เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 2 August, 2024 เวลา 15.02 pm
Prop score™: 4.3
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
Supalai Icon Sathorn
บริษัทผู้สร้าง
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
สถานที่
ติดถนนสาทรใต้
สถานีรถไฟ BTS
BTS ช่องนนทรี Distance 900 m./BTS ศาลาแดง Distance 900 m.
สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT ลุมพินี Distance 800 m.
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
7-3-82 ไร่
ชั้น
56 ชั้น
ยูนิต
720 ยูนิต
ที่จอดรถ
ประมาณ 63% ของจำนวนยูนิตพักอาศัย แบบวนจอด แต่เมื่อรวมกับที่จอดรถแบบขายสิทธิ์ในการจอดประจำแล้ว จะรวมเป็นมากกว่า 100% ของจำนวนยูนิต (กรุณาสอบถามกับพนักงานอีกคร้ง)
ลิฟท์
Passenger Lift 8 ตัว, Parking Lift 2 ตัว, Service Lift 2 ตัว
สิ่งอำนวยความสดวก
Lobby, Meeting Room, Garden, Maldives Swimming Pool & Jacuzzi, Wisdom Library Room & Co-Living Space, Aqua Hydrotherapy, Sauna & Steam, Milky Way Theatre & Karaoke, Kid’s Club, Play Ground, Mini Climbing Simulation, Personal Room, Group Cycling, Table Tennis, Boxing Kangaroo, Yoga, Aerobic & Pilates, Exclusive Opal Sky Lounge
ประเภทยูนิต
ประเภท
CONDO/MIxed Use/คอนโด High Rise
studio
-
1 bedroom
42 – 61 ตร.ม.
2 bedroom
65- 98 ตร.ม.
3 bedroom
100.5-343 ตร.ม.
Duplex
206.5-350 ตร.ม.
Penthouse
PENTHOUSE ขนาด 428-438 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
ประเภทอื่นๆ
-
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
ห้องมาตรฐานมีความสูงของเพดานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.85 เมตร และห้อง Duplex สูงประมาณ 6.2 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
230,000 บาท/ ตร.ม.*
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
8.9 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
60 บาท/ ตร.ม./ เดือน
Sinking Fund fee
550 บาท/ ตร.ม./ ชำระครั้งเดียว
สร้างเสร็จ
2024
เว็บไซต์
https://bit.ly/4c8vvA5
1720
Supalai Icon Sathorn โครงการ Luxury Mixed Use ระดับ Iconic Landmark ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดติดถนนใหญ่สาทร!
นับตั้งแต่ที่ศุภาลัยเป็นผู้ชนะการประมูลที่ดินสุด Prime ในย่านสาทร ที่เคยเป็นของสถานฑูตออสเตรเลียในอดีต มาด้วยเม็ดเงินที่เป็นสถิติของบริษัทถึง 1.45 ล้านบาท ต่อตารางวา ด้วยการทุ่มเงินสดในการโอนเร็วสุดกว่า 4,600 ลบ.เพื่อปาดหน้าปิดดีลนี้ก่อนดีเวลลอปเปอร์รายอื่น หลายคนจึงล้วนแต่จับตามองว่าศุภาลัยจะพัฒนาโครงการบนที่ดิน 7-3-82 ไร่นี้ออกมาอย่างไร เพื่อให้สมกับการที่ได้ครอบครองที่ดินระดับตำนาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของงานสถาปัตยกรรมที่ได้ชื่อว่าสวยงามเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพฯ และโครงการใหม่บนที่ดินผืนนี้จะสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของที่ดินแปลงนี้ได้ดีขนาดไหน จากวันที่เริ่มก่อสร้างโครงการมาจนถึงวันนี้ก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาถึง 5 ปีเต็ม ที่ศุภาลัยได้ใช้เวลาในการ Craft ทีละส่วนของโครงการ โดยมุ่งมั่นที่จะนำเอาอัตลักษณ์ของความเป็นทวีปออสเตรเลียมาถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด ผ่านองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรม และประติมากรรมที่มีอยู่ให้เห็นทั่วทั้งโครงการ จนวันนี้ศุภาลัยได้ฤกษ์เปิดตัว Supalai Icon Sathorn (ศุภาลัย ไอคอน สาทร) โครงการ Luxury Mixed Use ระดับ Iconic Landmark ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว
โดยการเปิดตัวโครงการในช่วงปีนี้ นับว่าประจวบเหมาะกับช่วงเวลาสำคัญของศุภาลัยในการก้าวสู่ขวบปีที่ 35 บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ พร้อมก้าวสู่ศตวรรษที่ 4 อย่างแข็งแกร่ง ด้วยการมุ่งมั่นเป็นผู้นำการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับทุกความต้องการที่อยู่อาศัย รวมถึงให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และยึดแนวคิดการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นคงไม่มีอะไรที่จะน่ายินดีไปกว่าการจัดงานเฉลิมฉลอง 35 ปีอย่างยิ่งใหญ่ บนอาคารจริงของเมกะโปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่ ที่มีมูลค่าโครงการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของศุภาลัย โดยมีแขกผู้มีเกียรติอย่าง ฯพณฯ ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย มาร่วมพิธีเปิดประติมากรรม LEAPING-FORWARD KANGAROOS (รูปปั้นหมู่จิงโจ้ที่กระโดดสู่อนาคตข้างหน้า) สัญลักษณ์สัตว์ประจำประเทศออสเตรเลีย ที่ให้เกียรติมาร่วมงานฉลองเปิดตัวในครั้งนี้ด้วยตัวเองเลย
Supalai Icon Sathorn ตั้งอยู่บนถนนสาทรพื้นที่ CBD ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทุก ๆ ปี จนทำให้สาทรเป็นศูนย์รวมความเจริญอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง ซึ่งอัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นของการใช้งาน ที่ครอบคลุมทุก lifestyle การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแหล่งงาน (Workplace) สถานศึกษา (School) โรงพยาบาล (Medical) การเดินทาง (Accessibility) สถานที่จับจ่ายซื้อของ (Shopping) และ สถานพักผ่อนหย่อนใจ (Recreation) อาทิ สถาบันการศึกษาชั้นนำ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ธนาคารทิสโก้ (สำนักงานใหญ่) โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส สาทร โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาล BNH โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงแรมบันยันทรี และสวนลุมพินี
อีกทั้งยังครบครันในทุกการเดินทาง ใกล้ทุกการเชื่อมต่อกับโครงข่ายคมนาคมที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว BTS MRT ที่สานเป็นโครงข่ายเชื่อมการเดินทางอย่างง่ายดายทั้งในปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากอยู่กึ่งกลางระหว่าง MRT สถานีลุมพินี และแยกสาทร–นราธิวาส ที่เป็นที่ตั้งของ BTS สถานีช่องนนทรี BTS สถานีศาลาแดง และที่สามารถเชื่อมต่อไปยังรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สถานีสาทร ได้ และอีกทั้งยังอยู่ใกล้ซอยสวนพลู ซึ่งใครใช้รถยนตร์ส่วนตัวก็ยังสามารถลัดเลาะออกพระราม 4 พระราม 3 นราธิวาส เชื่อมต่อด่านขึ้นลงทางด่วน ด่านพระราม 4 ด่านขึ้นลงทางด่วนสาทรได้อย่างสะดวก
ทำไม Supalai ICON Sathorn จึงเป็นโครงการ Luxury Mixed Use ระดับ Iconic Landmark ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดติดถนนใหญ่สาทร!
