“Concentration” is the new asset class เพราะ “สมาธิ” คือสินทรัพย์ที่กำหนดว่าเราจะได้อยู่ชนชั้นระดับไหนในโลกอนาคต

ต่อทอง ทองหล่อ 04 November, 2025 at 08.00 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


การลงทุนไม่ว่าจะเป็นในตลาดหุ้น ตลาดเงิน คริปโต อสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจอื่นๆ ล้วนต้องการทรัพยากรทางจิตใจหนึ่งเดียวที่มักถูกมองข้ามนั่นคือ Concentration หรือสมาธิ มันคือการโฟกัสอย่างมีสติและสามารถอยู่กับสิ่งที่สำคัญได้ยาวนานกว่าใคร เพราะในโลกที่ข้อมูลข่าวสารไหลทะลัก และแรงกดดันจาก noise หรือสิ่งรบกวนต่างๆ เยอะมากมาย นักลงทุนที่มีสมาธิเป็นพื้นฐานจะได้เปรียบอย่างชัดเจน

 

สมาธิ (Concentration) ทรัพยากรทางจิตใจที่นักลงทุนต้องมี

ยกตัวอย่าง เมื่อผู้ลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้มีแค่มูลค่าของที่ดินและอาคารเท่านั้น แต่คือ การเลือก การวิเคราะห์  การถือครองอย่างมีวินัย  ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยสมาธิที่มั่นคง เหมือนกับตลาดหุ้น นักลงทุนไม่ได้ชนะเพราะซื้อถูกขายแพงเพียงชั่วข้ามคืน แต่ชนะด้วยการอยู่ได้นานกว่า เลือกอยู่ในหุ้นที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการไหลไปตามความถาโถมโจมตีของข่าวสารหรือแรงกระตุ้นต่าง ๆ

สมาธิเป็นทุนทางจิตใจที่ช่วยให้เราสามารถอยู่กับสิ่งที่สำคัญนานกว่าคนอื่น วิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด หากเราไม่มีสมาธิ มีโอกาสสูงที่จะพลาดจังหวะลงทุนที่ควรรอ หรือจะถูกแรงแทรกแซงจากเสียงรอบข้างจนโยกย้ายพอร์ตไวเกินไป

 

สื่อดิจิทัลและการหลุดโฟกัส คือภัยเงียบต่อนักลงทุน

ปัจจุบันสิ่งที่ทำให้สมาธิรั่วไหลได้ง่ายคือ โซเชียลมีเดีย มือถือ และ notification แจ้งเตือนนับครั้งไม่ถ้วน งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้สื่อหลายช่องทางพร้อมกัน (media multitasking) ส่งผลลบต่อความสามารถของสมองในการโฟกัสและคิดให้ลึก

จากงานวิจัยของ Anthony Wagner ของมหาวิทยาลัย Stanford สรุปว่าคนที่ใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันบ่อย ๆ ทำงานความจำด้อยลง อีกบทความสรุปงานวิจัยเรื่อง Media Multitasking and Cognitive, Psychological, Neural, and Learning Differences สรุปว่า เด็กและเยาวชนใช้สื่อเฉลี่ยถึงวันละ 7.5 ชั่วโมง โดยเกือบหนึ่งในสามของเวลานั้นเป็นการใช้หลายสื่อพร้อมกัน (Media Multitasking หรือ MMT) ซึ่งสัมพันธ์กับความแตกต่างด้านสมอง การรับรู้ และพฤติกรรมทางจิตใจ คนที่มีแนวโน้มใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันมักมีความจำระยะสั้นและระยะยาวแย่กว่า ควบคุมความสนใจและแรงกระตุ้นได้ยากกว่า รวมถึงมีความเสี่ยงต่อความกังวลและซึมเศร้ามากขึ้น งานวิจัยยังพบว่าการทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกันระหว่างเรียนหรือทำการบ้านทำให้ผลการเรียนลดลง แม้ยังไม่สามารถสรุปเหตุและผลได้แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พิจารณาลดการใช้สื่อพร้อมกันระหว่างทำงานหรือเรียนรู้เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสมองและการเรียนรู้ในระยะยาว

จากงานวิจัยเหล่านี้พอจะบอกได้ว่า สำหรับนักลงทุนแล้ว ถ้าสมาธิของเราโดนถ่ายโอนให้มือถือให้โซเชียลมีเดียหรือโดนรบกวนจากแอปต่างๆ ไม่หยุด เราอาจสูญเสียความสามารถในการอ่านแนวโน้มหรือรอจังหวะอย่างมีสติได้

 

