รีวิว COBE รัชดา – พระราม 9 ไม่ใช่แค่คอนโดแต่นี่คือ Community ของคนเจนใหม่! 

แม้ว่าในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดเปิดใหม่ดูจะมีความคึกคักน้อยลงกว่าในช่วงก่อนหน้า อันเกิดจากปัจจัยหลากหลายประการ ทั้งในเรื่องของ รูปแบบการใช้ชีวิตทั้ง Live – Work – Play – Learn ของผู้คนที่เปลี่ยนไปจากผลกระทบโดยตรงของโควิด 19 ทำให้ Real Demand จำนวนไม่น้อยหันไปหาโครงการแนวราบที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้มากกว่า อีกทั้งกำลังซื้อต่างชาติที่ยังไม่กลับมาอย่างเต็มที่ บวกกับความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้คนจำนวนหนึ่ง

แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เห็นชัดเจนมากในการพัฒนาตลาดคอนโดยุคนี้ก็คือ การที่ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำหลายราย มุ่งโฟกัสการพัฒนาไปที่กลุ่มลูกค้าเจนใหม่ อย่าง Gen Y และ Gen Z รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมและใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์โดยรวม ในแบบที่มีอิสระทางความคิด ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ตอนนี้กลุ่มคนดังกล่าวจะยังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่มีฐานกว้างมากที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มผู้ซื้อเหล่านี้น่าจะมีบทบาทสำคัญ และเป็นฐานผู้ซื้อหลักในอนาคต

โดยแบรนด์ COBE (โค้บบ์) จาก SC Asset ก็เป็นอีกแบรนด์ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบรับเทรนด์การอยู่อาศัยของกลุ่มคนสไตล์นี้ ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดถึง 2 โครงการ โดยโครงการแรกที่เราจะนำเสนอในบทความนี้อย่าง COBE Ratchada – Rama 9 (โค้บบ์ รัชดา – พระราม 9) นับว่าเป็นการพัฒนาโครงการเพื่อปิดช่องว่างทางการตลาดของกลุ่มลูกค้าเจนใหม่ๆ ที่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทาง SC Asset ยังไม่ได้เน้นมากเท่าที่ควร โดยโครงการจะมุ่งเน้นการสร้าง Community ในแบบ CO – BEING Community ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า COBE เพื่อคนแนวคิดแบบเดียวกัน มาช่วยกันทำสิ่งดี ๆ ร่วมกัน โดยที่คอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการก็ยังไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ซึ่งถูก Customized มาเพื่อให้ Fit in กับกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด

ทุกโครงการภายใต้แบรนด์ COBE จะถ่ายทอด 3 หัวใจสำคัญที่เป็นกลยุทธ์ของแบรนด์ที่พร้อมดูแลสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อันประกอบด้วย

Place ที่สะท้อนผ่าน ทำเล (Location) และ การออกแบบพื้นที่ (Space Design) ที่สร้างสมดุลในการใช้ชีวิต ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลาง

People ที่สะท้อนผ่านพื้นที่ทางสังคมทั้ง แบบเจอกันจริง ๆ และแบบ virtual บน Application Ruejai รวมถึงการมี market place  ที่คนในโครงการสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้

Planet ที่มุ่งเน้นความ Sustainability เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ตั้งแต่ พื้นที่ “แยกขยะ” ที่สอดรับแนวความคิด Zero Waste การติดตั้ง solar cell ไว้บนอาคาร เพื่อลดการใช้พลังงานสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง และ บริการ EV Shuttle Serviceจาก Muvmi

โดยในส่วนของ COBE Ratchada – Rama 9 (โค้บบ์ รัชดา – พระราม 9) จะสะท้อนความเป็น Place ผ่านทำเล (Location) ใจกลางเมือง NEW CBD ย่านรัชดา-พระราม 9 ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า บริษัทขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์วัฒนธรรม ถนนสายหลัก  รัชดาภิเษก, พระราม 9 และทางพิเศษศรีรัช

นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่มีโครงการเมกะโปรเจกต์เตรียมจะสร้างขึ้นในย่านนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นโครงการของ วีรีเทล บริษัทในกลุ่ม พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 7,000 ล้านบาท พื้นที่ 13 ไร่ ริมถนนรัชดาภิเษก ติด MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พร้อมพื้นที่รีเทลในอาคารและกลางแจ้ง, CPN RAMA 9, ศูนย์วัฒนธรรม Phase 2, ที่ดินขนาดใหญ่ของอสมท.ที่รอผู้ประมูลรวมไปถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีแผนที่จะเปิดให้บริการได้ในปี 2568

โครงการมิกซ์ยูส ของกลุ่มวีรีเทล ริมถนนรัชดาภิเษก ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พร้อมพื้นที่รีเทลภายในอาคารและด้านหน้าอาคาร ซึ่งได้ “จ๊อดแฟร์” เข้ามาร่วมมือในการบริหารพื้นที่รีเทลทั้งหมด

COBE รัชดา – พระราม 9 ตั้งอยู่ใจกลางย่านรัชดา-พระราม 9 บนถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรม

โดยโครงการสร้าง Sale Gallery ไว้บนพื้นที่โครงการจริง โดยในอนาคตจะเป็นพื้นที่ Commercial ไว้อำนวยความสะดวกลูกบ้าน และเพื่อนบ้านรอบข้าง ซึ่งออกแบบตกแต่งตามแรงบันดาลใจที่จะนำมาใช้กับโครงการทั้งหมด คือ

การออกแบบมาจากปรัชญาการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายจากสองซีกโลกทั้ง โลกตะวันตก และ โลกตะวันออก นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์การออกแบบชื่อว่า “แวลลีย์ แอนด์ ฮิลล์” (Valleys & Hills) ที่ผสมผสานความโดดเด่น ของสองปรัชญา ได้แก่ “แวลลีย์” (Valleys) ที่สะท้อนปรัชญาการใช้ชีวิตของ โลกฝั่งตะวันตก  อย่าง ‘ฮุกกะ’ (Hygge)  แนวคิดวิถีการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมจากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขติดอันดับต้นๆ ของโลก โดย ‘ฮุกกะ’ คือความสุขสบายที่เกิดจากความสงบผ่อนคลาย สามารถเกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ดี

และแนวคิดจากฝั่งตะวันออกอย่าง “ฮิลล์” (Hills) ด้วยปรัชญาการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น หรือ ‘วะบิ-ซะบิ’ (Wabi-Sabi) เป็นปรัชญาที่ให้คุณค่ากับความสวยงามตามธรรมชาติ สุนทรียภาพอันเรียบง่ายไม่ยึดติดในความสมบูรณ์แบบ จากการผสมผสานปรัชญาการใช้ชีวิตทั้งสองซีกโลกเข้าด้วยกันนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านผลงานอันโดดเด่น ตั้งแต่พื้นที่สวนโดยรอบ Sales Gallery และภายในที่เน้นรูปทรงโค้งมน รวมถึง สไตล์การตกแต่งในสีโทนธรรมชาติ (Neutral Tone) เพื่อเพิ่มบรรยากาศแบบสไตล์เจเปนดิ (Japandi Style) ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักอาศัยได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งพื้นที่สีเขียว การใช้โทนสี และรูปทรงโค้งมนที่เอามาปรับใช้ในพื้นที่โครงการ ทั้งซุ้มโค้ง บันไดที่โค้งมนหรือของตกแต่งต่าง ๆ ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความโค้งมนไว้อยู่

ที่ Sales Gallery แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก คือ Lobby โถงต้อนรับ

