เทียบฟอร์ม เจาะจุดเด่นคอนโดดีไซน์ล้ำ ด้วยเส้นสายเหมือนมีชีวิต สไตล์ Organic Form

ชยางกูร กิตติธีรธำรง 02 February, 2023 at 10.25 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี การที่ทุกท่านจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยหรือคอนโดมิเนียมสักแห่งหนึ่ง ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ นอกจากเหตุผลของด้านตำแหน่งที่ตั้งโครงการ หรือ ด้านระดับราคา ก็คือการออกแบบและการดีไซน์ของตัวโครงการ ในปัจจุบันทุกท่านจะสามารถพบเห็นโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่มีงานออกแบบและงานดีไซน์ที่ค่อนข้างแปลกตามากมาย เช่นการออกแบบ สไตล์ Classic, Modern, Organic form และอื่นๆ ต่างจากคอนโดมิเนียมยุคเก่าที่เป็นรูปแบบธรรมดาคล้ายๆกันหมด ซึ่งการออกแบบ Form อาคารไม่ว่าจะเป็นสไตล์ใดก็ตามเป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของตัวโครงการเพื่อใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีความชอบในลักษณะแบบนั้นบนทำเลที่มีความเฉพาะตัว แต่ด้วยแนวคิดการออกแบบในปัจจุบันที่กำลังเป็นกระแสกับการคำนึงถึงรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และการลดผลกระทบที่จะเกิดจากการพัฒนาโครงการ ทำให้พบเห็นหลากหลายโครงการมีแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมหรือได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากพื้นที่ทางธรรมชาติ

ถ้าจะขยายความเพิ่มเติมให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการออกแบบที่สอดคล้องกับธรรมชาติในบริบทพื้นที่เมือง กล่าวคือ ตัวโครงการเป็นเสมือนองค์ประกอบนึงของพื้นที่เมืองหรือธรรมชาติที่มี แดด แสง ลม เคลื่อนผ่านตัวโครงการ มีสิ่งมีชีวิตหรือเพื่อนบ้านอยู่อาศัยรอบตัวโครงการ เป็นการมองบริบทการออกแบบที่ตัวโครงการเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของพื้นที่ หรือ อาจจะมองว่าตัวโครงการเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตัวพื้นที่ก็ได้ ทำให้ทุกท่านจะเห็นได้ว่าโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร มีการนำแนวคิดหรืองานดีไซน์จากลักษณะทางกายภาพทางธรรมชาติ(Organic form) มาเป็น inspiration ในการพัฒนาโครงการจำนวนมาก โดยจะขอยกตัวอย่างโครงการที่มีการนำการออกแบบในลักษณะ Organic form มาใช้ให้ทุกท่านได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยโครงการแรกจะขอเริ่มต้นจากโครงการ Low-Rise คือโครงการ Ashton Residences 41 จาก Ananda Development โครงการนี้เป็นโครงการที่มียูนิตค่อนข้างน้อยมีเพียง 79 ยูนิต ใช้บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมจาก A49 และการออกแบบ Landscape จาก Trop โครงการนี้มีจุดเด่นสำคัญคือตัวพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร 2 ฝั่งที่เหมือนถูกจำลองมาจาก Barton Springs Pool ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ ที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส โดยเป็นการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ จากภาพจะเห็นได้ว่าบริเวณขอบสระว่ายน้ำจะมีการออกแบบให้เป็นพื้นต่างระดับที่มีระยะการยื่นเข้ายื่นออกไม่เท่ากัน เพื่อให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ

ถัดมาเป็นโครงการของ Ananda Development เช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้มีชื่อว่า Q Prasanmitr จุดเด่นของโครงการนี้ คือ ตัวโครงการจะเน้นความ Privacy สูงที่สุด ซึ่งโครงการนี้มียูนิตเพียง 76 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าโครงการ Ashton Residences 41 โครงการแรก มีการออกแบบโครงการโดยการวางตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางไว้บริเวณตำแหน่งคอร์ทกลางอาคารล้อมรอบด้วยอาคาร 2 ฝั่ง เพื่อให้พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่มีความสงบจริงๆหลบหลีกความวุ่นวายจากพื้นที่ภายนอกซึ่งมีความพลุกพล่านของผู้คนสูง

โดยตัวอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะถูกเชื่อมโยงด้วย Sky Bridge และมีการเพิ่ม element พื้นที่ส่วนกลางด้วย water feature เป็นน้ำตกสร้างเสียงและบรรยายกาศที่เป็นธรรมชาติและความผ่อนคลาย

 

อีก 1 โครงการ Low-Rise ที่น่าสนใจ คือ โครงการ FYNN Asoke โครงการนี้ตั้งอยู่ในย่านอโศกที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีความพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีแนวคิดการออกแบบตัวโครงการให้เหมือนเป็น Oasis ท่ามกลางความพลุกพล่านของพื้นที่โดยรอบ โดยตัวโครงการจะมีการเก็บต้นจามจุรีที่มีอายุกว่า 60 ปี ไว้ในบริเวณพื้นที่ด้านในโครงการ และใช้การออกแบบเส้นสายอาคารที่สูง 8 ชั้น ให้มีความโค้งรับกับทรงพุ่มไม้ขนาดใหญ่ประกอบกับมีการออกแบบตัวสระว่ายน้ำส่วนกลางให้เป็นรูปแบบฟรีฟอร์ม เหมือนแม่น้ำที่กำลังไหลผ่านสวนและต้นไม้ใหญ่ในป่า ให้อารมณ์เป็นพื้นที่ Oasis ใจกลางเมืองจริงๆ

นอกจากโครงการประเภท Low-Rise ที่มีการออกแบบในลักษณะ Organic form แล้ว โครงการ High-Rise ก็มีการพัฒนาในลักษณะ Organic form เช่นเดียวกัน โดยผู้เขียนจะขอหยิบยกมาอธิบายทั้งหมด 3 โครงการ คือ โครงการ Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint, โครงการ Ideo Q Sukhumvit 36 จาก Ananda Development  และ โครงการ The Bangkok Sathorn จากบริษัท Land & House

 

โดยตัวโครงการ Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint เป็นโครงการอาคารสูง High Rise 32 ชั้น เป็นตึกแฝด 2 อาคาร มีจำนวนยูนิต มากถึง 1,165 ยูนิต ใช้การวางแปลน 2 อาคารเป็นลักษณะคล้ายๆตัว Y โดยแนวคิดตัวโครงการที่ใช้คือการสร้างพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในบริเวณพื้นที่กลางเมือง โดยจะพบว่าในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางจะมีการดึงองค์ประกอบหรือบริบททางธรรมชาติมาใส่ในงานสถาปัตยกรรม เช่นบริเวณซุ่มทางเดินก็จะมีการจำลองลักษณะ form มาจากการเดินออกจากถ้ำ หรือ บริเวณ Main Facility บนชั้น 5 ที่จะมีการออกแบบพื้นที่สวนให้มีการเล่นระดับเหมือนนาขั้นบันไดในธรรมชาติ ส่วนสระว่ายน้ำก็จะมีการออกแบบเส้นสายโค้งไปมาวางตัวสลับกับไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และ สุดท้ายโดดเด่นด้วย Form อาคารที่มีความเป็น Iconic เป็นที่จดจำของผู้คนผ่านไปผ่านมา

ส่วนอีกโครงการจากทาง Ananda Development คือ Ideo Q Sukhumvit 36 โครงการนี้เป็นโครงการในระดับ Super Luxury ที่มีความโดดเด่นมากทางด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม มีการออกแบบโดยใช้แนวคิด คือ futuristic design ที่จะมีการออกแบบความโค้งมนของขอบตัวอาคารแทนการใช้กระจกเข้ามุมแบบปกติ ทำให้รูปทรงอาคารมีความแปลกตาไม่เหมือนคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ เป็นจุดดึงดูดสำคัญให้มีความแตกต่างกับคอนโดมิเนียมบนถนนเส้นเดียวกัน ส่วนของพื้นที่ส่วนกลางก็จะมีออกแบบการใช้งานให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายย่านทองหล่อที่มักจะเป็นชาวญี่ปุ่นอยู่อาศัย เช่น พื้นที่ Onsen โดยยังคงนำแนวคิด futuristic design ออกแบบเชื่อมโยงไปถึงพื้นที่ภายในตัวอาคาร

โครงการสุดท้ายที่จะหยิบยกการออกแบบที่น่าสนใจมาพูดถึง คือ โครงการจากบริษัท Land & House มีชื่อโครงการว่า The Bangkok Sathorn เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตั้งอยู่ติดถนนสาทร ถ้าใครที่ต้องเดินทางผ่านทางด่วนศรีรัชหรือถนนสาทร คงต้องเคยเห็นอาคารนี้ผ่านตากันมาบ้าง โดยการออกแบบอาคารนี้มีการใช้ Organic Form ของตัวก้อนหินก้อนหนึ่งในธรรมชาติที่ถูกกัดเซาะ มาเป็นแรงบันดาลใจทำให้ออกมาเป็นรูปร่างของตัวอาคาร ซึ่งจะมีลักษณะฐานด้านล่างขนาดใหญ่และขนาดค่อยๆเล็กลงในบริเวณชั้นด้านบน ทำให้ตัวอาคารจะมีมิติยื่นเข้ายื่นออกไม่เท่ากันในแต่ละชั้น ซึ่งชั้นที่ลดระดับเข้าไปจะเป็นพื้นที่ Main Facilities ของตัวโครงการ และเมื่อมองภาพรวมจากภายนอกตัวอาคารจะมีความเรียบง่ายแต่จะมีมิติที่ทำให้แตกต่างจากอาคารอื่นๆบนถนนสาทร

สุดท้ายการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Organic form นั้นมีข้อดีหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านความสวยงามหรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์ข้อจำกัดของการพัฒนาโครงการภายในเมืองได้ แต่ถ้าทุกท่านลองสังเกตคอนโดมิเนียมที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโครงการ Low-rise หรือ โครงการ High-Rise ซึ่งมีแนวคิดการออกแบบและงานดีไซน์ที่ในรูปแบบ Organic form จะมีการออกแบบที่เฉพาะตัวไม่เหมือนกันและสอดคล้องกับบริบทสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นๆโดยเฉพาะ นอกจากนี้ในด้านระดับราคาจะพบว่า โครงการในรูปแบบ Organic form มักจะมาพร้อมกับระดับราคาขาย ของตัวโครงการที่อยู่ในระดับราคาค่อนข้างสูง จนถึง ระดับปานกลาง เนื่องจากการออกแบบดังกล่าวย่อมมาพร้อมกับต้นทุนการพัฒนาโครงการและราคาค่าก่อสร้างที่จะต้องสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

ชยางกูร กิตติธีรธำรง

ชยางกูร กิตติธีรธำรง

สถาปนิกจบใหม่ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท มีความสนใจด้านอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทตั้งแต่ที่อยู่อาศัย ออฟฟิศ คอนโด โรงแรม และชอบไปดูโครงการและงานออกแบบอยู่เสมอ เพื่อเก็บเกี่ยวองค์ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง