The Parkland Phetkasem – Thapra

  

เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม - ท่าพระ


ท่าพระในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก สามารถเดินทางได้อย่างหลากหลาย ดังนั้น The Parkland Phetkasem –Thapra จึงเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าฝั่งธนฯที่ใกล้ทำเลฝั่งพระนครมากที่สุด จึงน่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ที่มองเห็นศักยภาพในอนาคต ทั้งนี้เชื่อแน่ว่าในอนาคตจะมีดีเวลลอปเปอร์หลายรายหันมาสนใจพัฒนาโครงการที่บริเวณแยกท่าพระกันมากขึ้น ทั้งช้อปปิ้งมอลล์ และคอนโด เนื่องจากสถานีท่าพระยังอยู่ใกล้กับสถานีสายสีน้ำเงินอีก 4 สาย คือ สถานีวัดมังกรกมลาวาส สถานีวังบูรพา สถานีสนามไชย และสถานีอิสรภาพ โดย 3 ใน 4 สถานี ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 17 February, 2017 เวลา 11.00 am

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

The Parkland Phetkasem - Thapra / เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม - ท่าพระ

บริษัทผู้สร้าง

Narai Property Co.,ltd. นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้

สถานที่

ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตภาษีเจริญ กทม.

สถานีรถไฟ BTS

ท่าพระ Distance 350 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

4-3-05 ไร่

ชั้น

คอนโด High Rise 21 ชั้น 1 อาคาร

ยูนิต

814 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต

ที่จอดรถ

427 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน

ลิฟท์

ลิฟท์โดยสาร 5 ตัวต่อหนึ่งอาคาร+Service Lift 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟรีฟอร์ม เป็นสระผู้ใหญ่, ห้องสมุด, ห้องออกกำลังกาย, สวนหย่อม


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO

studio

-

1 bedroom

26.00-44.00 ตร.ม.

2 bedroom

47.00-62.00 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.55 เมตร ในส่วนห้องรับแขกและห้องนอน 2.35 ในส่วนของห้องน้ำ

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

ประมาณ 81,000 บาท/ ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

1.8 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

40 บาท/ตร.ม./เดือน

Sinking Fund fee

400 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)

สร้างเสร็จ

ปี 2559

เว็บไซต์

http://www.naraiproperty.com/th/home/index.php

02-891-8855


เพื่อนบ้าน Street View


เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม-ท่าพระ คอนโด High Rise แต่งครบ พร้อมอยู่แห่งเดียว ใกล้สถานีท่าพระ ทำเลที่จะเป็นศูนย์กลางการเดินทางแห่งใหม่ของฝั่งธนฯ

 

พื้นที่ฝั่งธนบุรี เป็นย่านที่อยู่อาศัย พื้นที่การค้าที่สั่งสมประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตคนฝั่งธนฯมาช้านาน ทั้งอาหารขึ้นชื่อ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของชาวกรุงเก่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาโครงการอสังหาฯส่วนใหญ่จะไปพัฒนาในย่านที่เกาะสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีลม  ตามแนวสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน และตามแนวถนนกรุงธนบุรี และถนนราชพฤกษ์ไปสิ้นสุดที่สถานีบางหว้า ซะเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดใช้งานแล้ว

 

แต่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ย่านฝั่งธนฯได้มีการพัฒนาโครงการระดับใหญ่ที่สามารถเป็น Magnet ดึงดูดสายตากลุ่มคนจากหลากหลายพื้นที่ จนต้องหันกลับมามองฝั่งธนฯใหม่อีกครั้ง การสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ โดยเฉพาะการมาถึงของ MRT สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีทอง ทำให้เกิดพัฒนาการของฝั่งธนฯในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน กลายเป็นระบบคมนาคมทางรางที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ที่สุด เชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ ในฝั่งธนฯ เข้ากับฝั่งพระนครได้สะดวกและรวดเร็ว ตามแนวคิด รางเชื่อมเมือง (Connected track) ซึ่งจะกลายเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯในอนาคต

 

ด้วยพลานุภาพของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังจะสร้างเสร็จราวๆช่วงปี 2562 ทำให้ในอนาคตชาวฝั่งธนฯจะพบกับความง่ายดายในการเดินทางรอบกรุงเทพฯ-ฝั่งธนฯ จากตอนเหนือ (สถานีบางซื่อ) ไปยังถนนจรัญสนิทวงศ์และแยกท่าพระ และจากปลายทางด้านทิศใต้ (สถานีหัวลำโพง) ไปยังกรุงเทพฝั่งตะวันตก ในย่านท่าพระ และบางแค ซึ่งทั้งสองเส้นทางจะเชื่อมต่อกันที่สถานีท่าพระ ก่อให้เกิดเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะนำพาความเจริญขั้นสุดมาสู่ย่านท่าพระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีท่าพระ สถานี Interchange ที่สำคัญที่สุดในย่านฝั่งธนฯ