ที่มาพร้อมห้อง 3D Mapping Model อธิบายตัวส่วนกลางโครงการฯ

ก่อนที่จะขึ้นไปชมห้องตัวอย่างที่ชั้น 2

และอีกส่วน จะมี Moomin Cafe มาเปิดให้บริการในช่วงที่เปิด Sales Gallery แวะมาถ่ายรูป Check -in กินขนมกันได้ ตั้งแต่ 19 สิงหาคมนี้เเล้ว

โดยภายในมีพื้นที่ให้นั่งจิบกาแฟ ถ่ายรูป หลากหลายมุม เอาใจคนรุ่นใหม่

COBE รัชดา- พระราม 9 ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 12 ไร่ มีอาคารพักอาศัยทั้งหมด 9 อาคาร (อาคาร A-I) ตั้งล้อมพื้นที่ส่วนกลาง Hill ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ตั้งแต่พื้นที่ บริเวณด้านหน้าโครงการออกแบบให้เป็นโซน Commercial ซึ่งอนาคตจะเป็น Foodland ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มาพร้อมถูกและดี และส่วนกลางขนาดใหญ่ศูนย์รวม Facilities พื้นที่สำหรับการใช้ชีวิตของคนในโครงการและทำกิจกรรมต่างๆ เนรมิตรให้เป็น community พื้นที่แห่งการสร้างสรรค์เพื่อคนรุ่นใหม่ โดยจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, Yoga Studio, Workshop space, Live Studio รวมไปถึงพื้นที่จอดรถในอาคาร Valley & Hill นี้ด้วย

โดยทุกอาคารสูง 27 ชั้น ยกเว้นอาคาร G ที่สูง 29 ชั้น และนอกจากนี้ยังมีอาคาร I ที่เป็น Pet Friendly ซึ่งจะมีการจัดสรรพื้นที่ให้เป็น Pet Park สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

อาคาร A,B,C มี Lobby เป็น Double Volume ส่วนอาคารอื่นๆ Lobby จะอยู่ชั้น 2 แยกเฉพาะอาคารใครอาคารมัน มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว แต่ละอาคารมี Signature ที่แตกต่างกันในเชิงรูปแบบห้อง ส่วนกลาง และการเลี้ยงสัตว์ ดังนี้

โดยอาคาร E,F,I ชั้น 26-27 จะเป็นห้อง high ceiling ทั้งชั้นสูงกว่า 5.3 เมตร

อาคาร G มี 29 ชั้น เป็นห้องไซส์ยูนิต 24 Sq.m. ขึ้นไป ซึ่งมีห้อง 1Bedroom แปลนสวย ๆ ตำแหน่งดี ๆ ค่อนข้างเยอะที่ตึกนี้ เช่น ห้อง 1 Bedroom ที่ Private ที่สุดเนื่องจากผนังห้องไม่ติดใครเลย อย่างห้อง B1 ขนาด 30.53 Sq.m. เป็นต้น

อาคาร H มียูนิตต่อชั้นน้อยที่สุด

อาคาร I สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ห้องละ 1 ตัวขนาดไม่เกิน 15 กิโลกรัม ห้องใหญ่สุดคือ 1 Bedroom Plus 40.71 Sq.m.

ยูนิตรวมทั้ง 9 อาคาร รวม 1,612 ยูนิต ประกอบไปด้วยห้องพักแบบ สตูดิโอ ขนาด 23-28 ตารางเมตร, ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30-34 ตารางเมตร, ห้อง 1 ห้องนอนใหญ่ + ห้องอเนกประสงค์ 35-40 ตารางเมตร, ห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 50-71 ตารางเมตร และ ห้อง 3 ห้องนอน ขนาด 106 ตารางเมตร ตกแต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ โดยที่ Sales gallery โครงการคัดห้องตัวอย่างมาตกแต่งให้ชม 3 ขนาด คือ สตูดิโอ ขนาด 24.50 Sq.m. 1 Bedroom 33.10 Sq.m. และ 1 Bedroom Plus 36.50 Sq.m.

ห้องตัวอย่างแรก Studio 24.50 sq.m.

ซึ่งห้องตัวอย่าง จะมีความสูงจากพื้นสู่ฝ้าของส่วนครัวและห้องน้ำอยู่ที่ 2.3 เมตร โดยที่ส่วน Living และอื่นๆ สูง 2.7 เมตร

เป็นห้องสตูดิโอที่มีจำนวนเยอะที่สุดของโครงการ ที่ออกแบบมาครบครันทุกการใช้งาน เป็นยูนิตทรงผืนผ้า โดยพื้นที่ครัวเปิดและห้องน้ำไว้ติดทางเข้า พื้นที่ใช้งานหลักอย่างพื้นที่พักผ่อน โต๊ะอาหาร โซฟา และที่นอน พร้อมทางออกระเบียงอยู่โซนด้านใน ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นสัดส่วน

จากทางเข้าห้อง โครงการให้ครัว built-in ไว้ที่ด้านขวาติดทางเข้า

ที่ครัวเจาะช่องสำหรับวางตู้เย็น ติดเคาท์เตอร์ที่ให้อ่างล้างจาน พร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ของ HAFELE

ด้านบนเป็นช่องดูดควันพร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว

ด้านล่างเคาท์เตอร์เจาะช่องวางไมโครเวฟ และลิ้นชักเก็บของ

ด้านซ้ายตรงข้ามครัวเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่มาพร้อม Walk in Closet ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา

[ภาพนี้เป็นกระเบื้องจริงที่ได้]

สุดทางเดิน Walk in Closet เป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า และพื้นที่ส่วนเปียกด้านขวา มีขอบพื้นยกระดับกั้นน้ำ แต่โครงการไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ

และกระเบื้องผนังห้องน้ำห้องตัวอย่างเป็นกระเบื้องตกแต่ง ของจริงโครงการให้กระเบื้องขนาด 60 x 60 cm แบบห้องตัวอย่างขนาด 1 Bed Plus

ที่ส่วนแห้ง ด้านซ้ายมือ มีอ่างล้างหน้าไซส์เล็กแบบติดผนัง พร้อมกระจกบานมนที่เป็นรูปทรงสัญลักษณ์ที่สื่อโครงการ COBE แต่ของที่ได้จริงจะเป็นรูปทรงมาตรฐาน

[ภาพนี้เป็นกระเบื้องจริงที่ได้]

ติดกันเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN

พื้นที่ส่วนเปียกด้านขวามือ โครงการให้ Hand shower แบบติดผนัง

พื้นที่ด้านใน เป็นพื้นที่พักผ่อนหลัก

โดยผนังด้านซ้ายโครงการ built-in ชั้นวางของ ที่สามารถเลื่อนออกมาเป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งได้

ถัดไปเป็นชุด built-in ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกัน เป็นชุดโซฟา และเตียงนอนที่ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บของ

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี ที่สามารถเลือกตั้งบนชั้น หรือติดผนังก็ได้

พื้นที่เตียงนอนเข้ามุมติดหน้าต่างด้านในสุด เป็นเตียงขนาด queen size ที่มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้ใช้งาน

ติดพื้นที่เข้ามุมปลายเตียงเป็นทางออกระเบียง ที่ระเบียงเป็นพื้นที่ใช้งานทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่กว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าและใช้งานอื่น ๆ ส่วน CDU แอร์ถูกยกขึ้นไปติดที่เพดานด้านบนระเบียง

ห้องนี้มีขนาดกะทัดรัด และถูกออกแบบการใช้พื้นที่ให้มีครบทุกการใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ

ห้องตัวอย่างถัดไปเป็น 1 bedroom 33.10 sq.m.

