Qualitia Sukhumvit 62

  

ควอลิเทีย สุขุมวิท 62


ในปีนี้มีการคาดการณ์จากหน่วยงานวิจัยหลายๆแห่งว่า จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่โฟกัสในกลุ่มโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว และ Townhome ที่เน้นขายกลุ่ม Real Demand คือกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ เนื่องจากปัจจัยภายนอกหลายๆอย่างที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ทำให้กลุ่มนักลงทุน และกำลังซื้อจากต่างชาติหายไปจากตลาดคอนโดค่อนข้างเยอะ

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 11 March, 2020 เวลา 16.35 pm

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

Qualitia Sukhumvit 62

บริษัทผู้สร้าง

Qualitia Living

สถานที่

ซ.สุขุมวิท 62 แยก 6

สถานีรถไฟ BTS

BTS บางจาก Distance 200 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

0-3-17.5 ไร่

ชั้น

3.5 ชั้น

ยูนิต

8 ยูนิต

ที่จอดรถ

2-5 คัน

ลิฟท์

-

สิ่งอำนวยความสดวก

ระบบ Smart Home


    ประเภทยูนิต

ประเภท

TOWN HOME/Urban Town Home

studio

-

1 bedroom

-

2 bedroom

-

3 bedroom

3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พร้อม Extra Space

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

6 เมตร สำหรับส่วน Double Volume และ 2.7 เมตรสำหรับชั้นปกติ

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

75,000

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

22.9 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

n/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2020

เว็บไซต์

www.qualitialiving.com

02-331-1255


เพื่อนบ้าน Street View


รีวิว Qualitia Sukhumvit 62 ทาวน์โฮมหรูใกล้ BTS บางจากแค่ 200 เมตร ที่พร้อมให้คุณเลือกปรับแต่ง Space ได้ตามการใช้งานที่แตกต่าง

 

ในปีนี้มีการคาดการณ์จากหน่วยงานวิจัยหลายๆแห่งว่า จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่โฟกัสในกลุ่มโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว และ Townhome ที่เน้นขายกลุ่ม Real Demand คือกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ  เนื่องจากปัจจัยภายนอกหลายๆอย่างที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ทำให้กลุ่มนักลงทุน และกำลังซื้อจากต่างชาติหายไปจากตลาดคอนโดค่อนข้างเยอะ

 

ซึ่งจะว่าไปแล้วกลุ่มตลาดแนวราบที่ค่อนข้างช่วงชิงความได้เปรียบมากที่สุดก็คือตลาดแนวราบอย่าง Townhome ใจกลางเมือง ที่อยู่ทำเลใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้าจริงๆ เนื่องจากมีความได้เปรียบในตัวทำเลที่สามารถทดแทนสินค้าประเภทคอนโดในเมืองได้ และยังมอบความคุ้มค่ามากกว่าในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน พื้นที่ใช้สอย ความเป็นส่วนตัว จำนวนที่จอดรถ อยู่ร่วมกันได้หลาย Generation และความเป็นบ้านอยู่อาศัยอย่างแท้จริง หากเปรียบเทียบกันเป็นราคาต่อตารางเมตรของคอนโดที่อยู่ในย่านใกล้เคียง

 

แต่หลายๆ developer ก็มักพัฒนา Townhome ที่ชูจุดขายว่า เป็น Townhome ใจกลางเมือง แล้วแบบไหนที่เรียกได้ว่าเป็น Townhome ใจกลางเมืองจริงๆ ล่ะ?

ดัชนีที่จะเป็นตัวชี้วัดได้ดีที่สุดสำหรับ Townhome ใจกลางเมือง หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า Urban Home ก็คือต้องตั้งอยู่ใจกลางเมืองจริงๆ ไม่ว่าจะทำเลใจกลาง CBD ใกล้สถานีรถไฟฟ้า หรือเป็นพื้นที่ที่เรามักเห็นการพัฒนาโครงการคอนโดฯ มากกว่าบ้านเดี่ยวหรือ Townhome เพราะข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ และความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาโครงการ แต่หากงบประมาณไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย หลายๆคนก็ยังมีความต้องการที่จะอยู่อาศัยในบ้านที่มี space รองรับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว อยู่ร่วมกันได้หลาย Generation มากกว่าคอนโด ที่ขนาดพื้นที่จำกัด ปรับเปลี่ยนได้ไม่มาก จอดรถได้น้อย เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ขาดความเป็นส่วนตัว และไม่ได้กรรมสิทธิ์ในตัวที่ดิน

 

ซึ่งทำเลที่เป็นที่ยอมรับว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง ใกล้เมือง และเป็นที่นิยมจะพบว่ามีการพัฒนาอยู่เฉพาะในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครเท่านั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักคือ เหนือ (ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์) กลาง (พระรามเก้า – พัฒนาการ – กรุงเทพกรีฑา – ศรีนครินทร์) และใต้ (สุขุมวิท – บางนา) เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ที่เปิดให้บริการแล้ว อีกทั้งหลายโครงการยังไม่ไกลจากแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างหรือจะเริ่มการก่อสร้างในอนาคต