1. ทุ่มเทเพื่อลงรายละเอียดของความหรูหราได้อย่างดีที่สุด
โดยเป็นโครงการแรกของ Supalai ที่ใช้พาร์ทเนอร์มาร่วมพัฒนาถึง 3 ราย อย่าง ทีม Landscape จาก Beaumont ทีม Interior จาก DWP และทีม Lighting จาก Lightbox ที่ร่วมกันฉีกความเป็นศุภาลัยออกไปจากภาพจำเดิม ๆ บนมาตรฐานของสเปคห้องแบบใหม่ต่างจากแบบศุภาลัยที่เคยทำมาในอดีต
2. เป็นโครงการที่พร้อมทวีมูลค่าในอนาคต
ด้วยการเป็นโครงการ Luxury Mixed Use ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยเฉพาะความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานแบบขายขาดในย่านสาทร (ทางศุภาลัยมีปล่อยเช่า และขายขาดพื้นที่อาคารสำนักงานด้วยครับ)
ด้วยการมีอาคารพาณิชยกรรมอยู่ด้านหน้าติดทางเข้าขนาดประมาณ 24,063 ตารางเมตร จำนวน 14 ชั้น ที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Connect Every Moment to Success” ส่วนอาคารที่พักอาศัยอยู่ด้านในถัดจากอาคารพาณิชยกรรมเข้าไป โดยอาคารพาณิชยกรรมด้านหน้าที่ชั้น 14 จะเท่ากับอาคารที่พักอาศัยชั้น 19 แม้ตัวอาคารทั้งสองอยู่ติดกัน แต่แยกระบบการใช้งานรวมทั้งลิฟท์โดยสาน มีเพียงทางเข้าหลักและพื้นที่โดยรอบอาคารที่สามารถเชื่อมถึงกันได้ และใช้ร่วมกัน แค่ที่ชั้น 1 เท่านั้น รวมทั้งลานจอดรถที่แยกระหว่างพื้นที่พาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย ซึ่งภายในอาคารส่วน Commercial จะมีโถง Vertical Sky-light Atrium สูง 60 เมตร เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศที่โล่ง โปร่ง แตกต่างจากอาคารสำนักงานทั่วไป
รวมทั้งมี Service Residence ให้เช่าโดยศุภาลัย 105 units ที่ชั้น 27-29 (ทั้งชั้น) และ 33-35 เฉพาะห้อง 2-3 ห้องนอน ที่มีบริการทุกอย่างเหมือนอยู่โรงแรม แต่เช่าได้ตั้งแต่ระยะสั้นจนถึงเช่าระยะยาว และสามารถนำค่าเช่าไปเป็นส่วนลดหากสนใจซื้อคอนโดได้อีกด้วย
3. มีราคาขายที่ Competitive มากที่สุดในบรรดาทุกคอนโดติดถนนใหญ่สาทร และพระรามสี่ โดยราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ลบ* ซึ่งนับว่าเป็น Package ราคาที่หาได้ยากในกลุ่มคอนโดระดับ Luxury ย่านสาทร
4. มอบสเปคภายในห้องที่ดีที่สุดในบรรดาทุกโครงการของศุภาลัย
จากการออกแบบตกแต่งภายใน ที่เน้นประโยชน์ใช้สอย และเลือกสรรวัสดุชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ การใช้วัสดุที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้กระจกแบบ Double Glazing เพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคาร แข็งแรง ปลอดภัย ป้องกันเสียง พื้นห้องโถงรับแขกที่ทำจากกระเบื้องหินอ่อนอิตาลี เครื่องปรับอากาศระบบความเย็นอัจฉริยะแบบ Cassette Type ระบบ VRV ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป การออกแบบ Smart Kitchen จากแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลก อาทิ kuppersbusch ที่ดีไซน์ชุดครัวที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานด้วยเทคโนโลยี และวัสดุที่ทันสมัย หรูหราไปกับนวัตกรรมขั้นสูง และติดตั้งระบบ Home Automation ภายในห้องพักที่สามารถรองรับการใช้งานผ่านทาง Smartphone ได้ทั้งระบบไฟ ม่าน และอื่น ๆให้ความสะดวกสบายและอุ่นใจแก่ผู้พักอาศัยมากขึ้น
5. Exposure อาคารอันโดดเด่นด้วยการดีไซน์สไตล์ Modern Contemporary
ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติและอิสระของเส้นสายลวดลายแบบ Australia จนถึงการใช้สีอาคาร earth tone อย่าง สีขาว สีเทา ที่ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย และใช้วัสดุทองแดง มาเป็นองค์ประกอบรูปด้านอาคารเพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และสร้างจุดเด่นกับยอดอาคารภายนอกที่เป็นเส้นโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Sydney Harbor Bridge และยังสอดคล้องกับสุริยันจันทรา และสายรุ้ง โดยบนยอดนี้มีการประดับไฟให้ดูเป็นประกายระยิบระยับเหมือนกับทางช้างเผือกที่ส่องแสงแวววาวในยามค่ำคืนที่มืดสนิทของเกาะแทสมาเนีย
รวมถึงงานประติมากรรมของสัตว์ท้องถิ่นของออสเตรเลีย อาทิ หมู่จิงโจ้กระโดดที่อยู่หน้าโครงการ บริเวณ ชั้น 1 ENTRY PLAZA DROP OFF สื่อถึงความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง และความสามัคคีกลมเกลียว
หมู่หมีโคอาลาเรืองแสงสีขาว บริเวณ OFFICE AND RESIDENTIAL DROP OFF สื่อถึงความสมบูรณ์พูนสุข
ฝูงนกอีมู ที่ FOREST GARDEN ที่ออกแบบให้ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่ผู้พักอาศัยสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติ พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สามารถหลีกหนีความวุ่นวายภายนอก เพราะเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่แทรกไปกับลำธาร เสมือนให้คุณได้เดินอยู่ท่ามกลางท้องทุ่งธรรมชาติ