นอกจากนี้ ฝั่งธนฯในอนาคตก็จะมีการวิวัฒน์จากย่านที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่ ไปสู่ย่านที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนวัตกรรมเมือง โดยเฉพาะโครงการ ICONSIAM ที่กำลังพลิกหน้าประวัติศาสตร์ฝั่งธนฯบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก

ถ้าพูดถึงดีเวลลอปเปอร์ที่เชี่ยวชาญในพื้นที่ฝั่งธนฯ เราอาจต้องยกเครดิตให้ บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด ที่นอกจากการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯชั้นนำภายใต้แบรนด์ The Parkland, Flora และ Parc Priva แล้ว ยังเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญพิเศษในการพัฒนาคอนโดย่านฝั่งธนฯ อีกด้วย การันตีด้วยโครงการคอนโดที่มีมามากกว่า 5 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น 3 โครงการในย่านโพธิ์นิมิตรตลาดพลู อย่าง The Parkland City Edition, The Parkland Sathorn Taksin, The Parkland Grand Sathorn Taksin

 

1 โครงการในย่านบางแค The Parkland Phetkasem Bangkae

1 โครงการในย่านปิ่นเกล้า The Parkland Charan Pinklao

 

และล่าสุดกับ The Parkland Phetkasem Thapra (เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม-ท่าพระ)ซึ่ งเป็นโครงการแรกในย่านท่าพระของ Narai Property ที่เป็นโครงการคอนโดสูงสร้างเสร็จใหม่เพียงแห่งเดียว และขายแบบ Fully Furnished แถมยังเป็นคอนโด ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีท่าพระ) รถไฟฟ้าสายที่วิ่งวนจนเกือบจะเป็น loop รอบกรุงเทพฯและฝั่งธนฯ โครงการอยู่ใกล้สถานีท่าพระเพียง 350 เมตร ซึ่งเป็นสถานี interchange ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่เพียง 2 สถานีสามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคตที่สถานีบางหว้า

 

นอกจากนี้ไม่ไกลกันนักยังมี รถไฟฟ้าสายสีทอง (โครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง สถานีรถไฟฟ้าธนบุรี-เขตคลองสาน-ประชาธิปก) มีระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.7 กม. แบ่งออกเป็น 2 ระยะ 5 สถานี ดังนี้ ระยะที่ 1 กำหนดเปิดให้บริการปี 2560 มีระยะทาง 1.5 กม. จำนวน 3 สถานี โดยสถานีแรกจะเชื่อมต่อกับสถานีกรุงธนบุรี และตรงเข้าสู่โครงการไอคอนสยามที่สถานีที่สอง และไปสิ้นสุดที่สี่แยกคลองสาน มีโรงจอดและศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง , ระยะที่ 2 กำหนดเปิดให้บริการปี 2562 มีระยะทาง 1.2 กม. จำนวน 2 สถานี เริ่มต้นจากสถานีดับเพลิงคลองสาน สิ้นสุดที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา-ประชาธิปก

 

เรียกได้ว่าเป็นทำเลศักยภาพที่สามารถรองรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวกที่สุดในย่านฝั่งธนฯเลยก็ว่าได้

The Parkland Phetkasem – Thapra ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ในระยะรัศมีแรกๆที่สามารถสร้างตึกสูงได้ (ระยะห้ามสร้างโดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์และพื้นที่ต่อเนื่องฝั่งธนบุรีบางส่วน) จึงทำให้บริเวณท่าพระมีคอนโดฯสูง เปิดใหม่พร้อมอยู่ค่อนข้างน้อย ทำให้โดยรอบโครงการฯ ไม่ค่อยมีอาคารสูงมาบล็อกวิว และสามารถมองเห็นวิวเมืองทั้งฝั่งเมืองเก่าพระนคร เมืองเก่าฝั่งธนฯ และฉากตึกสูงของย่าน CBD ได้ในระยะไกล

The Parkland Phetkasem – Thapra ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 4-3-05 ไร่ เป็นอาคาร High rise สูง 21 ชั้น แบ่งเป็น unit ร้านค้า  1 unit และออฟฟิตสำนักงานขาย 1 unit ที่ชั้น 1 จำนวนห้องพัก 814 units ตั้งแต่ชั้น 5-21

 