ยิ่งเสพ Social Media มาก ยิ่งยากจนจริงหรือไม่

พบข้อสังเกตเชิงข้อมูล จำนวนชั่วโมงการใช้โซเชียลมีเดีย กับระดับ GDP ต่อหัว จากการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างคร่าวๆ จาก 22 ประเทศทั่วโลก โดยเปรียบเทียบ “เวลาใช้โซเชียลมีเดียเฉลี่ยต่อวัน” กับ “รายได้ต่อหัว (GDP per capita)” พบข้อสังเกตเชิงข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจ นั่นคือแนวโน้มที่ชัดเจนว่า ประเทศที่ร่ำรวยกว่ามักใช้โซเชียลมีเดียน้อยกว่า โดยมีความสัมพันธ์ของข้อมูลที่อาจตีความหมายได้ว่า ยิ่งรายได้เฉลี่ยต่อคนสูง ประชากรยิ่งใช้เวลาน้อยลงบนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรัมน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ใช้เวลากับ Social Media เพียง 1–2 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ เคนยา และแอฟริกาใต้ ใช้เวลาบน  Social Media เกิน 2 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวัน

แนวโน้มนี้อาจสะท้อนความแตกต่างด้านโครงสร้างเศรษฐกิจและพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละประเทศ ประเทศรายได้สูงมักมีแรงงานที่ทำงานในสายอาชีพที่ใช้สมาธิและการวิเคราะห์มากกว่า อีกทั้งให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพิ่มคุณค่าในชีวิต เช่น การอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือพัฒนาทักษะ ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนามักมีสัดส่วนประชากรวัยรุ่นสูง และใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารและแสดงตัวตน จึงใช้เวลาบนสื่อออนไลน์มากกว่า ซึ่งภาพรวมอาจสะท้อนว่าความสามารถในการจัดการเวลาและสมาธิ อาจเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของสังคมที่ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจหรือไม่ ประเด็นนี้ควรตั้งข้อสังเกตและนำมาทำเป็นงานวิจัยที่สมบูรณ์ และสังคมไทยควรตั้งคำถามกับประเด็นนี้ด้วยว่าเราอยากเห็น GDP ไปในทิศทางใด

ทำอย่างไรให้สมาธิกลายเป็นสินทรัพย์ทางจิตใจสำหรับการลงทุน

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปในเรื่องความเก่ง แต่ต่างกันที่พวกเขาควบคุมความสนใจของตัวเองได้ดีกว่า สมาธิจึงไม่ใช่แค่เรื่องจิตใจ แต่สามารถนำมาตีความเป็น Mental Asset หรือสินทรัพย์ทางจิต ที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้จริง หากฝึกสร้างสมาธิอย่างมีระบบ

 

ระบบที่ 1 ตั้งระบบช่วงเวลาปลอดสื่อดิจิทัล (Digital-Free Focus Block)

จากบทความงานวิจัยเรื่อง The Cost of Interrupted Work: More Speed and Stress พบว่า การถูกรบกวนระหว่างทำงานทำให้ใช้เวลาฟื้นสมาธิกลับมานานถึง 23 นาที ต่อครั้ง และเพิ่มระดับความเครียด ดังนั้นการกันเวลาปลอดสิ่งรบกวนจึงไม่ใช่เรื่องพูดกันขำๆ แต่เป็นกลยุทธ์เพิ่มผลผลิตทางสมองที่ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นในทุกสาขาอาชีพ

Solution: เราอาจกำหนดเวลาช่วงเช้าหรือก่อนเริ่มงานอย่างน้อยวันละ 60–90 นาที ปิดโทรศัพท์ ปิดทีวี ปิดทุกการแจ้งเตือน ไม่แตะมือถือ โฟกัสเฉพาะแค่อุปกรณ์ทำงาน ซึ่งอาจจะเป็นหนังสือ คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต โดยใช้ช่วงนี้สำหรับคิดวิเคราะห์ตลาด อ่านข้อมูล หรือวางกลยุทธ์ระยะยาว

ระบบที่ 2  ฝึกโฟกัสทีละเรื่องเดียว (Single-Task Thinking)

จากงานวิจัย Cognitive control in media multitaskers (Ophir, Nass & Wagner, 2009) พบว่า ผู้ที่มีพฤติกรรม “ใช้สื่อหลายช่องทางพร้อมกัน” (heavy media multitaskers) มักมีความสามารถในการควบคุมความสนใจต่ำกว่า โดยคนที่มีพฤติกรรมนี้จะสะสมความรบกวนจากสิ่งเร้าภายนอกและข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องได้ง่ายกว่า และเมื่อถูกทดสอบด้านการเปลี่ยนงาน (task switching) พวกเขาทำได้ช้ากว่าและผิดพลาดมากกว่าผู้ใช้สื่อน้อย (smart-multitaskers) จากงานวิจัยชี้ว่า “การเปิดหลายหน้าจอหลายข้อมูลพร้อมกัน” อาจลดความสามารถในการคิดลึกและการตัดสินใจอย่างมีสมาธิ

Solution: เราควรตั้งระบบพฤติกรรมให้เลิกเปิดหลายหน้าจอพร้อมกัน ไม่อ่านข่าวพร้อมเทรด ไม่วิเคราะห์พร้อมตอบไลน์ ให้เลือกสิ่งสำคัญที่สุดเพียงหนึ่งเรื่อง แล้วอยู่กับมันเต็มที่จนจบ อย่าทำ multitasking แม้เทคโนโลยีและสังคมโลกจะเอื้อให้เราทำหลายอย่างพร้อมกันก็ตาม

นักลงทุนที่สามารถอยู่กับข้อมูลเดียวได้ลึกกว่า จะอ่านสัญญาณตลาดและมองเห็นโอกาสจริงได้ก่อนใคร

ระบบที่ 3 โฟกัสแล้วต้องพักฟื้นฟู (Mental Recovery Routine)

จากงานวิจัย The Role of Deliberate Practice in the Acquisition of Expert Performance (Anders Ericsson, 1993) พบว่า ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในทุกวงการมีลักษณะร่วมคือ Deep focus + deliberate rest ฝึกแบบโฟกัสเป็นช่วงสั้น ๆ แล้วพัก

นอกจากนี้อีกงานวิจัย Cognitive Fatigue and Performance (ScienceDirect, 2017) บอกว่าการพักอย่างมีคุณภาพทำให้สมองฟื้นฟูพลังในการตัดสินใจและวิเคราะห์ได้เร็วขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับการทำงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก

Solution: เราควรหาจังหวะให้สมองพักเพื่อประมวลผล เช่น หลังจากทำงานอย่างมีสมาธิ มีโฟกัสหนักๆ 90 นาที ให้ลุกเดิน ดื่มน้ำ หรือทำสมาธิสั้น ๆ 5 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่อีกโหมดซึ่งเป็นช่วงที่ไอเดียใหม่ ๆ มักเกิดขึ้น แนวคิดนี้คล้ายกับการทำเทคนิค Pomodoro Technique ที่ให้ทำงานอย่างมีสมาธิ 25 นาที แล้วพัก 5 นาที

 

Key takeaway

ไม่ว่าเราจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น หรือธุรกิจอื่นใด สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จไม่ได้มีต่างจากกันคือการมี Concentration มีสมาธิที่ตั้งมั่น พวกเขาไม่ปล่อยให้มือถือหรือโซเชียลมีเดียมาขโมยทุนทางจิตใจ พวกเขาเลือกที่จะอยู่กับสิ่งที่สำคัญ รอจังหวะ วิเคราะห์ลึก และถือครองอย่างมั่นคง เพราะในที่สุดแล้ว “ทรัพย์สินที่มีคุณค่า” ไม่ได้อยู่แค่ในที่ดิน หรือหุ้น แต่ยังอยู่ใน “จิตใจ” ของนักลงทุนเองด้วย

 

แหล่งข้อมูล

https://news.stanford.edu/stories/2018/10/decade-data-reveals-heavy-multitaskers-reduced-memory-psychologist-says

https://www.childrenandscreens.org/wp-content/uploads/2023/11/2017-Children-and-Screens-Supplement-Media-Multitasking-and-Cognitive-Psychological-Neural-and-Learning-Differences-1.pdf

https://ics.uci.edu/~gmark/chi08-mark.pdf

https://www.pnas.org/doi/10.1073/pnas.0903620106

ต่อทอง ทองหล่อ

ต่อทอง ทองหล่อ

บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com

เว็บไซต์

นิว เมกา พลัส บางนา

นิว เรน แจ้งวัฒนะ

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน - วงเวียนใหญ่

ย่านฝั่งธนฯ นับว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้ว...

29 September, 2025

โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร

เอสซี แอสเสท ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและนวั...

22 September, 2025

ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39

"คอนโด High Rise ใหม่แบบ 2 ห้องนอนในย่านพร้อมพงษ์ ยั...

7 August, 2025

แอสปาย สุขุมวิท – พระราม 4

ASPIRE สุขุมวิท-พระราม 4 คือ คอนโดไฮบริดพร้อมอยู่ที่...

21 July, 2025

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง