ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว เป็นยุคที่ตลาดคอนโดในกรุงเทพฯชั้นในเฟื่องฟูถึงขีดสุด โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดระดับ Luxury ที่มีราคาขายมากกว่าตารางเมตรละ 200,000 บาทขึ้นไป ในตอนนั้นบริษัท ออริจิ้นฯ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการรุกตลาดคอนโดในกลุ่มนี้ผ่านสปริงบอร์ดสำคัญด้วยการเทคโอเวอร์โครงการ Park 24 มาจากกลุ่ม Proud Real Estate ก่อนที่จะนำมาต่อยอดพัฒนาแบรนด์หลักอย่าง Park Origin ให้เป็นอาวุธหนักในการลุยตลาด Luxury และกลุ่ม IP (Investment Property) ที่จับกลุ่มนักลงทุนที่มองหาห้องปล่อยเช่าในแบบการันตีผลตอบแทนรายปี ด้วยความได้เปรียบของแบรนด์ Park ที่มี Awareness แข็งแรงในหมู่คนต่างชาติอยู่แล้วจากโครงการ Park 24 เดิม เงินทุนมหาศาลจากพาร์ทเนอร์โนมุระ เรียล เอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ และการมองภาพอนาคตของพี่โด่ง พีระพงศ์ จรูญเอก ที่มีความฝันอยู่เสมอว่าสักวันจะต้องนำเอาสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นทุนเดิมอย่างธุรกิจ Hospitality มาควบรวมเข้ากับการพัฒนาโครงการคอนโด ที่พ่วงเอา Service ตามแบบอย่างมาตรฐานโรงแรมชั้นนำของโลกให้ได้ (ไม่ใช่แค่เสนอ Service เป็น Option เสริมรายโครงการ แต่ต้องสร้าง Engagement Platform ในระยะยาว จนออกมาเป็นแบรนด์ใหม่) จึงเกิดมาเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีชื่อว่า PARK Origin (พาร์ค ออริจิ้น) ที่ประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลัก 3 อย่างคือ NATURE & TECHNOLOGY & COMMUNITY ที่จะสร้างคุณค่าในแง่ Living Economy ที่มีทั้งธรรมชาติ คอมมูนิตี้การอยู่อาศัยและ เทคโนโลยี ที่เข้ามาทำให้เกิดเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อม คุณภาพชีวิตที่ดี ดั่ง Brand Idea ที่วาดเอาไว้คือ A Perfect Living Platform

สำหรับคอนโด PARK ORIGIN ล้วนถูกพัฒนาขึ้นในทำเลใจกลางเมือง โดยในปัจจุบันมี 4 โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ได้แก่ 1.PARK Origin Phayathai 2.PARK Origin Thonglor 3.PARK Origin Phrom Phong 4. PARK Origin Ratchathewi และอีกหนึ่งโครงการที่กำลังสร้างอยู่อย่าง PARK Origin Chula – Samyan โดยแต่ละทำเลก็จะมีแนวคิดของโครงการที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายแต่ละแห่ง เนื่องจากบริบทของแต่ละทำเลมีความแตกต่างกัน ทางทีมงานผู้สร้าแบรนด์จึงได้กำหนดภาพของ Brand Persona ที่มีบุคคลิก ลักษณะทางจิตวิทยาแตกต่างกันไป เป็น 3 เผ่าพันธุ์ประกอบด้วย เผ่าพันธุ์ MOBILITOR เผ่าพันธุ์ LIFESTYLENISTA และเผ่าพันธุ์ TREND ADDICT

สำหรับ PARK Origin Thonglor เป็นคอนโดที่มีความโดดเด่นที่สุดใจกลางย่านไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ทองหล่อ 10 ซึ่งเป็น Top Living Destination ของกลุ่ม Celeb และ Young Millionaire ที่มีพลังในการใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ในย่านสุดฮิปที่ไม่เคยหลับใหล ที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ 24 ชั่วโมงไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ช้อป ชิม ชิลล์ หรือแม้แต่เสพงานอาร์ทผ่านสถาปัตยกรรมอันน่าหลงใหลของหลายอาคารในย่านนี้ ดังนั้นกลุ่มเป้าหมาย ก็จะมี Attitude & Lifestyle ที่ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นกลุ่ม LIFESTYLENISTA หรือคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกในการใช้ชีวิตบนทำเลที่ “หล่อ” ที่สุด ชอบไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ชอบความซ้ำซาก จำเจ สนุกกับการใช้ชีวิต ทั้งกลางวัน และกลางคืน เป็นคนชอบสังคม ชอบอยู่ใกล้แหล่งอาหาร การกิน สถานบันเทิง ชอบเสพงานศิลป์ ตามสตูดิโอ บาร์ฮิปๆ และแกลลอรี่ แต่ในบางมุม…ก็ชอบหลบหลีกความวุ่นวาย ซ่อนตัวภายใต้ร่มเงาแห่งธรรมชาติ

โครงการ PARK Origin Thonglor ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ 10 หรืออดีตคือโครงการ ARENA 10 เป็นจุดศูนย์กลางของย่านทองหล่ออย่างแท้จริง เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากแหล่งแฮงค์เอ้าท์ชั้นนำในระยะที่เดินไม่กี่นาที และเยื้องกับ Donki Mall Thonglor ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่มีร้าน Donkiแห่งแรกในประเทศไทยตั้งอยู่ตัวโครงการมีความโดดเด่นเหนือใครด้วยการเรียงตัวกันในแบบลดหลั่นความสูงของอาคารแฝดทั้ง 3 อาคาร บนความสูง 39, 53 และ 54 ชั้น เชื่อมต่อกันระหว่างอาคารด้วยทางเดินลอยฟ้าบนพื้นที่ส่วนกลาง จุดเด่นของโครงการคือ พื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ ใจกลางทองหล่อ ที่รักษาต้นไม้เก่าแก่ ซึ่งมีอายุราว 60 ปี ให้ยังคงอยู่ รังสรรค์เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวที่สุด

PARK Origin Thonglor มี 3 อาคารสูง Sculpture, Lake, Tree ตั้งบนพื้นที่สวนขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อกับสวนของ Origin Thonglor World เป็นเนื้อเดียวกัน สร้างความร่มรื่นน่าอยู่แบบหาที่อื่นในทองหล่อแทบไม่ได้ การดีไซน์ของอาคาร มาจากเปลือกไม้ที่ค่อยๆ เปิดออก ทางทีมผู้พัฒนาจึงนำ concept ของเปลือกไม้ มาใช้ในการ ดีไซน์ façade โครงการ สื่อถึงการเปิดออกของเปลือกไม้เพื่อให้เห็นถึงแก่นในของต้นไม้ โดยทุกๆ facilities จะมีเปลือกไม้อยู่และค่อยๆเปิดๆออกเพื่อให้เห็นสิ่งที่พิเศษด้านใน อาคาร A (Sculpture) สูง 39 ชั้น 375 ยูนิต อาคาร B (Lake) 53 ชั้น 478 ยูนิต อาคาร C (Tree) 59 ชั้น 329 ยูนิต รวมๆแล้วคือ 1,182 ยูนิต ที่จอดรถอัตโนมัติประมาณ 54% ขนาดที่ดินรวม 5-3-90.9 ไร่

แต่ละอาคารมีรูปแบบห้องที่แตกต่างกันออกไปได้แก่

Tower A: 1 Bedroom : 31.50 – 34.50 ตร.ม., 2 Bedrooms : 44.50 – 67.50 ตร.ม.

Tower B:1 Bedroom : 30.00 – 36.0 0 ตร.ม.,2 Bedrooms : 40.50 – 45.00 ตร.ม., 2 Bedrooms Combine : 65.50 ตร.ม., และ 3 Bedrooms Combine : 99.50 ตร.ม.

Tower C: 1 Bedrooms : 32.50 – 33.50 ตร.ม., 2 Bedrooms : 45.50 – 51.50 ตร.ม., 2 Bedrooms Duo Space : 32.50 – 46.00 ตร.ม., 2 Bedrooms plus Duo Space : 47.50 – 51.50 ตร.ม., 2 Bedrooms Penthouse : 55.00 – 66.50 ตร.ม., และ 3 Bedrooms Penthouse : 97.00 ตร.ม.

โดยอาคาร C จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในย่านทองหล่อเมื่อสร้างเสร็จด้วยความสูงประมาณ 241 เมตร และเป็นอาคารที่มีห้อง Duo Space เพดานสูงด้วยครับ ซึ่งอาคาร C นี้ที่พักจะเริ่มที่ชั้น 16 เป็นแบบ Simplex ไปถึงชั้น 26 พอชั้น 27 ขึ้นไปจะกลายเป็น Duo Space (ห้องพักปกติสูง 3.0 เมตร / ห้องพัก Duo Space สูง 4.2 เมตร (พื้นที่ในโฉนดไม่รวมชั้นลอย) / ห้องพัก Penthouse เพดานสูง 3.5 เมตร)

โครงการมาพร้อมระบบ Home Automation และขายแบบ Fully Fitted พร้อมบริการตามมาตรฐาน IHG ทั้งบริการ Concierge, Hpuse Keeping, Guest Relations และ Enginerring

ตอนนี้ราคาเฉลี่ยห้องแบบ Simplex อยู่ที่ตรม.ละ 3 แสนบาท และ Duo Space นับเฉพาะพท.ชั้นล่างอยู่ที่ประมาณตรม.ละ 360,000 บาท โดยมีราคาเริ่มที่ 10.9 ลบ.สำหรับห้อง Duo Space 46 ตรม. (33 + 13 ตรม.)

ห้องตย 3 ห้องนอน 100 ตรม. ขายห้องตย.ราคา 35 ลบ.เพราะเหลือห้องสุดท้ายแล้ว