ที่จอดรถ 427 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่ชั้น 1-3 (สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปมีที่จอด fix ให้ 1 คันต่อห้อง) และมาพร้อม Facilities แบบจัดเต็มด้วยพื้นที่สีเขียวทั่วโครงการกว่า 3,000 ตารางเมตรทั้งที่ชั้น 1 ชั้น 5 และชั้น roof top ห้องสมุด ห้องประชุมที่ชั้น 2 ห้องซาวน่า ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ และถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาฟิตเนสที่ The Parkland ทำมา ที่ชั้น 3 และโครงการออกแบบสระว่ายน้ำ free form ไว้ที่ชั้น 5 โดยตัวอาคารวางตัวเป็นรูปตัว L กลับด้าน วางตัวจากหน้าถนนเพชรเกษมลึกเข้ามาในที่ดินตามแนวเหนือใต้ โอบล้อมสระว่ายน้ำที่ชั้น 5 และหากมองจากด้านบนจะเห็นเชื่อมต่อกับสวนที่ชั้น 1 ของโครงการ มีลิฟท์ให้ 5 ตัว เป็นลิฟท์ service 1 ตัว และลิฟท์โดยสาร 5 ตัว แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ที่ปีกด้านเหนือ 3 ตัว และปีกด้านใต้ 2 ตัว

 

โครงการ The Parkland Phetkasem – Thapra มีห้อง 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน

 

โดย 1 ห้องนอน มี 8 Type คือ

 

1A 26 Sq.m. เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมห้องนอนที่ด้านขวา และห้องน้ำ ครัวแบบเปิด และระเบียงที่ด้านซ้าย มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ปีกด้านทิศเหนือติดโถงลิฟท์ ได้วิวหน้าโครงการ

1B 32 Sq.m. เป็นห้อง Type ที่เยอะที่สุดในโครงการ ภายในแบ่งเป็นครัวเปิด เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและระเบียง และห้องน้ำติดผนังห้องนอน ระเบียงเป็นราวจับเข้ามุมเปิดมุมมองได้กว้าง มีชั้นละ 23 ห้อง

1C 32 Sq.m. รูปแบบห้องเหมือน 1B 32 Sq.m. แต่ห้องนอนเป็นกระจกเข้ามุม มีชั้นละ 2 ห้อง ที่ปลายทางเดินทั้ง 2 ฝั่ง

1D 32 Sq.m. รูปแบบห้องเหมือน 1B 32 Sq.m. แต่เป็นห้องปลายสุดของทางเดินด้านทิศใต้ มีชั้นละ 2 ห้อง

1E 33.5 Sq.m. รูปแบบแปลนห้องเหมือน 1B 32 Sq.m. แต่มีเนื้อที่บริเวณห้องนอนเพิ่มมากขึ้น และระเบียงเปิดแค่ด้านเดียวแบบคอนโดทั่วไป

1F 36.5 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง ทำให้พื้นที่ทุกส่วนสามารถรับวิวได้ โดยมีห้องนั่งเล่นเชื่อมระเบียง แบ่งพื้นที่ครัวมีหน้าต่างและห้องน้ำที่ด้านซ้าย และห้องนอนพร้อมหน้าต่างที่ด้านขวาของห้อง มีชั้นละ 3 ห้อง

1G 38 Sq.m. เน้นห้องนั่งเล่นและห้องครัวที่ใหญ่เชื่อมต่อระเบียง ห้องนอนมีหน้าต่างเป็น Bay window มีที่ชั้น 6-21 ชั้นละ 1 ห้อง

1H 40.5 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง ทำให้พื้นที่ทุกส่วนสามารถรับวิวได้ โดยมีห้องนั่งเล่นเชื่อมระเบียงที่ราวระเบียงเข้ามุม และเป็นครัวปิด มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ปลายสุดทางเดินด้านทิศเหนือ

ส่วนห้อง 2 ห้องนอน มี 3 Type คือ

 

2A 47 Sq.m. 2ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีพื้นที่ครัวเชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและระเบียง แบ่งห้องนอนเล็กไว้ที่ด้านซ้ายติดห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวาของห้อง มีชั้นละ 3 ห้อง วิวคอร์ทสระว่ายน้ำทุกห้อง

2B 62 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ภายในห้องแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วนหลักๆ คือ ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ครัวแบบปิด และระเบียงแบบแบ่งการใช้งานที่ด้านซ้ายของห้อง และด้านขวาเป็นห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำสำหรับส่วนกลาง และห้องนอนใหญ่ กระจกเข้ามุม ห้องน้ำในตัว มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ปีกด้านทิศเหนือ วิวสระว่ายน้ำ

2C 62.5 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ภายในห้องแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วนหลักๆ คือ ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่และระเบียง ครัวแบบปิด พร้อมระเบียงแยก ที่ด้านซ้ายของห้อง และห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำสำหรับส่วนกลาง และห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว ที่ด้านขวาของห้อง มีชั้นละ 1 ห้องที่ปลายทางเดินด้านทิศเหนือ

ส่วนห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ดูภายในห้องจริง มีด้วยกัน 2 ห้อง คือ ห้อง 1B 32 Sq.m. ห้องที่มีเยอะที่สุดในโครงการ และห้อง 1E 33.5 Sq.m. โดยห้องตัวอย่างที่โครงการตกแต่งให้ดูอยู่ที่ชั้น 6

เราจะเห็นโถงทางเดินที่ค่อนข้างยาว เชื่อมจากโถงลิฟท์ด้านหนึ่งสู่โถงลิฟท์อีกด้านหนึ่ง ซึ่งมีความกว้างมาตรฐานที่ 1.5 เมตร พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่ทั้งแสงและลมผ่านได้สะดวก

ห้องจริง โครงการให้ Fully Furnished , wallpaper  แอร์ และเตาไฟฟ้า

 

เรามาเริ่มที่ห้องแรก คือห้อง 1B 32 Sq.m. จุดเด่นของห้องนี้คือความเชื่อมต่อของทุกห้องเป็นเหมือนห้อง Studio ทำให้พื้นที่ใช้งานกว้าง แต่สามารถกั้นเมื่อต้องการแยกการใช้งานได้

เริ่มจากบานประตูบานเปิดสีขาว ระบบล็อกกุญแจแบบก้านโยก

เข้ามาพบกับพื้นที่ครัวและห้องนั่งเล่นที่เชื่อมยาวสู่ระเบียง ห้องสูงประมาณ 2.55 เมตร พื้นปูด้วยลามิเมตรลายไม้สีน้ำตาลครีม ปูแนวขวาง

ด้านซ้ายเป็นครัว Built-in แบรนด์ Modernform เว้นที่วางตู้เย็นเครื่องใหญ่ไว้ให้ ถัดไปเป็นเคาท์เตอร์ครัว มีอ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ เตาไฟฟ้าสองหัวของ Franke แบบฝัง พร้อมที่ดูดควันด้านบน ติดกันมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเก็บอุปกรณ์ทำครัวได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง

ติดเคาท์เตอร์ครัว สามารถวางโต๊ะทานข้าวเข้ามุมชิดเคาท์เตอร์ สำหรับ 2 ที่นั่งได้

ถัดไปเป็นที่นั่งเล่น วางโซฟา 2 ที่นั้ง พร้อมโต๊ะกลางตัวเล็ก และชั้นวางทีวีที่ปลายสุดติดประตูห้องนอนได้

ติดพื้นที่นั่งเล่นเป็นทางออกระเบียง ที่เป็นระเบียงแบบราวระเบียงเข้ามุม ทำให้เห็นมุมมองแบบกว้างและเปิดโล่งมากกว่า

ด้านขวาติดประตูทางเข้า เป็น Built-in ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของ ทางเข้าห้องน้ำ และติดทางเข้าห้องนอนและห้องน้ำ เป็นห้องเก็บเครื่องซักผ้า หรือห้องเก็บของ เสื้อผ้าใช้แล้ว เพื่อความเป็นระเบียบ

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งด้านหน้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว Built-in เข้ากับชั้นลามิเนตสำหรับเก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำ พร้อมกระจกติดผนัง ถัดไปเป็นสุขภัณฑ์ ของ American Standard

และห้องน้ำส่วนเปียกที่ด้านใน กั้นด้วยประตูกระจกบานเปิด ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และที่วางอุปกณ์อาบน้ำเซ็ทสีขาวติดผนังไว้ให้

สุดท้ายเป็นห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อน กั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น เพื่อเปิดโล่ง และเชื่อมต่อให้ห้องดูกว้างขึ้น และสามารถใช้งานได้หลากหลาย

ภายในห้องนอน แบ่งเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ผนังห้องด้านขวา เป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิดใส ทำให้ดูโปร่งโล่ง

หัวเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกแต่งตัว และโครงการตกแต่งหัวเตียงด้วยกระจกแบบเต็มผนัง ทำให้ห้องดูกว้างและสว่างขึ้น

เตียงโครงการให้เตียง Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียง วางติดหน้าต่างห้องนอน ให้ได้นอนชมวิวเมืองยามค่ำคืน

ห้องนี้โครงการให้แอร์ 2 ตัวของไดกิ้น ที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนอย่างละตัว

ห้องที่สอง เป็นห้อง 1E 33.5 Sq.m. วิวสระว่ายน้ำ จุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ 1.5 Sq.m. ที่เพิ่มขึ้นมาให้ได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น

โดยหลักๆภายในห้องแบ่งพื้นที่เหมือนกับห้อง 1B 32 Sq.m. แต่เพิ่มพื้นที่ภายในห้องนอนขึ้น 1.5 Sq.m. ภายในแบ่งเป็นส่วนครัวและห้องนั่งเล่นที่ด้านขวาของห้อง และห้องนอนที่ด้านซ้ายของห้อง

