สวัสดีครับ บทความอินดี้วันนี้เป็นบทความพูดจาตรงไปตรงมา ต้องการเตือนใจตัวเองและเตือนใจลูกบ้านคอนโดมิเนียม หรือที่เค้าเรียกเก๋ๆ ตามกฎหมายว่า “เจ้าของร่วม” ซึ่งใจจริงผมชอบคำว่าลูกบ้านมากกว่านะเพราะมันดู friendly ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่าคำว่าเจ้าของร่วมที่สัมผัสได้ถึงความเป็นใหญ่เกินไป

เอาละครับ แฟนๆ คอนโดมิเนียมคงต้องเคยอยู่ในโครงการใดโครงการหนึ่งมาบ้างละ แล้วคงเคยสัมผัสบรรยากาศการอยู่อาศัยในห้องของเราเอง การใช้พื้นที่ส่วนกลาง และการประชุมนิติบุคคลฯ อันสุดสันติแต่บางที่ก็แสบสัน!! คอนโดมิเนียมบางแห่งมีการจัดการที่ดี บางที่ก็เพลียใจ แต่คอนโดมิเนียมจากดีเวลลอปเปอร์สมัยใหม่มักจะมีการบริหารจัดการทรัพย์สิน (Property management) ที่มีมาตรฐานดี บริหารจัดการการอยู่อาศัยร่วมกันได้ราบรื่น และมีการดูแลรักษาโครงการไม่ให้เสื่อมมูลค่าลง บางที่มีบริการครบวงจรช่วยลูกบ้านขายต่อปล่อยเช่าด้วย อะไรจะดีปานนั้น ใครพบเจอโครงการดีๆ แบบนี้บ้างช่วยบอกผู้เขียนด้วยครับ จะได้สรรเสริญให้ชื่นใจกันหน่อย ส่วนที่ไหนยังไม่ดีก็บอกหลังไมค์กันด้วยละกัน 555 ให้โอกาสปรับปรุงกันก่อนตำหนิกลางแจ้งแบบนี้

แม้ว่าจะมีการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุดดีเพียงใด แต่! ถ้าลูกบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เข้าใจแนวคิดการอยู่อาศัยร่วมกัน ไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่รู้กฎหมาย ไม่เข้าใจธรรมชาติของธุรกิจ ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ ก็อาจจะเกิดปัญหายืดยาวเรื้อรังได้ครับ ดังนั้นบทความนี้จะช่วยเตือนใจให้ทุกคนที่เป็นลูกบ้านคอนโดมิเนียมพิจารณาตนเองด้วย เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขจินตราครับ (มุกเก๊าเก่า) เรามาดูว่า 9 ข้อมีอะไรบ้าง โดนใจเราแค่ไหนกันบ้าง ถ้าชอบข้อไหนก็เอาไปแชร์ไปแปะในห้องไลน์คอนโดกันได้นะครับ 555

เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/static/uploads/photo/2016/02/19/10/38/facade-1209331_960_720.jpg

• อย่าเป็นลูกบ้านเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ (No selfish)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: จอดรถในที่ห้ามจอด เลวร้ายกว่านั้นก็ใส่เบรกมือเอาไว้ คนอื่นเข็นหลบไม่ได้, จอดรองเท้าไว้หน้าห้อง ระเกะระกะเต็มโถงทางเดิน, พาลูกมาวิ่งเล่นล้อบบี้แบบมาราธอนยาวนานไม่ให้คนอื่นใช้แบบสงบๆ

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ต้องเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น คิดด้วยแนวคิดแบบนี้ครับ “ถ้าตัวเองอยากให้คนอื่นประพฤติปฏิบัติแบบไหนกับตน ก็ขอให้ตนเองปฎิบัติแบบนั้นกับเขาเหมือนกัน” จะทำให้เราทำตัวอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดีขึ้น

• อย่าเป็นลูกบ้านขี้โกง นักปลอมแปลง (No fraud)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: ปลอมแปลง บัตรจอดรถ, ก๊อปปี้ Key card เข้าอาคาร, ปลอมเอกสารส่งให้นิติบุคคลฯ , หัวหมอรู้ช่องหลบกฎหมาย, สมัครเป็นกรรมการเพื่อเข้าไปโกงเงินนิติฯ เอามาใช้ส่วนตัว, รับส่วนแบ่ง มีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดซื้อจัดจ้าง

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ต้องมีความละอายต่อการทำผิด อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอย่างเดียว ควรคำนึงถึงใจและเงินส่วนรวมด้วย ถ้าลูกบ้านดีๆ เห็นพฤติกรรมชั่วๆ ก็ต้องช่วยกันปราบปราม

• อย่าเป็นลูกบ้านอัตตาสูง (No Ego)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: เป็นคนที่คิดว่าตัวเองไม่เคยมีความผิดพลาด เป็นคนที่คิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบมาก ไร้ข้อเสีย มันไม่มีจริงหรอกครับคนแบบนั้น คนเรามันต้องมีข้อเสีย ข้อผิดพลาดทั้งนั้นแหละ, ลูกบ้านไม่ฟังใคร ไม่พยายามทำความเข้าใจใครเลยในสังคม ถูกแย้งไม่ได้ ถูกเถียงไม่ได้, ใจแคบ อยู่ในกะลา ฟังแต่ความเห็นตัวเองเท่านั้น

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ใจกว้างมากขึ้น ยอมรับความเห็นคนอื่น อย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือตัดสินบนบรรทัดฐานความคิดของตัวเองอย่างเดียว จงรับฟังคนอื่นด้วยหัวใจ พัฒนา EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ให้สูงขึ้น

• อย่าเป็นลูกบ้านใช้อำนาจสูงเกินสิทธิ (No excessively use of rights)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: ใช้อำนาจมากกว่าสิทธิ์ที่มี เช่น ไม่ได้เข้าร่วมประชุมนิติบุคคลแต่เรียกร้องสิทธิต่างๆ มากมายจนเกินพอดี ,  นำรถมาจอด 2-3 คัน ทั้งๆ ที่ตัวเองมีสิทธิจอดได้แค่ 1 คัน

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ตั้งใจอ่านคู่มือการพักอาศัยที่นิติบุคคลคอนโดแจกให้อ่าน ศึกษาและความหมายของคำว่าสิทธิให้ดี ใช้สิทธิของตนเองตามสิทธิที่ตนมีเท่านั้น, อ่านประกาศต่างๆ ที่ติดที่บอร์ดประชาสัมพันธ์เพื่อศึกษาว่ามีการเปลี่ยนแปลงสิทธิอะไรบ้างหรือไม่

• อย่าเป็นลูกบ้านอยากจ่ายน้อยแต่คาดหวังบริการสูง (No pay less high expectation)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: อยากได้บริการดีๆ ล้ำๆ สะดวกสบายมากๆ แต่ค่าส่วนกลางที่กำหนดให้จ่ายนั้นต่ำกว่าโครงการอื่นที่มีการบริการระดับเดียวกับความคาดหวัง, คาดหวังสูง แต่จ่ายน้อย

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: จงเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจและกฎแห่งการแลกเปลี่ยน อะไรที่คุณภาพสูง คุณภาพดี ก็ยอมต้องแลกมากับจำนวนเงินที่ต้่องจ่ายมากขึ้น เข้่าใจแนวคิด ของดีและถูกไม่มีในโลก ของฟรีไม่มีในโลก  ถ้าอยากได้ดีๆ เจ๋งๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้น เป็นปกติของโลกและธรรมชาติการดำเนินธุรกิจครับ

• อย่าเป็นลูกบ้านขี้งก (No stingy)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: อย่าเป็นลูกค้าขี้งก ไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลาง ค้างค่าส่วนกลาง ไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมแซมในส่วนที่ตนเองมีส่วนผิด, ค้านหัวชนฝา ไม่ยอมให้ขึ้นราคาค่าส่วนกลางแม้ต้นทุนการบริหารจัดการจะสูง , เสนอความคิดเห็นในที่ประชุมเกี่ยวกับโครงการการพัฒนาที่เห็นแก่ตัวและยึดประโยชน์ส่วนตัวแต่คนอื่นต้องมาจ่ายเงินกับโครงการนั้นแทนตน

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ต้องจ่ายค่าส่วนกลางตามกฎเกณฑ์ตามระเบียบของนิติบุคคล คิดอยู่เสมอว่าเราควรจ่ายเงินในสิ่งที่ควรจ่าย เราควรจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนมาซึ่งบริการและสินค้าที่ดี เรื่องไหนที่ใช้เงินมาก แต่มีประโยชน์น้อยต่อส่วนรวมก็ไม่ควรดึงดันอยากจะจัดโครงการนั้นๆ

• อย่าเป็นลูกบ้านก้าวร้าว (No aggressive)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: ใจร้อน ตะโกน ด่าทอ พูดจาไม่ดี ส่งเสียงดัง ข่มขู่ เอะอะมะเทิ่ง ไม่เคารพพนักงานนิติฯ ด่ารปภ. และก้าวร้าวทางวาจาและกายกับคนในชุมชน

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ปรับปรุงการใช้คำพูด วาจาให้นุ่มหวานชวนละมุนใบหู หัดพูดชื่นชมขอบคุณพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะเขาก็เป็นคนที่ต้องการเรื่องดีๆ ในชีวิต

• อย่าเป็นลูกบ้านแหกกฎ (No break the rules)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: แหกกฎที่นิติบุคคลอาคารชุดเขียนเอาไว้ เค้าเขียนไว้อย่างไรพี่ขอแหกกฎ

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: คิดว่าถ้าผู้เช่าคอนโดมิเนียมของเราแหกกฎที่เราตั้งไว้ เราจะรู้สึกอย่างไร นึกถึงใจเขาใจเรา, จงอ่านกฎระเบียบต่างๆ และทำตามกฎ

• อย่าเป็นลูกบ้านนักเลงแชทไลน์ ดีแต่ปาก แต่ไม่ทำอะไร (Don’t talk like a pro but no action)

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์: เข้าร่วมกรุ๊ปห้อง LINE คอนโด แชทแสดงความเห็น ด่าคนคนนี้ ด่าพนักงาน เรียกร้องสิทธิมากมาย แต่พอจะให้มาประชุมนิติบุคคลเพื่อออกเสียงตามระเบียบกฎหมายกลับไม่กล้าออกมาแสดงความเห็น ไม่เข้ามาช่วยออกความเห็นเชิงสร้างสรรค์ มีแต่คำวิจารณ์ แต่ไม่มีไอเดียเสนอแนะ ไม่มีส่วนร่วมในการอยู่อาศัยร่วมกัน มีแนวคิดแบบว่า “ขอด่าอย่างเดียว แต่ไม่เกี่ยวกับตู”

ขอร้องเถอะ อยากให้เปลี่ยนเป็น: ควรถือคติ ถ้าไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นก็อยู่นิ่งๆ เสียดีกว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่า่งที่ดีมากกว่าพูดบ่นไปวันๆ ถ้ามีไอเดียดีๆ อะไรก็เสนอความเห็นไป หลีกเลี่ยงการพูดวิจารณ์แบบไม่สร้างสรรค์ที่ไม่ก็ให้เกิดประโยชน์ส่วนรวม ก่อนพูดอะไรออกไปในกรุ๊ปไลน์หรือที่ประชุม ควรถามก่อนว่า “มีประโยชน์ไหม” ถ้ามีก็พูด ถ้าไม่มีก็จงเงียบ รอฟังคนอื่น อย่าโชว์ รอให้มือโปรจริงๆ ออกมาพูดมาแก้ไขกันดีกว่า

9 ข้อที่ผ่านมาเป็นไงบ้างครับ โดนใจชาวคอนโดมากน้อยแค่ไหน ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ

สิ่งที่อยากจะบอกคือ ในเมื่อเราเลือกที่จะอยู่ร่วมกันในคอนโดมิเนียมแล้ว สำนึกที่เราควรมีคือ “ความเห็นอกเห็นใจ หรือ Sympathy” ครับ หากเราเห็นอกเห็นใจกัน รับรองว่าแม้จะมีปัญหากัน แต่พวกเราก็จะจบปัญหานั้นได้สวยงามครับ