ตุ่นปากเป็ด ที่ MALDIVES SWIMMING POOL ที่รายล้อมพื้นที่ทางเดินและสระว่ายน้ำ
6. เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ World Class ในขนาดพื้นที่ Overscale ใหญ่กว่า กว้างกว่าเมื่อเทียบกับคอนโดในเซกเมนท์ราคาเดียวกัน โดยทั้งโครงการฯ มีพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 2 ไร่ โดย Facilities หลักจะอยู่ที่ชั้น 1 , 11 และ 53 ตั้งแต่โถงล็อบบี้ ที่ชั้น 1 (LG) ที่กว้างใหญ่ โปร่ง เหมือนล็อบบี้โรงแรม มีระบบรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ทางเข้า lobby / ลิฟต์ และส่วนกลาง ที่ใช้ระบบสแกนหน้าและคีย์การ์ด
ห้องประชุมบริเวณโถงล็อบบี้
พื้นที่ที่จอดรถที่มาพร้อมสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าภายในโครงการฯ (EV Charger) เพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน
ชั้น 11 ศูนย์รวม Facilities ที่มีทั้ง Indoor และ Outdoor
เริ่มจากพื้นที่ Indoor ติดโถงลิฟท์
เป็นพื้นที่ Double Volume ที่รองรับ Fitness ที่กว้างใหญ่ ครบครันทุกเครื่องออกกำลังกาย พร้อมวิวสวนและวิวสระเพื่อความผ่อนคลายระหว่างออกกำลังกาย
มีแบ่งโซน Boxing และ Table Tennis Space
และห้อง Group Cycling สำหรับคนชอบออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน
ติดทางเข้าห้องฟิตเนสมีบันไดวนเชื่อมสู่ชั้นสอง ที่เป็นพื้นที่สำหรับ Yoga & Pilates
ที่ชั้นเดียวกับฟิตเนส ติดโถงลิฟท์เป็นห้องแต่งตัวที่มาพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ที่ห้องน้ำแยกชายหญิง ภายในแบ่งโซนห้องน้ำ
ตู้ล็อกเกอร์แบบใช้ระบบคีย์การ์ดและรหัส
Aqua Hydrotherapy ที่กว้างพอ ๆ กับสระว่ายน้ำเล็ก ที่มาพร้อมการตกแต่งบรรยากาศเสียงน้ำที่ช่วยผ่อนคลาย
และห้อง Sauna & Steam
พร้อมห้องอาบน้ำ
Wisdom Library Room & CO-Living Space กับมุมใช้งานเป็นสัดส่วน หลากหลายให้ได้เลือกใช้ โอบล้อมด้วยพื้นที่สวนสีเขียว สระว่ายน้ำ และวิวเมืองโดยรอบ
Milky way theatre & Karaoke ห้องดูหนังสุด private กับวิวมหานครที่ใกล้แค่เอื้อม โดยเฉพาะวิวเมืองยามค่ำคืน กับไฟบนเพดานที่เหมือนคุณนอนดูหนังท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
ห้อง Kids Room ที่ออกแบบให้มีต้นไม้ใหญ่อยู่กลางห้อง แต่ละมุมมีพื้นที่ให้ปีนป่าย นั่งเล่น พร้อมมุมอ่านนิทาน เสริมสร้างจินตนาการให้แก่เด็ก ๆ
ส่วนพื้นที่ Outdoor สามารถเข้าออกได้จากบริเวณทางเข้าออกห้องฟิตเนส และจากห้อง Wisdom Library Room
สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ออกแบบสะท้อนความทันสมัยแบบคนเมืองที่ประกอบด้วย JACUZZI
และ INFINITY-EDGE LAB POOL AND RECREATION POOL เพื่อเปิดรับทัศนียภาพเมืองโดยรอบ
แยก KID ZONE, Kids’ Club สนามเด็กเล่น หน้าผาเด็กจำลอง พื้นที่เล่นขนาดใหญ่ หลากหลายของเครื่องเล่นที่ช่วยสร้างเสริมจิตนาการให้กับเด็กๆ
และส่วนกลางที่ชั้น 53-54 กับ Exclusive Opal Sky Lounge พื้นที่พักผ่อนชั้นบนสุดของโครงการ
ที่ให้คุณดื่มด่ำกับวิวเมืองแบบ Panorama
พร้อมพื้นที่สังสรรค์กับเพื่อนและคนพิเศษในทุกโอกาส
พร้อมพื้นที่สวน outdoor ที่ให้ได้ออกไปรับลมชมวิวที่ Heaven Garden
7. รูปแบบเลย์เอาท์ห้องที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการอยู่อาศัยในย่านศูนย์กลางธุรกิจสาทร ทั้งห้องขนาดเล็กแบบ 1 นอนสำหรับชาวออฟฟิศในช่วง Weekday ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่แบบ Duplex และ Penthouse ที่สามารถอยู่จริงทดแทนการซื้อบ้านเดี่ยวในย่านสาทรได้เลย
Supalai ICON Sathorn ตั้งอยู่บนถนนสาทร บนพื้นที่โครงการขนาด 7-3-82 ไร่ ตัวอาคารสูง 56 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 720 ยูนิตที่ชั้น 12-56
ชั้น 12-19 ห้องพัก 17 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 20-30 ห้องพัก 24 ยูนิต/ชั้น โดยที่ชั้น 12-19 จะมีส่วนที่เป็น single loaded corridor เนื่องจากพื้นที่ส่วนหนึ่งจะติดกับชั้นของอาคารพาณิชยกรรมโซนออฟฟิตที่อยู่ด้านหน้า
ชั้น 20-30 ห้องพัก 24 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 31-38 ห้องพัก 19 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 39 ห้องพัก 17 ยูนิต/ชั้น เป็นชั้นที่มีสวนส่วนกลางที่สามารถออกไปใช้งานได้ และห้องที่อยู่ติดสวนจะมีสวนกั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวแยกจากกัน
ชั้น 40-42 ห้องพัก 17 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 43 ห้องพัก 14 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 44-46 ห้องพัก 14 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 47-48 ห้องพัก 12 ยูนิต/ชั้น (ห้อง Duplex ที่ผสานการออกแบบ และประโยชน์ใช้สอยของสวนส่วนตัวอย่างลงตัว รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัวที่เน้นเปิดโล่งเปิดรับทัศนียภาพเมือง)
ชั้น 49-52 ห้องพัก 12 ยูนิต/ชั้น (ห้อง Duplex)
ชั้น 53-54 มีห้องพัก 6 ยูนิต/ชั้น (ห้อง Duplex) และ Exclusive Opal Sky Lounge
ชั้น 55 – ชั้น 56 ส่วนพักอาศัยห้อง PENTHOUSE ขนาด 428-438 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต ที่เติมเต็มชีวิตที่เหนือระดับแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วย Foyer สูง 2 ชั้น มาพร้อม Private Terrace, Private Lift, Private Swimming Pool และ Private Lounge)
โดยห้องพัก แบ่งเป็น 4 type หลักๆ คือ
Type 1 ห้องนอน ขนาด 42 – 61 ตร.ม. ห้องนี้มีทุกชั้นตั้งแต่ชั้น 12-46 ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปีกด้านข้างโครงการทิศตะวันออก และยังมีกระจายแทรกตัวสลับกันไปที่วิวสระ วิวคอร์ทสวนของโครงการด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็น type ที่มีจำนวนกว่าครึ่งในโครงการ
Type 2 ห้องนอน ขนาด 65- 98 ตร.ม. แทรกตัวอยู่ช่วงกลางๆของโถงทางเดินในแต่ละชั้น ส่วนใหญ่ take view คอร์ทสวนส่วนกลาง และวิวด้านหน้าโครงการ มีอยู่ทุกชั้น เฉลี่ยชั้นละ 3-4 ยูนิต
Type 3 ห้องนอน ขนาด 100.5-343 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุมสุดทางเดินเกือบทุกชั้น ส่วนใหญ่ take view คอร์ทสวนส่วนกลาง และวิวด้านหน้าโครงการ และมี Type 3 ห้องนอน duplex ที่ชั้น 47 (และพื้นที่สวน),49,51,53
Type 4 ห้องนอน ขนาด 206.5-350 ตร.ม. เป็นห้อง duplex ที่ชั้น 47(และพื้นที่สวน),49,51,53
ทุกชั้นโถงทางเดิน Corridor กว้าง มีช่องแสงและช่องเปิดระบายอากาศ แสงส่องถึงและระบายอากาศ
โครงการฯ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่และให้ชม โดยมีห้องตัวอย่าง 4 ห้อง
เป็นห้อง Oversize ที่ไม่ Overprice และ 2 ห้องนอนที่อยู่ได้จริง เหมือนอยู่บ้าน ราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ลบ. โดยโครงการฯ ขายแบบ fully fitted ให้ห้องครัวแบบ Smart kitchen ห้องน้ำ และตู้เย็น (เฉพาะห้องเล็ก) ให้ทุกห้อง
ทุกห้องได้ YALE digital Door Lock ที่ใช้ทั้งสแกนนิ้ว คีย์การ์ด และรหัสปลดล็อค
โครงการติดตั้ง Air แบบ cassette type
และประตูบานกระจก Insulated Glass Unit (IGU)
ห้องตัวอย่างแรก 1 Bedroom 45 ตร.ม. ที่ชั้น 17 ห้อง 63/100 (1Ae23)
เป็นห้องหน้ากว้าง ทรงลึก
ภายในห้องแบ่งเป็นพื้นที่ living & dining ที่ด้านหน้าติดทางเข้า
โครงการวางตำแหน่งชั้นวางรองเท้าไว้ที่มุมห้องหลังประตูทางเข้า
ติดกันเป็นตำแหน่งของพื้นที่วางทีวี
ส่วนพื้นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งชุดโซฟา กว้างพอสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
ถัดเข้าไปเป็นที่วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง
ตรงกันข้ามเป็นพื้นที่ห้องน้ำ และครัวเปิด
ห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า
โครงการให้อ่างล้างหน้า KOHLER ฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิดปิดเป็นที่เก็บของได้
ติดกันเป็น โถสุขภัณฑ์แบบ auto washlet ที่ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล
ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่โครงการกั้นด้วย glass shower บานผลัก พื้นราบเรียบเท่ากับส่วนแห้ง
ด้านในโครงการให้ hand shower ติดผนัง rain shower ติดเพดาน และชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเข้ามุม
พื้นที่ครัวติดทางเข้าห้องน้ำ เป็นครัวรูปตัวยู built-in หน้าบานลามิเนตกึ่งโลหะสีทองแดง และตู้ด้านบนหน้าบานเป็นกระจกเงาสีทอง
ติดผนังด้านในเป็นตู้เย็น built-in เชื่อมต่อกับเคาท์เตอร์ครัว
ที่เคาท์เตอร์ได้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ของ FRANKE พร้อมที่ปิดเรียบ ด้านล่างให้ที่บดอาหารของ teka
และเตาไฟฟ้า kuppersbusch 2 หัว
ส่วนด้านบนเป็นที่ดูดควัน และชั้นวางอุปกรณ์ทำครัว
ที่มาพร้อมกับชั้นที่สามารถเลื่อนขึ้นลง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน มีโช้คปรับระดับช่วยผ่อนแรงกึ่งอัตโนมัติ
ด้านล่างเป็นเตาไมโครเวฟ พร้อมลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว
ติดกันเว้นที่วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ปลายเคาท์เตอร์ครัว เป็นเคาท์เตอร์บาร์ พื้นที่เตรียมอาหาร และเครื่องดื่ม ที่มาพร้อมชั้นแขวนติดเพดาน พร้อมปลั๊ก pop up ที่มุมเคาท์เตอร์ติดผนัง
ด้านในสุดเป็นพื้นที่ห้องนอน ที่โครงการให้ประตูบานเลื่อนเปิดปิดกั้นพื้นที่ แยกการใช้งาน และสามารถเปิดโล่งเชื่อมระหว่างห้องนอนและห้องliving ได้
ในส่วนของห้องนอน ปลายสุดของห้องโครงการให้กระจกบานใหญ่ สูงจรดเพดานเต็มเฟรม มีหน้าต่างบานผลักสำหรับเปิดรับลม ระบายอากาศ
วางเตียง queen size หรือจะเพิ่มเป็น king size สำหรับคนชอบนอนเตียงใหญ่ๆได้ พร้อมพื้นที่หัวเตียงวางโต๊ะหัวเตียง
ที่ปลายเตียงสามารถตั้งหรือต่อเติมชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงได้
หลังผนังติดตั้งทีวีเป็น walk-in closet
ห้องนี้ไม่มีระเบียงใช้งานแยก แต่ที่กระจกบานใหญ่ สามารถเปิดและมีราวกันตกกระจกกั้น สำหรับเปิดรับลม เป็นกึ่ง semi indoor
ติดกันเป็นทางออกสำหรับ maintenance งานระบบแอร์ ที่แยกเป็นสัดส่วน และมี façade กั้นบังสายตาจากภายนอก
ห้องจริง ได้ครัว ห้องน้ำ ผนังและพื้นเหมือนห้องตัวอย่างเช่นกัน
ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน สำหรับคนที่ชอบห้องกึ่งสตูดิโอ ที่มีพื้นที่ใช้งานครบทุกส่วน สามารถแยกใช้อย่าง? หรือใช้แบบ share space พื้นที่ร่วมกันได้แบบหลากหลาย function
ห้องถัดไปเป็นห้อง 3 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 100.5 ตร.ม. ห้อง 63/102 (3FA25)
ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีพื้นที่ living & dining ที่ด้านหน้าติดทางเข้ายาวไปจนถึงระเบียงด้านใน และมีห้องนอนอยู่ทั้งด้านซ้ายและขวาของห้องนั่งเล่น
ห้องนี้เข้ามาในห้องจะพบกับครัว Built-in L shape โดยได้ชุดครัวเหมือนห้อง 1 Bedroom ต่างกันตรงที่ไม่ได้ตู้เย็นแบบ Built-in แต่โครงการเว้นที่ตั้งตู้เย็นไซส์ใหญ่ไว้ให้
หน้าครัว สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้แบบยังมีพื้นที่รอบ ๆ ให้ใช้งานได้เหลือเฟือ
ส่วนพื้นที่ติดริมระเบียงเป็นพื้นที่พักผ่อน ที่สามารถตั้งชุดโซฟา และชั้นวางทีวีไว้ติดริมประตูกระจกออกระเบียง
ส่วนพื้นที่ระเบียง เป็นแบบ Double skin balcony ที่มีพื้นที่ใช้งานกว้างมาก กว้างพอให้วางชุดโต๊ะเก้าอี้ริมระเบียง ส่วนพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ โครงการฯ ได้กั้นประตูแยกการใช้งานไว้ด้านนอก พื้นที่ระเบียงจึงสามารถใช้ space ได้เต็มพื้นที่ รวมทั้งยังสามารถเปิดเชื่อมกับพื้นที่ดูทีวีด้านในได้อีกด้วย
ในส่วนของพื้นที่ห้องนอน
ด้านขวาเป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ระหว่างห้องนอนเป็นห้องน้ำ สำหรับห้องนอนเล็กและสำหรับห้อง Living area
ห้องน้ำเหมือนห้อง 1 Bedroom แต่พื้นที่ห้องอาบน้ำติดอากาศ ทำให้มีหน้าต่างฝ้าระบายอากาศบานเปิด
ห้องนอนด้านขวาเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
ผนังด้านข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in
ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามเป็นหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง
ส่วนห้องด้านซ้าย ขนาดใกล้เคียงและมีรูปแบบคล้ายกับห้องนอนแรก แต่ต่างกันตรงที่ได้กระจกเข้ามุมที่บริเวณปลายเตียง
ส่วนห้อง Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว อยู่ที่ปีกซ้ายของยูนิต
ภายในห้อง Master Bedroom สามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้ (รูปยังเป็นห้องนอน 2 อยู่เลย ค่อยพูดหลังจากห้องนี้ทีเดียว)
ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า อยู่ข้างเตียง
ส่วนห้องนอน Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว
ภายในสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
มีหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง และมีพื้นที่ริมหน้าต่างกว้างพอให้วางโซฟายาว หรือ โต๊ะ เก้าอี้ ริมหน้าต่าง ไว้นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ
ติดหัวเตียง วางตู้เสื้อผ้าใหญ่ได้
ติดตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ ที่ได้สเปคสีและวัสดุเหมือนห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom แต่แบ่งพื้นที่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วยบานกระจก
ได้อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกบานยาว
และอ่างอาบน้ำติดผนังฝั่งตรงข้าม
ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 2-4 คน ไม่ว่าจะครอบครัวขนาดเล็ก หรือคนที่ต้องการมีสัดส่วนการใช้งานพื้นที่แยกห้องต่าง ๆ เป็นสัดส่วน
ถัดไปเป็น 3 Bedroom duplex ขนาด 134 ตร.ม. ห้อง 63/686 (3HC17)
3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำที่อยู่ได้จริงในแบบทดแทนบ้านเดี่ยวได้เลย
ภายในยูนิตนี้ แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นชั้นล่างและชั้นบน
ชั้นล่างมีพื้นที่ Living room , ครัวปิด และ ห้องนอนเล็ก
มาพร้อมกับประตูบานครึ่ง สามารถเปิดขยายพื้นที่ทางเข้าสำหรับขนย้ายของชิ้นใหญ่ได้
ยูนิตนี้เข้ามาจะเจอกับครัวปิดที่ด้านซ้าย
โครงการฯ ให้ครัวแบบเดียวกับ 3 Bedroom แต่ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว และพื้นที่ครัวปิด ที่เป็นกระจกบานเลื่อน
ถัดจากทางเข้าครัว เป็นห้องน้ำที่ได้ห้องน้ำมาตรฐานเช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom
ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องนอนเล็ก
ภายในห้องสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้ หรือจะปรับเป็นห้องเอนกประสงค์ หรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน
ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามเป็นหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง
ติดกันเป็นห้องเก็บของใต้บันได้ ที่กว้างมาก ใช้งานได้จริงทั้งความสูงและความกว้างในการเข้าไปใช้งาน
ตรงข้ามทางเข้าห้องนอนเป็นที่ตั้งโต๊ะทานอาหาร ที่กว้างพอสำหรับ 6 ที่นั่ง
ถัดจากพื้นที่ตั้งโต๊ะทานอาหาร เป็นพื้นที่ Living room แบบ double volume ที่เชื่อมต่อกับชั้นบนด้วยโถงบันไดทางเดิน และกระจกบานใหญ่
ที่สามารถนั่งดูทีวีและนั่งพักผ่อนได้แบบโปร่งโล่งสบาย
อีกทั้งยังมาพร้อมกับพื้นที่ Double skin balcony ที่มี glass roof ให้ได้ใช้งานได้จริง เต็มพื้นที่
ราวกันตกบันไดเป็นบานกระจก บันไดกว้างเสมือนอยู่บ้าน แตกต่างจากห้อง Duplex ทั่วไปที่ต้องประหยัดพื้นที่ ทำให้บันไดมีขนาดจำกัดตามมาตรฐาน
ชั้นบนเป็นห้องนอนเล็ก และห้อง Master Bedroom
ห้องนอนเล็ก เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
สามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
หัวเตียงเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า Built-in
ด้านในสุดเป็นห้องน้ำ ที่ได้ตามมาตรฐานโครงการ เช่นเดียวกับห้อง 1-2 Bedroom (และมีประตูตามกฎหมายห้อง Duplex)
ติดทางเข้าห้องนอนสามารถวางโต๊ะทำงานติดหน้าต่างกระจกที่เชื่อมกับโถง Double volume ได้
ส่วนห้อง Master bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว
ภายในสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
มีหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง และมีพื้นที่ริมหน้าต่างกว้างพอให้วางโซฟายาว หรือ โต๊ะ เก้าอี้ ริมหน้าต่าง ไว้นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ
ติดหัวเตียง วางตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ได้
ติดตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ ที่ได้สเปคสีและวัสดุเหมือนห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom แต่แบ่งพื้นที่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วยบานกระจก
ได้อ่างล้างหน้า แบบ His and her พร้อมกระจกบานยาว
และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดผนังฝั่งตรงข้าม
ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือคนที่แพลนมีครอบครัว และชอบบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบอยู่บ้าน 2 ชั้น แต่ต้องการการดูแลและความสะดวกแบบคอนโดใจกลางสาทร
ห้องตัวอย่างสุดท้าย คือ 4 Bedroom 5 Bathroom ขนาด 206.5 ตร.ม. ห้อง 63/681 (4LA09)
ห้อง Duplex หัวมุมสุดทางเดิน ที่ให้บรรยากาศ และพื้นที่ใช้สอยที่เหมือนอยู่บ้านมากกว่าคอนโด
ภายในยูนิตนี้ แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นชั้นล่างและชั้นบน
ชั้นล่างมีพื้นที่ Living room , ครัวปิด และ Master Bedroom
ยูนิตนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่เตรียมอาหารที่ด้านซ้าย และพื้นที่ทานอาหารที่ด้านขวา ที่สามารถรองรับการใช้งานได้มากถึง 8 คน
ติดกันเป็นพื้นที่ Living room แบบ double volume ที่เชื่อมต่อกับชั้นบนด้วยโถงบันไดทางเดิน และกระจกบานใหญ่
ที่สามารถนั่งดูทีวีและนั่งพักผ่อนได้แบบโปร่งโล่งสบาย
อีกทั้งยังมาพร้อมกับพื้นที่ Double skin balcony ที่มี glass roof ให้ได้ใช้งานได้จริง เต็มพื้นที่
ปีกซ้ายของชั้นล่างเป็นห้องน้ำ สำหรับห้อง Living
ตรงข้ามห้องน้ำเป็นครัวปิด โครงการฯ ให้ครัวแบบเดียวกับ 3 Bedroom Duplex ที่มาพร้อมกับกระจกบานเลื่อน มีความพิเศษที่แตกต่างกันอยู่ที่อ่างล้างจานแบบ 2 หลุม และ หน้าบานตู้สีเงิน กระจกสีเทาดำ เฉพาะ type นี้เท่านั้น
ติดกันเป็น Master bedroom ขนาดใหญ่มาก ที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนเฉพาะ ประกอบด้วยโซนห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว
ภายในสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
มีหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง และมีพื้นที่ริมหน้าต่างกว้างพอให้วาง โต๊ะ เก้าอี้ ริมหน้าต่าง ไว้นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ
ที่ผนังปลายเตียงเป็นประตูบานเลื่อนกั้นก่อนเข้าสู่พื้นที่ Walk-in closet และห้องน้ำ
สามารถกั้นพื้นที่ Walk-in closet วางตัวยาวสองฝั่ง เต็มพื้นที่ผนัง
ปลายสุดทางเดินมีกระจกช่องแสงบานสูง เหมาะสำหรับตั้งโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับคุณผู้หญิง
ติดกระจกบานยาวเป็นห้องน้ำ ที่กว้างมาก
ภายในแบ่งพื้นที่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วยบานกระจก
ได้อ่างล้างหน้า แบบ His and her พร้อมกระจกบานยาว
และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดผนังฝั่งตรงข้าม พร้อมกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงและระบายอากาศ
ด้านบนเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง
ที่ราวกันตกบันไดเป็นบานกระจก บันไดกว้างเสมือนอยู่บ้าน แตกต่างจากห้อง Duplex ที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
ห้องแรกติดบันได เป็นห้องนอนเล็ก
สามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงได้
ติดประตูมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานเข้ามุม
ด้านในเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ที่กั้นห้องด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ด้านในห้องแต่งตัวเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ห้องถัดไปเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง ที่มาพร้อมกระจกบานใหญ่เต็มความกว้างห้อง ที่โครงการฯ ตกแต่งเป็นห้องแต่งตัว
มาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกับห้องนอนเล็กห้องแรก
ส่วนห้องนอนใหญ่ มาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกัน
ภายในสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียงได้
มีหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดรับมุมมองได้เต็มความกว้างและความสูงของห้อง และมีพื้นที่ริมหน้าต่างกว้างพอให้วาง โต๊ะ เก้าอี้ ริมหน้าต่าง ไว้นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ
ติดหัวเตียงมีพื้นที่เข้ามุมที่สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้พร้อมโต๊ะกลางตัวเล็ก
ปลายเตียงเป็น walk-in closet พร้อมห้องน้ำด้านใน
ที่ห้องน้ำยูนิตนี้จะได้อ่างอาบน้ำที่ห้องนอนใหญ่ด้วย พร้อมกั้นพื้นที่ส่วนเปียกติดกระจกฝ้าเปิดระบายอากาศได้
ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือคนที่ชอบบรรยากาศการอยู่บ้านที่แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ชั้น มีพื้นที่ มีห้องให้ปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ
บทสรุปความน่าสนใจของ Supalai Icon Sathorn
“นี่คือโครงการที่ดีที่สุด และมีความท้าทายในการทำงานมากที่สุดของศุภาลัยตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมา” คำพูดนี้คงจะเป็นคำอธิบายที่ตรงตัวมากที่สุด เพราะนับเป็นครั้งแรกที่ศุภาลัยทุ่มงบประมาณใช้พาร์ทเนอร์ชั้นนำถึง 3 ราย มาช่วยกันพัฒนาโครงการทั้ง DWP Cityspace ที่มาทำ Interior, The Beaumont Partnership (Landscape) และ Lightbox (Lighting) ถึงแม้ว่างานดีไซน์ภายนอกอาจจะดูขัดใจกลุ่มกำลังซื้อหน้าใหม่ที่มองว่านิยามของคำว่าหรูหรานั้นต้องเคียงคู่กับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ตึกต้องดูสูงสลิม กระจกเป็น Glass Façade ไม่ซอยเฟรมถี่ยิบ และหากเป็นโครงการ Mixed Use ก็ต้องแยกอาคารกันระหว่างพื้นที่ Commercial และ Residential เพื่อให้แต่ละอาคารช่วยกันสร้าง Exposure ให้กับโครงการมากที่สุด แต่หากศุภาลัยเลือกที่จะทำเช่นนั้น แน่นอนว่าราคาขายก็คงจะสูงลิบเกินกว่าตรม.ละ 3 แสนบาท จนอาจเทียบเท่ากับ Super Luxury Condo อื่นๆที่มีขายกันโดยรอบย่าน CBD สาทร พระราม 4 และชิดลม ซึ่งถามจริงๆหากศุภาลัยทำแบบนั้น แล้วคุณจะซื้อไหมครับ หรือไปซื้อตัวอื่นดีกว่า? นอกจากจะขายยากในหมู่กำลังซื้อหน้าใหม่แล้ว ก็ยังอาจจะกระทบกับฐานลูกค้าเดิมของศุภาลัยที่ล้วนแต่มองว่าการซื้อศุภาลัยคือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าการซื้อที่อื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งคนเหล่านี้ยึดติดกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์มากกว่าความฉาบฉวยทางด้านอารมณ์ และก็มีกำลังซื้อด้วยเงินสดได้สบายๆ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือการรุกในตลาด Luxury – Super Luxury Condo ของศุภาลัยครั้งนี้ ยังคงยึดเอาปรัชญาของการเป็น Best Value in Class มาใช้ เหมือนกับที่เคยทำมาในอดีต เพียงแต่เนื้อในนั้นได้มีการอัพสเปคทุกอย่าง จนหลายๆคนที่มาดูห้องตัวอย่างก็แทบจะไม่เชื่อว่านี่คือโครงการศุภาลัยแบบเดิมที่เคยซื้อกัน จึงเรียกว่าเป็นคอนโดแบรนด์ศุภาลัย ที่ฉีกกฎทุกภาพจำของศุภาลัยอย่างสิ้นเชิง
ในแง่ของการออกแบบงานประติมากรรมที่มีการดึงเอกลักษณ์ของออสเตรเลียมาสื่อสารและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ต่าง ๆ ในโครงการฯ ทั้งสัตว์ประจำชาติ ลวดลายอะบอริจิ้น Pattern ฯลฯ หลายๆคนที่ไม่อินกับศุภาลัย อาจจะค่อนขอดว่าดูไม่ค่อยเข้ากันกับความหรูหรา แต่หากพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว ก็จะพบว่าโจทย์ในการพัฒนาโครงการของคุณประทีป ซึ่งมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัวเยอะ ก็มีความต้องการที่จะสร้างความทรงจำดีๆให้รำลึกถึงปูมหลังที่ดินแปลงนี้ในแบบที่คนรุ่นหลังเดินผ่านไปมาก็ต้องสงสัย พลางตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีทั้งจิงโจ้ และโคอาล่า อยู่หน้าโครงการ จึงเลือกที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นงานประติมากรรมในแบบที่แค่มองก็สัมผัสได้ถึงความเป็นออสเตรเลียในแบบที่ไม่ต้องตีความให้ซับซ้อน อีกทั้งในเชิงการอยู่อาศัยจริง เราก็ไม่ได้พบเจองานประติมากรรมเหล่านี้อยู่บริเวณหน้าห้องให้ดูสิ้นเปลืองพื้นที่ และรกสายตาแต่อย่างใด ผมจึงมองว่าองค์ประกอบของงานประติมากรรมที่บางคนบอกว่าไม่ชอบ หรือขัดสายตานั้น เป็นเพียงแค่เสี้ยวเล็กๆเสี้ยวหนึ่งขององค์ประกอบโครงการเท่านั้น แต่กลับทำหน้าที่ในการสร้าง Awareness ได้อย่างดีเยี่ยมในแบบที่ไม่ต้องทุ่มเงินในการโฆษณาเพิ่ม เฉกเช่นเดียวกับป้ายไฟขนาดใหญ่ของศุภาลัยบนยอดอาคารรูปทรง Harbor Bridge ทั้งหมดนี้ รวมถึงสเปคห้อง วัสดุ และพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็ม แต่ศุภาลัยทำราคาขายออกมาเริ่มตรม.ละ 2 แสนบาทได้ นี่คือสิ่งที่ควรจะชมเชยและปรบมือให้ดังๆครับ
สำหรับคนที่มองว่าราคาที่คุ้มค่าคือปัจจัยหลักในการซื้อคอนโด ก็ต้องบอกว่านี่คือ Luxury – Super Luxury Condo ที่ทำราคาออกมาได้ดีที่สุดในย่านสาทร – พระรามสี่ เนื่องจากว่าสาทรช่วงนี้ มีคู่แข่งในเซกเมนท์เดียวกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ที่ถูกกว่าก็มักจะไปอยู่รวมกันในช่วงถนนรองอย่างแยกนราธิวาสฯ ซึ่งทางคุณเตเองก็เคยบอกว่าไม่ได้มองคอนโดในย่านนั้นเป็นคู่แข่ง เพราะคนที่เดินทางด้วยรถผ่านสาทรบ่อยๆก็ไม่น่าจะชอบย่านนั้น เนื่องจากรถติดนานมาก ส่วน Supply ของคอนโดในช่วงสาทร – พระราม 4 – ศาลาแดง ก็ดูจะมีราคาที่แพงกว่า Supalai Icon Sathorn ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโด Leasehold เปิดใหม่ในโครงการ ONE BANGKOK และที่แยกศาลาแดง ก็มีราคาที่พุ่งเกินตรม.สามแสนบาทไปแล้ว ถ้าวัดกันที่ราคายังไงที่นี่ก็ย่อมได้เปรียบกว่า แถมยังมีห้องขนาด 1 ห้องนอนที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากมาเป็นตัวเลือกในราคาที่ต่ำกว่า 9 ล้านบาทอยู่หลายห้องด้วยกัน อยากให้คนที่กำลังสงสัยในสารพัดข้อจำกัด และชั่งใจอยู่ได้ลองเปิดใจเพื่อเข้ามาดูที่โครงการจริงครับ แล้วคนจะรู้ว่าที่นี่ให้สเปคห้องและส่วนกลางที่ดีมากจริงๆครับ
“ศุภาลัย ไอคอน สาทร” #supalaiicon พร้อมที่จะให้ทุกท่านได้แวะชมโครงการจริง วิวจริง ได้แล้ววันนี้ ณ โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร สอบถามข้อมูลโทร.1720 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4c8vvA5
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
นับตั้งแต่ที่ศุภาลัยเป็นผู้ชนะการประมูลที่ดินสุด Prime ในย่านสาทร ที่เคยเป็นของสถานฑูตออสเตรเลียในอดีต มาด้วยเม็ดเงินที่เป็นสถิติของบริษัทถึง 1.45 ล้านบาท ต่อตารางวา ด้วยการทุ่มเงินสดในการโอนเร็วสุดกว่า 4,600 ลบ.
PROPSCORE™ 4.3
0
0 รีวิว รูป
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
12 ปี กรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแค่ไหน?
EURO ยกระดับ Design District ใจกลางทองหล่อ เปิดตัว Poltrona Frau Monobrand Store แห่งใหม่! ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า
สโคป หลังสวน เผยโฉมครั้งแรกกับยูนิตพิเศษ “The Debonair Edition” 2-bedroom เลย์เอาต์ใหม่ ที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า
นิว อีโว พัฒนาการ คอนโดฟีลบ้าน สเปซกว้าง เลี้ยงสัตว์ได้* ใกล้ทองหล่อ และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 2.95 ล้าน*
SCX Corporation Co., Ltd. บริษัทเรือธงธุรกิจใหม่ในเครือ SC Asset ที่ขับเคลื่อนธุรกิจ Engine2 หรือ Recurring Income (ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ)