เปิดประสบการณ์ใหม่ในแบบไร้ขีดจำกัด กับ Design คอนโดแห่งแรกของ SC Asset ที่ Reference Sathorn-Wongwianyai

สาทร – วงเวียนใหญ่ ทำเลนี้เรียกได้ว่าเป็นทำเลดาวรุ่งแห่งแรกๆของฝั่งธนฯ เลยก็ว่าได้ เพราะจากการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสีลมจากสถานีสะพานตากสิน ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ตั้งแต่เมื่อปี 2552 ที่ส่งผลให้มีคอนโดใหม่มาเปิดมากมาย เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่ใกล้สาทร – สีลม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระยะทาง หรือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยในรอบหลายปีให้หลังย่านนี้ไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวเลยด้วย 2 สาเหตุหลัก คือ ที่ดินหายากมากขึ้น รวมให้เป็นแปลงเดียวในการพัฒนายาก และดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่เลือกไปพัฒนาบนทำเลใกล้เคียงเพื่อทำให้ราคาขายถูกกว่าไม่ว่าจะเป็นตลาดพูล วุฒากาศ หรือจะเป็นทำเลตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอย่างย่านท่าพระ และเพชรเกษม แต่ยังไงทำเลนี้ก็ยังถือว่ามีแต้มต่อในด้านใกล้ทั้งแหล่งงานสาทร – สีลม และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญดึงดูดมากที่สุดของฝั่งธนฯ และเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อย่าง ICONSIAM (ไอคอนสยาม)

จึงส่งผลให้ทำเลนี้มีความคึกคักและมีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นย่านที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร้านอาหารเก่าแก่อร่อยๆ ก็กระจุกอยู่ในย่านนี้เยอะมาก ทั้งคนเก่าแก่ที่ยังตั้งหลักปักฐานอยู่ในย่านนี้ และคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ที่ทำงานอยู่ในย่านสาทรหรือย่านใกล้เคียง ก็ล้วนแต่มองเห็นในเรื่องความสะดวกในการเดินทางเพียงต่อเดียวก็ถึงสยามได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ในอนาคตจะเชื่อมต่อสายสีม่วงใต้จากสถานีเตาปูนจนถึงสถานีครุในได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่ พร้อมทั้งยังห่างกับสถานีธนบุรีเพียง 1 สถานี ที่เชื่อมต่อไปยังสายสีทองและผ่านหน้าห้าง ICONSIAM ได้ โดยไม่ต้องขับรถไปเสี่ยงรถติดให้เสียเวลา จาก ICONSIAM สามารถเปลี่ยนไปใช้บริการเรือข้ามฟาก เรือด่วนสำหรับท่องเที่ยว นั่งกินลมชมวิว หรือเปลี่ยนบรรยากาศสู่พื้นที่บางรัก เยาวราช และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญๆ ได้อีกด้วย

ภาพจาก : https://www.iconsiam.com/th/attractions/iconsiam-park

ถ้าหากถามถึงดีเวลลอปเปอร์ที่ขึ้นชื่ออย่าง SC Asset หลายคนคงจะนึกถึงโครงการบ้านแบบลักซ์ชัวรี่ดีไซน์สวย ที่มีราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือโครงการคอนโดมิเนียมหรูทำเลดีที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทาง SC Asset ได้โฟกัสในการพัฒนาแต่ Luxury – Super Luxury Condo เป็นหลัก บนทำเลที่มักจะทำสถิติราคาที่ดินที่สูงที่สุดของประเทศ ซึ่งจะเห็นได้จากกลุ่มคอนโด Limited Luxury Collection อย่าง Saladaeng One, Beatniq, 28 Chidlom ไปจนถึงกลุ่มแบรนด์ SCOPE ที่มี Positioning ชัดเจนในการจับกลุ่ม Young Millionaire ในขณะที่แบรนด์ The Crest ก็ขึ้นแท่นเป็น Luxury Condo ที่ดีที่สุด หรูที่สุดในห้าแยกลาดพร้าว โดยที่แบรนด์ Centric และ Chambers แม้จะมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยขึ้นจับกลุ่มเป้าหมายในฐานกว้างมากขึ้นแต่ก็ยังคงมีอัตลักษณ์ และคุณลักษณะในแบบ Conventional ที่คล้ายคลึงกันกับคอนโด Premium Mass อื่นๆ

โดยในย่านฝั่งธนฯ นี้นับว่าเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ปีนี้ของ SC Asset เป็นอย่างมาก คือ ‘เติบโต บนสมรภูมิเดิม และน่านน้ำใหม่’ จึงทำให้ทาง SC Asset ได้พัฒนาและดีไซน์คอนโดแนวคิดใหม่เพื่อตอบโจทย์ Insight และไลฟ์สไตล์ของคน Gen Y มากที่สุด ภายใต้แบรนด์ใหม่ในชื่อว่า “Reference” (เรฟเฟอเรนซ์) พร้อมทั้งยังช่วยสร้าง Inspiration ในการใช้ชีวิตให้กับคนกลุ่มนี้ และมั่นใจว่าโครงการ Reference Sathorn-Wongwianyai (เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่) จะสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกๆ เช้า ช่วยเติมพลังให้คนออกไปใช้ชีวิตตามที่ออกแบบได้เอง และจะก้าวขึ้นมาครองใจกลุ่ม Mature Gen Y ที่มองหาประสบการณ์แปลกใหม่ในการใช้ชีวิต บนงานดีไซน์ที่ใช่สำหรับตัวเองมากกว่าคอนโด Mass ทั่วไปที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