ซึ่งพื้นที่ 3 โซนที่มีสัดส่วนโครงการประเภทบ้านจัดสรรมากที่สุด คือพื้นที่ที่อยู่ในแนวถนนพระรามเก้า – พัฒนาการ – กรุงเทพกรีฑา – ศรีนครินทร์ (กลาง) มีทั้งหมดประมาณ 1,280 ยูนิต คิดเป็น 51% ของจำนวนบ้านจัดสรรในระดับราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต ตามมาด้วยพื้นที่ตอนเหนือ (ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์) ที่มีบ้านจัดสรรในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตประมาณ 41% ส่วนพื้นที่ตอนใต้ที่ครอบคลุมพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิท – บางนา มีโครงการบ้านจัดสรรระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต เพียงแค่ 193 ยูนิต อาจเนื่องมาจากปัจจัยหลายๆเรื่อง ทั้งราคาที่ดินที่สูงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ หลายพื้นที่ถูกพัฒนาเป็นคอนโดสูง อาคารสำนักงาน ห้างร้าน ตั้งแต่การเปิดใช้รถไฟฟ้า ขนาดที่ดินที่พอเหลือให้พัฒนาเป็นแปลงย่อย หลายๆ developer ก็ไม่นิยมพัฒนาโครงการ แต่หากมีการพัฒนาก็มักเป็นโครงการขนาดเล็กมีจำนวนยูนิตไม่มากตามสไตล์ Luxury Vertical Home

 

ซึ่งการที่ที่ดินที่เหลือพอให้พัฒนามีขนาดเล็ก ก็ดูจะเป็นโอกาสของ Developer รายย่อย ที่เน้นความคล่องตัวในการซื้อที่ดินขนาดเล็กเพื่อพัฒนาโครงการให้เสร็จโดยไว มีรูปแบบโครงการที่ค่อนข้างแตกต่างจากโครงการของ Developer รายใหญ่ ที่ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง แต่เน้นไปที่งานดีไซน์ ฟังก์ชั่นภายในห้อง และความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยเฉพาะทำเลสุขุมวิท ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ที่มักเห็นการพัฒนาโครงการของ Developer รายย่อย กับโครงการที่เน้นงานออกแบบ หรือฟังก์ชั่นที่พร้อมใช้งาน และอำนวยความสะดวกสำหรับอยู่อาศัย

 

หนึ่งใน Developer รายย่อยที่คว้าที่ดินผืนเล็กทำเลสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้ามาพัฒนาโครงการ ก็คือ ริษัทเมืองเศรษฐี จำกัด ที่มีผลงานการออกแบบโครงการมาแล้วถึง 3 โครงการ อย่างแบรนด์คอนโด The VIVA ที่มีการพัฒนามาถึง 2 แห่งอย่าง The VIVA สาทร – ตากสิน คอนโดสูง 8 ชั้น 120 ยูนิต และ The VIVA เพชรเกษม 68 คอนโดสูง 8 ชั้น 222 ยูนิต และโครงการหมู่บ้านจัดสรรพรีเมี่ยมทาวน์โฮม สูง 4 ชั้น 21 ยูนิต อย่าง เมืองเศรษฐี สาทร-เจริญราษฎร์ และรวมถึงโครงการที่ 4 อย่าง Qualitia Sukhumvit 62 (ควอลิเทีย สุขุมวิท 62)

Qualitia Sukhumvit 62 เป็น Townhome ที่ใกล้รถไฟฟ้าที่สุด เพียง 200 เมตรจากสถานีบางจาก (มีลิฟท์โดยสารหน้าปากซอย 60/2 เลย ขึ้น-ลงสะดวก) สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทางหลัก อย่างถนนสุขุมวิท ผ่านซอยสุขุมวิท 60/2 และซอยสุขุมวิท 62 และขึ้นลงทางด่วนพิเศษ เฉลิมมหานคร ที่ด่านสุขุมวิท 50 และ 62

 

ระยะทางระหว่างเดินเข้าโครงการถ่ายไปที่ปากซอย 60/2 ที่เป็นจุดขึ้นลงสถานี BTS บางจาก สภาพแวดล้อมโดยรวมมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีคนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน โดยเฉพาะตอนช่วงกลางวันและเย็น เนื่องจากเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร อาคารพาณิชย์ และมีร้านสุกี้โบราณกว่างเจา ชื่อดังอยู่ปากซอยเลย

ใม่ไกลจากโครงการก็จะเป็นปั๊มน้ำมันบางจากที่เป็นศูนย์รวมของร้านอาหารชั้นนำ และร้านสะดวกซื้อ

 

