แยกเพลินจิต เป็นแยกที่นับว่าแพงที่สุดในประเทศไทย มีการทำลายสถิติประเทศไทยในการซื้อขายเปลี่ยนสิทธิความเป็นเจ้าของที่ดินหลายต่อหลายครั้ง เริ่มจากความฮือฮาเมื่อครั้งนั้น ตอนที่กลุ่มเซนทรัล ชนะการประมูลซื้อที่ดินสถานทูตอังกฤษ ในราคา 9.5แสนบาทต่อตารางวา นำมาสร้างเป็นห้าง flagship อย่าง Central Embassy จำได้ว่าเป็นข่าวดังมากที่ ราคาที่ดินจะแตะ 1 ล้านบาทต่อ ตารางวาแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน เฮียตัน อิชิตัน ก็เข้าเก็บเพลินจิตอาเขต ที่ดินขนาด 9 ไร่ และที่ดินข้างเคียงที่เดิมเป็นปั๊มป์ Caltex อีกเกือบ 2 ไร่ เตรียมพัฒนา super project แต่ถือครองไม่นานก็ขายส่วน 9 ไร่ ส่งต่อให้ ไรมอนแลนด์ ภายใต้การบริหารของกลุ่มทุนดูไบ (ตอนนี้กลุ่มดูไบขายหุ้นต่อให้กลุ่มทุนสิงคโปร์แล้ว)  ในราคาสถิติประเทศที่ 1.2 ล้านบาทต่อ ตารางวา ฟันกำไรกันไปหลักพันล้าน

ไรมอนแลนด์ ในสมัยนั้นกลับโชคร้ายจังหวะไม่ดี ประสบปัญหาทางการเงิน เจอภาวะเศรษฐกิจโลก จึงต้องยอมกลืนเลือด ขายขาดทุนที่ดินแปลงเพลินจิต ต่อให้โนเบิล ดีเวลอปเมนท์ นำมาพัฒนาโครงการโนเบิลเพลินจิต จนจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้  (ไรมอนแลนด์ขายที่ให้โนเบิล 6 ไร่ ขายให้กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ 3 ไร่ ต่อมาโนเบิลได้เก็บที่ดินเพิ่มเติมจาก กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ ในราคาสถิติประเทศที่ 1.5 ล้านบาท ต่อตารางวา )  

ภาพโนเบิลเพลินจิต

ที่ดินในมือเฮียตันที่เหลือ ในที่สุดก็ส่งต่อเปลี่ยนมือมาสู่ Rende development ในปัจจุบัน

ภาพ super project ของเฮียตันที่ศึกษาโดย a49 (credit CHAD skyscraper city ) ในขอบสีแดงคือส่วนที่ดินที่ขายต่อให้ Rende

Rende Development ได้ที่ดินเพลินจิตที่อยากได้มานาน สมหวังเติมเต็มความฝัน เพราะถ้าอ้างอิงจากข่าว กลุ่มครอบครัวผู้ก่อตั้ง Rende Development ก็ได้พยายามเข้าร่วมศึกการแย่งชิงที่ดินแปลงสวยที่แยกเพลินจิตนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ แม้ขนาดจะเล็กลงมา แต่ก็สามารถพัฒนาโปรเจกที่ยิ่งใหญ่ได้  (ภายหลังยังมีการซื้อที่ดินด้านหลังเพิ่มเติมให้ขนาดที่ดินใหญ่ขึ้นและเชื่อมต่อกับซอยด้านหลัง)

Rende เลือกที่จะพัฒนาเป็นโรงแรมสุดหรู สุดพรีเมี่ยม โดยมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง

อย่างแรก การเลือกใช้นักออกแบบระดับโลกอย่าง KPF (Kohn Pedersen Fox) เข้ามาเป็นที่ปรึกษาหลักในการออกแบบ ทำให้ตึกออกมาดูว้าว ดูดี ดูแปลกทันสมัย  จนทำให้ในปี 2014 สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับ GOLD จาก mipim asia awards ในสาขา Futura project มาครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี  และเป็นโปรเจกแรกในประเทศไทยของ KPF ด้วย

ภาพการรับรางวัล

อย่างที่สองคือ การเลือกเชนโรงแรมชื่อดัง อย่าง ROSEWOOD เข้ามาบริหาร โดยวางเซกเมนท์ที่ ultra-luxury hotel เป็นหนึ่งในโรงแรมสุดพรีเมียมที่สุดในกรุงเทพมหานคร

ROSEWOOD PLOENCHIT เตรียมเปิดให้บริการในปี 2019  ในปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่โดยบริษัท RITTA ผู้รับเหมาคุณภาพ

ตึกนี้มีจุดเด่นที่ พื้นที่เปิดโล่งเป็น atrium กลางตึก และเส้นสายการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากการไหว้ เอกลักษณ์ของคนไทย เติมเต็มความหลากหลายและสวยงามให้ skyline แยกเพลินจิต ไม่แพ้โครงการอื่นๆในย่านนั้นอย่างแน่นอน

ข้อมูลเบื้องต้น

ทีมออกแบบ

KPF (design consultant), Tandem Architects (Executive Architect), Celia Chu Design (Interior Designer)

มีพื้นที่อาคาร 24,000 m2 / 258,400 ft2 , จำนวนห้อง 133 ห้อง ตึกสูง 32 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถระบบอัตโนมัติด้านหลัง 11 ชั้น

masterplan