เทียบฟอร์ม เจาะจุดเด่นคอนโดดีไซน์ล้ำ ด้วยเส้นสายเหมือนมีชีวิต สไตล์ Organic Form
อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี การที่ทุกท่านจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยหรือคอนโดมิเนียมสักแห่งหนึ่ง ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ นอกจากเหตุผลของด้านตำแหน่งที่ตั้งโครงการ หรือ ด้านระดับราคา ก็คือการออกแบบและการดีไซน์ของตัวโครงการ ในปัจจุบันทุกท่านจะสามารถพบเห็นโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่มีงานออกแบบและงานดีไซน์ที่ค่อนข้างแปลกตามากมาย เช่นการออกแบบ สไตล์ Classic, Modern, Organic form และอื่นๆ ต่างจากคอนโดมิเนียมยุคเก่าที่เป็นรูปแบบธรรมดาคล้ายๆกันหมด ซึ่งการออกแบบ Form อาคารไม่ว่าจะเป็นสไตล์ใดก็ตามเป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของตัวโครงการเพื่อใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีความชอบในลักษณะแบบนั้นบนทำเลที่มีความเฉพาะตัว แต่ด้วยแนวคิดการออกแบบในปัจจุบันที่กำลังเป็นกระแสกับการคำนึงถึงรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และการลดผลกระทบที่จะเกิดจากการพัฒนาโครงการ ทำให้พบเห็นหลากหลายโครงการมีแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมหรือได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากพื้นที่ทางธรรมชาติ
ถ้าจะขยายความเพิ่มเติมให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการออกแบบที่สอดคล้องกับธรรมชาติในบริบทพื้นที่เมือง กล่าวคือ ตัวโครงการเป็นเสมือนองค์ประกอบนึงของพื้นที่เมืองหรือธรรมชาติที่มี แดด แสง ลม เคลื่อนผ่านตัวโครงการ มีสิ่งมีชีวิตหรือเพื่อนบ้านอยู่อาศัยรอบตัวโครงการ เป็นการมองบริบทการออกแบบที่ตัวโครงการเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของพื้นที่ หรือ อาจจะมองว่าตัวโครงการเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตัวพื้นที่ก็ได้ ทำให้ทุกท่านจะเห็นได้ว่าโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร มีการนำแนวคิดหรืองานดีไซน์จากลักษณะทางกายภาพทางธรรมชาติ(Organic form) มาเป็น inspiration ในการพัฒนาโครงการจำนวนมาก โดยจะขอยกตัวอย่างโครงการที่มีการนำการออกแบบในลักษณะ Organic form มาใช้ให้ทุกท่านได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยโครงการแรกจะขอเริ่มต้นจากโครงการ Low-Rise คือโครงการ Ashton Residences 41 จาก Ananda Development โครงการนี้เป็นโครงการที่มียูนิตค่อนข้างน้อยมีเพียง 79 ยูนิต ใช้บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมจาก A49 และการออกแบบ Landscape จาก Trop โครงการนี้มีจุดเด่นสำคัญคือตัวพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร 2 ฝั่งที่เหมือนถูกจำลองมาจาก Barton Springs Pool ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ ที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส โดยเป็นการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ จากภาพจะเห็นได้ว่าบริเวณขอบสระว่ายน้ำจะมีการออกแบบให้เป็นพื้นต่างระดับที่มีระยะการยื่นเข้ายื่นออกไม่เท่ากัน เพื่อให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ
ถัดมาเป็นโครงการของ Ananda Development เช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้มีชื่อว่า Q Prasanmitr จุดเด่นของโครงการนี้ คือ ตัวโครงการจะเน้นความ Privacy สูงที่สุด ซึ่งโครงการนี้มียูนิตเพียง 76 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าโครงการ Ashton Residences 41 โครงการแรก มีการออกแบบโครงการโดยการวางตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางไว้บริเวณตำแหน่งคอร์ทกลางอาคารล้อมรอบด้วยอาคาร 2 ฝั่ง เพื่อให้พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่มีความสงบจริงๆหลบหลีกความวุ่นวายจากพื้นที่ภายนอกซึ่งมีความพลุกพล่านของผู้คนสูง
โดยตัวอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะถูกเชื่อมโยงด้วย Sky Bridge และมีการเพิ่ม element พื้นที่ส่วนกลางด้วย water feature เป็นน้ำตกสร้างเสียงและบรรยายกาศที่เป็นธรรมชาติและความผ่อนคลาย
อีก 1 โครงการ Low-Rise ที่น่าสนใจ คือ โครงการ FYNN Asoke โครงการนี้ตั้งอยู่ในย่านอโศกที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีความพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีแนวคิดการออกแบบตัวโครงการให้เหมือนเป็น Oasis ท่ามกลางความพลุกพล่านของพื้นที่โดยรอบ โดยตัวโครงการจะมีการเก็บต้นจามจุรีที่มีอายุกว่า 60 ปี ไว้ในบริเวณพื้นที่ด้านในโครงการ และใช้การออกแบบเส้นสายอาคารที่สูง 8 ชั้น ให้มีความโค้งรับกับทรงพุ่มไม้ขนาดใหญ่ประกอบกับมีการออกแบบตัวสระว่ายน้ำส่วนกลางให้เป็นรูปแบบฟรีฟอร์ม เหมือนแม่น้ำที่กำลังไหลผ่านสวนและต้นไม้ใหญ่ในป่า ให้อารมณ์เป็นพื้นที่ Oasis ใจกลางเมืองจริงๆ