กับโครงการที่เน้นพื้นที่ Space เพื่อการใช้งานไม่ว่าจะพื้นที่กลางของทุกคนในครอบครัว หรือพื้นที่ส่วนตัว ก็มีให้เลือกใช้งานครบครัน อีกทั้งการออกแบบที่ทำให้ทุกห้อง ทุกพื้นที่มีพื้นที่ติดอากาศ หรือระเบียง รวมทั้งการออกแบบที่ทำให้มี Double Volume ถึง 2 ส่วน และยูนิตหน้ากว้างมาก จอดรถมาตรฐานที่ 2 คันได้อย่างสบายๆ รวมทั้งการออกแบบที่คำนึงถึงการต่อเติมได้ หรือการสามารถ Customized Space Layout ได้ตามใจชอบ โดยที่ Developer เป็นดูแลให้ ผสานกับระบบ Home Automation ที่มีมาให้อย่างครบครัน รวมไปถึงการที่เสียค่าพื้นที่ส่วนกลางที่น้อยกว่าโครงการขนาดใหญ่ทั่วไป

โดย Qualitia Sukhumvit 62 มีพื้นที่โครงการรวม 0-3-17.5 ไร่ เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ที่มีเพียง 8 ยูนิต ทุกยูนิตหน้ากว้างที่ 6 เมตร แต่ละยูนิตมีขนาดพื้นที่แตกต่างกันตามรูปแปลงที่ดิน แต่แปลนบ้านโดยรวมเหมือนกัน โดยมีทางเข้าหลักของโครงการที่เชื่อมต่อกับถนนสาธารณะบนซอย 60/2 ซึ่งเป็นซอยตัน มีแปลงที่ดินที่ใช้ถนนนี้เข้าออกไม่มาก เรียกว่าเป็นซอยส่วนตัวเลยก็ว่าได้

ถนนโครงการกว้าง 8 เมตร แบ่งพื้นที่ยูนิตเป็นด้านซ้ายและขวาอย่างละ 4 แปลง

แปลงที่ดินแรก มีขนาด 37.39 ตร.วา เป็นแปลงหัวมุม หน้าโครงการ ที่ได้พื้นที่ด้านข้างบ้านเป็นพื้นที่สวนเพิ่ม ซึ่งทางโครงการบอกว่าสามารถจอดรถได้อีก 1-3 คัน หากปรับจากพื้นที่สวนเป็นที่จอดรถ

แปลงที่ 2 ขนาดแปลงที่ดิน 25.80 ตร.วา

แปลงที่ 3 ขนาดแปลงที่ดิน 25.90 ตร.วา

แปลงที่ 4 ขนาดแปลงที่ดิน 41 ตร.วา เป็นแปลงลึกสุดของโครงการ มีพื้นที่สวนข้างบ้าน และที่ยูนิตนี้โครงการทำลิฟท์ไว้ให้ที่ด้านในสุด

แปลงที่ 5 ขนาดที่ดิน 35 ตร.วา เป็นแปลงลึกสุดของโครงการ มีพื้นที่สวนข้างบ้าน

แปลงที่ 6 ขนาดที่ดิน 25.70 ตร.วา

แปลงที่ 7 ขนาดที่ดิน 25.80 ตร.วา

และแปลงที่ 8 ขนาดที่ดิน 39.30 ตร.วา เป็นแปลงหัวมุม หน้าโครงการ ที่ได้พื้นที่ด้านข้างบ้านเป็นพื้นที่สวนเพิ่ม ซึ่งทางโครงการบอกว่าสามารถจอดรถได้อีก 1-3 คัน หากปรับจากพื้นที่สวนเป็นที่จอดรถ และเป็นยูนิตบ้านตัวอย่าง ที่เราจะพาไปชม

 

นอกจากนี้ ทั้งโครงการได้เดินสายไฟใต้ดิน ด้วยระบบไฟ 3 เฟส ที่ทำให้กระแสไฟฟ้ามีความเสถียร รองรับการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่มีมิเตอร์ไฟมาบดบังทัศนียภาพหน้าบ้าน เพราะมิเตอร์ไฟ จะถูกจัดระเบียบรวมไว้อยู่ที่ด้านหน้าโครงการเพียงแห่งเดียว

ซึ่งทุกหลังโครงการออกแบบฟังก์ชั่นมาตรฐานมาให้ คือ หน้ากว้าง 6 เมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 extra space

 

โดยชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ 2-5 คัน มีพื้นที่ living area ที่เป็น double volume เชื่อมกับพื้นที่ dinning และพื้นที่ครัว ห้องน้ำ พื้นที่ซักล้างที่ด้านหลังบ้าน

 

ชั้นลอย มีพื้นที่ติดชานพักบันไดขนาดใหญ่ ที่ทำเป็น Extra Space ที่ออกแบบให้เป็น double volume เชื่อมสวนและระเบียง ทำให้ชั้นนี้เป็น space ที่เชื่อมระหว่างชั้น 1 และชั้นลอย พร้อมโถงทางเดินไปยังห้องน้ำที่ด้านหลัง

ชั้น 2 เป็น Master Bedroom ที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว walk-in closetเชื่อมทางออกระเบียง