ห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่แบ่งพื้นที่ครัวและ Living room ไว้ที่ด้านขวา ส่วนห้องนอนอยู่ที่ด้านซ้ายของยูนิต ซึ่งเน้นพื้นที่ห้องนอน พื้นที่พักผ่อนที่กว้างกว่า

จากทางเข้าโครงการให้ครัวปิด built-in ไว้ที่ด้านขวาและซ้ายติดทางเข้า

ด้านซ้ายมีช่องสำหรับวางตู้เย็น ส่วนด้านขวาเป็นติดเคาท์เตอร์ยาวที่ให้อ่างล้างจาน พร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ของ HAFELE

ด้านบนเป็นช่องดูดควันพร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว

ด้านล่างเคาท์เตอร์เจาะช่องวางไมโครเวฟ และลิ้นชักเก็บของ

ด้านซ้ายตรงข้ามครัวเป็นทางเข้าห้องน้ำ แบบ Double access ที่เข้าออกได้จากครัวและห้องนอน

จากพื้นที่ครัวที่เป็นครัวปิด โครงการให้ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นระหว่างสองพื้นที่

ถัดเข้าไปเป็น Dining & Living area

ที่ด้านขวาโครงการให้ ตู้ Built-in ที่สามารถเลื่อนออกมาเป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งได้

ด้านในติดหน้าต่างเป็นมุมตั้งชุดโซฟา พร้อมโต๊ะกลาง

และฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี

ติดกันเป็นประตูทางออกระเบียง

ที่ส่วนของพื้นที่ระเบียงจะเชื่อมยาวไปกับหน้าต่างบริเวณห้องนอน

ที่ระเบียงเป็นพื้นที่ใช้งานกว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าและใช้งานอื่น ๆ ส่วน CDU แอร์ถูกยกขึ้นไปติดที่เพดานด้านบนระเบียง

ด้านซ้ายเป็นห้องนอน ที่ซ้ายมือติดทางเข้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ Double access ที่มาพร้อม Walk in Closet ฝั่งขวา

สุดทางเดิน Walk in Closet เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ที่ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า และพื้นที่ส่วนเปียกด้านขวา มีขอบพื้นยกระดับกั้นน้ำ และกระเบื้องผนังห้องน้ำห้องตัวอย่างเป็นกระเบื้องตกแต่ง ของจริงโครงการให้กระเบื้องขนาด 60 x 60 cm

ที่ส่วนแห้ง ด้านซ้ายมือ มีอ่างล้างหน้าแบบติดผนัง พร้อมกระจกบานมนที่เป็นรูปทรงสัญลักษณ์ที่สื่อโครงการ COBE โดยของที่ได้จริงจะเป็นรูปทรงมาตราฐาน

[ภาพนี้เป็นกระเบื้องจริงที่ได้]

ติดกันเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN

พื้นที่ส่วนเปียกด้านขวามือ โครงการให้ Hand shower แบบติดผนัง

มีกระเบื้องจริงที่ได้มาจัดแสดงเอาไว้

[ภาพนี้เป็นกระเบื้องจริงที่ได้]

พื้นที่เตียงนอนเข้ามุมติดหน้าต่าง เป็นเตียงขนาด queen size ที่มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้ใช้งาน โดยทางโครงการจะมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้ และติดตั้งทีวีที่ผนังฝั่งนี้

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด มีพื้นที่ Living และ ห้องนอนใหญ่ติดระเบียง

ห้องตัวอย่างสุดท้าย 1 Bedroom-P ขนาด36.50 Sq.m.

ที่ภายในยูนิตเน้นพื้นที่ living & dining เชื่อมต่อกับพื้นที่ Plus ห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมสู่ระเบียง เน้นพื้นที่ใช้งานส่วนกลางของครอบครัวไว้ที่ปีกขวาของยูนิต และห้องนอนอยู่ที่ปีกซ้าย พร้อมห้องน้ำแบบ Double access

จากทางเข้าโครงการให้ครัว Built-in ไว้ที่ด้านขวาติดทางเข้า

มีช่องสำหรับวางตู้เย็น เชื่อมต่อกับเคาท์เตอร์ยาวที่ให้อ่างล้างจาน พร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ของ HAFELE