ซึ่งที่ผ่านมา SC Asset ไม่เคยมีการพัฒนาโครงการคอนโดในย่านฝั่งธนฯ เลย แตกต่างจากโครงการแนวราบที่ยังพอมีอยู่บ้าง โดยโครงการที่อยู่ใกล้เคียงทำเลนี้ของ SC Asset มากที่สุดก็น่าจะเป็น Saladaeng One บนทำเลสาทร – ศาลาแดง ซึ่งเป็นคอนโดระดับ Super Luxury สร้างชื่อ ดังนั้นการมาในครั้งนี้ของ Reference Sathorn-Wongwianyai จึงเป็นการบุกเซกเมนต์ใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อจับกลุ่มตลาดใหม่ บนทำเลที่ดีมานท์ของกลุ่มตลาดใหม่อย่าง Gen Y เหล่านี้ยังไม่ถูกเติมเต็ม เพราะที่ผ่านมา Gen Y ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลักของฝั่งธนฯ เลยในรอบ 10 ปี แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะปัจจุบันฝั่งธนฯ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมไปถึงสะดวกในเรื่องของการเดินทาง ที่สามารถเชื่อมต่อย่านอื่นได้อย่างรวดเร็วด้วยโครงการรถไฟฟ้า และจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของทำเลนี้ก็คือ BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ที่เชื่อมต่อการเดินทางของผู้คนฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครได้สบายมากขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีทองที่วิ่งจากกรุงธนบุรี-ประชาธิปก ทำให้สามารถเชื่อมเข้ากับห้าง ICONSIAM ได้ และยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สายสีแดงเข้มที่จะมาเป็นเส้นทางการเดินทางใหม่ในอนาคตอีกด้วย

โดยที่ตั้งของโครงการ Reference Sathorn-Wongwianyai (เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่) อยู่ในซอยกรุงธนบุรี 2 ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เพียง 130 ม. ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการสามารถเดินทางเข้าสู่ทำเลใจกลางธุรกิจอย่างสีลม หรือสาทรได้อย่างสะดวก ใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง อย่าง ICONSIAM, King Power มหานคร, สีลมคอมเพล็กซ์ และเดอะมอลล์ท่าพระได้ ด้วยการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้รถไฟฟ้าก็สะดวกไม่แพ้กัน

บีทีเอสสถานีวงเวียนใหญ่ที่ห่างจากโครงการเพียง 130 ม. เท่านั้น

มีป้ายรถเมล์ติดกับบันไดบีทีเอส สะดวกต่อคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นอย่างมาก

ข้างทางทั้งสองฝั่งก่อนถึงหน้าโครงการมีร้านอาหารเป็นจำนวนมาก

บริเวณปากซอยมีร้านสะดวกซื้อ

ปากซอยกรุงธนบุรี 2

สังเกตได้จากป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ พร้อมลายกราฟฟิตี้บนกำแพง สะดุดตาคนที่ผ่านไปมา

เข้าซอยมาไม่ไกลก็จะเจอกับ Sale Gallery โครงการ Reference Sathorn – Wongwianyai ที่ตกแต่งด้วยสีขาว-ฟ้า อย่างสวยงาม

เมื่อโครงการแล้วเสร็จพร้อมอยู่จะมี Muvmi (มูฟมี) ซึ่งเป็นบริการรถโดยสารแบบไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่จะมาเปิด Routing ใหม่ (วงเวียนใหญ่ – เจริญนคร) ให้กับโครงการ เมื่อลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์ Routing นี้ก็จะเริ่ม Operate โดยลูกค้าจะได้สิทธิ์ขึ้น Muvmi ฟรีใน Routing นี้เดือนละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี Muvmi จะมาจอดรอ Service ในโครงการ เพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ (ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งลูกบ้านสามารถตรวจสอบได้อีกครั้งกับทางเจ้าหน้าที่โครงการครับ)

Sale Gallery

Sale Gallery ดีไซน์สวย ล้อตามคอนเซ็ปต์ MOON ออกแบบอาคารตามแบบ Form & Shape ในรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว สีขาวสะอาดตา

Sale Gallery มีทั้งหมด 2 ชั้น

ด้านในมี Reception ไว้ต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาดูห้องตัวอย่าง ตกแต่งด้วยพระจันทร์ดวงใหญ่ที่อยู่ด้านบน

ห้องรับรองกว้าง มีโมเดลจำลองให้ดูส่วนต่างๆ ภายในโครงการ ชั้นนี้มีห้องตัวอย่างด้วยกัน 2 ห้อง คือ แบบ Studio และ 1 Bedroom

ใช้บริการลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 2 ได้

หรือจะเดินขึ้นบันได ก็มีรูปกราฟฟิก Wall Painting ให้ดูเพื่อถ่ายรูป Check in ตามทางเดินด้วยนะ

ชั้น 2 ดีไซน์สวย มีห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ให้ได้ชม และมีร้าน Drop By Dough เข้ามาเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ ให้คนนอกสามารถเข้ามาทานน้ำ ทานขนมโดนัทอร่อยๆ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วยนะ นักทำคอนเทนต์ลงโซเชียลต้องไม่พลาด

เปิดประตูข้างร้านออกมา จะมีสวนเล็กๆ ให้นั่งพักผ่อนได้

มีการเพ้นท์กำแพงด้วยลายกราฟฟิตี้จาก Pure Lokuttra ที่มีความสดใส เข้ากับโครงการสุดๆ

มานั่งพักผ่อนหรือถ่ายรูปสวยๆ ตรงมุมนี้ได้นะ

ระเบียงห้องตัวอย่าง 2 Bedroom

รายละเอียดโครงการ Reference Sathorn – Wongwianyai

โดยคอนเซ็ปต์ของโครงการ Reference Sathorn – Wongwianyai มีการนำเอา “ดวงจันทร์” มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ และการดีไซน์ส่วนต่างๆ ของโครงการทั้งภายนอกและภายในให้มีความโดดเด่น ด้วยการนำเอาบริบทของชีวิตการทำงานและพักผ่อนที่กลมกลืนและบรรจบกันในช่วงค่ำคืน ซึ่งเป็นจังหวะการขึ้นของดวงจันทร์ มาออกแบบให้ในหลายๆ จุดของโครงการมี Form & Shape ในรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว

Reference Sathorn – Wongwianyai (เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่) ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 3-2-72.8 ไร่  มี 3 อาคารเป็นอาคาร High Rise 2 อาคาร A และ B โดยความสูงอาคาร A สูง 32 ชั้น (ยูนิตพักอาศัย 216  ยูนิต และ Commercial 1 ยูนิต)  อาคาร B สูง 51 ชั้น (จำนวนยูนิตพักอาศัย 599 ยูนิต)  และอาคาร C เป็นอาคารสูง 2 ชั้น  มีพื้นที่ส่วนกลางพร้อมกับพื้นที่ Commercial 3 ยูนิต รวมทั้งโครงการ มียูนิตพักอาศัย 815 ยูนิต Commercial 4 ยูนิต

พร้อมที่จอดรถ 366 คัน คิดเป็น 45% โดยมีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ แบบ Studio, แบบ 1 Bedroom, แบบ 1 Bedroom Plus และแบบ 2 Bedroom โดยขายห้องชุดในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ภายในโครงการอย่างครบครัน

Facilities จัดเต็ม คล้อยตามคอนเซ็ปต์ “MOON”

ที่นี่มี Facilities สำหรับลูกบ้านเยอะมาก ไม่ว่าคุณจะยัง Work From Home อยู่ หรือเวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็มาใช้บริการของส่วนนี้ที่โครงการเตรียมไว้ให้ได้ ทั้งในอาคาร A, B และ C เป็นอาคาร Commercial Shop อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ที่มี Shop Foodland Model ใหม่สไตล์ Grab & Go 1 Shop และเชื่อมทางเดินไปที่อาคาร A ได้ บริเวณชั้น 1 มี The Moon Lobby, Luna Lounge ซึ่งเป็น Private Lobby, สวนเล่นระดับที่ชั้น 10 Crescent Pavilion ที่เลือกพันธุ์ไม้พิเศษช่วยฟอกอากาศ, Floating Terrace, Play Yard, ชั้น 31 อาคาร A เป็น Fitness ชื่อว่า Over The Moon Active Club มีทั้ง Yoga, Fitness และ Pilates โดยมีโซน Moon Deck นั่งชมวิวที่ด้านนอก ส่วน Facilities อาคาร B ชั้น 1 จะเป็น Orbit Co-Space และสระว่ายน้ำยาว 30 เมตร กว้างสูงสุด 10 เมตร พร้อม Jacuzzi และ สระเด็ก บนชั้น 50 รวมถึงออนเซ็น ที่ชั้น 51 ในชื่อว่า Eclipse Onsen

Orbit Co-Space ที่ชั้น 1 อาคาร B

Moon Cave บนชั้น 50 อาคาร B

Play Yard ที่ชั้น 10

ความสูงอาคาร A 32 ชั้น 216 ยูนิต มี Commercial 1 ยูนิต อาคาร B 51 ชั้น 599 ยูนิต และอาคาร C มี Commercial 3 ยูนิต ที่อนาคตจะเป็น Shop ภายใต้การบริหารงานของ Foodland ใน Model ใหม่ทั้งหมด

ทางเข้า-ออกโครงการ มีทางเดียว คือจากซอยธนบุรี 2 ตรงเข้าสู่โครงการได้เลย

ด้านหลังของโครงการ อาคาร A ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 10 โดยชั้น 2-9 เป็นอาคารจอดรถ ส่วนอาคาร B ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2

ชั้นจอดรถในอาคาร A

อาคาร C ที่เป็นส่วนของ Commercial ซึ่งตอนนี้ที่ใช้เป็น Sale Gallery ก็มีร้าน Drop By Dough มาเปิดให้บริการที่ชั้น 2 มีคนแวะเวียนเข้าไปถ่ายรูป ทานขนมกันทั้งวัน

