“LOW RISE, HIGH LIFE” คือ slogan ที่ทาง Habitat Group และ LIST Group จากญี่ปุ่น เลือกใช้เป็น concept ในการเปิดตัว 2 โครงการร่วมทุนใจกลางทองหล่ออย่าง  Walden Thonglor 8 และ Walden Thonglor 13

หมายถึงความพรีเมียมในการอยู่อาศัยแบบสุดขีด ที่คุณจะได้จาก 2 โครงการคอนโดมิเนียมที่แม้จะเป็นโครงการ 8 ชั้น ตึกไม่สูง แต่คุณภาพชีวิตกลับสูงเหนือระดับ

ภาพ key visual ที่ปล่อยออกมา ยังถ่ายทอดให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการซื้อ  2 โครงการนี้ เปรียบเหมือนการได้ครอบครองต้นไม้วิเศษ ที่จะออกผลเป็นทองคำและตัวเงิน ให้คุณได้เก็บดอกและผลตลอดเวลา

THONGLOR คือถนนที่เป็นที่สุดทางด้าน Lifestyle ของกรุงเทพและประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่กลุ่ม expat ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มาอยู่อาศัยระยะยาว เลือกเป็นบ้านในการพักอาศัยที่ประเทศไทย  รวมถึงนักท่องเที่ยวมากมาย ต่างก็ปักหมุดถนนเส้นนี้ไว้เป็นเป้าหมายที่อยากจะมาสัมผัสถึงความเป็น “ทองหล่อ”  สักครั้ง

Habitat Group ดีเวลอปเปอร์ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จมากมายจากการพัฒนาคอนโดตากอากาศกึ่งโรงแรมที่พัทยา จับมือกับ LIST กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นที่มาปักหลักตั้งสำนักงานใหญ่โตที่เมืองไทย ร่วมกันคว้าที่ดิน 2 แปลงสวยราคาสูงในทำเลทองหล่อ ที่เรียกได้ว่าเป็น “ทองหล่อ” แท้ๆ คือเป็นทองหล่อที่แวดล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ และเป็นทำเลที่มีอพาร์ทเมนท์เกรด A  ตั้งอยู่เรียงราย

** ผมในฐานะที่พักอาศัยในย่านนี้มานานจนคุ้นเคยกับทำเลนี้ทุกซอกทุกซอย ขอร่วมยืนยันอีกเสียงครับว่า 2 แปลงของ Walden ทำเลดีเหมาะแก่การทำคอนโดระดับพรีเมียมมากๆ  ดีไม่ดีเอาเป็นว่าที่ดินทั้ง 2  แปลงมีดีเวลลอปเปอร์สนใจซื้อหลายราย แต่เป็น Habitat ที่คว้ามาได้**

ในด้านผลตอบแทนการลงทุน อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจของ NEXUS ทองหล่อ-พร้อมพงษ์ เป็นทำเลที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากค่าเช่าหรือที่เรียกว่า YIELD ได้ดีที่สุดในกรุงเทพในช่วง 5 ปีหลัง โดยมีราคาค่าเช่าต่อตารางเมตรต่อเดือนสำหรับห้อง 1 BED อยู่ที่ 1,000 บาท และ 984 บาท สำหรับห้อง 2 BED ตัวเลขผลตอบแทนดีขนาดนี้ จึงเป็นที่มาของภาพ key visual ต้นไม้ทองคำ ที่สื่อออกมาในแอดโฆษณานั่นเอง

แต่ถ้าแค่ทำห้องออกมาขายแล้วให้ผู้ซื้อไปหาคนเช่าเอง ไม่น่าจะเพียงพอเป็นต้นไม้วิเศษได้ในยุคนี้สมัยนี้ที่ supply คอนโดเยอะเหลือเกิน WALDEN 8 , 13 นี้ จึงได้มีการดึงบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้าน hospitality อย่าง L’axe JALUX serviced residence (บริษัทลูกของ Japan Airline) มาเสริมเพิ่มบริการหลังตึกเสร็จให้อีก

WALDEN Thonglor 8

LIVE A GLAMOROUS VALUE OF LIFE
“Step into the world of Walden Thonglor 8, a singular luxury low-rise project that comes with a deep tradition to offer the utmost privacy surrounded by the beauty of nature while bringing about a further evolution with an added touch of flair.”

คอนโดมิเนียมที่ luxury ที่สุดเท่าที่ Habitat Group เคยพัฒนามาตั้งอยู่บนที่ดินแปลงสวยในซอยทองหล่อ 8 ด้านหลัง EIGHT THONGLOR ที่ถือเป็นอีกหนึ่ง community mall หลักของแอเรียนี้

ซอยทองหล่อ 8 คือซอยที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึก 8 และ Centre point serviced apartment โดยมีระยะจากปากซอยแค่ 180 เมตร และห่างจากประตูข้าง EIGHT THONGLOR ประมาณ 110 เมตร

การที่ซอยนี้เป็นซอยตันทำให้ไม่มีรถขับเข้ามาในซอยนี้มากนัก ทำให้ซอยนี้เงียบสงบมาก ซึ่งเป็นความสงบที่ไม่ได้มากับความเปลี่ยว เป็นข้อดีที่ไม่มีใครเหมือน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่ดินแปลงนี้จริงๆ

Eight Thonglor ด้านล่างเป็นศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึง supermarket ชื่อดังอย่าง food land ที่มาเปิดให้บริการกัน 24 ชั่วโมง (มีร้านอาหาร “ถูกและดี” ของฟู้ดแลนด์มาให้บริการตลอดเวลา สมกับ lifestyle ของทองหล่อที่ never sleep ด้วยครับ)

** Eight THONGLOR คือ community mall ที่ผมและชาวทองหล่ออีกหลายคนนิยมมาใช้บริการบ่อยที่สุด **

สภาพซอยทองหล่อ 8 ถนนดีร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สวยๆตลอดทาง

เดินเข้ามาจากถนนทองหล่อประมาณ 100 เมตรแล้วเลี้ยวขวาอีกราวๆ 60 เมตร ก็จะถึงตัวที่ดินโครงการ ซึ่งอยู่ติดตึกที่พักอาศัยทรง modern สีน้ำตาลในภาพ

ที่ดินหน้ากว้างถึง 47 เมตร กว้างกว่าที่ดินทำคอนโด LOW RISE ส่วนใหญ่

ตรงข้ามแปลงที่ดินเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีสวนด้านหน้าใหญ่และร่มรื่น

ภาพมุมสูงของแปลงที่ดินจะเห็นได้ชัดว่าต้นไม้เยอะจริงๆ

** ก่อนจะไปถึงรายละเอียดของโครงการ ผมแอบกระซิบบอกนะครับว่าที่ดินแปลงนี้ด้วยการที่เป็นแปลงที่ดินในตลาดไม่กี่แปลงที่พรีเมียมขนาดนี้ ทำให้ Habitat Group ทุ่มเงินซื้อมาในราคามากกว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวา **

รายละเอียด WALDEN THONGLOR 8

เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 117 ยูนิต บนที่ดินขนาด 1-0-2 ไร่ ที่จอดรถ 61%

จุดเด่นคือความร่มรื่นที่ใส่เข้ามามากกว่าคอนโดอื่นๆ และลูกเล่นการ interlock ระหว่างชั้น ทำให้สามารถดันเพดานห้องบางส่วนให้สูงขึ้นไปได้ถึง 3.45 เมตร

การ interlock แบบนี้ นอกจากจะเพิ่มความสูงในห้องพักให้มากขึ้นทำให้รู้สึกแกรนด์ไม่เหมือนคอนโด low rise ที่อื่นแล้ว ยังทำให้มุมมองของคอนโดจากภายนอกดูแพงดูดีตามไปด้วย จากขนาดกระจกที่สูงใหญ่ over size

UNIT MIX  ที่นี่มีห้อง 1 bedroom กับ 2 bedroom ในอัตราส่วนใกล้เคียงกัน ห้องพักเริ่มที่ 32.5 ตารางเมตร ไปจนถึง 2 bedroom ที่ใหญ่ที่สุดคือ 71 ตารางเมตร

One bedroom types (usable area appx. 32 sq.m.)

One bedroom plus types (usable area appx. 40 – 47 sq.m.)

Two bedroom types (Usable area appx. 45 – 58 sq.m.)

Two bedroom Plus types (Usable area appx. 59 – 71 sq.m.)

FLOOR PLAN

ชั้นใต้ดินเป็นช่องเก็บรถยนต์ของ LIFT จอดรถอัตโนมัติระบบ ROBOT  // มีห้อง fitness และลานน้ำตกที่เชื่อมต่อ landscape มาจากชั้น G (เป็นช่องเปิดที่ทำให้แสงธรรมชาติส่งผ่านลงมาได้) ตำแหน่งลานน้ำตกนี้คือด้านหน้าโครงการ ข้างๆประตูทางเข้าเลยครับ

ชั้น G เป็นทางรถวิ่งเข้าสู่โถงจอดรถอัตโนมัติ, LOBBY แบบ double volume ที่เชื่อมต่อไปชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ,สวนสวยๆรอบที่ดิน,ห้องพักวิวสวนแบบ garden access จำนวน 9 ห้อง (ซึ่งมีพื้นที่สวนเพิ่มเข้ามา เป็นสวนส่วนกลางแต่ให้สิทธิห้องชั้นล่างใช้ประโยชน์)

ประตูทางเข้าจะอยู่ด้านซ้าย เป็นประตูรถเข้าวิ่งทางตรงเสียบเข้าช่องจอดรถแบบอัตโนมัติระบบ robot ที่เพียงเอารถไปจอดในห้อง จะมีระบบคล้ายแขนหุ่นยนต์มาลากรถเข้าช่องเก็บด้านล่างเอง และเมื่อเรียกรถกลับขึ้นมา จะกลับรถให้เรียบร้อยพร้อมขับออกได้ทันที

** เบอร์ 5 คือลานน้ำตกของชั้น B1 ที่เป็น void ในระดับพื้นชั้น G

Double Volume Lobby

ภาพการเชื่อมต่อของ Facility ชั้น B1 และ G

ชั้น 2 ยังคงเป็นชั้นที่มี facility (ห้อง meeting room) มีห้องพัก 9 ยูนิต

ห้อง meeting room ไม่ได้เชื่อมต่อกับ facility ชั้นล่าง ต้องขึ้นลิฟท์มาเท่านั้น

ชั้น 3-7  เป็นชั้นห้องพักอาศัย ชั้นละ 17 ยูนิต แปลนจะไขว้กันไปมาในห้องแบบ interlock (ชั้นคี่และคู่)

โดยฝั่งหน้าโครงการทิศตะวันตกคือ ห้องเบอร์ 10-16 เป็นห้อง 2 bed (M) ขนาด 49.44 – 58.02 ตารางเมตร และห้อง 2 bed (L) 63.27 ตารางเมตรที่ตำแหน่งมุม

ด้านหลังทิศตะวันออกหันไปทางเอกมัย (ห้อง 01 -06)  ตำแหน่ง 01 เป็นห้อง 2 bed (M) 50.47 ตารางเมตร , ตำแหน่ง 02-06 เป็นห้อง 1 bed plus ขนาด 43.68 – 44.85 ตารางเมตร

หันทิศเหนือไปที่แปลงที่ดินด้านข้างมีห้องเดียว ตำแหน่ง 17 เป็น 1 bed plus 41.87 ตารางเมตร ไม่ได้เป็นห้อง interlock ไม่มีส่วนเพดานสูง 3.45 เมตร

ทิศใต้ (ห้อง  07-09)  หันไปทางบ้าน 2 ชั้นขนาดใหญ่ที่ติดกัน ห้อง 07 เป็น 2 BED (L) ขนาด 70.04 ตารางเมตร ,ห้อง 08 เป็น 1BED PLUS ขนาด 40.38 ตารางเมตร ,09 เป็นห้อง 1 BED 32.05 ตารางเมตร มีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น

ชั้น 3

ชั้น 4

ชั้น 5

ชั้น 6

ชั้น 7

ชั้น 8 ห้องพักจะเหลือ 14 ห้อง แปลนห้องด้านหน้าก็จะแตกต่างไม่เหมือนชั้นอื่น

ถ้าดูจากแปลนจะเห็นว่า ไม่มีช่องหน้าต่างที่โถงทางเดินเลย แต่ไม่ต้องกลัวอึดอัดหรือมืดทึบครับ เพราะที่ Walden Thonglor 8 ได้มีการออกแบบให้มีปล่อง VOID ขนาดใหญ่วิ่งยาวตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นมาชั้นบน ที่ตำแหน่งหน้าลิฟท์ทำให้ถ่ายเทอากาศและเพิ่มความพรีเมียมกว่าแบบใส่ช่องหน้าต่างที่โถงทางเดิน  และทำให้แปลนห้องที่นี่เป็นแบบ Single Loaded Corridor ไม่มีประตูห้องตรงข้ามโถงทางเดินให้รู้สึกไม่เป็นส่วนตัว

ตำแหน่งของ void ที่ชั้น G จะมี sculpture สวยๆมาตั้งไว้เหนือพื้นที่เป็น shallow pond ด้วย

ชั้น rooftop facility  เป็นชั้นที่มีทั้งสระว่ายน้ำและสวนสวยๆ พร้อมลานกลางแจ้งให้นั่งเล่น และ facility มากมายให้ผู้พักอาศัยมาใช้บริการไปพร้อมชมวิวตึกสูงที่รายล้อม นับว่าเป็นคอนโดไม่กี่แห่งที่กล้าให้ roof top facility เต็มพื้นที่ทั้ง floorplate

สระว่ายน้ำหันไปทางทิศตะวันออกยาวประมาณ 16 เมตร

ผมแปะแปลนห้องกับ google map มาให้เล็งวิวกันดูครับ ห้องส่วนใหญ่วิวโล่งมีเพียงไม่กี่ห้องที่วิวบล็อก วิวสระก็โล่งนะ

มุมมองเข้าไปในที่ดินโครงการก็เห็นว่ารอบๆ มีตึกสูงบ้างแต่ก็มีพื้นที่วิวโล่งเยอะกว่า

ซึ่งเมื่อโครงการสร้างเสร็จจะเป็นประมาณนี้ครับ (not to scale)

UNIT PLAN ที่น่าสนใจ : ทุกห้องที่นี่มีอ่างอาบน้ำหมด ถ้าไม่ติดว่าต้องได้ห้อง interlock เพดานสูง ห้องเล็กสุดอย่างA1 ขนาด 32.05 ตารางเมตรแปลนสวยดีครับ ได้กระจกเข้ามุมยาวต่อเนื่อง การเก็บคอมแอร์ก็ยื่นออกไปจากระนาบห้องทำให้ลมร้อนแม้จะเป่าเข้าหาแต่ก็ไม่ได้ปะทะระเบียงเต็มๆ แถมมีอ่างอาบน้ำด้วย

ห้องตัวอย่างจะมี 3 ห้อง

ราคาขายเฉลี่ยของ WALDEN THONGLOR 8 ประมาณ 235,000-265,000 บาทต่อตารางเมตร (เป็นคอนโด low rise ระดับ Super luxury ที่ราคาต่อตารางเมตรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ)

PRICE RANGE

เทียบกับ spec ห้อง, ส่วนกลางที่เยอะมาก , ทำเลที่ตั้งที่พรีเมียมและมีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน , การบริการหลังการขายจากมืออาชีพ

ผมว่าราคานี้สมเหตุสมผล และถ้าจะว่าไปคอนโด low rise ที่ออกแบบมาสวยและน่าสนใจ ในระดับราคาแบบนี้คงไม่ได้มีมาให้เลือกซื้อกันบ่อยๆ  ใครอยากครองครองที่อยู่อาศัยที่เป็น collection สำหรับคนมีระดับ ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ

WALDEN THONGLOR 13

INVEST IN AN ELEGANT WAY OF LIVING

“Whether you choose to spend your time pursuing your hobbies, entertaining, socializing, or relaxing, Walden Thonglor 13 is the perfect place to enjoy all life has to offer”

แตกต่างจาก Walden Thonglor 8 ที่อยู่ในซอยตันเงียบสงบ  Walden Thonglor 13 ตั้งอยู่บนแปลงที่ดินที่ติดกับถนนซอยที่เป็นทางเชื่อมหลักในการเดินระหว่างซอยทองหล่อ ไปซอยสุขุมวิท 49 –>39–>31—>23–>ไปถึงอโศก

โครงการอยู่ติดถนนซอยสุขุมวิท 49/6  ตรงกลางระหว่างทองหล่อ 13 และ 19 ถ้าวัดระยะทางจากถนนเมนทองหล่อ เข้าจากซอยทองหล่อ 19 มาถึงที่ดิน ใกล้กว่ามาจากทองหล่อ 13 ที่เป็นชื่อโครงการด้วยซ้ำ ทำเลนี้แม้จะเป็นในซอยที่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า แต่ก็มีร้านค้าร้านอาหาร อพาร์ทเมนท์จำนวนมาก เหตุเพราะแถวนี้สามารถเชื่อมกับซอยสุขุมวิท 49 ที่มีโรงพยาบาลชั้นนำระดับ luxury ที่เน้นให้บริการกับกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักและชาวต่างชาติ โดยโรงพยาบาลสมิติเวชห่างจากโครงการ Walden Thonglor 13 เพียง 450 เมตร

ถนนหน้าโครงการมีรถขับผ่านตลอดเวลา ด้านข้างและด้านตรงข้ามเป็นอพาร์ทเมนท์ราคาแพงที่จับตลาดผู้เช่าชาวญี่ปุ่น

แปลงหัวมุมที่มีป้าย 649 residence ติดอยู่ มีแผนจะก่อสร้างเป็น community mall ใช้ชื่อว่า 949 neighborhood

(โชคดีที่ เมื่อ 2 ปีก่อนผมถ่ายภาพตอนที่เค้ายังติดป้าย 2 ภาพด้านล่างนี้เก็บไว้ได้)

แม้จะเป็นทางสัญจรหลัก แต่สภาพแวดล้อมก็สงบร่มรื่น

บ้านที่ติดกันกับแปลงที่ดิน Walden Thonglor 13 ก็มีแผนจะขึ้นคอนโดนะครับแต่เป็นคอนโดเน้นห้องใหญ่มากๆ ยูนิตน้อยสุดๆ

หน้าที่ดินติดป้ายโฆษณาแสดงความเป็นเจ้าของเรียบร้อย ใครขับรถผ่านมาผ่านไปได้เห็นกันชัดเจนว่าตรงนี้กำลังจะก่อสร้างคอนโด Walden Thonglor 13

เยื้องๆ Walden Thonglor 13 เป็นที่ตั้งของร้านค้าร้านอาหาร “PATOM ORGANIC LIVING” ที่กำลังมาแรงในกลุ่มสาวๆทั้งคนไทยและต่างชาติ

ห้องด้านหน้าชั้นบนๆของโครงการจะได้วิวสวนสวยๆของร้าน PATOM ด้วยครับ ภาพด้านล่างผมถ่ายจากในร้าน PATOM หันไปทาง Walden Thonglor 13

Walden Thonglor 13 คือคอนโด 8 ชั้น 122 ยูนิต ขนาดที่ดิน 1-0-23 ไร่ ห้องพักมีขนาด 35-66 ตารางเมตร

UNIT MIX

One bedroom types (Usable area appx. 36 – 50 sq.m.)

One bedroom plus types (Usable area appx. 41 – 46  sq.m.)

Two bedroom types (Usable area appx. 51 – 68 sq.m.)

ผิวอาคารมี texture ใช้สีน้ำตาลอ่อน  เมื่อรวมกับความเขียวของต้นไม้ที่ปลูกไว้ในโครงการ และกระจกใสบานใหญ่ ทำให้ภาพออกมากลมกล่อมลงตัว น่าอยู่มากๆ

ทางผู้ออกแบบกล่าวว่าอาคารนี้ใช้ pattern ลวดลายแบบศิลปะไทยแฝงกลิ่นอายความญี่ปุ่น เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ

แปลงที่ดินมีอาคารสูงอยู่ด้านข้าง ตอนนี้เป็นอาคารอพาร์ทเมนท์ 8 ชั้นอยู่ที่ฝั่งทิศใต้ และในอนาคตทิศเหนือจะมีคอนโดอีกแบรนด์มาสร้างข้างๆ  ซึ่งทาง Walden Thonglor 13 ได้วางแปลนอาคารถอยร่นทั้ง 2 ด้าน ลึกเข้าไปเรียบร้อย

ทิศเหนือมีระยะ 6.50 เมตร  ทิศใต้ 9.5 เมตร ถึงขอบเขตที่ดินข้างเคียง (ถ้านับถึงอาคารข้างเคียงต้องบวกไป 2-3 เมตรจากตัวเลขนี้)

ฝั่งทิศเหนือถึงจะมีระยะร่นจากที่ดินข้างเคียงน้อยกว่าทิศใต้  แต่ก็มีจุดเด่นที่ด้านอื่นไม่มีนั่นคือ ฝั่งนี้อาคารจะมีกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ ปลูกตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปสุดด้านบน สลับไปมาให้ทุกยูนิตได้มีต้นไม้ส่วนตัวไว้ชื่นชม

FLOOR PLAN

ชั้น G เป็น lobby , landscape , auto parking แบบ robot ,Fitness,และห้องพักอาศัย garden access 6 ยูนิต

ทางเข้าอยู่ชิดด้านขวา

ลิฟท์จอดรถอัตโนมัติ ขับเข้าไปจอดระบบจะเก็บรถให้เอง และกลับรถให้พร้อมขับออกไปด้านนอกทันที ที่เรียกรถกลับคืน ซึ่งจากการคำนวน สามารถมีรถจอดที่ชั้น G เพื่อรอใช้ระบบนี้สูงสุด 10 คัน

LOBBY เพดานสูง double volume เชื่อมต่อสายตากับ landscape ขนาดใหญ่ด้านนอกผ่านกระจกใสบานสูง

ฟิทเนสวิวสวน

ชั้น 2 เป็นห้องพักอาศัยและ pocket garden ที่ฝั่งทิศใต้

ชั้น 3-7 เป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพัก 18 ยูนิตต่อชั้น / ห้อง 2 BED จะอยู่ที่มุมทั้ง 4 เป็น 2 bedroom ที่ได้หน้าต่างถึง 3 ทิศ แถมมีกระจกเข้ามุมต่อเนื่องบานใหญ่ เพิ่ม value ให้ห้องไปอีก / ห้องฝั่งทิศใต้จะเล็กกว่าทิศเหนือ / ห้อง 1 bed plus 4x ตารางเมตร จะอยู่ด้านหน้าและด้านหลังอาคาร ในทิศตะวันตกและตะวันออกตามลำดับ โดยฝั่งด้านหน้าที่ติดถนน แนวของผนังห้องจะเฉียงออกจากระนาบ ทำให้ห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู

ชั้น 3

ชั้น 4 – 6

ชั้น 7 ห้องพักด้านตะวันตกฝั่งติดถนนหน้าโครงการ จะมีเอกลักษณ์พิเศษกว่าชั้นอื่น โดยจะมีระเบียงขนาดใหญ่พร้อมต้นไม้เหมือนเป็นสวนสวยๆส่วนตัว

ชั้น 8 มีห้องพัก 14 ยูนิต ห้องด้านหน้าฝั่งติดถนนก็เป็นระเบียงใหญ่ได้ต้นไม้เช่นเดียวกับชั้น 7 แต่หดขนาดห้องให้เล็กลง

ชั้น 7 และ 8 เป็น step ร่นเข้าในแบบนี้ครับ พร้อมส่วนระแนงหลังคาเพิ่มลูกเล่นให้อาคารและช่วยบังแดดแถมเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาผู้พักอาศัยห้องชั้นบนและล่างมาใช้ระเบียงพร้อมกัน

ชั้น rooftop เป็น facility จัดเต็มทั้งสวยสวยๆและสระว่ายน้ำ

สระเล่น 4 ระดับ  มีส่วนน้ำตกไหลเชื่อมต่อกันเป็นผิวน้ำเดียว สระอยู่ที่ด้านทิศเหนือ

สวนนั่งเล่นให้ขึ้นมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

ลาน BBQ

** ชั้น 8 ของอพาร์ทเมนท์ที่ติดกันเป็นสระว่ายน้ำ ทำให้ facility ของทั้ง 2 ตึกสามารถเชื่อมต่อวิวกันได้ **

ทำให้ชั้น 8 ฝั่งทิศใต้ก็น่าจะพอเห็นสระของอพาร์ทเมนท์เช่นกัน (แต่ผิวสระของอพาร์ทเมนท์จะสูงกว่าระดับพื้นชั้น 8 ของคอนโดนะครับ)

UNIT PLAN ที่น่าสนใจ

A4 เป็นห้องขนาดเล็กทิศใต้ หันไปหาอพาร์ทเมนท์ข้างๆ แต่มีระยะห่างประมาณ 12 เมตร) แบ่งกั้นห้อง living กับห้องนอนด้วยบานเลื่อนกระจกใส  แม้จะมีขนาดแค่ 38 ตารางเมตร แต่ก็ได้อ่างอาบน้ำ

B3 ขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็น 43.3 ตารางเมตร โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือห้อง PLUS ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามต้องการ ห้องแบบนี้อยู่ฝั่งตะวันตกติดถนนด้านหน้า เป็นห้องที่ระนาบของกระจกบิดออกเล็กน้อยเปิดองศาการมอง

ห้อง 2 BED C3 , C10

C3 จะเป็น  2 BED / 2 bath แบบจริงจังอยู่ที่มุมทั้ง 4 ของอาคาร ห้องหน้ากว้างได้กระจก 3 ด้าน และมีกระจกบานสูงยาวต่อเนื่องเข้ามุมถึง 2 ตำแหน่ง

ห้องตัวอย่างจะมี 2 ห้องคือ  1bedplus และ 2 bedroom

1 bed plus

2 BEDROOM

Walden Thonglor 13 ขายในราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท (ราคาต่อตารางเมตรคือ 185,000 – 220,000 บาท) เป็นคอนโดพรีเมียมที่ราคาใกล้เคียงกับคอนโดพรีเมียมในซอยทองหล่อฝั่งเลขคี่ ที่เปิดขายกันตอนนี้  ผมชอบทำเลกับการออกแบบนะ ตึกเสร็จสวยแน่นอน

PRICE RANGE

SALES GALLERY ของทั้ง 2 โครงการ ตั้งอยู่รวมกันที่ซอยเชื่อมของทองหล่อ 5 และทองหล่อ 7 เยื้องๆ Max Valu ซึ่งรูปแบบนี้ทาง Habitat Group ใช้อยู่แล้วในตอนนี้ คือสำนักงานขายของ WALDEN ASOKE และ สุขุมวิท 39 อยู่ที่เดียวกันในซอยสุขุมวิท 23

เทียบราคาขายทั้ง 2 โครงการกับโครงการ low rise อื่น

แต่สิ่งที่ทำให้ WALDEN แตกต่างคือบริการหลังเปิดตึก ที่เทียบเท่าโรงแรมเกรดบนโดย JALUX บริษัทลูกของ  JAPAN AIRLINE ที่ใช้แบรนด์ L’AXE  ในการทำตลาดด้าน serviced apartment

ข้อดีของการเป็นบริษัทลูกของ  JAL คือการได้สิทธิพิเศษเหล่านี้

สำหรับห้องที่เข้าร่วม ต้องทำสัญญา lease กับทาง Habitat Group เช่นเดียวกับตัวโรงแรมที่พัทยาของ Habitat Group แต่ที่แตกต่างคือที่นี่เป็น serviced apartment ปล่อยเช่าระยะยาว และที่นี่คนซื้อจะเข้าหรือไม่เข้าร่วมก็ได้ ไม่บังคับเหมือนที่พัทยา และได้รับบริการพิเศษมากมายเช่นเดียวกัน

เทียบราคากับ Serviced apartment ในย่านนั้น 

**ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง HABITAT GROUP เองจะถูกต้องครบถ้วนกว่ามาอ่านจากทางเราครับ**

สรุปส่งท้ายบทความ

ทั้ง 2 โครงการใหม่เป็นโครงการนำร่องการร่วมทุนระหว่าง Habitat Group กับ List Group จากญี่ปุ่น  เป็นการเสริมแรงที่นำเอาเอกลักษณ์และ knowhow ของทั้ง 2 ฝ่ายมาแชร์กัน โดยมีการดึงพันธมิตรอย่าง JALUX มาเสริมเติมความแข็งแกร่ง ให้ Walden ทั้ง Thonglor 8 และ 13 เป็นคอนโดที่น่าซื้อมากกว่า Low Rise อื่นๆในย่านนี้

ราคาขายอาจสูง แต่สิ่งที่ได้ผมว่าคุ้ม ผมเชื่อว่าราคาที่สูงไม่ได้เกิดจากกำไรที่ developer ตั้งไว้มาก แต่เกิดจากต้นทุนทั้งค่าที่ดินและการพัฒนาโครงการที่แตกต่างและให้มากกว่าโครงการอื่นหลายๆโครงการ

#condoman