติดทางเข้า
โครงการให้ โถสุขภัณฑ์วางลอยตัว ของ American standard ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง แขวนลอยตัว ของ COTTO พร้อมที่วางอุปกรณ์ใช้งานในห้องน้ำและกระจก ยาวเต็มความกว้างพื้นที่ส่วนแห้ง
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย shower glasses บานผลัก
ด้านในโครงการให้ hand shower ของ GROHE
พร้อมเจาะช่องในผนัง สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ส่วนพื้นที่โซนพักผ่อน มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นระหว่างครัวและห้องนอน
ด้านในสามารถจัดพื้นที่เป็นพื้นที่แต่งตัว ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี ที่ด้านขวาของทางเข้า หรือต่อมาจากเคาท์เตอร์ครัว
ส่วนที่ด้านซ้าย สามารถแบ่งเป็นพื้นที่วางเตียงนอน queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียงด้านเดียว ที่ติดผนังห้องน้ำ
ส่วนผนังติดประตูทางออกระเบียง สามารถตั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะไซส์เล็ก สำหรับเป็นมุมพักผ่อน นั่งคิดงาน หรือทานอาหาร
พร้อมเชื่อมต่อกับวิวด้านนอกโครงการ กับกระจกบานสูงจากพื้นจรดเพดาน
และเชื่อมต่อกับประตูบานเลื่อนออกระเบียง ที่ออกแบบให้เป็น Private Balcony ดูสวยงามเป็นระเบียบเมื่อมองจากภายนอกอาคาร
ที่ระเบียงกว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าแบบเต็มพื้นที่ใช้งาน เพราะ CDU แอร์ฯ ถูกยกขึ้นไปแขวนที่ด้านบนเพดาน
ห้องนี้ถึงจะมีขนาดเล็กแต่ก็มีจุดเด่นที่ถึงเป็นห้องสตูดิโอ แต่ก็กั้นพื้นที่ใช้งานหลักๆออกจากกัน ทำให้ภายในห้องดูเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด และมีพื้นที่ใช้งานครบครันเป็นสัดส่วน
ห้องที่ 2 ขนาด 32.5 sq.m. ภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ซ้ายขวา คือ พื้นที่ครัวและห้องนั่งเล่น ที่ปีกขวาติดทางเข้า ส่วนปีกซ้ายเป็นห้องนอนและห้องน้ำภายในห้องนอน
ชุดครัว เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นบานเปิดบนล่าง ไว้ที่ติดประตูทางเข้า
ถัดไปเป็นเคาท์เตอร์ครัว ที่มีพื้นที่เตรียมอาหาร
เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ Teka
และอ่างล้างจานแบบฝังเคาท์เตอร์
ส่วนด้านบนเป็น built-in ตู้ และชั้นสำหรับวางอุปกรณ์ทำครัว
ส่วนที่ด้านล่างเคาท์เตอร์เป็นลิ้นชักเก็บเครื่องครัว
พร้อมเว้นช่องวางไมโครเวฟ
ถัดจากครัว มีประตูกระจกบานเลื่อน3ตอน กั้นก่อนเข้าสู่พื้นที่ living area
ภายใน living area มีพื้นที่มากพอให้วาง โต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ติดประตูบานเลื่อนกั้นห้อง
ปลายสุดด้านใน สามารถวางชุดโซฟา สำหรับ 2 ที่นั่ง
พร้อมชั้นวางทีวีติดริมหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดาน
ระหว่างน้องนั่งเล่นและห้องนอน มีกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นเปิดปิด
สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ใช้งาน หรือปิดเป็นสัดส่วน แยกการใช้งานได้
ที่ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียง ไว้ติดริมประตูออกระเบียง
ที่ระเบียงเป็นระเบียงยาว เต็มความกว้างห้องนอน สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่
ด้านซ้ายของห้องนอน เป็นทางเดินเข้าสู่ห้องน้ำ
ฝั่งซ้ายของทางเดินเป็นที่วางตู้เสื้อผ้าทำจากกระจกนิรภัย ยาวเต็มแนวผนัง
ตรงกันข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำ WC pod
โดยในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งไว้ติดทางเข้า
โครงการให้ โถสุขภัณฑ์วางลอยตัว ของ American Standard ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง แขวนลอยตัว ของ COTTO
พร้อมที่วางอุปกรณ์ใช้งานในห้องน้ำและกระจก ยาวเต็มความกว้างพื้นที่ส่วนแห้ง
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย Shower glasses บานผลัก
ด้านในโครงการให้ Hand Shower ของ GROHE
พร้อมเจาะช่องในผนัง สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่1-2คน กับพื้นที่ขนาดกำลังพอดี
มีพื้นที่ใช้งานครบตามความต้องการ เป็นสัดส่วน และสามารถขยับขยายตามความต้องการพิเศษๆได้
ห้องสุดท้าย 41.5 sq.m. เป็นห้อง 1 bedroom flexi คือการออกแบบให้มีห้อง multi-function สำหรับเป็นห้องใช้งานตามความต้องการ หรือเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กสำหรับแขก หรือสมาชิกในครอบครัว
ภายในห้องเข้ามาจะพบพื้นที่ครัว U shape มีชุดครัว built-in เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นบานเปิดบนล่าง ไว้ที่ติดประตูทางเข้า
ถัดไปเป็นอ่างล้างจานแบบฝังเคาท์เตอร์
เคาท์เตอร์ครัว ที่มีพื้นที่เตรียมอาหาร พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว และที่ดูดควันของ Teka
ส่วนด้านบนเป็น built-in ตู้ และชั้นสำหรับวางอุปกรณ์ทำครัว
ส่วนที่ด้านล่างเคาท์เตอร์เป็นลิ้นชักเก็บเครื่องครัว พร้อมเว้นช่องวางไมโครเวฟ
ปลายสุด เป็นเคาท์เตอร์บาร์สำหรับนั่งทานอาหาร 2 ที่นั่ง
ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ระหว่างห้องครัวและห้อง multi-function ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งกว้างพอให้วางชุดโซฟา สำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง หรือจะปรับเป็นการใช้งานรูปแบบอื่นๆตามความเหมาะสมของผู้ใช้งานก็ได้เช่นกัน
เพราะพื้นที่ดังกล่าว นอกจากมีประตูบานเลื่อนกั้นที่ห้องครัวแล้ว ยังมีประตูไม้บานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนอีกด้วย ทำให้ห้องดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการในอนาคต
เช่นสามารถปรับเป็นห้องนั่งเล่น วางชุดโซฟาตัวใหญ่ พร้อมชั้นวางทีวีได้ และยังมีพื้นที่เหลือพอให้ใช้ทำงานได้
ส่วนที่ห้องนอนขนาดพอดีให้วางเตียง queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง
ด้านซ้ายของห้องนอน เป็นทางเดินเข้าสู่ห้องน้ำ
ฝั่งขวาของทางเดินเป็นที่วางตู้เสื้อผ้า ยาวเต็มแนวผนัง
สุดทางเดินเป็นทางเข้าห้องน้ำ WC pod
โดยในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งไว้ติดทางเข้า อุปกรณ์ทั้งหมดเป็นมาตรฐานแบรนด์เดียวเหมือนกันทุกห้อง
ห้องนี้ ห้องน้ำเป็น double access เข้าได้จากบริเวณห้องครัว และห้องนอน
เหมาะสำหรับคนที่วางแผนมีครอบครัว หรือเป็นคนที่มีกิจกรรม ต้องการใช้พื้นที่พิเศษอื่นๆสำหรับกิจกรรมเฉพาะตัว และห้องรูปแบบนี้ดูจะมี Value ในการซื้อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่ได้ฟังก์ชั่นเทียบเท่ากับห้องแบบ 2 ห้องนอน
Mazarine Ratchayothin คอนโดที่ราคาเฉลี่ยต่อตรม.สูงที่สุดในย่านรัชโยธินเหมาะกับใคร?
หากเป็นเมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว ถ้ามี Developer รายไหนคิดจะพัฒนาโครงการคอนโดที่มีระดับราคาแพงกว่าตรม.ละแสนในแยกรัชโยธิน ก็คงจะต้องคิดหนักหน่อยว่าจะขายใคร และย่านนี้เหมาะกับระดับราคานี้จริงหรือ จริงอยู่ที่สำหรับพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือย่านรัชโยธินคือพื้นที่ลำดับแรกๆที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดระดับ Hi End มาก่อนบริเวณห้าแยกลาดพร้าวด้วยซ้ำ เนื่องจากย่านนี้มีพื้นฐานที่ดีมากจากการที่อยู่ใกล้ Office Complex อย่าง SCB Park และหน่วยงานราชการหลายแห่ง แถมยังมี Magnet สำคัญอย่าง Major Ratchayothin และ The Avenue ที่อยู่เคียงคู่ชาวรัชโยธินมานานหลายสิบปี โดยหากย้อนอดีตไปก็จะพบว่าผู้คนจากทุกสารทิศล้วนแต่แห่แหนกันมาดูหนังที่นี่กันทั้งนั้น เพราะเป็นสาขาเมเจอร์ที่ใหญ่ที่สุด แถมมีโรงหนังจอยักษ์แบบ Imax เป็นแห่งแรกด้วยซ้ำ เราจึงได้เห็นคอนโดตัวสร้างชื่อของแบรนด์ต่างๆมาเปิดตัวในย่านนี้ทั้ง Wind Ratchayothin, Vantage, LPN หรือ Centric โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะจับกลุ่มคนวัยเรียน และวัยทำงานที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันในย่านนี้ ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว – รัชโยธิน – รัชวิภา – เสนานิคม (อย่าลืมว่าเมื่อก่อนนักศึกษาที่ต้องเรียนม.เกษตร ศรีปทุม เซนต์จอห์น หรือนักเรียนหอวัง ก็ไม่มีตัวเลือกมากนักในการอยู่คอนโดแถวๆห้าแยกลาดพร้าว หรือเสนานิคม) แต่ข้อเสียตลอดช่วง 10 ปีให้หลังของบริเวณย่านรัชโยธินก็คือการจราจรที่ติดขัดหนาแน่น เพราะเป็นถนนเส้นหลักที่สามารถ Feed การเดินทางออกไปยังเส้นหลักอื่นๆทั้งวิภาวดีรังสิต และรัชดาภิเษกได้ จึงทำให้ทิศทางในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยนั้นได้ถูกเทไปยังย่านห้าแยกลาดพร้าว ที่พกความได้เปรียบในเรื่องของการมีเส้นทางรถไฟฟ้าใช้งานในปัจจุบัน และความใกล้ย่านจตุจักร-บางซื่อ จนสามารถพัฒนาเป็นคอนโดที่มีระดับราคาขายที่แพงเกินกว่าตรม.ละแสนห้าได้
แต่ถ้าเป็นในปัจจุบันต้องบอกว่ารัชโยธิน มีการเปลี่ยนแปลงในแบบหน้ามือเป็นหลังมือ การจราจรที่เคยแอดอัด ติดขัดตลอดเวลาถูกแก้ไขได้เรียบร้อยด้วยสะพานข้ามแยก และทางลอดแยก ซึ่งแยกรัชโยธินน่าจะเป็นแค่ไม่กี่แยกในกรุงเทพที่จัดมาให้ครบทั้งสองแบบ ยิ่งหากรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยายได้มีการเปิดใช้งานแล้ว ก็น่าจะพูดได้ว่าแยกรัชโยธินมีรูปแบบการเดินทางที่สะดวกหลากหลายไม่แพ้บริเวณใดในกรุงเทพตอนเหนือเลย และหากเราใช้แยกรัชโยธินเป็นจุดศูนย์กลาง ขยับลงมาอีก 1 สถานีก็จะเป็นสถานี interchange ที่เชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีพหลโยธิน 24 กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวส่วนต่อขยายสายสีเหลืองจากเดิมที่จะจบตรงสถานีรัชดาให้เพิ่มอีก 2 สถานีเพื่อมาจบที่บริเวณสถานีพหลโยธิน 24 ก่อนถึงแยกรัชโยธิน ซึ่งบริเวณพหลโยธิน 24 นี้ ตรงนี้จะกลายเป็นโครงการใหญ่ของภาคเอกชนโดยความร่วมมือกันของกลุ่ม BTS และ GLAND (CPN ในปัจจุบัน) เพื่อพัฒนาที่ดิน 48 ไร่ให้กลายเป็นเป็นโครงการ Mixed-use มีอสังหาฯ หลากหลายแบบอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ขณะนี้กำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อเตรียมสร้างถนน 8 เลนความกว้าง 30 เมตร เชื่อมระหว่างพหลโยธินกับวิภาวดีรังสิต และถ้าขยับขึ้นไปอีก 1 สถานีก็จะเป็นสถานีเสนานิคมซึ่งเป็น Residential Area ขนาดใหญ่ดั่งเดิม ที่รายล้อมด้วยร้านค้าและมหาวิทยาลัย สะดวกในการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเกษตร-นวมินทร์ได้ ผ่านทางซอยพหลโยธิน 32 และ 34 แถมยังสามารถเดินทางด้วยรถเข้า-ออกเมืองสะดวกเพราะอยู่ใกล้ทั้งทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์
โดยสรุปแล้วศักยภาพที่โดดเด่นของย่านรัชโยธิน การที่สามารถเลือกใช้งานการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ง่ายถึง 3 สายในอนาคตคือเขียว เหลือง และน้ำเงิน ย่านนี้จะเป็นศูนย์กลางของผู้ใช้รถไฟฟ้าแห่งใหม่ที่มีผู้คนจากกรุงเทพเหนือใต้ตะวันออก นอกจากนี้มีแผนการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ระดับใหญ่มาสนับสนุนทำให้ย่านรัชโยธินน่าจะเป็นอีกหนึ่งย่านสำคัญทางเศรษฐกิจในอนาคตครับ