ด้านขวาติดประตูเป็นเคาท์เตอร์ครัว Built-in เว้นที่วางตู้เย็นไว้ที่ติดผนังทางเข้า ถัดไปเป็นชุดครัว ให้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ เตาไฟฟ้าสองหัวของ Franke พร้อมที่ดูดควันด้านบน มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเก็บอุปกรณ์ทำครัวไว้ที่ด้านบนและด้านล่างมีลิ้นชักและตู้เก็บของไว้ให้

ติดเคาท์เตอร์ครัวสามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งได้

ติดระเบียงวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางโซฟาตัวเล็ก และชั้นวางทีวีที่มุมห้องติดประตูห้องนอนและระเบียง

ที่ระเบียงแบ่งเป็นพื้นที่เก็บ compressor air และพื้นที่พักผ่อนที่สามารถเห็นวิวสระน้ำ

ด้านซ้ายติดทางเข้าเป็นชั้นวางรองเท้าและเก็บของ

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ รูปแบบห้องน้ำเหมือนห้อง 1B 32 Sq.m.

ถัดมาเป็นห้องเก็บเครื่องซักผ้า พร้อมประตูปิดเรียบเข้ากับผนัง

และเป็นทางเข้าห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ภายในห้องนอน ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าหน้าบานใส Built-in เต็มผนัง เชื่อมต่อมาที่โต๊ะเครื่องแป้งบริเวณหัวเตียง

เตียงนอนเป็นขนาด Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง

และติดหน้าต่างห้องนอนเป็นขนาดพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นคือพื้นที่นั่งเล่น ทำงาน หรือพักผ่อน ริมหน้าต่างที่สามารถชมวิวสระน้ำและวิวเมืองด้านนอกได้

นอกจากห้องตัวอย่างที่โครงการฯตกแต่งให้ชมแล้ว เราจะพาไปดูอีก 2 ห้องที่ยังไม่ได้ตกแต่ง พร้อม Prop ซึ่งโครงการเหลือขายอยู่น้อยมาก แต่ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกได้สำหรับคนที่สนใจ เพราะแต่ละห้องก็มีจุดเด่นไม่แพ้กัน และแทบจะไม่ต้องลงเฟอร์ฯอะไรเพิ่มเลย

 

ห้องแรกเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type 1F 36.5 Sq.m. จุดเด่นคือห้องหน้ากว้างถึง 7.4 เมตร ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ และแสงธรรมชาติส่องถึงทั่วทั้งห้อง

 

โดยภายในแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ห้องนอนที่ด้านซ้ายมือ และห้องนั่งเล่น ห้องครัวเชื่อมเป็นตัว L กลับด้าน และห้องน้ำที่ด้านขวา

พื้นที่นั่งเล่น มีโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี วางไว้ติดกับประตูบานเลื่อนออกระเบียงที่แนวระเบียงทอดยาวเต็มตามแนวบานประตู

ด้านหลังโซฟา โครงการวางโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งไว้ให้

ส่วนครัว Built-in เต็มผนัง เว้นที่วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าที่ด้านขวาติดผนังห้องน้ำ และเซ็ทครัว Built-in สูงจากพื้นจรดเพดาน จากผนังห้องจรดแนวหน้าต่างห้องครัว ซึ่งครัวเข้ามุมแบบนี้ ใครชอบครัวปิด ก็น่าจะสามารถต่อเติมประตูบานเลื่อนกั้นห้องได้

ติดทางเข้าห้องเป็นห้องน้ำที่ด้านขวามือ ภายในห้องน้ำรูปแบบเหมือนห้อง 1B 32 Sq.m.

ในส่วนของห้องนอน ผนังห้อด้านติดกับห้องนั่งเล่น โครงการออกแบบเป็นผนังกระจกใส เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

 

ห้องนอน โครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเข้าชุดไว้ที่ด้านซ้ายของห้อง

ให้เตียงเป็น Queen Size มีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง และโต๊ะวางของหัวเตียง

ที่ห้องนอนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนข้างเตียง รับแสง รับลม และเห็นวิวได้ระยะไกล

ห้องสุดท้ายเป็นห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 2A 47 Sq.m. จุดเด่นของห้องนี้คือความเป็นสัดส่วน และ ทุกห้องได้วิวสระน้ำ

 

ภายในมีพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นพื้นที่กลางแบ่งพื้นที่ห้องนอนทั้งสองห้องที่ด้านซ้ายและด้านขวา

ซ้ายมือของห้องเป็นพื้นที่ครัวเข้ามุมพร้อมโต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 ที่นั่ง

เคาท์เตอร์ครัวห้องนี้เป็นแบบเข้ามุมรูปตัว L คือมีอ่างล้างจานที่ปลายสุด พร้อมชั้นวางแก้วและพื้นที่วางจานและทำครัว ส่วนเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันอยู่ที่ปลายสุดติดผนังอีกด้าน ด้านบนเว้นที่สำหรับวางไมโครเวฟที่เหนือศรีษะ และชั้นเก็บของทำครัวทั้งด้านบนและด้านล่าง

ปลายสุดของห้องเป็นที่วางโซฟา และชั้นวางทีวีติดประตูบานเลื่อนออกระเบียง

ที่ระเบียงสามารถชมวิวสระว่ายน้ำแนวยาวได้แบบเต็มเฟรม

ด้านขวาของห้องเป็นห้องนอนเล็ก โครงการให้เตียงเดี่ยว แบบมีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง

มีตู้เสื้อผ้า Built-in ติดประตูเข้าห้อง

ตรงข้ามห้องนอนเล็กเป็นห้องน้ำ ที่รูปแบบเหมือนห้อง 1B 32 Sq.m. ตามที่กล่าวไปข้างต้น

ส่วนห้องนอนใหญ่ โครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเข้าชุดกับเตียง

โดยเตียงเป็น Queen Size มีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง

และโต๊ะวางของหัวเตียง ห้องนอนใหญ่ได้หน้าต่างบานสไลด์บานใหญ่เต็มผนัง ให้ได้นอนชมวิว เปิดรับลม ได้ตาม Life style แต่ละคน

ส่วนพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งใหญ่โต โอ่อ่ามาก เรามาเริ่มกันจากโถง Lobby Double volume ที่โอบล้อมด้วยกระจกบานใหญ่เต็มทั้งพื้นที่ รับแสงธรรมชาติได้ตลอดเวลา และดูกว้างขวาง เหมาะสำหรับการขับแขก หรือนั่งพักผ่อนของลูกบ้าน โดยมีทั้งมุมโซฟา พร้อมโต๊ะรับแขก และโซฟาเอนหลังตัวใหญ่ที่ตั้งอย่างโดดเด่นกลาง Lobby

โถงลิฟท์ด้านเหนือเป็นโถงลิฟท์หลัก ทำให้มีลิฟท์ให้บริการ 3 ตัว

ติดโถงลิฟท์ เป็น Mail box ตกแต่งด้วยโทนสีไม้น้ำตาลอ่อน สไตล์โมเดิร์น

ที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ห้องประชุม

สำหรับ 10 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยโทนสีขาว น้ำตาล เหมาะสำหรับนั่งคิดงาน หรือประชุมพูดคุยกันวงเล็กๆ

ติดกับห้องประชุม เป็นพื้นที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ มีมุมให้นั่งอ่านหนังสือหลากหลายมุม

ทั้งชุดเก้าอี้โซฟา

เคาท์เตอร์บาร์

หรือโซฟาตัวยาว ก็มีให้เลือกนั่งตามความสะดวกสบายแต่ละคนเลย

ส่วนที่ชั้น 3 เป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่

แบ่งเป็นโซนอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆที่ครบครัน

โซนลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน

และพื้นที่สันทนาการต่างๆ เช่น โยคะ แอโรบิค ฯลฯ

มีห้องน้ำภายในห้องฟิตเนส

มีโซนล็อคเกอร์สำหรับเก็บของแบ่งเป็นสัดส่วนที่ด้านใน

ในห้องน้ำมีห้องซาวน่าแยกชายหญิง

และชั้น 5 เป็นสระว่ายน้ำ free form ที่โอบล้อมด้วยตัวอาคาร

และสวนพร้อมที่นั่งโดยรอบ

ทั้งที่นั่งชายหาดที่มีรองรับกว่า 3 คู่

และชุดเก้าอี้สนามตามมุมต่างๆของสวน ให้ได้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย

โดยพื้นที่ส่วนกลางสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากโถงลิฟท์ทั้งปีกทิศเหนือและใต้

และพื้นที่สวนส่วนกลางที่ roof top ที่นอกจากมีมุมให้ได้นั่งพักผ่อนยามเย็นแล้ว

ยังสามารถชมวิวได้ 360 องศา แบบมุมกว้างเลยทีเดียว

เพราะอย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นว่า The Parkland Phetkasem Thapra เป็นคอนโดสูงตึกแรกๆที่เริ่มสร้างจากระยะห้ามสร้าง ทำให้มุมมองเห็นไกลไปจนถึงวัดอรุณฯ เชื่อมต่อกับพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว

 

รวมทั้งยังเห็นโซน CBD เป็นฉากอาคารสูงเรียงตัวกันเป็นแนวกำแพงบริเวณย่านสีลม สาทร

และเห็นจุดตัดสถานีท่าพระ ที่ห่างไป 350 เมตร ที่เป็นจุดเด่นของที่ตั้งโครงการแห่งนี้