ด้านบนเป็นช่องดูดควันพร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องวางไมโครเวฟ

ด้านล่างเคาท์เตอร์  เจาะช่องวางเครื่องซักผ้า และลิ้นชักเก็บของไว้ให้

ห้อง Type นี้จะต่างกับ 2 ตัวอย่างแรกคือ เครื่องซักผ้าจะอยู่ใต้เคาท์เตอร์ครัว ไม่ได้อยู่ที่ระเบียงแบบห้องอื่น

ถัดเข้าไปเป็น Dining & Living area

ที่โครงการให้โต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งไว้ด้านหน้าครัว

ติดกันเป็นมุมตั้งชุดโซฟา พร้อมโต๊ะกลางที่มาพร้อมหน้าต่างบานเปิดไว้ชมวิว

และฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีติดประตูบานเลื่อนเชื่อมห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์ของจริงภายในจะโล่ง แต่มีประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้อง Living และระเบียง ห้องจริงโครงการไม่ได้ให้แอร์

ถัดไปเป็นประตูทางออกระเบียง ที่มีพื้นที่ใช้งานกว้าง ส่วน CDU แอร์ถูกยกขึ้นไปติดที่เพดานด้านบนระเบียง

ด้านซ้ายเป็นห้องนอน และห้องน้ำ Double access ที่เข้าได้จาก Living room และห้องนอน

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า และพื้นที่ส่วนเปียกด้านใน มีขอบพื้นยกระดับกั้นน้ำ

ที่ส่วนแห้ง ด้านซ้ายมือ มีอ่างล้างหน้าแบบติดผนัง พร้อมกระจกบานมนที่เป็นรูปทรงสัญลักษณ์ที่สื่อโครงการ COBE

ติดกันเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN

พื้นที่ส่วนเปียกด้านใน โครงการให้ Hand shower แบบติดผนัง

ในส่วนของห้องนอน พื้นที่เตียงนอนเข้ามุมติดหน้าต่าง เป็นเตียงขนาด Queen size ที่มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้ใช้งาน และติดตั้งทีวีที่ผนังฝั่งนี้

ด้านข้างหัวเตียงเป็น ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ออกแบบให้ใช้งานเป็นโต๊ะหนังสือ หรือโต๊ะทำงานข้างเตียงได้ด้วย

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ Living area แบบหลากหลาย ทั้งนั่งดูทีวี ทำอาหาร สามารถปรับห้องเอนกประสงค์เป็นห้องทำงานหรือใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เฉพาะคนได้

สรุปเหตุผลที่บอกว่าทำไม COBE รัชดา-พระราม 9 จึงเป็นไลฟ์สไตล์คอนโดที่น่าซื้อที่สุดในย่านนี้

1. CO – BEING COMMUNITY แห่งเดียวที่เข้าใจถึงไลฟ์สไตล์กลุ่มคนเจนใหม่ที่มีความหลากหลาย มีอิสระทางความคิด เป็นตัวของตัวเอง และเต็มไปด้วยแพสชั่นในการใช้ชีวิต มีส่วนร่วม สนับสนุน และให้คุณค่าในสิ่งที่เขาสนใจ จึงเกิดเป็นแนวคิดในการสร้างคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ ซึ่งจะเป็นคอนโดแห่งแรกที่ให้คุณเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ใน Community ของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดและมุมมองคล้าย ๆ กัน ร่วมทำสิ่งดี ๆ ไปด้วยกัน โดยคำว่า CO – BEING Community จะมีความหมายในเชิงลึกมากกว่า CO – LIVING เพราะเป็นการลงลึกถึงความเป็นตัวตนของคนที่ต้องการจะใช้ชีวิตในแบบเดียวกัน กับคนเผ่าพันธุ์เดียวกัน ผ่านลักษณะพฤติกรรมการใช้ชีวิต และรสนิยมในการอยู่อาศัยที่คล้าย ๆ กัน ผ่านกิจกรรมพบปะ ทั้งในแบบ Personal และในแบบ Virtual Experience ที่ทาง SC Asset มีแผนจะพัฒนากับแอป RueJai เพื่อให้ทุกการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง และการแลกเปลี่ยนความคิดของทุกคน มีการ Syncronized กันอย่างสมบูรณ์แบบ และยังช่วยส่งเสริมให้คนอยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ง่ายขึ้น

