KHUN by YOO inspired by Starck 10 ยูนิตสุดท้าย ของ Branded Residences สุด Rare ระดับโลกหนึ่งเดียวในไทย
ช่วงขวบปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่ากลุ่มสินค้าคอนโดภายใต้พอร์ตโฟลิโอ Sansiri Luxury Collection (SLC) จะถูกกลบกระแสไปด้วยความร้อนแรงของกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูภายใต้พอร์ตเดียวกันพอสมควรครับ เพราะเปิดเท่าไหร่ก็มีขายไม่พอ และส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าทางแสนสิริทิ้งช่วงในการเปิดโครงการคอนโดใหม่นานเกินไป โดยคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าห้องคอนโดในกลุ่ม SLC อย่าง KHUN by YOO inspired by Starck และ The Monument Thong Lo นั้นขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว…แต่จริงๆแล้วยังมีเหลืออยู่น้อยมากครับเพียงแค่ 10 ยูนิตในโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck เพียงแห่งเดียว โดยตอนนี้ทางทีมงานของแสนสิริเค้าก็อยากจะสร้างความแปลกใหม่ที่พิเศษมากกว่าเดิมให้กับโครงการจากเดิมที่เน้นสไตล์การตกแต่งที่ลึกลับ แต่หวือหวา ไม่ยึดติดกับกรอบใด ๆ ในสไตล์ของฟิลิปป์ สตาร์ค ที่เน้นกลุ่ม New Luxury ก็มาเป็นเรียบนิ่ง มีความเป็น Authentic Luxury แต่ใส่ความ Humble ลงไปผสมผสานอย่างลงตัวด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ ของห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 82 ตรม. ที่ถูกถ่ายทอดอารมณ์ และบรรยากาศโดย CHANINTR LIVING ครับ ที่ใช้เวลาเสาะหาเฟอร์ฯให้ลงตัวกับห้องรวมระยะเวลาตกแต่งยาวนานถึง 3 เดือน! ซึ่งห้องตัวอย่างดังกล่าวเค้าก็ขายด้วยนะ ทราบมาว่าขายในราคา 35.99 ลบ.* (ไปเช็คให้ชัวร์กับจนท.อีกทีก็ได้ครับ ไม่แน่ใจว่าผมได้ยินผิดไหม) ซึ่งตอนนี้ห้องที่เหลือของโครงการจะมี 2 ห้องนอน เพียงแค่ 2 ขนาดเท่านั้นครับ คือ 82 และ 97 ตรม. โดยมีห้องชั้น 7 ที่เค้าจัดโปรฯราคาพิเศษ Fully Fitted ราคาเริ่มต้น 25.99 ล้านบาท*
ห้อง 2 ห้องนอนของ KHUN by YOO inspired by Starck เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาห้องไซส์ใหญ่ใจกลางทองหล่อ มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 82 ตร.ม. และ 97 ตร.ม. ทั้งหมดเป็นห้องมุม มีระเบียงและกระจกใหญ่ ทำให้รับวิวเมืองได้แบบจัดเต็ม 180 องศา Layout ถูกแบ่งให้เป็นสัดส่วน ห้องใหญ่ อยู่อาศัยได้จริง และด้วยวัสดุภายในห้องเป็นแบรนด์คุณภาพ ระดับลักซ์ชัวรี อย่างห้อง 97 ตร.ม. มีครัวและ Pantry ที่ติดกับโซนรับประทานอาหาร สามารถจัด Party ในกลุ่มเพื่อนได้ ตอบโจทย์ทั้งอยู่เองและลงทุน เพราะสามารถปล่อยเช่าได้ต่อเนื่อง ห้องขนาด 2 ห้องนอน มี Rental Yield ประมาณ 5-6% ต่อปี โดยมีห้อง 2 ห้องนอน สามารถทำสถิติปล่อยเช่าได้สูงถึง 150,000 บาทเลยทีเดียว
สำหรับดีเทลของการตกแต่ง ทางทีมงาน CHANINTR LIVING มองว่าโครงการฯมีความหลากหลายในการอยู่อาศัยค่อนข้างมาก เพราะมีตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงผู้สูงวัย และยังมีผู้คนหลายเชื้อชาติมาใช้ชีวิตร่วมกันจึงอยากทำให้รูปแบบห้องสามารถ Apply กับคนหลายๆกลุ่มได้ โดยที่ไม่อยากทำให้ห้องดูสวยเด่นมากเกินไป จนบดบังความสวยงามตามแบบฉบับ Raw Beauty ของภายในห้อง ที่มีจุดเด่นคือ ผังและ Area ของห้อง ที่เป็นสี่เหลี่ยมง่ายๆไม่มีหลืบซอก จึงมองไปที่ Standard Item ที่ห้องมีอยู่แล้วก่อนอย่างพื้น Engineered Wood สีส้ม ซึ่งค่อนข้าง Match กับการตกแต่งในสไตล์ มิดเซนจูรี่ โมเดิร์น (MID-CENTURY MODERN) เป็นสไตล์ที่โดดเด่น ในช่วงปี 1940 และ ที่ยังคงอยู่รอดมาข้ามศตวรรษ ด้วยเส้นสายการตกแต่งมีความเริยบง่าย มีความเป็น Old Money มีความ Luxury แต่ Humble ผสมผสานอย่างลงตัวด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ ระหว่างสิ่งที่ได้มาจากธรมชาติ เช่น ไม้จริง หนังจริง กับงานที่ทำจากมือ รูปร่างที่เป็นกราฟฟิคและสีสัน แต่ะจะเน้นสีเหลืองอ่อนในโทนน้ำตาล สีสัม สีน้ำตาลและสีคัสตาร์ด เฟอร์นิเจอร์ของสไตล์นี้ จะเริยบง่าย มิความ โค้งมน และมีส่วนผมของวัสดุที่ได้มาจากธรรมขาติรวมอยู่ในขึ้นงาน และไม้ที่นิยมใช้ ได้แก่ ไม้ลัก ไม้โรสวูด และโอ็ค เป็นไม้ที่ได้รับความนิยมในการทำเฟอร์นิเจอร์สไตด์มิดเซนจูรี่อีกด้วย เช่นเดียวกับเพิ่มความเป็น Danish Look เข้าไปโดยมีการ Collab กับหลายแบรนด์ อาทิ Fredericia, Wegner J 16 Stool, Wendelbo ในตัวของ Coin Round Table, โต๊ะกลาง Coffee Table ที่มี Top ด้านบนเป็นฝาเปิดปิด จาก Menu Space ที่นำเอา Philosophy ของ Denmark ที่เน้นดีไซน์โค่งมน ตัดเหลี่ยมออก เป็น Turning Table ที่สามารถจัดวางได้หลายที่ โดยมีสัญลักษณ์ของงาน Craftmanship เป็นเก้าอี้หวาย easy chair แบรนด์ Phantom Hands จากอินเดีย ดีไซน์ตั้งแต่ปี 1950 ที่ใช้มือทำทั้งหมดไม่มีเครื่องจักร และมีการขัดเพื่อให้เกิดรูปทรง เช่นเดียวกับ Joint ที่แข็งแรง และความ Craftmanship ที่ไม่ได้มีการถักหวายมาแปะ แต่เป็นการทำกรอบไว้ก่อนและสานหวายไปกับไม้เลย เก้าอี้ตัวนี้พอเอามาวางคู่กันกับสตูลไม้ทีคของ Frama จาก Italy ก็ดูลงตัว Match กันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ปกติแล้วสตูลตัวนี้มักจะถูกเอาไว่ใช้นั่งอาบน้ำมากกว่า