นอกจากทำเลที่อยู่ห่างเพียง 350 เมตรจากสถานีท่าพระ ซึ่งใกล้สถานีเปลี่ยนถ่ายหลักๆของฝั่งธนฯแล้ว The Parkland Phetkasem – Thapra ยังเป็นโครงการที่ให้ Fully Furnished โครงการแรกของแบรนด์ The Parkland และยังให้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากโครงการ The Parkland Charan Pinklao ที่เพิ่งเปิดขายไป ที่สำคัญ The Parkland Phetkasem – Thapra ยังเป็นคอนโดพร้อมเข้าอยู่แห่งเดียวในบริเวณแยกท่าพระ หรือต้นถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งไร้คู่แข่ง และแตกต่างกับคอนโดอื่นๆบนถนนจรัญสนิทวงศ์ และเส้นกรุงธนบุรี-บางหว้า ที่มีการเปิดตัวโครงการกันค่อนข้างเยอะ โดยราคาขาย The Parkland Phetkasem Thapra มีตั้งแต่ 78,000 – 93,000 บาท/ตร.ม.

 

อัพเดทราคา ณ เดือน กพ. 2560

 

Type 1A 26Sq.m. Price : 2,530,000 บาท

Type 1B 32Sq.m. Price : 2,830,000-3,110,000 บาท

Type 1C 32Sq.m. Price : 2,740,000-3,060,000 บาท

Type 1D 32Sq.m. Price : 2,860,000-3,080,000 บาท

Type 1E 33.5Sq.m. Price : 3,030,000-3,220,000 บาท

Type 1F 36.5Sq.m. Price : 3,500,000 บาท

Type 1G 38Sq.m. Price : 3,560,000-3,650,000 บาท

Type 1H 40.5Sq.m. Price : Sold out

Type 2A 47Sq.m. Price : 4,280,000-4,330,000 บาท

Type 2B 62Sq.m. Price : Sold out

Type 2C 62.5Sq.m. Price : 5,780,000 บาท

 

ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดใกล้ๆ อย่าง City Home ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2553 ราคาขายมือสองตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท/ตร.ม. และให้เช่าอยู่ที่ 6,000-7,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องสตูดิโอ หรือ Ideo Sathorn – Thaphra ที่สถานีโพธิ์นิมิต ให้เข้าอยู่เมื่อปีที่แล้ว ราคาขายต่อตารางเมตรเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 120,000 บาท/ตร.ม. และราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ 10,000-13,000 บาท/เดือน สำหรับสตูดิโอ และ 14,000-15,000บาท/เดือนสำหรับห้อง 1 Bedroom ซึ่งราคาของ The Parkland Phetkasem -Thapra ถือว่าถูกและคุ้มค่ามากสำหรับย่านนี้ โดยหากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินพร้อมเปิดบริการ ถ้าปล่อยเช่าราคาน่าจะได้อยู่ราวๆ 9,000 บาทสำหรับห้อง 26 ตร.ม. และ 12,000 บาท สำหรับห้อง 33 ตร.ม. หรือประมาณตรม.ละ 350 – 400 บาท  

นอกจากนี้สถานีท่าพระนั้นในสายตาของผมนั้น ที่นี่มีศักยภาพที่จะเป็น สถานี Interchange ที่สำคัญที่สุดของฝั่งธนได้อย่างไม่ยาก เนื่องจากท่าพระเป็นสี่แยกใหญ่ที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝั่งกรุงธนบุรีที่ผู้คนใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางในเขตฝั่งธนฯ บริเวณสี่แยกท่าพระนั้นเป็นจุดตัดผ่านระหว่างถนนเพชรเกษม, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนจรัญสนิทวงศ์ ทั้งยังเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์ ด้วยความสำคัญดังกล่าว การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่ง- ประเทศไทย (รฟม.) จึงได้ปักหมุดให้ท่าพระเป็นสถานีสำคัญของรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายเฉลิมรัชมงคล สายสีน้ำเงิน เพื่อให้บริการสำหรับประชาชนในช่วงเส้นทางระหว่าง หัวลำโพง-ท่าพระ-บางแค และช่วง บางซื่อ-ท่าพระ โดยทั้งสองเส้นทางมีจุดบรรจบกันที่สี่แยกท่าพระ นอกจากนี้ สถานีดังกล่าวยังถูกใช้ เป็นสถานีร่วมบริเวณ กลางสี่แยก ยกระดับทอดตัวไปทุกด้านถนน ได้แก่ แนวถนนจรัญสนิทวงศ์-รัชดาภิเษก, แนวถนนเพชรเกษมมุ่งหน้า บางแค ทำให้สี่แยกและสถานีรถไฟฟ้าท่าพระ เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าวงแหวนและ เป็นศูนย์รวมการเปลี่ยนเส้นทาง (Interchange) ที่ใหญ่ที่สุดของรถไฟฟ้าย่านธนบุรีในอนาคตอันใกล้ โดยมีทางเข้า ออกสถานีถึง 10 จุด และยังเป็น The Infinite Interchange and Connection ที่สามารถพาทุกชีวิตเข้าสู่ใจ- กลางกรุงเทพฯ และจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้อย่าง รวดเร็ว อาทิ สีลม, เยาวราช และสาทร นอกจากนี้ยัง ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง, สีส้ม, สีม่วง, และสีเขียว ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่รวดเร็วอย่างแท้จริง