2. มี Extra benefits หลายอย่างที่คอนโดในย่านเดียวกันไม่มี เช่น Foodland, ส่วนกลาง 24 ชม., บริการ EV Shuttle Service จาก Muvmi,

3. มีรูปแบบห้องแบบ Fully Furnished ให้เลือกหลากหลาย และมีอาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท*

ทั้งแบบ Studio แต่งครบ ขนาด 23-28 ตารางเมตร พร้อม Flexible Furniture ราคาเริ่มต้นแค่ 2.49 ล้านบาท* แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30-34 ตารางเมตร, ห้อง 1 ห้องนอนใหญ่ ขนาด 35-40 ตารางเมตร, ห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 50-72 ตารางเมตร และ ห้อง 3 ห้องนอน ขนาด 106 ตารางเมตร ที่ให้คุณ Enjoy การใช้ชีวิตได้เป็นหมู่คณะ เช่นเดียวกับห้องเพดานสูงสไตล์ Loft ที่มีจำนวนจำกัดมากๆ

4. รับประกันเฟอร์ฯห้องชุด ซึ่งมีการขยายการรับประกันไปถึง 3 ปี ทั้ง Room และ Furniture จัดว่า work มากนะครับสำหรับคนที่ซื้อปล่อยเช่า หรือจะอยู่เอง 2 – 3 ปีแล้วขายเอา Capital Gain เพราะไม่ต้องห่วงว่าจะเสียค่าซ่อมเฟอร์ฯ ซื้อเฟอร์ฯใหม่ รวมถึงซ่อมห้องบ่อยๆ

5. พัฒนาโดย SC Asset บริษัทใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในเรื่องการพัฒนาคอนโดระดับ Super Luxury และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม

ในด้านราคาขายของโครงการ ในปัจจุบัน Supply คอนโดในช่วงบริเวณสถานี MRT ศุนย์วัฒนธรรม ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น ไม่ค่อยมีโครงการคอนโดเหลือขายแล้ว แม้ว่าถนนเทียมร่วมมิตรจะเป็นถนนที่เดินรถทางเดียว แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษก และพระรามเก้า รวมถึงใช้ลัดเลาะไปออกบริเวณย่านห้วยขวาง รวมไปถึงย่านเลียบด่วนได้ง่ายมากๆ โดยราคาขายเฉลี่ยของโครงการที่ประมาณตารางเมตรละ 115,000 บาทนั้น ยังนับได้ว่ามีราคาที่ดีกว่าโครงการคอนโดใหม่ในย่านใกล้เคียงกันทั้งห้วยขวาง และพระรามเก้า ค่อนข้างมาก

สัมผัสประสบการณ์กับไลฟ์สไตล์คอนโดฯแนวคิดใหม่ CO-Being Community ใจกลางย่านรัชดา-พระราม 9 บนถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรม ที่ COBE รัชดา-พระราม 9

***PRE – SALE 19 – 20 Aug 2023

จองในงานรับทันที! Central Gift Voucher 10,000 บาท

พร้อมสิทธิ์ลุ้นรับ Lucky draw มูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท*

Samsung Galaxy Z Flip 5

ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ https://bit.ly/3CWPen3
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โครงการ หรือ Line : @cobe หรือโทร. 1749 /
รับชมวิดีโอได้ที่ Link : https://www.youtube.com/watch?v=7R9PnNKgDF4