Project:                                   BAAN 9X9

Location:                                Bangkok, Thailand

Owner:                                    Trerachai Chunsangchantra / Rujina Sajjayakorn

Building Type:                       Residention

Architect:                                 IF (Integrated Field Co.,Ltd.)

Interior:                                   IF (Integrated Field Co.,Ltd.)

Other collaborators

Lighting:                                 Kullakaln Gururatana

Structural Engineer:            Basic Design

M&E:                                       Teerawut Puikan

Main Contractor:                  Backyard Construction

Landscape contractor:         Nature TL

Area                                        750 sq.m

Completion                          February 2022

Photographer:                        W Workspace

เรารู้จักกับโจ้และนีน่าตั้งแต่เด็กจนถึงสมัยที่ทั้งคู่ไปเรียนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ตอนนั้นทั้งคู่อยู่ด้วยกันในคอนโดลักษณะดูเพล็กซ์ ซึ่งทั้งสองคนชอบมากๆ ตอนที่คุยกันเรื่องบ้านหลังนี้ครั้งแรก ทั้งคู่บอกเลยว่าอยากได้บ้านที่มีดับเบิ้ลสเปซแบบตอนที่อยู่เซี่ยงไฮ้ เพราะมันทำให้รู้สึกถึงความทรงจำดีๆ ตอนอยู่ที่นั่น ด้วยจุดเริ่มต้นจากความคิดนี้จึงได้เกิดพื้นที่ขนาด 9x9x9 ที่บรรจุฟังก์ชั่น ห้องนั่งเล่นกับแพนทรีเอาไว้ และกลายมาเป็นหัวใจของบ้านหลังนี้

สมัยก่อน โจ้มักจะจัดปาร์ตี้ที่บ้านและชวนเพื่อนๆ ไปสนุกด้วยกันอยู่เสมอ พื้นที่ใช้สอยที่ต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่นออกมาที่พื้นที่ semi-outdoor จึงเกิดจากไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านที่รักงานสังสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ เราสามารถจินตนาการเห็นภาพเพื่อนฝูงมาสนุกสนานกันในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันจากห้องนั่งเล่นที่ติดแอร์ ออกมาถึงพื้นที่ใต้ถุน จนถึงสวนภายนอก ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนออกแบบ

หากมองจากรูปด้านของบ้านจะเห็นความสัมพันธ์ของพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ได้อย่างชัดเจน เริ่มจากหัวใจของบ้านที่เป็นห้องนั่งเล่นสูง เรียบ โล่ง มีบาร์เครื่องดื่มสีดำเป็นปลายตา บ่งบอกถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน พื้นที่ใต้ถุนทางด้านขวาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ต่อเนื่องออกมาจากห้องนั่งเล่น พื้นที่ใต้ถุนทางด้านซ้ายเป็นพื้นที่ออกกำลังกายที่ปูพื้นด้วยวัสดุยางที่ยืดหยุ่นสำหรับใช้ในยิมโดยเฉพาะ ผนังปลายตาของพื้นที่ทั้งสองฝั่งถูกกรุด้วยกระจกเงาเพื่อให้ก้อนอาคารชั้นสองที่เป็นผนังทึบดูลอยตัว รวมถึงเสาโครงสร้างที่ถูกหุ้มด้วยกระจกเงาเช่นเดียวกัน

ในตอนแรกเราออกแบบใต้ถุนทั้งสองฝั่งเป็นพื้นที่ semi-outdoor ซึ่งต่อมามีการเปลี่ยนแปลง โดยการเพิ่มบานประตูเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่เป็นปรับอากาศได้ ซึ่งถึงแม้จะทำให้ความชัดเจนของภาษาทางสถาปัตยกรรมที่ตั้งใจให้ก้อนอาคารดูลอยนั้นถูกลดทอนลง แต่ก็ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับบ้านได้เป็นอย่างมาก โดยก้อนอาคารที่ลอยตัวอยู่ทั้งสองฝั่งของห้องนั่งเล่นเป็นที่ตั้งของห้องนอนมาสเตอร์ที่ฝั่งขวา ในขณะที่ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็กอีกสองห้อง

เมื่อครั้งที่เราเริ่มออกแบบ ในที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ นี้มีบ้านเดิมตั้งอยู่ หน้าตาของบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังคาปั้นหยาที่เห็นได้ทั่วไปในหมู่บ้านแห่งนี้ เดิมทีเราเคยคิดจะเก็บโครงสร้างเดิมไว้ แต่โจ้และนีน่ามีภาพบ้านในฝันที่ชัดเจนมากๆ ว่าอยากได้บ้านสไตล์โมเดิร์น หลังคา slab และมีสเปซภายในที่โปร่งโล่ง จึงเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากในการเก็บโครงสร้างเดิมเอาไว้ได้ เราจึงตัดสินใจที่จะออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยเลือกที่จะวางตัวบ้านชิดไปทางทิศตะวันตกด้วยเหตุผลหลักๆ สามข้อ

ข้อแรกคือการวางตัวบ้านชิดไปด้านใดด้านหนึ่งของที่ดินทำให้เหลือที่ว่างมากเพียงพอสำหรับการขยับขยายในอนาคต

ข้อสองคือบ้านข้างเคียงที่อยู่ทางทิศตะวันออกนั้นมีพื้นที่สวนที่สวยงามหันมาทางด้านนี้ ดังนั้นหากเปิดมุมมองจากตัวบ้านออกไปทางทิศตะวันออก นอกจากจะได้วิวสวนของเราเองแล้ว มุมมองจากห้องนั่งเล่นยังจะลึกโล่งไปถึงสวนของบ้านข้างเคียงอีกด้วย

ข้อสามคือเราสามารถแพ็คฟังก์ชั่นเซอร์วิส เช่น ห้องครัวไทย ห้องซักล้าง ห้องเก็บของ ห้องไฟฟ้า ไว้ทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นฝั่งที่ร้อน เพื่อเป็นบัฟเฟอร์ให้กับตัวบ้าน ทำให้เราสามารถเปิดช่องเปิดขนาดใหญ่ทางทิศตะวันออกให้กับห้องนั่งเล่นได้ เพราะแดดจะเข้าแค่ช่วงเช้า และเป็นช่วงเวลาที่โจ้และนีน่าไม่ค่อยได้ใช้งาน ในขณะที่ห้องนอนมาสเตอร์ซึ่งเป็นห้องที่สำคัญที่สุดของบ้านจะหันหน้าไปทางทิศเหนือซึ่งร่มเย็นตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมองไปทางประตูหน้าบ้านที่ทำให้เจ้าของบ้านสามารถมองเห็นคนที่เข้าออกบ้านได้อยู่เสมอ

ถึงแม้การที่เรารู้จักตัวตนของโจ้กับนีน่าตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มต้นออกแบบบ้านทำให้เราสามารถเข้าใจความต้องการและตัวตนของผู้อยู่อาศัย และนำมาแปรเปลี่ยนเป็นงานออกแบบที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าเพียงแค่ความเข้าใจในเบื้องต้นนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ

เพราะช่วงเวลาในการออกแบบรวมถึงก่อสร้างบ้านหลังหนึ่งนั้นนับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ในระหว่างนั้น ความนึกคิด และ ความต้องการ ของคนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ระหว่างที่บ้านหลังนี้ถูกออกแบบและก่อสร้าง มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายเกิดขึ้น ทั้งกับแบบ ทั้งกับเจ้าของบ้าน ทั้งกับพวกเราเอง และแม้เราจะเดินทางมาจนถึงวันที่บ้านหลังนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม

ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็จะยังคงดำเนินอยู่ แต่บ้านที่ทุกคนได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาหลังนี้จะเป็นสถานที่ที่รองรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น และโอบอุ้มทุกๆ คนไว้ตลอดไป