ส่วนชั้น 3 เป็น Bedroom 2-3 มีห้องน้ำในตัว และระเบียงส่วนตัว

ซึ่งโครงการออกแบบมาค่อนข้างครบฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่หากใครมีสมาชิกเพิ่ม หรือต้องการทำเป็นกึ่ง Home office หรือปรับเปลี่ยนการใช้งานอื่นๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น สามารถเพิ่มลิฟท์บ้านเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนที่มีผู้สูงอายุ หรือปรับพื้นที่ชั้น 1 เป็นที่จอดรถทั้งชั้น ให้ชั้นลอย เป็น welcome space เชื่อมชั้น 2 ที่เป็นโซนสำนักงาน และชั้น 3 เป็นที่พักอาศัย หรือจะต่อเติมพื้นชั้นลอยให้เพิ่มพื้นที่ใช้งานบางส่วน ก็ยังสามารถทำได้ เนื่องจากโครงการได้เผื่อโครงสร้างกรณีต่อเติมไว้เรียบร้อยแล้ว

โดยบ้านตัวอย่างที่โครงการตกแต่งให้ชม อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า อยู่ที่แปลงที่ 8 เป็นบ้านหลังแรกขวามือ ติดทางเข้าโครงการ

ทุกหลังจะมีรั้วกั้นด้านหน้าแต่ละยูนิต โดยที่ประตูรั้วโครงการให้ Smart VDO Doorbell ที่สามารถเปิดดูผู้มาติดต่อรวมทั้งโต้ตอบกันได้

พื้นที่จอดรถโครงการลงเข็ม ปูพื้นให้ทั้งหมด โดยที่จอดรถกว้างพอให้จอดรถได้ 2 คัน โดยที่สามารถเปิดประตูใช้งานพร้อมกันได้ทุกบาน

ประตูทางเข้าหลักโครงการให้เป็นประตูไม้สัก เซาะร่องขึ้นลาย บานจับเป็น Digital door lock ของ HAFELE รองรับการใช้งาน 4 รูปแบบ คือ สแกนนิ้ว พาสเวิร์ด คีย์การ์ด และกุญแจ

แต่ที่หน้าบ้านก็มีประตูเลื่อนกระจกบานใหญ่ ที่มาพร้อม CUBE Door/Window Sensor ที่แจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดปิดประตู ที่สามารถเพิ่มคำสั่งต่างๆ ได้ ของ LifeSmart พร้อมรางม่านไฟฟ้าที่เปิดปิดได้ผ่าน smartphone

ติดประตูทางเข้า มีพื้นที่ห้องแยก เป็นห้องสำหรับงานระบบต่างๆภายในบ้าน ถูกรวมมาไว้ที่จุดนี้ และสามารถจัดเป็นห้องเก็บของได้ด้วย

โครงการให้ Smart touch switch สวิตซ์ไฟระบบสัมผัส ที่สามารถตั้งเวลาเปิดปิด และสั่งงานผ่าน smart phone ได้จากทุกที่

รวมทั้งมี Blend light strip ไฟ LED ที่ช่วยสร้างบรรยากาศเฉพาะตัว และสามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้ตามความต้องการ

และ Smart Station การวางระบบ Internet พร้อมอุปกรณ์ LifeSmart ที่สามารถสั่งการอุปกรณ์ทุกๆชิ้นให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกล้องวงจรปิดด้านในบ้าน และที่สำคัญ โครงการติดตั้งสาย Fiber Optic ผ่านใต้ดินไปยังตู้สื่อสารหน้าโครงการ รองรับผู้ให้บริการอินเทอร์เนตที่ต้องการเลือกใช้ และภายในบ้านติดตั้งจุดต่อ LAN ในทุกห้องของแต่ละชั้น โดยใช้สาย CAT6 ซึ่งรองรับความเร็วอินเทอร์เนตได้มากกว่าสายทั่วไป

เรียกว่าเป็นระบบ Smart Home automation ที่ครบครันทั่วทุกพื้นที่การใช้งาน

มาถึงภายในยูนิต พื้นที่ส่วนแรก เป็น living area ที่ออกแบบให้เป็น double volume สูงถึง 6 เมตร

เชื่อมไปยังพื้นที่ชั้นลอย และโถงทางเดิน

โดยพื้นที่ living area ดูกว้าง และใหญ่ เพราะ space การใช้งานที่สามารถวางชุดโซฟา หรือตกแต่งเป็นมุมรับแขก ผสานกับพื้นที่เปิดโล่งรอบด้าน ให้ห้องนี้ดูกว้าง อยู่สบายมากขึ้น

พื้นที่ living area เชื่อมไปยังพื้นที่โซนหลังบ้าน ที่เป็น dining area สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารติดประตูออกหลังบ้าน และประตูกระจกด้านข้าง ซึ่งหากภายนอกตกแต่ง จัดสวน ก็เสมือนเป็นพื้นที่ทานอาหารท่ามกลางสวนและธรรมชาติโดยรอบตัว