บริเวณชั้น 2 ของอาคาร C ในอนาคตจะมีการปรับพื้นที่ให้เป็น The Ref Roof Garden ที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเวลาเข้ามานั่งพักผ่อน

ทางเดินเชื่อมจากอาคาร C ไปยังอาคาร A

จุด Drop Off บริเวณหน้าอาคาร A

จุด EV Charger มีด้วยกัน 5 Station 10 Port ด้านข้างของอาคาร A

ชั้น 10 ของอาคาร A เป็นส่วนของ Crescent Pavillion, Floating Terrace และ Play Yard ส่วนพักผ่อนที่สามารถชมวิวสาทรไปพร้อมๆ กันได้

มีทางเชื่อมจากอาคาร A ไปยังอาคาร B

พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้อ้อมมาถึงบริเวณด้านหน้าอาคาร A

ชั้น 31 ของอาคาร A เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่มี Fitness, Yoga, Pilates และ Moon Deck

ทางเชื่อมจากชั้นจอดรถของอาคาร A ไปยังอาคาร B

อาคาร B ที่มีถึง 51 ชั้น ทำให้ห้องพักที่อยู่ชั้นสูงสามารถมองวิวสาทรและกรุงเทพฯ ได้กว้าง ซึ่งห้องมุมจะได้ถึง 2 วิวด้วยกัน

ชั้น 50 – 51 ของอาคาร B เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ชั้น 50 มี Moon Cave Swimming Pool ยาว 30 ม. และชั้น 51 เป็นส่วนของ Fly-to-the-moon Lounge และ Eclipse Onsen

ห้องวิวดีในโครงการ

อาคาร A ชั้น 30 ห้อง 1 Bedroom เป็นห้องมุม ได้วิวฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันตก ไม่มีตึกสูงบังวิวเลย

วิวทิศเหนือ

วิวทิศตะวันออก

อาคาร B ชั้น 32 ห้อง 1 Bedroom ห้องมุมหันไปทางทิศใต้ ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

อาคาร B ชั้น 32 ห้อง 2 Bedroom ที่มีเพียง 1 ยูนิตต่อชั้น และกินพื้นที่ส่วนมุมของอาคาร ทำให้ห้องนี้เห็นวิวกว้างกว่าห้องอื่นที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เป็นวิวทิศตะวันออก ได้วิวรถไฟฟ้าและวิวแม่น้ำอีกด้วย

Unit Plan

Studio ขนาด 24.19 – 26.17 ตารางเมตร ห้องไทป์เล็กสุดในโครงการ แต่มีการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องให้เจ้าของห้องใช้สอยพื้นที่ได้มากที่สุด ภายในห้องมีการ Built-in Storage ไว้หลายจุด ตอบโจทย์กับคนที่มีของเยอะและเก็บของให้เป็นระเบียบได้ รวมไปถึงพื้นที่ Walk-in Closet ที่ไม่ค่อยเห็นได้จากห้องแบบ Studio ของโครงการอื่น

1 Bedroom ขนาด 31.88 – 31.36 ตารางเมตร ห้องแบบ 1 นอน 1 น้ำ ที่มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วน ระเบียงยาว มีครัวปิดด้านหน้าห้อง โครงการติดบานสไลด์ให้ทุกห้องเพื่อเวลาทำอาหารจะได้ไม่มีกลิ่นเข้ามาภายในห้อง Built – in storage ให้ ทำให้มีพื้นที่เก็บของจำนวมาก

ห้องตัวอย่าง

Studio ขนาด 24.19 ตารางเมตร

ที่ขายแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดถึง 7 รายการ อาทิ 1. ตู้เสื้อผ้า 2. ชุดครัว 3. โต๊ะ&เก้าอี้ (Flexible) 4. เตียง (ไม่รวมฟูก) 5. โซฟา 6. ชั้นวางทีวี 7. Hob & Hood & Digital Door Lock ให้คุณเดินลากกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงใบเดียวก็เข้ามาอยู่ได้เลย

เปิดเข้ามาในห้องก็เจอกับครัวก่อนเป็นอันดับแรก

โครงการให้ Digital Door Lock แบบนี้ทุกห้อง

พร้อมระบบ Home Automation ใช้เชื่อมต่อกับ Application Ruejai ที่จะมาช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิตให้กับคุณ สามารถควบคุมระบบต่างๆ ภายในห้องผ่านมือถือได้

บริเวณหน้าห้อง Built-in ตู้เก็บรองเท้าสูงชิดเพดานให้แบบนี้ เก็บรองเท้าได้หลายคู่ทีเดียว

ครัวของห้องแบบสตูดิโอได้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

เคาน์เตอร์หน้า Top เป็นหินสังเคราะห์ สีขาวสะอาดตา

ให้ Hob & Hood แบรนด์ Hafele โดย Hob เป็นแบบ Ceramic Hot Plate

อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม พร้อมแผ่นปิดด้านบนเมื่อไม่ใช้งาน

แบรนด์ Hafele เช่นกัน

ปลั๊กไฟแบบมีสวิทช์ ใช้ควบคุมการเปิด-ปิดไฟที่เคาน์เตอร์ครัวได้ พร้อม Backsplash แบบกระจก โครงการติดตั้งมาให้ด้วยนะ

ชั้นเก็บของด้านบน ใช้เก็บจานชาม หรือเครื่องปรุงอาหารก็ได้

ตรงข้ามกับครัวเป็นส่วนของห้องน้ำและ Walk-in Closet โดยพื้นที่ Walk-in Closet ในห้องแบบสตูดิโอแทบไม่เคยเห็นจากโครงการไหนเลย ห้องนี้น่าจะถูกใจสายช้อปปิ้ง และสายแฟชั่นเป็นอย่างมาก

Built-in Walk-in Closet รูปตัวแอลสูงชิดเพดาน ให้คุณสามารถเก็บเสื้อผ้า และของต่างๆ ได้เยอะ

มีชั้นวางของด้านบน พร้อมสวิทช์เปิด-ปิดไฟ

มีลิ้นชักด้านล่างให้ด้วย

ห้องน้ำ ใช้สุขภัณฑ์ Kohler

แยกส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen

ชั้นวางของข้างอ่างล้างหน้า

ให้ Rain Shower ทุกห้อง พร้อมฝักบักแบบปรับระดับขึ้น-ลงได้

สเต็ปตรงส่วนอาบน้ำไม่สูงมาก

ส่วนพักผ่อน เพดานในห้องสูง 2.7 ม. และผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไม่ได้ดรอปฝ้าให้

สะดุดตากับโต๊ะที่อยู่ตรงกลางห้องแบบ Flexible Furniture ปรับเปลี่ยนเพิ่ม Space ห้องให้กว้างขึ้น เป็นโต๊ะแบบอเนกประสงค์ใช้เป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะทานอาหารได้ ไฮไลท์คือ โต๊ะตัวนี้สามารถพับเก็บเข้าตู้ให้เป็นชั้นวางของได้ หากเราต้องการใช้พื้นที่ภายในห้องก็สามารถพับโต๊ะนี้เก็บได้เลย

พอพับโต๊ะเก็บแล้ว ภายในห้องดูโล่งมาก และยังได้เก้าอี้สีดำแบบนี้ด้วย 1 ตัว โดยเฟอร์นิเจอร์ของห้องสตูดิโอจะเป็นสีดำ ส่วนห้อง 1 นอน และ 2 นอน จะเป็นสีเอิร์ธโทน

ตู้ตรงนี้อเนกประสงค์มาก ฝั่งนึงเป็นชั้นวางของ อีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ให้สูงติดเพดาน

ฐานวางโซฟา Built-in ยาวไปจนถึงเตียง ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นๆ คล้ายสไตล์มูจิ

ฐานเตียงส่วนนี้ รองรับฟูกขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย

พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง ถูกใจนักสะสมของแน่นอน

ข้างเตียงได้กระจกบานใหญ่ พร้อมติดหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งมาก เพราะแสงธรรมชาติเข้าได้ทั้งวัน

ทีวีใช้เป็นติดผนังแบบห้องตัวอย่างก็ดูเป็นระเบียบโล่งมาก

โต๊ะวางทีวีมีบานเปิด 3 บาน ใช้เก็บของด้านล่างได้

ตำแหน่งแอร์ฯ ตรงกับเตียงนอนพอดี และประตูออกไปยังระเบียง

ระเบียงกว้าง วางเครื่องซักผ้าได้ ไม่ได้ให้ชั้นวางของแบบห้องตัวอย่าง และแขวน CDU แอร์ฯ ไว้ด้านบน

1 Bedroom ขนาด 31.24 ตารางเมตร

ได้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดถึง 8 รายการ อาทิ 1. ตู้เสื้อผ้า 2. ชุดครัว 3. โต๊ะกินข้าว&เก้าอี้ 4. เตียง (ไม่รวมฟูก) 5. Dressing Table 6. โซฟา & โต๊ะกลาง 7. ชั้นวางทีวี 8. Hob & Hood & Digital Door Lock

ห้องนี้เป็นแบบครัวหน้าเหมือนกัน และติดตั้งบานสไลด์ระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นให้

Digital Door Lock ที่โครงการให้

ระบบ Home Automation ที่ใช้เชื่อมต่อกับแอพรู้ใจ สั่งงานผ่านมือถือได้

Built-in ตู้เก็บรองเท้า และชั้นวางเก็บของด้านบนให้

แบ่งเคาน์เตอร์ครัวเป็นสองฝั่ง

เคาน์เตอร์ครัวฝั่งนี้แบบเดียวกับห้องสตูดิโอ

ติดตั้ง Backsplash แบบกระจกให้

ปลั๊กไฟแบบมีสวิทช์ ใช้ควบคุมไฟส่วนครัว

ให้ Hob & Hood แบรนด์ Hafele

อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม Hafele เช่นกัน พร้อมแผ่นปิดด้านบน

