เมื่อปลายปีที่แล้วมีเหตุการณ์อันเป็นที่จับตาของคนรักคอนโดอย่างมาก เมื่อ SINGHA ESTATE ประกาศการได้มาของที่ดินแปลงสวยขนาดเกือบ 2 ไร่ในซอยสุขุมวิท 43 เตรียมพัฒนาคอนโดมิเนียม low rise ระดับ luxury ภายใต้แบรนด์ใหม่

เหตุเพราะทุกคนเชื่อมั่นในแบรนด์คอนโดภายใต้ร่มเงาของ SINGHA ESTATE ที่ทำคอนโดมิเนียมแบรนด์ THE ESSE ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและเสียงชื่นชมมาแล้ว 3 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาททั้ง THE ESSE Asoke, THE ESSE at SINGHA COMPLEX และ THE ESSE Sukhumvit 36

จากข้อมูลล่าสุดทั้ง 3 โครงการได้รับผลตอบรับที่ดีโดยโกยยอด Backlog ไปแล้วกว่า 11,000 ล้านบาท หรือ 75% แยกเป็นสัดส่วนตามโครงการคือ

โครงการ THE ESSE Asoke เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2015 ปัจจุบันมียอดขายกว่า 80% ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนภายในปี 2018 ซึ่งจะถือว่าเป็นโครงการแรกของ SINGHA ESTATE ที่จะสร้างเสร็จ

โครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 โครงการสามารถ Sold out และปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน และโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ซึ่งเป็นโครงการที่เรียกได้ว่าเป็น New High ของโครงการติดรถไฟฟ้า ปัจจุบันมียอดขายกว่า 60%

ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบ ทำเล และการจัดสเปคให้อย่างไม่อั้น สมกับเป็นโครงการระดับ Luxury ที่ตอบโจทย์เรื่องความหรูหราได้อย่างครบถ้วนมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาด ภายใต้ Brand Concept “ THE ESSENCE OF LUXURIOUS LIVING” ซึ่งทุก ESSENCE ของความ LUXURY ได้ถูกสร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจ และสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีที่สุด จึงทำให้ทั้ง 3 โครงการได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ

หลายๆคนจึงรอคอยการเปิดตัวคอนโดมิเนียม low-rise แห่งแรกของ SINGHA ESTATE ว่ามาตรฐานแบบสิงห์ฯ จะรังสรรค์การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม 7 ชั้นได้ดีเพียงใด

แปลงสุขุมวิท 43 ของ SINGHA ESTATE เป็นที่ดินในซอย ทำให้สงบไม่มีรถขับเข้าออกมากนัก ยกเว้นรถของผู้พักอาศัยภายในซอยเอง เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นน่าอยู่ถอยห่างจากความวุ่นวาย ตรงความต้องการของผู้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยชั้นดีใจกลางเมืองแต่ไม่ต้องการอยู่ในสถานที่ที่พลุกพล่าน

ไม่น่าเชื่อว่าความสงบนี้จะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ที่เป็นที่ตั้งของ The EM District เพียง 550 เมตร

ผมเดินสำรวจในซอยนี้หลายต่อหลายครั้ง สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำคือ ผู้อยู่อาศัยในซอยเดินไปมา บางคนก็เดินออกกำลังโดยมีน้องหมาน่ารักๆเดินเป็นเพื่อน บางคนก็เดินกลับจากที่ทำงาน บางคนก็ใส่ชุดวิ่งเตรียมไปวิ่งที่สวนเบญจสิริ ที่ห่างออกไปไม่ไกล (ประมาณ 650 เมตร) เห็นแล้วอยากอยู่ทำเลนี้บ้าง ก็คอนโดที่ผมอยู่ผมตอนนี้ห่างออกไปจากซอยนี้อีก ตั้ง 2 ซอย แหะๆเดินไกลไปอีก

จุดเด่นอีกอย่างของซอยนี้คือการที่เมื่อขับรถออกจากซอยสามารถเลือกเข้าหรือออกเมืองได้ตามแต่ใจต้องการ เพราะปากซอยตั้งอยู่ตรง 4 แยกเล็กๆของถนนสุขุมวิทพอดี ไม่ต้องกลับรถให้เสียเวลา