ติดกันเป็นพื้นที่สำหรับตั้งครัว สามารถทำเป็นทั้งเคาท์เตอร์ครัวฝรั่ง หรือเพิ่มประตูกระจกเป็นครัวปิดสำหรับคนชอบทำอาหารไทย

หรือสามารถทำครัวที่ด้านนอกก็ได้ เพราะพื้นที่ส่วนนี้โครงการเทปูน ลงเข็มโครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้สอดคล้องกับการใช้งานของแต่ละคนได้ หรือถ้าใครจัดการกับพื้นที่ภายในบ้านได้ลงตัวแล้ว พื้นที่ด้านนอกส่วนนี้ก็เหมาะกับการเป็นพื้นที่ซักล้างของบ้าน

ส่วนพื้นที่ด้านนอก ที่ยูนิตนี้ได้ทั้งพื้นที่ด้านข้างและพื้นที่ด้านหลัง ที่สามารถจัดแต่งเป็นพื้นที่สวนของบ้าน

หรือสำหรับใครที่สนใจบ้านหลังนี้ ทางโครงการแจ้งว่าพื้นที่ด้านข้างกว้างพอให้ทำเป็นพื้นที่จอดรถเพิ่มได้ สำหรับใครที่มีรถมากกว่า 2 คัน

ที่ชั้น 1 ติดบันไดทางขึ้นเป็นห้องน้ำสำหรับแขก

ยูนิตที่นี่โถงบันไดทุกชั้น มีช่องแสง บันไดกว้าง ทำให้การใช้งานไม่อึดอัด โครงการให้ไม้จริง เป็นไม้เนื้อแข็ง โทนสีเดียวกับประตูและพื้น

ที่ชั้นลอยมีพื้นที่ชานพักบันได เชื่อมต่อกับช่องแสงด้านหน้าบ้าน ที่ถูกออกแบบให้เป็นสวน หรือเป็นพื้นที่ระเบียงกว้าง ใช้งานได้จริง

บริเวณสวนชั้นลอย เป็นระเบียงกว้าง กว้างพอที่ให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้

และสูงโปร่ง เชื่อมกับหน้าต่างด้านบนในส่วนของห้องนอนใหญ่

เชื่อมต่อกับพื้นที่ extra space ที่ออกแบบให้เป็น double volume สูงกว่า 6 เมตร

เปิดเชื่อมมุมมองด้านหน้าบ้านและเชื่อมกับพื้นที่ living area ที่ด้านล่าง

และเชื่อมกับห้องนอนด้านบน master bedroom

มีโถงทางเดินเชื่อมไปยังบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำที่ปลายสุดทางเดิน

โครงการแยกพื้นที่ส่วนเปียกที่ด้านใน พื้นที่ส่วนแห้งอยู่ติดทางเข้า สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American Standard

โดยภายในบ้านตัวอย่าง ที่ชั้นลอยโครงการได้มีมุมโชว์วัสดุพื้นที่ใช้ คือ พื้น Hybrid Engineered Wood แบรนด์ Quickstep นำเข้าจากเบลเยี่ยม ที่การันตีว่าพื้นผิวไม่เกิดรอยจากการขีดข่วน ถึงกับเอาพื้นไม้ที่โครงการใช้ กับพื้นไม้ทั่วไปมาวางเปรียบเทียบ และให้ทดลองสร้างร่องรอย เพื่อยืนยันความมั่นใจได้เลย

อีกทั้งยังการันตีว่าน้ำไม่รั่วซึม ไม่ทำลายพื้นผิว หากเทียบกับพื้นที่ไม้อื่นๆ

รวมทั้งท่อน้ำภายในโครงการ ที่ใช้ท่อเขียวมาตรฐานการส่งออกประเทศเยอรมันนี ที่ออกแบบให้รองรับการใช้น้ำร้อนโดยเฉพาะอีกด้วย

ที่โถงทางเดินชั้น 2-3 เป็นโถงทางเดินกว้าง เปิดรับแสงจากช่องแสงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร รวมทั้งผนังและราวบันได ถูกออกแบบให้เป็นโถงบันไดเชื่อมจากชั้น 2 ถึง ชั้น 3 ทำให้มีช่องแสงเข้าถึงทุกพื้นที่

รวมทั้งออกแบบให้มีพื้นที่นอกเหนือทางเดิน ที่สามารถ built-in เป็นตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ สำหรับใช้งานเพิ่มเติมได้ โดยไม่เสียพื้นที่ทางเดิน และยังคงพื้นที่โถงทางเดินกว้างไว้อยู่

ที่ชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่ ที่บริเวณด้านหน้าโครงการ ด้านนอกอาคารจะเห็นเป็น ระแนงบังตา ทำจากอลูมิเนียมคอมโพสิทลายไม้ สำหรับชั้นที่พักอาศัยคือชั้น2-3

