“How do you defeat terrorism? Don’t be terrorized.” – Salman Rushdie… วาทะเด็ดที่จุดประกายเหล่าประชาคมโลก ให้ช่วยกันยับยั้งการก่อการร้าย หลังจากเกิดเหตุการณ์ 911 เมื่อราวๆ 10 ปีมาแล้ว เป็นที่มาของการออกแคมเปญพิเศษ “PARK24 Believe in Thailand” ที่น่าจะเขย่าตลาดอสังหาฯได้ในระดับหนึ่งครับ…จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แยกราชประสงค์เมื่อเดือนที่แล้ว แน่นอนว่ามีเจ้าของธุรกิจอสังหาฯหลายราย มองว่าเมื่อนำมารวมกับปัจจัยเชิงเศรษฐกิจมหภาคหลายๆอย่าง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้มี action plan ออกมาชัดเจนเท่าไหร่ ก็อาจจะทำให้ตลาดอสังหาฯอยู่ภาวะชะลอตัว จึงควรที่จะอยู่นิ่งๆรอจังหวะและเวลาที่น่าจะเหมาะสมในอนาคตจะดีกว่า…แต่ คุณธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด กลับไม่คิดเช่นนั้นครับ ในทางตรงกันข้ามคุณธงชัยมองว่าช่วงเวลาแบบนี้ ธุรกิจอสังหาฯ ที่เป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไม่ควรที่จะหยุดเพื่อรอจังหวะครับ จึงได้มีความตั้งใจที่จะสร้างแคมเปญที่จะทำให้คนหายกลัว และกลับมาสู่โหมดของการซื้อขายอีกครั้งครับ

การสร้างแคมเปญการตลาดโดยใช้กลยุทธ์ Cross Category กันระหว่างตลาดทุน และตลาดอสังหาฯเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยมีดีเวลลอปเปอร์รายไหนในเมืองไทยทำมาก่อนครับ ซึ่งการแคมเปญนี้แน่นอนว่าเป็นการเจาะกลุ่มตลาด niche market ในส่วนของกลุ่มนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะกลุ่ม SET 50 ที่ “เจ็บตัว” มาจากการลดลงของดัชนีตลาดฯในขณะนี้ครับ นอกจากนั้นก็ยังคล้ายๆกับเป็นการ introduce & trial การลงทุนอสังหาฯ ไปยังกลุ่มนักลงทุนตลาดหุ้นที่ยังไม่เคยรับรู้ถึงเสน่ห์ของการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯเลย ให้รู้จักการกระจาย Asset Class มากขึ้น เพราะว่าการเข้าร่วมแคมเปญนี้กลุ่มนักลงทุนไม่ต้องควักเงินดาวน์ 20% ในการซื้อห้องโครงการ Park 24 เฟสสองเลยครับ เพราะแค่นำหุ้นที่ตัวเองถือและขาดทุนอยู่มาแลกกับเงินดาวน์ห้องของโครงการ โดยอิงตามราคาปิดของหุ้น SET 50 ของแต่ละบริษัท ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีพุ่งสูงสุดในรอบปี…. ง่ายแค่นั้นเองจริงๆครับ?

สิ่งที่ทาง Park 24 ทำอยู่นอกจากจะเป็นยาแรงที่จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯได้แล้ว ยังถือว่าเป็นแคมเปญที่เข้าใจ customer pain สำหรับกลุ่มลูกค้าคนรวย ที่บังเอิญตอนนี้ติดดอยอยู่ และก็พาลไม่อยากที่จะใช้เงินไปซื้ออะไรหนักๆอย่างคอนโดครับ… ต้องยกนิ้วให้กับทาง Park 24 เลยครับ แต่จะดีมากขึ้นไปกว่านี้อีกหลายเท่านัก ถ้าทาง Park 24 ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ 2o ยูนิต และกำหนดว่าต้องเป็นหุ้นในกลุ่ม Blue Chip อย่างกลุ่ม SET 50 เท่านั้น (คุณคอนโดแมนที่อยู่กับผมด้วยวันนี้ถึงกับบอกว่านี่ถ้ารับตัว XXXXXX นะเค้าจะเทกระจาดหมดพอร์ตกันเลยทีเดียว 555)

ภายใต้แคมเปญดังกล่าวมีเงื่อนไขและข้อจำกัดดังนี้ครับ

1. โครงการโปรโมชั่นนี้สงวนสิทธิสำหรับนักลงทุนไทยที่ลงทุนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทยเท่านั้น
2. หุ้นที่จะนำมาแลกจะต้องมีต้นทุนจากการลงทุนสูงกว่าหรือเท่ากับราคาปิดของหุ้น ในวันโอนหุ้นเท่านั้น
3. นักลงทุนจะต้องแสดงหลักฐานต้นทุนที่ได้มาของหุ้นดังกล่าวแก่ทางโครงการ
4. ในการคำนวนจำนวนหุ้นเพื่อทำรายการนี้ โครงการจะนำเงินดาวน์ห้องชุด 20% (หักด้วยเงินจอง) มาหารด้วยราคาหุ้น SET50 ที่จะใช้ทำรายการโดยจะใช้ราคาปิดของหุ้น SET50 แต่ละบริษัท ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558
5. โปรโมชั่นดังกล่าว กำหนดให้เฉพาะนักลงทุนที่ตัดสินใจซื้อโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 เพียง 20 ยูนิตเท่านั้น (เป็นห้องราคาปัจจุบันนะครับ เลือกได้ตามความต้องการเลยจากทั้งหมดที่เหลืออยู่ราวๆ 25% ราคาเฉลี่ยก็ตรม. ละ 230K)
6. บริษัทของสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ ในโครงการโปรโมชั่นนี้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

ส่วนรายชื่อหุ้นและราคาปิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 นั้นก็ตามด้านล่างนี้ครับ

ตัวอย่างวิธีการคำนวณหุ้น
1. ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้าซื้อหุ้น PTT จำนวน 3,300 หุ้นที่ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 (ดัชนี SET 1,615 จุด) ก็จะมีต้นทุนราคา 369 บาท ต่อหุ้น ฉะนั้น ในวันนั้นลูกค้าได้ชำระค่าหุ้นทั้งหมดในมูลค่า 1,277,000 บาท
2. สมมติว่าวันนี้ หุ้น PTT ปิดที่ราคา 262 บาทต่อหุ้น ลูกค้าจะมีผลขาดทุน 353,100 บาท (27%)
3. ลูกค้าตัดสินใจลงทุนในแคมเปญ “PARK24 Believe in Thailand หุ้นแลกห้อง” โดยสนใจที่จะซื้อโครงการพาร์ค 24 ในราคา 6.385 ล้านต่อยูนิต
4. แทนที่ลูกค้าจะต้องชำระเงินดาวน์ด้วยเงินสดจำนวน 1.277 ล้านบาท (20% ของราคายูนิต) ลูกค้าสามารถโอนหุ้น PTT จำนวน 3,300 หุ้นให้กับทางโครงการแทนเงินดาวน์
5. ดังนั้นลูกค้าจะสามารถหลีกเลี่ยงผลขาดทุนในหุ้นเป็นมูลค่า 355,100 บาท และยังได้เป็นเจ้าของในโครงการพาร์ค 24 อีกด้วย

จากรูปคุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (ที่สองจากซ้าย) คุณธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด และคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี แอล เอส เอ ประเทศไทย จำกัด

คุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว และคิดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทย ขับเคลื่อนไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถอยเช่นนี้ โดยมอบช่องการลงทุนทางเลือกใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง เห็นได้จากการที่ราคาที่ดินมีแต่เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะในทำเลที่ดีเยี่ยม ยิ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่อปัจจัยผันผวนน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ และหากย้อนหลับไปช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง จะเห็นได้ชัดว่าธุรกิจอสังหาฯ เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แต่มีการฟื้นตัวได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นๆนั้นเอง

เราเชื่อว่าการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นไปยังอสังหาริมทรัพย์จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า จึงเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดแนวใหม่ “PARK24 Believe in Thailand” กับโปรโมชั่นหุ้นแลกห้อง ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มนักลงทุนไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยข้อเสนอการลงทุนรูปแบบใหม่ โดยนำหุ้นดัชนี SET 50 มาแลกเป็นเงินดาวน์ 20% ในโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ได้ โดยโครงการจะคิดมูลค่าหุ้นที่จะทำการแลกเปลี่ยน จากดัชนีปิดสูงสุดที่ระดับ 1,615 จุด ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 เราหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงต่อการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้น อยู่ในช่วงซบเซา ส่งผลให้ภาพรวมของภาคการลงทุนไทยดีขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์การลงทุนไทย และเรียกความเชื่อมั่นในการลงทุนให้กลับมาได้ ”

ภายในงานแถลงข่าวนี้ยังมีคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี แอล เอส เอ ประเทศไทย จำกัด มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของเศรษฐกิจ พร้อมแนะนำช่องทางการลงทุนในอสังหาฯด้วยครับ ซึ่งคุณปริญญ์ได้ทิ้งข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า แคมเปญ “PARK24 Believe in Thailand” นั้นจะเป็นสะพานที่เชื่อม diversity ของการลงทุนมาสู่ตลาดอสังหาฯ การลงทุนที่ดีที่สุดคือการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมกับ Risk appetite ของตัวเอง จึงจะสามารถตอบโจทย์ในระยะยาวได้ จริงอยู่ที่หุ้น Blue chip เป็นหุ้นที่ในระยะยาวมองว่าดีแน่ แต่โครงการ Park 24 ก็เป็นโครงการที่มองว่าเมื่อสร้างเสร็จก็จะสามารถทำราคาได้สูงถึง ตรม.ละสามแสนแน่นอน

นอกจากนี้คุณธงชัย ก็ยังพูดถึงภาพรวมของการก่อสร้างโครงการด้วยครับว่าขายได้แล้วกว่า 75% และตึก 2 ได้สร้างถึงชั้น 7 แล้ว รวมถึงตึก 3 ก็ได้จบงานที่จอดรถใต้ดินแล้วเช่นกันครับ ส่วนเฟสสองก็ผ่าน EIA แล้วและคาดว่าจะทยอยเสร็จตามหลังเฟส 1 ภายใน ุ เดือน คาดว่ายังไงก็พร้อมส่งมอบภายในปี 2561 แน่นอนครับ

“หลังจากการเปิดตัวโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่ขณะนี้โครงการทั้งสองเฟส ได้ทำการขายไปแล้วกว่า 75% มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท และยังคงมีกระแสความต้องการและสอบถามถึงโครงการอย่างต่อเนื่อง ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการบนพื้นที่ผืนงาม 12 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 24 ใจกลางย่าน ‘ดิ เอ็มดิสทริค’ เดินทางสะดวกทั้งจาก ซอย 24 และ 22 ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ที่เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับไฮเอนด์ที่ครบวงจรที่สุดของเอเชีย ประกอบกับคอนเซปต์คอนโดสูงพร้อมสวนขนาดใหญ่ 10 ไร่ ผสานชีวิตคนเมืองกับธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวให้ผู้พักอาศัยได้ไกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ทั้งนี้ปัจจุบันโครงการได้เริ่มลงมือก่อสร้างทั้งสองเฟสแล้วโดยได้มอบหมายงานให้บริษัท Bouygues Thai จำกัด เป็น ผู้รับหมาหลัก และโครงการได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) โครงการจะทำการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 และพร้อมส่งมอบในปี 2561 ทั้งโครงการ”

สำหรับโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยจำนวน 3 อาคาร คืออาคาร 4,5 และ 6 โดยมีความสูง 51 ชั้น 44 ชั้น และ 29 ชั้น ตามลำดับ รวม 1,174 ยูนิต

โปรโมชั่นหุ้นแลกห้อง ภายใต้แคมเปญ ‘PARK24 Believe in Thailand’ สงวนสิทธิให้สำหรับนักลงทุนที่ตัดสินใจซื้อโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 เพียง 20 ยูนิต เฉพาะนักลงทุนไทยที่ลงทุนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทยเท่านั้นติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นได้ทางเว็ปไซต์พาร์ค 24 http://www.park24.co.th หรือทางเฟซบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/Park24condo