การที่ที่ดิน “SINGHA ESTATE Sukhumvit 43″ ตั้งอยู่ติดกับพระตำหนักเลอดิส และ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา เป็นเครื่องชี้วัดได้ถึงความพรีเมียมได้ดีที่สุด ซึ่งทาง SINGHA ESTATE เองก็คัดสรรที่ดินแปลงนี้อย่างตั้งใจ เพราะทางทีมงานอยากทำคอนโด low-rise ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองมากๆ เนื่องจากมี demand จากกลุ่มคนหลายๆคนที่ต้องการอยู่คอนโดที่เงียบสงบไม่พลุกพล่านแต่ตั้งในทำเลระดับ super premium

ข้อแตกต่างระหว่าง SINGHA ESTATE Sukhumvit 43 กับคอนโด low-rise อื่นๆ นอกจากทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้ากว่าแล้ว การจัดที่จอดรถให้ได้ครบทุกยูนิต (เกิน100%) ก็เป็นจุดแตกต่างที่ใส่ใจ คนอยู่คอนโดระดับนี้ที่ใช้รถเป็นประจำอย่างแท้จริง

EMBRACE YOUR HIDDEN FASCINATION

HIDDEN NATURE, HIDDEN LEISURE, HIDDEN TREASURE, HIDDEN TRUE SELF

คือ KEY MESSAGE ที่สื่อตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย ตรงกับทำเลที่ตั้งและการออกแบบโครงการ โดยมาจากแนวคิดดังนี้

NEW LOW-RISE CONDOMINIUM ใหม่ ของ SINGHA ESTATE เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise ระดับลักชัวรี่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของ Urban Self lover หรือกลุ่มคนเมืองที่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างไร จึงมองหาคอนโดมิเนียมที่เป็น “Absolute Urban Retreat” หรือที่อยู่อาศัยที่ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย  ความเป็นส่วนตัว ความผ่อนคลาย  และให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถชาร์จพลัง หรือพักผ่อนได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

ภายใต้concept  Urban Hidden Treasure  ซึ่งประกอบด้วย

Hidden Gem Location : ที่ตั้งโครงการที่มีความสงบเป็นส่วนตัว ซึ่งแอบซ่อนอยู่ในใจกลางเมือง ที่มีความสะดวกสบาย มีไลฟ์สไตล์หลากหลายที่เหมาะกับคนเมือง

Hidden Life in Nature : การดีไซน์ที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางลม และแดด และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบให้ใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัย

Serve Everyone Hidden Needs : ใส่ใจทุกความต้องการที่แอบซ่อนของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวได้ดีมากที่สุด

Hidden Function in One Space :  Multi Function Facilities พื้นที่ส่วนกลางอารมณ์บ้าน ที่ซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย และเพิ่มโอกาสการพบปะกันระหว่างผู้อยู่อาศัย

แนวคิดทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศที่อยู่อาศัยที่เป็นเสมือนโลกส่วนตัว ที่จะทำให้คุณสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในทุกวัน “EMBRACE YOUR HIDDEN SELF” เมื่อคุณได้อยู่อาศัยในที่ที่เป็นเสมือนโลกส่วนตัว จะทำให้คุณได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของคุณที่แอบซ่อนอยู่”

SINGHA ESTATE Sukhumvit 43 เป็นคอนโด 7 ชั้น 2 อาคาร ตั้งฉากกัน โดยมีพื้นที่เปิดโล่งเป็นสวนสวยๆและสระว่ายน้ำ และชั้นจอดรถใต้ดิน มียูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 107 ยูนิต

ขนาดเริ่มต้นที่ 1 BED 52.25 – 54.4 ตารางเมตร , 2 BED 62.5 – 94.75 ตารางเมตร และ 3 BED 99.5 – 99.75 ตารางเมตร

การที่ทำชั้นแค่ 7 ชั้น แปลว่าเพดานของห้องพักสูงกว่าคอนโด low-rise ทั่วไปที่มี 8 ชั้นแน่นอน เป็นการยอมเสียพื้นที่ขายเพื่อเพิ่มความพรีเมียมให้กับโครงการ พร้อมกระจกเต็มบานเต็มความสูง

สวนส่วนกลางออกแบบได้เนียนตา ไล่ระดับ 3 ชั้นจนถึงสระว่ายน้ำ (ใช่ครับสระว่ายน้ำถูกยกลอยขึ้นมาไมใช่วางบนพื้นชั้น ground ธรรมดา)

SUNKEN SEAT ที่โครงการจัดมาก็น่าไปนั่งชิลล์ หลบกายซ่อนเร้นหนีห่างจากความวุ่นวายภายนอก ……แบบชายคนนี้

Co-Habitat Space : The LIVING ROOM ที่มีครัวสุดหรูมาให้ลูกบ้านใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ

การออกแบบระดับ world class เป็นจุดเด่นของ SINGHA ESTATE อยู่แล้ว

ไล่ตั้งแต่ The ESSE Asoke ที่ใช้ Palmer and Turner , The ESSE at Singha Complex เป็น KPF มาเป็นที่ปรึกษา และล่าสุดThe ESSE Sukhumvit 36 ที่ได้ SOM มาดูแลงานออกแบบ

SINGHA ESTATE Sukhumvit 43 ก็เช่นกัน

แม้จะยังไม่เฉลยว่าใช้สำนักไหนออกแบบ แต่ทางสิงห์กล่าวว่าได้ใช้ศิลปะแนว Impressionism เป็นแรงบันดาลใจ

**Impressionism เป็นงานศิลปะรูปแบบหนึ่งอันถือกำเนิดในศตวรรษ 19 โดยมีเอกลักษณ์ในการใช้เทคนิคการตวัดพู่กันให้เกิดเส้น สีก็ไม่ได้ทำการผสมหรือแยกสีใดๆ ทำให้ได้ภาพในความรู้สึกแบบเป็นธรรมชาติรวมทั้งมีชีวิตชีวา ส่วนพื้นผิวนั้นมักจะเกิดจากการระบายสีลงไปแบบหนา ๆ โดยต้นกำเนิดของศิลปะแบบ Impressionism มาจากความรู้สึกประทับใจของมนุษย์จากสิ่งแวดล้อมที่เป็นสิ่งเร้าใจ เนื้อหาของภาพมักจะเป็นเรื่องทั่วไป แต่มีมุมมองที่พิเศษแตกต่าง**

ถ้าซื้ออยู่เองเชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ในแง่การลงทุนล่ะ ?

หลายคนอาจมองไปยังคอนโดเพื่อนบ้านที่มีรูปแบบคล้ายๆกันคือเป็น Luxury Low-rise condominium อย่าง ASHTON Residence 41 (ที่ยังมีห้องเหลือขายพอสมควร) แล้วหวั่นๆแต่ถ้าพิจารณาดีๆ จะพบว่าขนาดห้องของ SINGHA ESTATE Sukhumvit 43 มีความ compact กว่าพอสมควร ASHTON Residence 41 ห้องเริ่มต้น 68.5 ตารางเมตร และห้องส่วนใหญ่มีขนาดมากกว่า 120 ตารางเมตร  ห้องเล็กกว่า ทำให้ราคารวมถูกกว่า ซื้อขายเปลี่ยนมือปล่อยเช่าง่ายกว่า

ผมมองว่า Low-rise luxury ที่มีขนาดห้องประมาณ SINGHA ESTATE Sukhumvit 43 ยังไม่มีในทำเล Mid Sukhumvit ความเป็น supply ที่ขาดหาย จึงทำให้น่าสนใจในการลงทุนครับ แต่คงต้องเป็นนักลงทุนที่มีความเป็น Thoughtful Investor ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีแนวโน้มว่าจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองอยากอยู่เองด้วย ไม่ได้มองมุมมองเฉพาะเรื่องผลตอบแทนการลงทุนอย่างเดียว (แตกต่างจาก Professional Investor ซึ่งจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในหลากหลาย segment โดยเน้นเรื่องผลตอบแทนการลงทุนเป็นหลัก)

**ในสมมติฐานที่ราคาขายต่อตารางเมตร ใกล้เคียงกับ ASHTON Residence 41 คือสองแสนกลางๆต่อตารางเมตร**

อีกอย่างคอนโดที่เหลือขาย เปิดใหม่ และเตรียมที่จะเปิดในรัศมี 1 กิโลเมตรจากโครงการนี้ ราคาสูงสุดๆและจะทำสถิติสูงไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน

สนใจเข้าชมโครงการก่อนใคร : http://bit.ly/2ycE5Ad