ถ้าพูดถึงการพัฒนาโครงการคอนโดระดับ Super Luxury บนทำเลเพลินจิต – ชิดลม – หลังสวน แน่นอนว่าเกือบทุกคนย่อมนึกถึงดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำระดับ Top 5 ของตลาด ที่ล้วนแต่แข่งขันกันส่งโครงการระดับ Iconic Masterpiece เข้าช่วงชิงบัลลังก์การเป็นเจ้าตลาดของคอนโดในย่านนี้ จากความแข็งแกร่งของทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่โดยเฉพาะแหล่งเงินทุน และ Landbank จนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีเวลลอปเปอร์ขนาดกลาง – เล็กจะแทรกตัวเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาด แต่โครงการที่เราจะพามาดูวันนี้อย่าง Tonson One Residence (ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์) โครงการ Super Luxury Condo แบบ Freehold ที่สร้างเสร็จตัวล่าสุดตาม SCOPE Langsuan มาติดๆ บนที่ดินที่ถูกหมายปองจากดีเวลอปเปอร์ชั้นนำหลายราย กลับเป็นการพัฒนาภายใต้การร่วมมือกันของบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ที่ประสบความสำเร็จในการคว้าที่ดินผืนงามแห่งนี้ เพื่อนำมาพัฒนา Super Luxury Condo ที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์ของความหรูหราที่แตกต่างกว่าโครงการอื่นใดในย่านนี้ โดยมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “A CLASS OF ONE’S OWN” และยังถือว่าเป็นโครงการ Super Luxury Freehold แห่งเดียวในย่านที่ใกล้ทั้ง 2 สถานีรถไฟฟ้าคือชิดลม (300 เมตร) และเพลินจิต (350 เมตร) โดยที่ยังเดินทางเข้าออกด้วยรถยนต์ที่ง่ายกว่าบนถนนวิทยุ เพลินจิต และชิดลม ผ่านทางถนนต้นสน ซึ่งมีแนวต้นไม้ร่มรื่นตลอดทางและเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯที่สามารถทะลุออกถนนสารสิน เพื่อตัดออกยังไปฝั่งพระรามสี่ – สาทร – สีลมได้อีกด้วย

สำหรับในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ทำเลที่มีคอนโดระดับราคาขายเฉลี่ยตร.ม. ละ 350,000 บาทขึ้นไป ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในย่านวิทยุ, หลังสวน, ทองหล่อ และริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นทำเลที่พร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคในระดับ Worldwide Attraction ทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และสถานที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งทำเลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นที่ยอมรับในหมู่ชาวต่างชาติที่เคยมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ในด้านไลฟ์สไตล์อันเหนือระดับมาอย่างยาวนาน ซึ่งถ้าพูดถึงทำเลที่มักจะทำสถิติราคาขายที่ดินที่แพงที่สุด และมีศักยภาพเพียงพอสำหรับการพัฒนาคอนโดในกลุ่ม Super Luxury ก็คงจะหนีไม่พ้นบริเวณย่าน Central Lumpini ที่รวมพื้นที่อย่างโดยรอบสวนลุมพินีอย่าง วิทยุ หลังสวน เพลินจิต ชิดลม เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งในอดีตนั้นทำเลซอยต้นสนคนอาจจะมองว่าเป็นทำเลรองจากหลังสวน หรือชิดลมเนื่องจากเป็นซอยย่อย ถนนมีขนาดเล็ก และเป็นซอยตัน แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องบริบทของทำเลของซอยต้นสน ที่สามารถทะลุออกไปยังถนนสารสิน ต่อเนื่องไปสวนลุมพินีได้ง่าย เดินออกมาชิดลม เพลินจิต ขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวก มีความร่มรื่นเป็นทุนเดิมและรถสวนเลนกันได้ จึงทำให้ซอยต้นสนกุมความได้เปรียบหลายๆ อย่าง เพียงแค่การเดินไม่กี่นาที ใกล้แหล่งช้อปปิ้งระดับโลกขนาดใหญ่หลายแห่ง เดินทางเชื่อมต่อไปยังย่าน CBD สำคัญได้หลายเส้นทาง และที่สำคัญที่สุดคือเป็นย่านที่แทบจะไม่สามารถหาที่ดินแบบ Freehold เพื่อพัฒนาโครงการคอนโด High Rise ได้อีก โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ Leasehold ของโครงการสินทร วิลเลจ และยังรายล้อมด้วย Mega Project ระดับโลกมากมาย โดยเฉพาะโครงการ Mixed use อย่าง One City Centre, Dusit Central Park และ One Bangkok ที่เป็นโครงการ Mixed Use ที่มีมูลค่าโครงการสูงที่สุดในประเทศไทย

โครงการ Tonson One Residence เป็นอาคาร 29 ชั้น บนพื้นที่ขนาดประมาณ 1 ไร่ ประกอบด้วยห้องพักจำนวนทั้งหมด 80 ห้อง พร้อมลิฟต์ส่วนตัวทุกห้อง ได้รับการออกแบบโดยบริษัทออกแบบชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติ ถึง 3 บริษัท ด้วยกัน คือ A49 ออกแบบในส่วนของงานสถาปัตยกรรม ในคอนเซปท์ Modern Timeless & Sophisticated, PIA ดูแลในส่วนของอินทีเรียและพื้นที่ส่วนกลาง และ Shma ดูแลในส่วนสวนของพื้นที่ส่วนกลางที่มีพื้นที่สีเขียวรายล้อม โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 1 – 3 ห้องนอน รวมถึงเพนท์เฮ้าส์และดูเพลกซ์เพนท์เฮ้าส์ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโครงการ เปิดรับวิวสวนสีเขียวของ สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ห้องพักในโครงการมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 57 – 387.50 ตร.ม. พร้อมให้บริการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับของผู้อยู่อาศัย เช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge Service), ห้องรับรองและห้องประชุม (Lobby Lounge & Business Lounge), ห้องจัดเลี้ยงและครัวอเนกประสงค์สำหรับจัดปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ, สระว่ายน้ำระบบน้ำอุ่น, Jacuzzi, ฟิตเนสพร้อมห้องบริการเทรนเนอร์ส่วนตัว และที่จอดรถใต้ดินมากถึง 146% (117 คัน) พร้อมขนาดช่องจอดใหญ่พิเศษ สามารถรองรับรถซูเปอร์คาร์และรถตู้ได้

สำหรับการออกแบบ Floor Plan ของที่นี่ เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อยมาก ดังนั้นแต่ละชั้นจึงมียูนิตน้อยตามลงไป (มีแค่ 1 – 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น) โดยทุกห้องจะเป็นห้องมุมทั้งหมดและได้วิวด้านนอกที่แตกต่างกันไป เพดานสูง 2.85 เมตร ขายแบบ Fully Fitted ได้สเปคคร่าวๆดังนี้ สุขภัณฑ์ก็จะได้เป็น TOTO เกือบทั้งหมด ชุดครัว POGGENPOHL ชุดก๊อกน้ำแบรนด์ Dornbracht พื้น Engineered Wood หนา 3 มม. กระจกภายในห้องเป็นลามิเนตสะท้อนแสง 6 + 6 มม. ทุกห้องมี Private Lift ที่มีพื้นที่ Foyer ส่วนตัวก่อนเข้าบริเวณโถง Living ให้ เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูงสุด

ส่วน Facilities ที่พร้อมอำนวยความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัยและตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ก็จะอยู่บนชั้น Ground และชั้น 22 เช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge Service), ห้องรับรองและห้องประชุม (Lobby Lounge & Business Lounge), ห้องจัดเลี้ยงและครัวอเนกประสงค์สำหรับจัดปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ, สระว่ายน้ำระบบน้ำอุ่น, Jacuzzi, ฟิตเนสพร้อมห้องบริการเทรนเนอร์ส่วนตัว สระว่ายน้ำระบบน้ำอุ่น ความยาว 25 เมตร และชั้นเหนือ Facilities ขึ้นไปก็จะเป็นส่วนของห้อง Penthouse ที่ชั้น 23 – 25 และส่วนของ Duplex Penthouse ที่ชั้น 26 – 29 (ชั้น 26 – 27 มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย)

ตอนนี้โครงการขายไปได้ 90% และโอนไปได้ 40% จากยอดขายแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเหลือแต่ห้อง 1 Bed โดยห้องที่ยังเหลือขายอยู่จะมีราคา 23 – 190 ลบ.ครับ