เมื่อรัชโยธินได้ถูกยกระดับศักยภาพให้สูงขึ้นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ก็แน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้ก็น่าจะมีน้ำหนักพอที่จะดึงดูดดีมานท์ของผู้คนที่คุ้นชินกับย่านนี้ได้เป็นอย่างดี แต่กลับหาตัวเลือกคอนโดในระดับ Luxury ในย่านนี้ไม่ได้เลย จนต้องไปมองหาทำเลที่เป็น Option รองลงมาอย่างห้าแยกลาดพร้าว พหลโยธิน 24 หรือในย่านจตุจักรครับ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ Mazarine Ratchayothin ดูจะเหมาะมากกับคนที่มีวิถีชีวิต ติดหรู อยู่สบาย ที่อยู่ในช่วงตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรวมไปถึงคนทำงานบนเส้นวิภาวดีรังสิต ที่ต้องบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นถ้าเลือกได้คงไม่อยากจะไปใช้ชีวิตฝ่ารถติดเข้าใปอยู่ Luxury Condo ที่มีราคาแพงกว่าในเมือง หรือในย่านอารีย์หรอกครับ…จุดเด่นในเรื่องของการใช้วัสดุ การออกแบบห้องที่มีเพดานสูง 3 เมตร การใช้งานระเบียงแบบ Private Balcony โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าขนาดใหญ่บนจุดที่สูงที่สุดของรัชโยธินก็น่าจะเป็น Wow Factors ให้กับคนที่มองหาคอนโดที่มี Luxury Detail ไม่แพ้คอนโดในย่านใจกลางเมืองได้
กับราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาท ต่อตารางเมตร อาจจะดูแพงสำหรับคนทั่วไปที่มองว่ารัชโยธินนั้นอยู่ไกล และน่าจะเป็นราคาของคอนโดในย่าน CBD อื่นๆมากกกว่า แต่สำหรับคนที่มองว่าย่านรัชโยธินนั้นใช่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของตัวเองมากที่สุดแล้ว นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในย่านครับ เนื่องจากเพียงก้าวขาออกจากคอนโด ก็สามารถเข้าสู่บันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าได้ทันที อีกทั้งขนาดห้องก็ไม่ได้มี Size ที่ใหญ่มาก ราคาต่อยูนิตโดยรวมจึงไม่ได้โดดออกไปเป็นหลักสิบล้านบาท
ในตอนนี้หลายคนอาจยังไม่มองพื้นที่นี้มากนัก ซึ่งคงต้องรออนาคตหลังเปิดใช้งานรถไฟฟ้าไปสักพักว่า Mazarine Ratchayothin จะได้รับการตอบรับที่ดีมากแค่ไหนจากคนกลุ่มนี้ หากใครสนใจอยากให้ลองเปิดใจแวะเข้าไปชม sale office ณ สถานที่โครงการจริง กันดูก่อนได้ครับ มาสัมผัสด้วยตาตัวเองว่าที่นี่ดีพอที่จะได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ระดับสูงสุดของ GRAND UNITY หรือไม่ ก่อนที่ทางบริษัทจะเริ่มพัฒนา Luxury Condo ในย่านใจกลางเมืองแห่งอื่นๆต่อไปครับ
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถคลิกไปเพื่อหาข้อมูลและสิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่นี่ http://bit.ly/2EwnaIC
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
ถ้าจะพูดถึงศักยภาพด้านทำเลของรัชโยธินในด้านที่ดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าย่านนี้คือพื้นที่กึ่งกลางระหว่างย่านธุรกิจ อย่างบริเวณโดยรอบแยกรัชโยธิน การศึกษา Lifestyle และย่านที่อยู่อาศัย ที่ครบครัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณแยกรัชโยธินมีศักยภาพมากขึ้นไปอีก
PROPSCORE™ 3.8
0
0 รีวิว รูป
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
NUE Ren Changwattana คอนโดใหม่ อยู่สบาย ใจกลางแจ้งวัฒนะ
12 ปี กรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแค่ไหน?
EURO ยกระดับ Design District ใจกลางทองหล่อ เปิดตัว Poltrona Frau Monobrand Store แห่งใหม่! ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า
สโคป หลังสวน เผยโฉมครั้งแรกกับยูนิตพิเศษ “The Debonair Edition” 2-bedroom เลย์เอาต์ใหม่ ที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า
เผยไฮไลต์สำคัญ เปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาทลุยขยายพอร์ตสินค้าระดับพรีเมี่ยม – กลางในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง เร่งเครื่องเปิดตัวคอนโดทำเลในเมือง เติมเต็ม Backlog ระยะยาว รุกต่อ Strategic Locations เมืองท่องเที่ยวใหญ่ ภูเก็ต – พัทยา – ขอนแก่น