ซึ่งช่วยบดบังมุมมองจากภายนอก แต่ยังสามารถเปิดมุมมองจากภายในได้

ที่ชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้น ซึ่งภายในค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางเตียงนอนไว้ที่ริมหน้าต่างได้

โครงการติดตั้งสวิทซ์ไฟไว้ที่ผนังติดทางเข้าห้อง

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ที่ภายในห้องน้ำให้ส่วนแห้งติดทางเข้า โครงการให้อ่างล้างหน้าเป็น his & her บนเคาท์เตอร์หินอ่อน พร้อมก๊อกผสมระบบน้ำร้อน มาพร้อมกระจกบานใหญ่ระบบไฟสัมผัส พร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ที่ด้านล่างเคาท์เตอร์

ด้านในสุดกั้นห้องแยกเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ hand shower และ Rain shower ระบบน้ำร้อนล็อคอุณหภูมิได้ แบบติดผนัง และโถสุขภัณฑ์

ส่วนโซนด้านหลังห้อง ติดประตูออกระเบียง สามารถจัดวางเป็นโซนแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้า หรือทำ walk-in closet ได้

ที่ระเบียง เป็นระเบียงกว้าง สามารถใช้งานได้ โดยที่ระเบียง โครงการวางคอมฯแอร์ พร้อมช่องซ่อมแซมงานระบบไว้ที่ปลายสุดระเบียง

ราวระเบียงแสตนเลสไม่ต้องห่วงเรื่องคราบสนิมเหมือนราวเหล็กทั่วไป

ส่วนที่ชั้น 3 เป็นห้องนอน 2 และ 3 ที่มีขนาดพอๆกัน

ห้องแรกหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน ถนนหน้าโครงการ

มีมุมทางเดินที่โครงการให้ตู้เก็บของ

เชื่อมเข้าสู่ห้องน้ำ

ที่ภายในแยกส่วนเปียกและแห้งเป็นด้านซ้ายและขวา

พื้นที่ส่วนเปียกโครงการให้  hand shower และ Rain shower พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น  แบบติดผนัง

พื้นที่ส่วนแห้งโครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์แบบลอยตัว พร้อมกระจกบานใหญ่ และโถสุขภัณฑ์

ด้านหลังประตูทางเข้าห้องนอน สามารถจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวเต็มความกว้างห้องได้

ห้องนอนสุดท้าย อยู่ด้านหลังบ้าน มีระเบียงกว้างที่ด้านหลัง

เข้ามาจะพบพื้นที่วางเตียง บริเวณกลางห้อง

ด้านในปลายสุดของห้องเป็นห้องน้ำ และทางออกระเบียง ที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวได้ที่ด้านขวา

ที่ระเบียงกว้าง สามารถใช้งานได้จริง ราวระเบียงแสตนเลสไม่ต้องห่วงเรื่องคราบสนิมเหมือนราวเหล็กทั่วไป

โครงการแยกพื้นที่ใช้งานและพื้นที่จัดวางงานระบบไว้แยกเป็นสัดส่วน มีวาล์วแยกทุกห้องน้ำ สะดวกในการ service

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและแห้งเป็นด้านซ้ายและขวา

พื้นที่ส่วนเปียกโครงการให้ hand shower และ Rain shower พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น  แบบติดผนัง

พื้นที่ส่วนแห้งโครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์แบบลอยตัว พร้อมกระจกบานใหญ่ และโถสุขภัณฑ์

เรียกว่าเป็น Townhome ที่มาครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวก และที่สำคัญคือสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมการใช้งานอื่นๆ ตามแต่ละความต้องการได้โดยที่โครงการได้คำนวณโครงสร้างไว้เผื่อในทุกพื้นที่ ทำให้ทุกความต้องการเป็นจริงได้

สรุปความน่าสนใจของโครงการ Qualitia Sukhumvit 62

 

ในครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปดูโครงการ Qualitia Sukhumvit 62 นั้น ผมไม่ได้เข้าไปในฐานะนักรีวิวโครงการ แต่ผมเข้าไปในฐานะของเพื่อนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกันครับ ซึ่งก็ต้องบอกว่าผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเพื่อนผมคนนี้เค้าไปได้ที่แปลงนี้มาตอนไหน อย่างไร เรียกได้ว่ามาดูปุ๊ปก็ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ พร้อมตั้งคำถามไว้ในใจตัวเองว่า หากที่แปลงนี้เป็นของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ในตลาด เค้าจะพัฒนาโครงการเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือจะตั้งราคาขายให้วิ่งไปได้สูงสุดสักเท่าไหร่? คือตั้งแต่ผมไปรีวิวโครงการแนบราบอย่างทาวน์โฮมมาหลายสิบโครงการ ผมยังไม่เคยเห็นโครงการไหนที่เดินง่ายๆ สบายๆ ตรงๆ จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน เข้าไปแค่ 200 เมตรเองครับ เกือบทุกโครงการที่ผมเคยเห็นล้วนแล้วแต่ต้องลัดออกตามซอยในแบบที่เดินเกิน 500 เมตรทั้งนั้น ที่สำคัญคือตรงนี้คือทำเลบางจาก ย่านสุดฮอตที่ตอนนี้ได้ถูกจุดติดจากหน่วยงานเอกชนหลายฝ่ายให้กลายเป็น Extension Business District ที่ดีที่สุดในช่วงสุขุมวิทตอนปลายไปแล้วครับ

 

บางจากอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากอ่อนนุช ห่างกันแค่ BTS สถานีเดียวในแบบเดินไปก็ถึง ซึ่งเดี๋ยวนี้อ่อนนุชกลายเป็นย่านการค้า และ International Lifestyle ขนาดใหญ่มากขึ้น มีสีสันจากโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น People Park, T77, Tesco Lotus, Century Movie Mall, The Phyll community mall และโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ซึ่งคนในย่านบางจากก็มักจะพึ่งพาอาศัยสิ่งอำนวยความสะดวกแถวสถานีอ่อนนุชอยู่แล้ว ดังนั้นจะว่าไปแล้ว อ่อนนุชกับบางจากคือทำเลเดียวกันครับ เพราะไม่ห่างกันมากและถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกกว่าภายในซอยอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 จริงๆ ซะอีก เพราะบางจากอยู่บนถนนสุขุมวิทมีระบบขนส่งมวลชน Mass Transportation ที่สมบูรณ์สะดวกสบายมากกว่าภายในซอยอ่อนนุชครับ โดยปัจุบันย่านบางจากเริ่มมีโครงการอาคาร Mixed use ทันสมัยเปิดใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอาคารเจียไต๋ อาคาร M Tower ปั้มน้ำมันสไตล์ Mixed Use ของบางจาก โดยที่ในอนาคตก็จะมีโครงการอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล โรงแรม จากกลุ่มธุรกิจชั้นนำอย่าง กลุ่มนายเลิศ กลุ่มสหยูเนียน นอกจากนี้ถัดจากบางจากไปอีกหนึ่งสถานีก็จะเป็นสถานีปุณณวิถี อันเป็นที่ตั้งของโครงการ Mixed Use ที่ใหญ่ที่สุด ทันสมัยที่สุดของสุขุมวิทตอนปลายอย่าง True Digital Park @ Whizdom 101 ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีถึงอนาคตอันสดใสของย่านนี้ ซึ่งก็ส่งผลให้มีดีเวลลอปเปอร์มากหน้าหลายตาทยอยเข้ามาปักหมุดพัฒนาโครงการคอนโดใหม่ๆในย่านนี้ จนแทบจะไม่สามารถหาพื้นที่ดินในการพัฒนาแปลงใหญ่ๆได้แล้ว ซึ่งคอนโดที่ทำสถิติราคาสูงที่สุดในย่านนี้ก็มีราคาเฉียดตารางเมตรละสองแสนเข้าไปแล้ว…ดังนั้นการที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ Townhome ที่มีที่ดิน และให้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 280 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 20.9 ล้านบาท คิดหารเฉลี่ยต่อตรม.ก็ออกมาแค่ 75,000 บาทเท่านั้น!! สมมติว่าเราซื้อคอนโดในย่านนี้แบบ 2 ห้องนอนสักแค่ 60 ตารางเมตร ก็ยังต้องควักเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป แล้วแบบนี้จะไม่ให้บอกว่าคุ้มค่าได้อย่างไรครับ กับการซื้อทาวน์โฮมที่หลังบ้านแทบจะชนกับคอนโดไฮไรส์ระดับพรีเมียมเกรดจากดีเวลลอปเปอร์เจ้าดังเลยครับ

 

ผมบอกเลยว่าเอาเฉพาะตลาดทาวน์โฮมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้านะ ที่นี่มีทำเลดีที่สุดแล้วล่ะ! ถึงแม้ว่าทั้งโครงการจะมีแค่ 8 หลัง ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางอะไร  (แต่ระบบ Security โดยรวมก็มีครบนะครับ ทั้ง Main Gate และ CCTV) แต่ว่าฟังก์ชั่นการใช้งาน วัสดุ และการออกแบบเลย์เอ้าท์ที่เยี่ยมมากๆ คือเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ให้พื้นที่ใช้สอยกว่า 280 ตรม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่มีพื้นที่ Extra Space เยอะมากในแต่ละห้องแลดู Oversize กว่าที่อื่นๆ และยังมี Void แบบ Double Volume 6 เมตร สูงมากๆถึง 2 ตำแหน่งในบ้าน พร้อมที่จอดรถ 2 + 1 คันได้สบายๆ (สำหรับบ้านหลังมุม โดยใช้พื้นที่สวนด้านข้างบ้าน) เพราะหน้ากว้าง 6 เมตร พวกวัสดุอย่างพื้นก็เป็น Hybrid Engineered Wood, เฟรมหน้าต่างบานใหญ่มากคุณภาพสูง Powder coated สีแชมเปญ ประตูไม้สักเต็มบาน และเพิ่มความโปร่งโล่ง แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ทางช่อง Skylight บนชั้นดาดฟ้า

