SIRI SQUARE Charoenkrung 80 โฮมออฟฟิศสไตล์ New York Loft แห่งเดียวในย่านธุรกิจเก่าเจริญกรุง

ในวันหนึ่งๆ เราเสียเวลาเดินทางในกรุงเทพฯจากบ้านไปที่ทำงานย่าน CBD วันหนึ่งมากกว่า 4 ชั่วโมง ยิ่งใครเป็นเจ้าของธุรกิจ การหาออฟฟิศอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่การได้เป็นเจ้าของทั้งทำเล บรรยากาศของออฟฟิศ และพื้นที่ที่เหมาะกับจำนวนพนักงานของเราไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งค่าเช่าราคาแสนแพง ตารางเมตรละหลักพัน ไหนจะค่าตกแต่งค่าที่จอดรถ ไม่นับรวมค่าเดินทางและค่าเสียเวลาที่ต้องสูญเสียไป และโดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจยุคใหม่ อย่าง SME Startup ธุรกิจที่ใช้เพียงคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอย่างอินเตอร์เนต หรือธุรกิจเดิมที่มีคนเพียงไม่กี่สิบคน อาจไม่คุ้มค่ากับราคาค่าใช้จ่ายของออฟฟิต ที่ต้องสูญเสียไป แถมยังไม่ได้อสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ของตนเอง

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจข้างต้นที่กล่าวมา และกำลังมองหาพื้นที่ที่สามารถเป็นได้ทั้งบ้าน และที่ทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณเจริญก้าวหน้าโดยไม่สะดุดอย่าง Home Office ลองเข้าไปเยี่ยมชม SIRI SQUARE Charoenkrung 80 (สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80) กันก่อน แล้วคุณอาจเปลี่ยนใจจากการไปเช่าออฟฟิศในย่านสีลม-สาทร มาซื้อที่นี่เลยก็เป็นได้

ทำเลเจริญกรุง 80 เป็นทำเลแห่งย่านธุรกิจเก่ากลางเมือง ที่ใกล้ศูนย์กลาง CBD ทั้งสีลม สาทร และพระราม 3 ให้คุณเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะติดต่อธุรกิจ หรือสนุกกับ Lifestyle ของการพักอาศัยใจกลางเมือง เพราะใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ย่านตลาดและย่านค้าขายเก่าตลอดเส้นถนนเจริญกรุง รวมทั้งห่างจากเอเชียทีค และโรงเรียนนานาชาติโชร์สเบอรี่ เพียง 850 เมตร กับคุณภาพของแบรนด์เกรดพรีเมียมอย่าง แสนสิริ ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และสรรค์สร้างบรรยากาศทั้งการพักอาศัยและการทำงานให้คุณและครอบครัวได้ครบครัน

สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 สร้างอยู่บนเนื้อที่ 5 ไร่ ออกแบบวางผังเป็นระบบ Cluster ขนาดเล็ก ทั้งโครงการมีเพียง 35 ยูนิต ยูนิตละ 27-54.80 ตารางวา ทำให้เป็น Home Office ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง

มากับห้องหน้ากว้างถึง 6 เมตร ที่ออกแบบสไตล์ New York Loft สูง 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 284 ตรม.

ภายในตัวอาคารประกอบด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พื้นที่รองรับสำหรับออฟฟิศ 2 ชั้น

และที่จอดรถ 2 คัน ภายในแปลงที่ดิน

โดยรอบโครงการมีพื้นที่ให้จอดรถสำหรับพนักงานให้หลังละ 4 คัน

โครงการ SIRI SQUARE ตกแต่งบ้านตัวอย่างให้ชม แบ่งเป็นชั้นออฟฟิศที่ชั้น 1-2 และที่พักอาศัยที่ชั้น 3-4

แต่บ้านจริงให้บ้านเปล่า ที่สร้างด้วยระบบ Precast

แต่สามารถ Combine เป็นพื้นที่ติดกัน 2 หลัง

ได้ที่ผนังชั้น 1 และชั้น 2 ภายในกรอบแนวโครงสร้าง เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับออฟฟิศ ให้กว้างขึ้น สำหรับธุรกิจที่มีพนักงานและต้องการใช้พื้นที่เยอะ

ตัวบ้านตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 ให้ความรู้สึก โปร่ง โล่ง ด้วยความสูง Floor to Ceiling กว่า 2.65 เมตร ทุกชั้น