ดังเหตุผลที่กล่าวไป ท่าพระในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก สามารถเดินทางได้อย่างหลากหลาย ดังนั้น The Parkland Phetkasem –Thapra จึงเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าฝั่งธนฯที่ใกล้ทำเลฝั่งพระนครมากที่สุด จึงน่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ที่มองเห็นศักยภาพในอนาคต ทั้งนี้เชื่อแน่ว่าในอนาคตจะมีดีเวลลอปเปอร์หลายรายหันมาสนใจพัฒนาโครงการที่บริเวณแยกท่าพระกันมากขึ้น ทั้งช้อปปิ้งมอลล์ และคอนโด เนื่องจากสถานีท่าพระยังอยู่ใกล้กับสถานีสายสีน้ำเงินอีก 4 สาย คือ สถานีวัดมังกรกมลาวาส สถานีวังบูรพา สถานีสนามไชย และสถานีอิสรภาพ โดย 3 ใน 4 สถานี ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก ขณะที่สถานีสนามไชยซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง มิวเซียมสยามและปากคลองตลาด ก็โดดเด่นด้วยตัวมันเอง เพราะได้รับการออกแบบให้คล้ายกับท้องพระโรงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยอาจารย์ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ทำให้สถานีแห่งนี้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่สวยที่สุดในประเทศ ส่วนสถานีมังกรกมลาวาส วังบูรพา และอิสรภาพ ก็ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชนด้วย แต่เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นติดข้อบังคับเรื่องผังเมือง และที่ดินส่วนหนึ่งเป็นของสำนักงานทรัพย์สินฯ พื้นที่โดยรอบสถานีเหล่านี้จึงไม่สามารถสร้างตึกสูงได้เลย

 

สำหรับผมแล้วข้อเสียของทำเลนี้คงจะมีเพียงแค่ต้องรอการมาของห้างสรรพสินค้า บริเวณรอบๆโครงการ และการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าเท่านั้นครับ… ใครสนใจคงต้องรีบหน่อย เพราะยิ่งรถไฟฟ้าใกล้เสร็จมากเท่าไหร่ ราคาในอนาคตก็อาจพุ่งขึ้นสูงจนอาจซื้อไม่ได้ในราคานี้ เพราะใครๆก็อยากอยู่ทำเล Interchange พร้อม facilities ที่จัดเต็ม จากผู้เชี่ยวชาญด้านคอนโดทำเลฝั่งธนฯอย่างนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตคุณให้สมบูรณ์แบบในการอยู่อาศัยบนความเฉพาะตัวบน ตาม Concept ของโครงการ อย่าง New HUB “Happiness Unique Beginning”



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


[1st Impression] Reference Sathorn – Wongwianyai คอนโดขวัญใจคนเจนใหม่ ที่งานดีไซน์และประสบการณ์แปลกใหม่คือส่วนหนึ่งของชีวิต แห่งแรกของฝั่งธนฯ

ที่ผ่านมา SC Asset ไม่เคยมีการพัฒนาโครงการคอนโดในย่านฝั่งธนฯ เลย แตกต่างจากโครงการแนวราบมีอยู่เรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่อยู่ใกล้เคียงทำเลนี้ของ SC Asset มากที่สุดก็น่าจะเป็น Saladaeng One ... อ่านต่อ

21 November, 2024



SURFHOUSE Residences Phuket – Bangtao บูทิคคอนโดมิเนียมแห่งแรกในเชิงทะเล โดย Sala Hospitality Group

ในรอบปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสแวะเวียนมาดูคอนโดที่ภูเก็ตหลายโครงการ จากหลายดีเวลลอปเปอร์... อ่านต่อ
15 November, 2024

เปิด Sale Gallery ขาวละมุนตา! Reference เอกมัย

วันนี้ Reference เอกมัย เค้าเปิดให้นักข่าวชม Sale Gallery เป็นวันแรกครับ ต้องบอกว่าแม้ว... อ่านต่อ
13 November, 2024

เจาะลึกแนวคิดในการพัฒนา Urban Home ที่พร้อมมอบสมดุลของการใช้ชีวิตที่แตกต่างของคนเมืองอย่างมีเอกลักษณ์ จากโนเบิล

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทิศทางในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯนับว่าอยู่ในช่วงขา... อ่านต่อ
8 November, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง