อาจกล่าวได้ว่าทิศทางในการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Ultra-Luxury Residences ของไทยนับจากนี้ไปอีกอย่างน้อย 3 ปี จะเฮโลไปทางการพัฒนาโครงการบนสุดยอดทำเลที่มอบความ Privacy ขั้นสุด แข่งกันทำห้องใหญ่ในแบบ Penthouse ด้วยจำนวนยูนิตให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้กับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงทั่วโลก โดยที่ไม่จำเป็นต้องกำหนดกรอบเพดานราคาว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ เนื่องจากในกลุ่มคอนโดประเภท Ultra Luxury นั้นเรามักจะพบว่า Logic ในการซื้อของ Real Demand มักจะตรงกันข้ามกับกลุ่มตลาดอื่นเสมอ กล่าวคือยิ่งมีราคาสูงมากเท่าไหร่ยิ่งมีดีมานด์ในการซื้อมากเท่านั้น โดยที่คนซื้อมักจะมองข้ามความสำคัญของเหตุผลหลักในการใช้งานออกไป บางคนเพียงแค่เลือกซื้อห้องที่แพงที่สุด จากโครงการที่แพงที่สุดเพราะเชื่อมั่นว่าราคาในแบบ Superlative คือเครื่องยืนยันถึงการได้ครอบครองห้องที่ดีมีคุณภาพมากที่สุด รวมถึงการได้อยู่ร่วมกับผู้คนในสถานะเดียวกัน เช่นเดียวกับโครงการล่าสุดของค่ายสโคป อย่าง สโคป ทองหล่อ (SCOPE Thonglor) ที่มองว่าการพัฒนาโครงการ Ultra Luxury ในมาตรฐานสากลนั้นจำเป็นต้องเพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะสำคัญในแบบ Extraordinary ทั้งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ จนเกิดเป็นคุณค่าในใจผู้ซื้อที่มากกว่าการอยู่อาศัยในคอนโดทั่วไป โดยแต่ละโครงการภายใต้แบรนด์ SCOPE นั้นจำเป็นต้องส่งมอบประสบการณ์พิเศษที่ Customized ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์อันมีเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความสมบูรณ์แบบ ทั้งในเชิงดีไซน์ คุณภาพ และการใช้ชีวิต ซึ่งโครงการในวันนี้อย่าง สโคป ทองหล่อ นั้นเรียกได้ว่ามีความโดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องของการยกระดับการใช้ชีวิตให้แตกต่างเหนือใครกับรูปแบบห้อง Sky Penthouse ทุกยูนิต ที่มาพร้อมบริการระดับเฟิร์สคลาสที่จะพบเจอได้เพียงแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

นิยามของคำว่า “Penthouse” ของคุณเป็นแบบไหน? แน่นอนว่าหากกล่าวถึงห้องชุดที่มีราคาแพงที่สุดของโครงการคอนโดมิเนียมแต่ละโครงการ ก็คงจะหนีไม่พ้นห้องเพ้นท์เฮ้าส์ ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นพื้นที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่มีอาณาบริเวณเกินกว่าครึ่งชั้น หรือทั้งชั้นบนยอดตึก ให้คุณได้อยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย รวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก ท่ามกลางวิวที่เปิดโล่งทั้งจากด้านในห้อง และสามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของเส้นขอบฟ้าทั้งเมืองได้จากระเบียงห้อง สัมผัสกับบรรยากาศของความ Luxury of Space ด้วยความสูงของพื้นจรดเพดานที่มากกว่าสามเมตร มอบความหรูหราให้กับผู้ครอบครองด้วยวัสดุตกแต่งระดับพรีเมี่ยม ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องอิจฉา พร้อมความเป็นส่วนตัวด้วย Private Lift Lobby รวมถึงบริการเหนือระดับตามมาตรฐานโรงแรมแบรนด์ดังระดับโลก เหล่านี้คือ นิยามของคำว่าห้องเพนท์เฮ้าส์ในโครงการ High Rise ระดับ Ultra – Luxury ส่วนใหญ่ในมหานครกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับในมหานครใหญ่ทั่วโลก ที่มาพร้อมจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์จนทำให้ราคาของแต่ละแห่งล้วนแล้วแต่พุ่งขึ้น ด้วยจำนวนดีมานท์ที่ไม่มีวันหมด จากเหล่ามหาเศรษฐีที่มองหาที่พักอาศัยซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ น่าสะสมเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แห่งความเหนือระดับให้กับชีวิต โดยที่ไม่สนใจว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร โดย สโคป ทองหล่อ มาพร้อมองค์ประกอบของความเป็นเลิศใน 4 มิติได้แก่

-Luxury of Space: ที่ให้เต็มที่กับทุกตารางนิ้วในที่พักอาศัยด้วยห้องเพนต์เฮาส์ ที่มอบพื้นที่ในหนึ่งชั้นให้กับลูกบ้านได้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว พร้อมประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุดที่มีจำกัดเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ 1 อาคาร สูง 32 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พร้อมที่จอดรถ 107 คัน มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,650 บาท ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 – 31 โครงการมีให้เลือกทั้งแบบ Simplex, Duplex และ Triplex ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 415 ตารางเมตร ไปจนถึง 756.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 226 ล้านบาท แบบ Fully-furnished ที่ได้รับการตกแต่งด้วยแบรนด์ระดับโลกที่คัดสรรมาจาก 7 ประเทศทั่วโลกโดย Thomas Juul-Hansen

– Luxury Location Value: ถือครองที่สุดแห่งมูลค่าการลงทุนด้วยพื้นที่ใจกลางเมือง บนทำเลทองหล่อที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงสถานะและศักดิ์ศรี ประหยัดเวลาในการเข้าถึงสถานที่รอบๆ ติดศูนย์กลางของย่านทองหล่อที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกอย่าง BTS ทองหล่อ ฝั่งพื้นที่ High End Residential Area ที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 5 – 10% ต่อปี

– Luxury Design: สะท้อนมิติของตัวตนอย่างมีระดับไปกับไลฟ์สไตล์ที่ครบครันและเปี่ยมด้วยสีสันของย่านทองหล่อ รวมถึงการตกแต่งที่ทันสมัยจากดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul-Hansen ดีไซน์เนอร์ผู้เปลี่ยนโลกดีไซน์ด้วยการออกแบบเชิงคุณภาพ และความใส่ใจในรายละเอียด อาทิ Siematic, Lema, Sub-Zero, Bonaldo, Gubi, และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย มูลค่ารวมกว่า 41.5 ล้านบาท มอบทั้งรสนิยมและความทนทานในระยะยาว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Privacy at Its Best” ที่มอบประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้กระจก Double-glazed Insulated Low-E ที่มีความหนาถึง 33 มิลลิเมตร (ซึ่งหนากว่ากระจกโครงการทั่วไปในไทยถึง 4 เท่า) พร้อมยังมี Air Gap ช่วยลดความร้อน ลดทอนความจ้าของแสง และกรองเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับความสงบสบายภายในยูนิตของตน

– Luxury First Class Services: ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย และครบครันในทุกความต้องการด้วยบริการ Concierge service และ Facilities ที่ครบครัน อาทิ บริการทำความสะอาด (Housekeeping Service) ที่จะมาดูแลความสะอาดภายในยูนิต 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พนักงานสระไดร์ (In-House Blow-Dry Service) และบริการพ่อครัวประจำโครงการ (In-House Cook) สามารถให้พ่อครัวช่วยเตรียมอาหารในแต่ละมื้อได้ตามสั่ง [ค่าส่วนกลางตรม.ละ 240 บาทต่อเดือนครับ]

สำหรับ Typical Unit และห้องตัวอย่างของสโคป ทองหล่อ จะเป็นขนาด 416.71 ตรม. ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 10 – 20 ของโครงการ โดยมีฟังก์ชันประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพาวเดอร์ 1 Maid Quarter พร้อม Private Lift 2 ตัว มองวิวได้รอบทิศของอาคารจากมุกมุมภายในห้อง โดยพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นส่วนด้านในสุดของห้องที่ประกอบไปด้วย 5 Spaces หลักได้แก่ Great Room, Dining Area แบบ Open Plan เชื่อมต่อการใช้งานกับส่วน Chef Kitchen, Morning Lounge, และ Recreation Space ซึ่งภายในห้องจะมีการแยกสัดส่วนของพื้นที่ Maid Quarter ออกจากส่วนของเจ้าของบ้านอีกฝั่งของห้องอย่างชัดเจนที่บริเวณ Lift Foyer โดยส่วน Primary Bedroom ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนตัวอย่าง Walk-in Closet และ Private Thermal Bath ที่ผมชอบมากๆครับ…ราคาปรับตัวขึ้นจากราคาแรกเมื่อปีที่แล้วพอสมควรครับ จากเดิมเริ่ม 180 ลบ. ตอนนี้ไปเริ่มที่ 226 ลบ.แล้ว แต่ผมเชื่อว่าราคาจะทะยานไปไกลกว่านี้ในทุกๆครั้งที่ห้องถูกขายออกไปครับ เพราะมีแค่ 18 ครอบครัวในโลกเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง และตอนนี้ขายไปแล้ว 11 ห้อง…เดี๋ยวโพสถัดไปจะมาเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมปลีกย่อยของโครงการครับ