และให้หน้าต่างบานใหญ่ Floor to Ceiling เปิดรับแสง และทำให้รู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัดแบบ Town Home ทั่วไป

ที่บ้านตัวอย่าง พื้นที่ชั้น 1 ลึก 9 เมตร พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นแรกหลักๆเป็นพื้นที่ 2 ส่วน ส่วนแรกติดทางเข้าตกแต่งให้เป็นพื้นที่ reception

กว้างพอให้สามารถตั้งเคาท์เตอร์ติดต่อ ที่ด้านซ้าย

และมีมุมพักคอยสำหรับผู้ติดต่อ ที่สามารถวางโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ สำหรับ 6 ที่นั่ง หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่โซฟาพักคอยก็ได้

ส่วนพื้นที่โซนด้านหลังบ้าน ด้านซ้าย เป็น pantry ครัว Built-in เข้ามุม

ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่อยู่ติดประตูทางออกพื้นที่หลังบ้าน กว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร ที่สามารถตกแต่งเป็นสวนหย่อมขนาดเล็ก ไว้เป็นพื้นที่พักผ่อนของพนักงานได้ในเวลาพัก

ภายในห้องน้ำ โครงการให้อ่างล้างหน้าติดผนัง แบบลอยตัว ติดกระจกบานสูง ที่มาพร้อมกับที่วางอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำ

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN ที่ผนังมีหน้าต่างระบายอากาศ

ส่วนด้านขวาเป็นห้องเก็บของและงานระบบไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต

ด้านหลังห้องเก็บของเป็นทางขึ้นชั้นบน

ที่บันไดเป็นพื้นและราวจับลายไม้ มีชานพักระหว่างชั้น และหน้าต่างที่ชานพักทุกชั้น เปิดรับแสง ให้พื้นที่บันไดสว่างตลอดทั้งวัน และเปิดระบายอากาศ ให้พื้นที่โถงบันไดไม่อับ

ที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ที่กว้างมาก เพราะออกแบบให้มีความลึกของชั้นนี้ถึง 11  เมตร จึงทำให้สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานหลักของพนักงาน ได้ยาวจากบันไดจรดประตูกระจกบานใหญ่ที่โซนด้านหน้าบ้าน

ที่ประตูกระจกเป็นบานเปิดออกระเบียง

ที่ระเบียงยาวเต็มความกว้างของบ้าน มีส่วนทึบ และส่วนโปร่ง ที่ให้ราวกันตกเป็นกระจก เพื่อเปิดเชื่อมพื้นที่ด้านนอกสู่ภายในบ้านแบบไร้สิ่งบดบัง

พื้นที่ภายในชั้น2กว้างพอให้วางโต๊ะทำงานชิดริมผนัง 4 ที่นั่ง

โต๊ะกลางสำหรับประชุม หรือใช้นั่งทำงานได้อีก 8-10 ที่นั่ง

ที่ผนังอีกด้าน สามารถ built-in ชั้นเก็บเอกสาร วางของใช้สำนักงานได้ยาวจรดประตูกระจกบานใหญ่

และยังมีพื้นที่ด้านหน้าบันได

เหลือพอให้วางโต๊ะคุยงานแบบกลุ่มเล็กได้ 4-5 คน

ติดกัน เป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้น 2 โครงการให้เหมือนที่ชั้น 1

มาถึงพื้นที่ชั้น 3 ที่วางผังให้เป็นส่วนของพื้นที่พักอาศัย พื้นบ้านปูด้วยลามิเนตยาวไปถึงชั้น 4

ติดบันได ขวามือ เป็นพื้นที่ 1 ห้องนอนเล็ก

ที่สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือใช้เป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง ห้องหนังสือ สำหรับครอบครัวขนาดเล็กได้ตามความต้องการ

ติดห้องนอนเล็ก เป็นห้องน้ำสำหรับที่พักอาศัย คือ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและแห้ง

พื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบมีตู้เก็บของ ติดผนังแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ วางเรียงพอดีแนวกระจกบานใหญ่เต็มผนัง

พื้นที่ส่วนแห้งอยู่ด้านในสุด พื้นที่มีขอบกั้นน้ำให้

และโครงการให้ Hand shower ติดผนังของ American Standard พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นที่ใช้งานหลักของชั้น 3 คือ living area สำหรับทุกคนในครอบครัว

พื้นที่ส่วนนี้ค่อนข้างกว้าง กว้างจากบันได จรดหน้าต่างกระจก และ กว้างพอที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง ติดทางขึ้นลงบันได

และชุดโซฟาสำหรับ 4-5 ที่นั่ง พร้อมชั้นวางทีวี ติดหน้าต่างกระจกบานสูงที่โซนด้านหน้าบ้าน

ด้านขวาของชั้น 3 เป็นพื้นที่ครัวของชั้นที่พักอาศัย

พื้นที่ครัวเป็นพื้นที่เข้ามุม สามารถ Built-in ได้เต็มความกว้างและความสูงของชั้น

ที่ครัวมีประตูบานเลื่อนออกสู่ระเบียง

เป็นระเบียงเล่นระดับที่เชื่อมต่อถึงชั้น 4

และพื้นที่ชั้น 4 เป็นพื้นที่ของ 2 ห้องนอน

ห้องนอนแรกขวามือของทางขึ้นลงบันได เป็นห้องนอนเล็ก

ด้านในไม่เล็กไม่ใหญ่ไป สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ยาวเต็มแนวผนังติดประตูทางเข้า

และสามารถวางเตียงไซต์เล็ก ไปจนถึงไซต์ใหญ่ได้พอให้มีพื้นที่หัวเตียงไว้วางโต๊ะหัวเตียง

และมุมทำงานได้ที่ด้านซ้ายของห้อง

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ

โครงการให้ห้องน้ำเหมือนที่ชั้น 3 คือ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและแห้ง

พื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบมีตู้เก็บของ ติดผนังแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ วางเรียงพอดีแนวกระจกบานใหญ่เต็มผนัง

พื้นที่ส่วนแห้งอยู่ด้านในสุด พื้นที่มีขอบกั้นน้ำให้ และโครงการให้ Hand shower ติดผนังของ American Standard พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ห้องสุดท้าย คือห้องนอนใหญ่ Master bedroom

ที่แบ่งพื้นที่ด้านหน้าสำหรับเป็นพื้นที่แต่งตัว

สามารถ built-in ตู้เสื้อผ้ายาวเต็มผนัง จรดเพดานได้ที่ด้านซ้ายของทางเข้า

และวางเคาท์เตอร์โต๊ะเครื่องแป้งไว้ที่ผนังด้านขวา

ติดทางเข้าห้องน้ำ ที่ภายใน แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและแห้ง

พื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบมีตู้เก็บของ ติดผนังแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ วางเรียงพอดีแนวกระจกบานใหญ่เต็มผนัง

พื้นที่ส่วนแห้งอยู่ด้านในสุด พื้นที่มีขอบกั้นน้ำให้ และโครงการให้ Hand shower ติดผนังของ American Standard พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ด้านในสุดเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนไซต์ใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียง ไว้ติดหน้าต่างบานใหญ่

และวางชั้นวางทีวีที่ผนังปลายเตียง ให้ได้นอนพักผ่อนเอนกายแบบสะดวกสบาย เพราะมาพร้อมกับระบบ Home automation ที่รองรับการใช้ทั่วทั้งบ้าน

คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงถ้าหากจะบอกว่าในชั่วโมงนี้ สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 คือ Home Office ที่ใกล้ CBD สาทร-สีลม มากที่สุด

หลังจากที่ทางแสนสิริได้หยุดการพัฒนาโครงการแนวราบประเภททาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศไปหลายปี จนถึงในช่วงปลายปีที่ผ่านมาแสนสิริก็ได้ถือโอกาสเปิดตัวแบรนด์ทาวน์โฮมใหม่ โดยมีคำว่า “สิริ” นำหน้าทุกแบรนด์ เพื่อสร้าง Brand Association ของลูกค้าต่อแบรนด์แสนสิริที่คนทั่วไปรู้จักกันดีโดยต่อจากนี้ไปจนถึงปีหน้าเราก็คงจะได้เห็นแบรนด์ “สิริ” ต่างๆภายใต้การจัด Portfolio ใหม่ของกลุ่มทาวน์โฮม ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ

1.ทาวน์โฮมเพื่อการอยู่อาศัย (Residential) ประกอบด้วย แบรนด์ “สิริ เรสซิเดนซ์” มีระดับราคาที่ 7-15 ล้านบาท (ปีหน้าคงมีให้เห็นกันว่าจะเป็นที่ไหนบ้าง) กับ “สิริ เพลส” เป็นทาวน์เฮาส์ในระดับราคาที่ 2.5-6.99 ล้านบาท (ตอนนี้มีที่ติวานนท์แล้วในราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท)

และ 2.ทาวน์โฮมเพื่อการอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ (Commercial) ได้แก่ แบรนด์ “สิริ สแควร์” เป็นโฮมออฟฟิศ หน้ากว้าง 6 เมตร ระดับราคาที่ 14-30 ล้านบาท และ “สิริ อเวนิว” เป็นช็อปเฮาส์ในระดับราคาที่ 5-10 ล้านบาท (ซึ่งก็เปิดตัวไปแล้วที่ สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 และ สิริ อเวนิว เพชรเกษม 81)

การกลับมาปูพรมรุกตลาดทาวน์โฮมในทำเลที่ใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้า เดินทางไปย่าน CBD ได้สะดวก ของแสนสิริ พร้อมกับการตั้งเป้าหมายในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากกลุ่มผู้นำอย่างเอพี และพฤกษาฯ เป็นสิ่งที่น่าจับตามองว่าในปีหน้าจะส่งโครงการใหม่มาสักกี่โครงการ โดยเฉพาะแบรนด์ สิริ เรสซิเดนซ์ ที่เดิมเป็นชื่อโครงการคอนโดในย่านสุขุมวิท

สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 น่าจะเป็นตัวพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าการกลับมารุกตลาดแนวราบของแสนสิริในครั้งนี้ไม่ได้มาเล่นๆแบบฉาบฉวยแต่อย่างใด ด้วยทำเลย่านอาคารพาณิชย์เก่าที่แทบจะหาที่พัฒนาโครงการในรูปแบบไหนไม่ได้อีกแล้วอย่างเจริญกรุง และรูปแบบของอาคารในสไตล์ New York Loft มีความสูง 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 2.6 เมตร พร้อมพื้นที่ระเบียงเล่นระดับบนชั้น 3 และมีหน้ากว้างถึง 6 เมตร ให้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 284 ตรม. มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยมีเพียงแค่ 35 หลัง…นี่คือโครงการ Home Office ที่คู่ควรกับการเจ้าของกิจการที่ต้องการมีกองบัญชาการอยู่ในย่านสีลม-สาทรอย่างแท้จริง! สิ่งที่ผมชอบมากๆคือ ถึงแม้จะสร้างด้วยระบบ Precast แต่สามารถ Combine 2 หลังเข้าด้วยกันบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ได้ เป็นรูปแบบ Home Office ที่ขนาดใหญ่มากจนแทบจะหาไม่ได้จากที่ไหน

นอกจากนี้หากเราดู Supply ในส่วนของ Home Office เพื่อขายในย่านใกล้เคียงก็เห็นจะมีแค่ในบริเวณย่านพระรามสามที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งก็ล้วนแต่ขายในราคาค่อนข้างสูงไม่แพ้โครงการ สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 แต่อย่างใด ชอบที่ไหนลองถามใจเธอดูแล้วกัน ว่าคุณวัดความคุ้มค่าจากอะไร…ข้อเสียเพียงอย่างเดียวสำหรับที่นีก็คือการที่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ๆอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส ให้ลูกบ้านได้ใช้งานกัน แต่ก็นะที่นี่คือโครงการ Home Office ขนาดพอเหมาะ ไม่ใช่โครงการ Residential ขนาดใหญ่แต่อย่างใด

สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 จึงเรียกว่าเป็น Home Office ที่ Flexible สามารถใช้ประโยชน์ทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ในแบบของคุณ เพื่อการทำงานและการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14.9 ล้านบาท หรือ ตารางเมตรละ 52,000 บาท ซื้อเป็นเจ้าของเพื่อยกระดับธุรกิจของคุณน่าจะคุ้มกว่าการจ่ายเงินค่าเช่าออฟฟิตขนาดเดียวกันในย่านสีลมสาทร ที่มีค่าเช่าเกินตารางเมตรละ 1,000 บาท แถมไม่ได้ทรัพย์สินเป็นของตนเองอีกต่างหาก หากใครเริ่มสนใจ ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ กันก่อน เพราะตัวแปลนบ้านและรูปแบบ façade แตกต่างกันนิดหน่อยตามตำแหน่งของผัง ไม่แน่…คุณอาจถูกใจสักหลัง และเป็น 1 ใน 35 เจ้าของที่ได้ครอบครอง สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80 กับทำเลที่คุณอาจหาไม่ได้อีกแล้วในอนาคต