ทีเด็ดสำคัญที่ผมมองว่าเราหาจากที่ไหนไม่ได้ก็คือ ความสามารถในการ Customized Layout ได้ตามความต้องการของผู้ซื้อเนี้ยละครับ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการติดลิฟท์ (จริงๆแล้วมีหลังนึงที่มีลิฟท์มาให้พร้อม แต่ก็ติดเพิ่มในหลังอื่นได้ง่ายๆ) ต้องการที่จอดรถมากขึ้น โดยเป็นการปรับพื้นที่ในบ้านให้เป็นลานจอดรถ หรือต้องการพื้นที่ใช้งานเต็มชั้นลอย แม้กระทั่งอยากมีสวนไว้นั่งเล่นบนชั้นดาดฟ้า คุณก็สามารถแจ้งความต้องการนี้ไปโดยตรงกับเพื่อนผม ที่เป็นเจ้าของโครงการ และเค้าก็จะไปออกแบบ และช่วยจัดการให้เป็นเรื่องง่าย เนื่องจากทุกส่วนของอาคารมีการคำนวณเผื่อไว้รองรับการต่อเติมในอนาคตได้เป็นอย่างดี แถมยังมีทีมงานก่อสร้างเป็นของตัวเอง ที่มั่นใจได้ว่างานจบ ชัวร์ สะดวก ครบ รวดเร็ว ไม่ปวดหัววุ่นวายแน่นอนครับ…อ้อ สิ่งสำคัญมากๆก็คือที่นี่เค้าเดินสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบ Fiber Optic และใช้สาย LAN CAT6 ที่รองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทุกค่ายไว้แล้ว และมีจุดเชื่อมต่อสายแลนไว้ให้ทุกห้อง ในแบบไม่ต้องกลัวว่าบ้านจะอับสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลยล่ะครับ นี่มัน Work มากๆเลยสำหรับ คนที่ต้องทำงานแบบ Work From Home หรือการทำเป็น Home Office ขนาดย่อมๆ

ในส่วนของราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 22.9 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 2 ล้านบาท เหลือ 20.9 ล้านบาท บนขนาดแปลงที่ดินที่ถือว่าเยอะกว่าโครงการอื่นๆโดยรอบ กับขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ไม่ต่างกันมาก และราคาขายก็ใกล้เคียงกัน แต่ Qualitia Sukhumvit 62 เป็นโครงการแรกในย่านนี้ที่สร้างเสร็จพร้อมให้เข้าชมแล้ว และเป็นโครงการบนทำเลคอนโด ที่ไม่ค่อยมีตัวเลือกทาวน์โฮมรูปแบบ Urban Home มากนัก คือมองจากหน้าต่างบ้านไปนี่เห็นโครงการคอนโดรายล้อมเลยละครับ มีทั้ง Life Sukhumvit 62 และ Ideo S93 แสดงให้เห็นว่านี่คือทาวน์โฮมบนทำเลคอนโดอย่างแท้จริง…Qualitia Sukhumvit 62 พร้อมเข้าอยู่เดือนหน้าแล้ว ใครสนใจก็ขอเชิญแวะกันเข้าไปดูกันก่อนครับ ติดต่อได้ที่นี่เลย

 

Website : www.qualitialiving.com

Tel. : 02-331-1255

Google Map : https://bit.ly/2pMw6X6



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


“ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต..อยู่ดี มีสุข” รู้จักกับนวัตกรรมการก่อสร้างแบบโลว์คาร์บอนจากพฤกษา รายแรกที่ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนเคียว

คาร์บอนเคียว โดย อินโน พรีคาสท์ หนึ่งในบริษัทย่อยของพฤกษา โฮลดิ้ง เป็นเทคโนโลยีคอนกรีตโซลูชันที่นำคาร์บอนที่รวบรวมจากโรงงานปิโตรเคมีฉีดเข้าไปในขั้นตอนการผสมคอนกรีต ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยา... อ่านต่อ

20 December, 2024



สรุปประเด็นอสังหาฯ ที่น่าสนใจตลอดปี 2024

อีกไม่นานก็จะถึงปีเปลี่ยนผ่าน จากปี 2024 เข้าปี 2025 แล้ว เวลาในแต่ละวันช่างเดินไวจริงๆ... อ่านต่อ
16 December, 2024

เหมือนใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวงของโลก! เชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ครบทุกมิติที่ “ศูนย์การค้า Central Park” และ ‘Central Park Offices’

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ภายใต้ความ... อ่านต่อ
12 December, 2024

พาทัวร์ Central Chidlom โฉมใหม่! “The Store of Bangkok”

นิยามใหม่ของห้างเซ็นทรัลชิดลม “The Store of Bangkok” สะท้อนมาจากวิสัยทัศน์ของกลุ่มห้างส... อ่านต่อ
3 December, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง