สรุปประเด็นเด็ด: การเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคตสำคัญแค่ไหนในโลกยุคปัจจุบัน ร่วมเปิดมุมมองโดยคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน
ในห้วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าธุรกิจอสังหาฯในเมืองไทยค่อยๆเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านในด้านขนบการทำธุรกิจอย่างช้าๆ หลายๆบริษัทเริ่มที่จะคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยในบริบทเมือง เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆของผู้บริโภค ตามเทรนด์ Disruptive Technology แทนที่การสร้างตึก สร้างอาคาร เพื่อขายให้จบๆเป็นโครงการไปเหมือนเช่นเมื่อก่อน หลายบริษัทเริ่มจะคุ้นเคยกับการปรับตัว มีการพัฒนาโครงการโดยใช้กลยุทธ์ Design Thinking เป็นแกนกลาง ในขณะที่อีกหลายบริษัทยังคงเดินวนอยู่ในโลกของ Old Economy… แต่แล้ว COVID-19 ก็นำพาทั้งโลกมาสู่จุดเปลี่ยน สำหรับธุรกิจอสังหาฯ นี่ไม่ใช่การบังคับให้เปลี่ยนธรรมดา แต่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างทันที หากว่ายังอยากที่จะอยู่รอดต่อไปได้
เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) โดยคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้นำของวงการอสังหาฯที่มองภาพอนาคตของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนที่สุด เริ่มจากความร่วมมือกันในระยะยาวกับทาง Stanford University ในการควานหา Brand Promise ขององค์กร เพื่อให้รู้ชัดเจนว่านับจากนี้ต่อไปบริษัทฯควรจะส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างไร จนตกผลึกออกมาเป็นสโลแกน Empower Living ที่เป็นทั้ง Brand DNA และ Corporate Culture Code ใหม่ขององค์กร ควบคู่ไปกับการนำเอาแนวคิด Outward Mindset และ Design Thinking มาถ่ายทอดให้พนักงานทุกคนได้พัฒนาตัวเอง เข้าใจในพันธกิจขององค์กร ก่อนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับดีมานท์ที่ซ่อนอยู่ในใจลูกค้า
ผลลัพธ์จากการ Disrupt องค์กร นำมาซึ่งหน่วยธุรกิจใหม่ๆหลายอย่าง สวนทางกับดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆที่ไปพากันไปเน้นหนักในเรื่องของการสร้าง Recurring Income ผ่านการพัฒนาโรงแรม อพาร์ทเมนท์ อาคารสำนักงาน หรือดิจิทัล แพลตฟอร์มต่างๆ ในมุมมองของผม ไม่ว่าคุณอนุพงษ์ จะเปิดธุรกิจชื่อเท่ห์ๆอะไร อย่าง VAARI, CLAYMORE, KATSAN ก็ดูไม่น่าสนใจจนชวนตั้งคำถามเหมือนกับการเข้าไปลงทุนในธุรกิจเพื่อการศึกษาอย่าง สถาบัน SEAC ครับ…ทำไมคนระดับ CEO ขององค์กรอสังหาฯถึงต้องมาให้ความสนใจในเรื่องที่เป็นวิชาการมากๆ เป็นเรื่องที่ดูจะเหมาะกับหน่วยงานรัฐบาลอย่างกระทรวงศึกษาธิการ หรือพม.ด้วยซ้ำ…เอพี ไม่มีพนักงานที่มี Skill เพียงพอ? หรือว่าทั้งประเทศไทยกำลังขาดแรงงานที่มี Skill และ Mindset ดีพอที่จะ Fit ในองค์กรยุค Digital ได้กันแน่ คำถามสองข้อนี้ผุดขึ้นมาในความคิดของผมแวปแรก พร้อมกับบทสรุปที่คิดเอาเองว่ายังไงซะทรัพยากรบุคคลก็เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กร บริษัทฯจะกำไรมากหรือน้อยก็อยู่ที่มันสมอง กระบวนการผลิตที่มากจากตัวบุคคลล้วนๆหาใช่เครื่องจักรไม่… มาในวันนี้ผมได้รับฟังคำตอบที่ชัดเจนขึ้นจากการร่วมรับชมถ่ายทอดสด Virtual Conference โดย The Standard Economic Forum ภายใต้ธีม The World After Covid-19 โลกหลังโควิด -19 ประเทศไทยอยู่ตรงไหนในความปกติใหม่
ซึ่งทางคุณอนุพงษ์ เองก็รับหน้าที่บรรยายในหัวข้อ Skills for the Future การเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคต ครับ นับว่าเป็นหัวข้อที่สะท้อนถึงความต้องการที่จะพัฒนาทักษะของบุคคลกรให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันจริงๆ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างแตกต่างจากผู้บริหารองค์กรอสังหาฯอื่นๆอย่าง SC Asset หรือ Sansiri ที่ยังคงมีเน้นหาที่เกี่ยวพันกับธุรกิจอสังหาฯอยู่พอสมควรครับ
โดยใน Session นี้ทางคุณอนุพงษ์ ก็ได้ร่วมบรรยายกับคุณเกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มาร่วมถกกันถึงปัญหาการศึกษาไทย โดยในมุมมองของอาจารย์มหาวิทยาลัยก็มองว่าปัญหาส่วนใหญ่นั้นเป็น Classic Case ที่รับรู้กันมาตั้งแต่อดีตว่า เรามักให้คุณค่าไปกับการท่องจำแทนที่จะเน้นความเข้าใจ รวมไปถึงการตีค่าปริญญามากกว่าการนำไปใช้ในชีวิตจริง ในขณะที่พ่อแม่เองก็มีอิทธิพลต่อการเลือกเรียนของลูกๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่สิ่งที่ลูกชอบอย่างแท้จริง สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นการเลือกทางเดินที่ผิด ในขณะที่คุณอนุพงษ์เองก็ให้ความเห็นในฐานะของผู้ประกอบการที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตของพนักงานเป็นพันๆคนในประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ครับ