Built-in ตู้เก็บของด้านบนเคาน์เตอร์ครัวยาวไปจนถึงหลังตู้เย็นให้แบบนี้

เคาน์เตอร์ครัวอีกฝั่ง มีตู้เก็บของด้านบน ส่วนนี้ใช้เตรียมจานอาหาร หรืออุปกรณ์ทำอาหารได้

ช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ติดตั้งกระจกบานสไลด์แบบเปิดออกข้างให้เหมือนห้องตัวอย่าง ช่วยกันกลิ่นอาหารออกไปด้านนอก

ห้องนั่งเล่นและโต๊ะทานอาหาร

โดยห้องแบบ 1 นอน จะได้เฟอร์นิเจอร์สีเอิร์ธโทน เพดานสูง 2.7 ม. ผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว

โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ได้โต๊ะ 1 ตัว เก้าอี้ 1 ตัว ส่วนอีกฝั่งเป็นโซฟาเล็กๆ มีช่องเก็บของด้านล่าง

โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ตรงฐานโซฟาเปิดลิ้นชักออกมาเก็บของได้ เป็นห้องที่มีการ Built–in storage พื้นที่เก็บของให้จำนวมาก

มุมนี้ไม่ได้ตกแต่งผนังให้ แต่ได้โต๊ะวางทีวีแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

ระเบียงด้านนอกกั้นด้วยกระบานสไลด์

ระเบียงกว้างพร้อมราวกันตก

ติดตั้งระแนงเหล็กบังสายตาตรงจุดที่แขวน CDU แอร์ฯ ห้องนี้ได้แอร์ฯ 2 ตัว ติดไว้ที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ประตูทางเข้าห้องนอน อยู่ข้างโต๊ะวางทีวี

ห้องนอนกว้าง ให้แค่ฐานเตียงแต่ไม่ได้ฟูก

กระจกบานใหญ่ ติดหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน

วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้

พื้นที่ข้างเตียงใช้วางโต๊ะเล็กๆ แบบนี้ได้ แต่โครงการไม่ได้ให้โต๊ะมาด้วย

ทีวีในห้องนอนใช้เป็นติดผนังจะสะดวกกว่า

ในห้องนอน Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไปจนถึงชั้นวางของที่อยู่ข้างๆ ให้

มีลิ้นชักสองฝั่งแบบนี้

และตู้เก็บของด้านล่างชั้นวางของ

Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ถูกใจคน Gen Y เป็นอย่างมาก เพราะมีพื้นที่ในการเก็บของเยอะ

เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาได้แบบนี้ กว้างมากๆ

ตู้เสื้อผ้าฝั่งติดกับประตูห้องน้ำ มีชั้นเก็บของด้านบนด้วยนะ

ห้องน้ำ กั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen และใช้สุขภัณฑ์ Kohler

ติดตั้งปลั๊กไฟให้

ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ในห้องอาบน้ำให้ Rain Shower พร้อมฝักบัวแบบปรับระดับได้

สเต็ปในห้องน้ำ

2 Bedroom ขนาด 71 ตารางเมตร

ห้องไทป์ใหญ่สุดในโครงการ ตำแหน่งอยู่หัวมุมตึก ซึ่งมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต [2 ห้องนอน Type นี้ถ้าเป็นตึก A เริ่มชั้น 16 ตึก B เริ่มชั้น 25] แบบ 2 นอน 2 น้ำ ห้องหน้ากว้าง ถึง 13 ม. มีประตูห้อง 2 ชั้น พร้อม Foyer หน้าห้อง แบ่งส่วนพักผ่อนและส่วนพักอาศัยออกจากกัน และระเบียงยาวขนาดใหญ่ Take View สาทรได้เต็มที่ ได้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดถึง 8 รายการ อาทิ 1. โซฟา & โต๊ะกลาง 2. ชั้นวางทีวี (Living Room) 3. ชุดครัว 4. โต๊ะกินข้าว&เก้าอี้ 5. ตู้เสื้อผ้า (Master & Second Bedroom) 6. เตียง (Master & Second Bedroom) (ไม่รวมฟูก) 7. โต๊ะ&สตู (Master & Second Bedroom) 8. Hob & Hood & Digital Door Lock

Digital Door Lock หน้าประตูชั้นนอก

ซึ่งตัวห้องจะมีประตู 2 ชั้น ประตูชั้นนอกมีลักษณะแบบนี้ เปิดเข้าไปก็จะเจอ Foyer หน้าห้องที่ใช้วางรองเท้า หรือเก็บร่มได้ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนแบบบ้านในต่างประเทศ

ส่วนของ Foyer สามารถเปิดประตูได้สุด เผื่อเวลาขนย้ายของที่มีขนาดใหญ่

ประตูชั้นในก็ติด Digital Door Lock ให้เช่นกัน

เข้ามาในห้องก็จะเจอกับครัวและห้องนั่งเล่นก่อน

Built-in ตู้เก็บรองเท้าให้แบบนี้

ครัวให้เคาน์เตอร์รูปตัวแอล

อ่างล้างจาน พร้อมแผ่นปิด

แบรนด์ Hafele

มีลิ้นชักและช่องเก็บของด้านล่างเยอะ

ได้ Hob & Hood แบรนด์ Hafele

เคาน์เตอร์ด้านนี้ ติด Backsplash ให้ พร้อมปลั๊กไฟแบบมีสวิทช์เหมือนห้องอื่น

Built-in ตู้เก็บของด้านบนให้หลายใบ

สวิทช์ไฟแบบ Touch Screen และระบบ Home Automation ภายในห้อง

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง นั่งทานอาหารพร้อมครอบครัวได้ทุกวัน

บริเวณ Living Room เป็นแอร์ Conceal

ระเบียงยาวขนาดใหญ่ ไม่มี CDU แอร์ฯ วางที่ฝั่งนี้ ให้คุณ Take View สาทรได้เต็มที่

วางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ที่ระเบียง เพื่อออกมานั่งจิบกาแฟในช่วงเช้าพร้อมชมวิวสาทรไปด้วยก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

ห้องนี้มีระเบียงอีกฝั่ง เป็นระเบียงที่ใช้วาง CDU แอร์ฯ

ระเบียงกว้างพร้อมราวกันตก

ห้องนั่งเล่น เพดานห้องสูง 2.7 ม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

โดยห้องนั่งเล่นมีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนครัว ตั้งอยู่บริเวณกลางห้อง ทำให้ส่วนนี้ดูโปร่งเป็นอย่างมาก และให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาว่างร่วมกันได้

ทางเดินไปยังส่วนพักผ่อน

ซ้ายมือเป็นห้องน้ำที่ห้องนอน 2 และนั่งเล่นใช้ร่วมกัน

สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler

ติดตั้งปลั๊กไฟให้พร้อมฝาปิด

ห้องอาบน้ำให้ Rain Shower และฝักบัวแบบปรับระดับได้

สเต็ปในห้องน้ำ ระวังการสะดุด

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอน 2

ห้องนอนกว้าง ให้ฐานเตียงมาแต่ไม่ได้ให้ฟูก ติดหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน 2 ให้ตู้ใหญ่ Built-in สูงติดเพดาน

โต๊ะเครื่องแป้งให้แบบนี้แต่ไม่ได้กระจกและเก้าอี้

ทางเดินไปยัง Master Bedroom

Master Bedroom กว้าง ติดกระจกบานใหญ่ให้พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

ให้ฐานเตียงแบบมาตรฐานมา ไม่มีฟูกและฉากกั้นด้านบนหัวเตียง

ทีวีในห้องจะติดไว้ที่ผนังปลายเตียงแบบนี้

Walk-in Closet

ให้โต๊ะเครื่องแป้ง แต่ไม่ได้กระจกและเก้าอี้

ตู้เสื้อผ้า มีลิ้นชักด้านล่างและชั้นเก็บของด้านบน

ห้องน้ำ

แยกส่วนแห้งและส่วนเปียก

ใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

ห้องอาบน้ำให้ Rain Shower และฝักบัวแบบปรับระดับได้

Reference Sathorn – Wongwianyai ดีไซน์คอนโดที่น่าซื้อมากที่สุดในย่านสาทร – วงเวียนใหญ่?

และนี่ก็คือ 6 เหตุผลที่ช่วยฟันธงได้ว่าคอนโด Reference Sathorn – Wongwianyai จาก SC Asset นั้นน่าซื้อมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทำเล ดีไซน์ ส่วนกลางที่หลากหลาย รวมไปถึงรูปแบบห้อง

1. เป็น Design Condo แห่งแรกที่ตอบโจทย์กลุ่มคน Mature Gen Y อีกทั้งในย่านนี้ก็ไม่มีโครงการใหม่แห่งไหนที่โดนใจขนาดนี้มาก่อน โดยทาง SC Asset ได้เน้นย้ำให้เห็นว่าแบรนด์ใหม่อย่าง Reference Sathorn – Wongwianyai จะก้าวขึ้นมาครองใจกลุ่ม Mature Gen Y ที่มองหาประสบการณ์แปลกใหม่ในการใช้ชีวิต บนงานดีไซน์ที่ใช่สำหรับตัวเองมากกว่าคอนโด Mass ทั่วไปที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

2. มี Extra Benefits ภายในโครงการหลายอย่าง ที่คอนโดอื่นให้ไม่ได้ อาทิ

ZIPMEX : พิเศษให้กับลูกค้าในโครงการโดยเฉพาะ เมื่อจอง ทำสัญญา ดาวน์ ตามที่กำหนด ทางโครงการจะโอน USDC COIN ให้ทันทีสูงสุด 100,000 บาท และยังจะได้ Upgrade เป็นลูกค้าระดับ VIP4 นานถึง 3 เดือน เพื่อที่สามารถไปเข้าฝากเหรียญ Zipup ด้วย USDC  ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% อีกด้วย

Muvmi : ตกลงจะมาเปิด Routing ใหม่ในย่านสาทร – วงเวียนใหญ่ ลูกค้าจะได้สิทธิ์ขึ้น Muvmi ฟรีใน Routing ที่กำหนดเดือนละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี  ทีนี้ก็หมดห่วงเวลาไปเดินช้อปที่ ICONSIAM แล้ว

Allianz Ayudhya : มอบประกันสุขภาพให้กับลูกค้า เป็นระยะเวลา 2 ปี (1 ยูนิต/สิทธิ์) โดยเริ่มคุ้มครองเมื่อลูกค้าทำการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว

Play Premium Plus จาก AIS 5 G : ให้แพคเกจดู Internet ฟรี นานถึง 1 ปี

Foodland : จะมาเปิด Shop แบบใหม่ที่ในโครงการเป็นที่แรก

3. พัฒนาโดย SC Asset บริษัทใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในเรื่องการพัฒนาคอนโดระดับ Super Luxury และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม เพราะตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทาง SC Asset ได้โฟกัสในการพัฒนาแต่ Luxury – Super Luxury Condo เป็นหลัก จึงทำให้ Reference Sathorn – Wongwianyai น่าจะได้รับกลิ่นอายและประสบการณ์ของการอยู่อาศัยในแบบลักซ์ชัวรี่มาด้วยเช่นกัน อีกทั้งแบรนด์ SC Asset ยังมีการทำ CRM และบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่กล่าวขวัญบอกต่อกันแบบปากต่อปากในหลายๆโครงการ

4. Unit เลย์เอ้าท์ที่หลากหลาย ขายแบบ Fully Furnished ที่ Customized มาแล้วว่าตรงกับ Taste และความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพื้นที่เก็บของ ตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของในครัว ก็น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบซื้อเสื้อผ้า ซื้อของเข้าห้องบ่อยๆ ก็จะมีพื้นที่ใช้เก็บของได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์แบบ Flexible สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่ม Space ห้องให้กว้างขึ้นได้

5. ติดถนนใหญ่ติดรถไฟฟ้า ได้ไลฟ์สไตล์สาทร – สีลม – วงเวียนใหญ่ครบ ในราคารที่จับต้องได้ โดยโครงการห่างจากบันไดบีทีเอสเพียงแค่ 130 เมตร และเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมไปยังย่าน สาทร-สีลม ได้อย่างสะดวก ซึ่ง 2 ย่านนี้เป็นศูนย์รวมของคนตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน และจุดเด่นของทำเลนี้ คือ ในอนาคตจะได้รับผลพลอยได้มาจากการพัฒนารถไฟฟ้าสายใหม่อีก 2 สาย ก็คือสายสีม่วงใต้ ที่เชื่อมจากเตาปูนถึงครุใน โดยมีจุดเปลี่ยนถ่ายสายอยู่ที่สถานีวงเวียนใหญ่ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีทองที่เชื่อมจากสถานีกรุงธนบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 1 สถานี และเชื่อมเข้าสู่ห้าง ICONSIAM ได้เลย ซึ่งในช่วง 4 ปี ให้หลังมานี้ ไม่มีโครงการคอนโดใหม่มาเปิดที่ทำเลนี้เลย แต่จะเลือกไปเปิดที่เส้นทางอื่นของฝั่งธนฯ หมด ไม่ว่าจะเป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฝั่งจรัญฯ เพชรเกษม และย่านปิ่นเกล้า หรือไม่ก็เลยไปตลาดพูล บางหว้า วุฒากาศเลย ด้วยสาเหตุสำคัญในแง่ของการทำราคาและ Supply ที่ดินที่หายากมากนั้นเอง

6. ส่วนกลางทำออกมาได้หลายฟังก์ชั่น เล่นระดับ มีดีเทลที่สวยงาม เหนือมาตรฐานคอนโดระดับราคานี้ในย่านนี้ ซึ่งส่วนกลางในโครงการเยอะมาก ทั้ง Commercial Space ที่ให้ลูกบ้านได้ใช้เวลาว่างในการพักผ่อนที่โครงการโดยไม่ต้องออกไปข้างนอก มีสวนหย่อมบริเวณชั้น 10 ของอาคาร A ให้คุณได้พักผ่อนเต็มที่ พร้อมชมวิวสาทรไปด้วย หรือใครที่ชอบทำกิจกรรม ไม่ว่าจะออกกำลังกาย ว่ายน้ำ โยคะ แม้กระทั่งแช่ออนเซ็น ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ พร้อมโซนชมวิวเมืองในช่วงเย็นให้นั่งเพลินๆ ถึงค่ำก็ไม่เบื่อ อยู่ที่ชั้น 31 ของอาคาร A และชั้น 50-51 ของอาคาร B

Reference Sathorn – Wongwianyai

Soft Opening 25-26 June 2022 เปิดชั้นใหม่ high zone พร้อมยูนิต Rare item

– รับ iphone 13 pro (รับวันทำสัญญา)

พบกิจกรรมพิเศษวันอาทิตย์ที่ 26 : special  workshop

HOME VEGGIE GROWING with Pearypie

กิจกรรมปรุงดิน หมักดิน เพาะเมล็ดพันธุ์

(RSVP 15 สิทธิ์เท่านั้น )

ดีไซน์คอนโดแนวคิดใหม่จาก SC Asset

130 ม.จาก BTS วงเวียนใหญ่

เริ่ม 3.29 ล้าน

พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท ได้ที่ > https://bit.ly/3wZFFll

Line : @referencecondo  

หรือ Click  https://lin.ee/tjzpahH

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1749

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและยูนิตที่กำหนด

#ReferenceSathornWongWianYai #SCasset