ซื้อบ้านตำแหน่งไหนดี? ข้อควรรู้ก่อนพิจารณาเลือกซื้อบ้านจัดสรร
ภาพจาก: World Economic Forum
เมื่อเราทุกคนเติบโตขึ้น มีครอบครัว ก็ต้องมีความคิดอยากจะขยับขยายการใช้ชีวิตอย่างการแยกออกมาอยู่เองด้วยการเลือกซื้อบ้านสักหลัง ซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยมีประสบการณ์จากทั้งเพื่อน หรือพ่อแม่ของตัวเอง ที่เจอปัญหาจากการเลือกบ้านที่ผิดแล้วเมื่อเข้าไปอยู่อาศัยพบว่าไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเอง ทำให้เกิดปัญหาในการใช้งาน เช่น พื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ ที่จอดรถไม่เพียงพอ สวนเล็กเกินไป และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งโดยปกติพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านของแต่ละคนมักจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหรือรูปแบบการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น บางคนชอบความเป็นส่วนตัว introvert หน่อยๆ ก็อาจจะต้องมองหาโครงการที่มียูนิตน้อย หรือบางคนชอบคนเยอะมีเพื่อนๆมาปารตี้ที่บ้านกันบ่อยๆ ก็จะเน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย หรือบางคนชอบกิจกรรมอย่างการออกกำลังกาย ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ ทิวทัศน์เปิดโล่ง รับแสงธรรมชาติได้วิวสวยๆ ก็อาจจะมองหาโครงการที่มีส่วนกลางเยอะๆ หรือบางคนต้องการบ้านที่มีที่จอดรถได้หลายคันเพราะชอบรถ ก็คงต้องมองหาบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่นสามารถขยับขยายต่อเติมที่จอดรถได้ จนไปถึงต้องการบ้านที่รองรับครอบครัวใหญ่อยู่กันหลายคน ครบทุก Generation หรือสุดท้ายที่ในยุคปัจจุบันคนก็เริ่มทำงานที่บ้านกันมากขึ้น ก็เริ่มมีความต้องการที่อยากได้พื้นที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่น สามารถใช้ทำงานหรือประชุมงานได้ ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของคนเรามีหลายร้อยพันอย่างนับไม่ถ้วน แตกต่างกันออกไป แล้วอย่างนี้ถ้าจะต้องซื้อบ้านควรจะมีข้อพิจารณอะไรบ้างละที่จะช่วยลดปัญหาจากการเลือกที่ผิดได้?
แต่ก่อนจะบอกว่าต้องมีข้อพิจารณาอะไรบ้าง ผู้เขียนอยากจะขออธิบายเพิ่มเติมก่อนว่า อะไรคือบ้านจัดสรร? ตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 อธิบายว่า คือ ‘การจำหน่ายที่ดินที่แบ่งแปลงย่อยรวมกันตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งจากที่ดินแปลงเดียวหรือแบ่งจากที่ดินหลายแปลงที่มีพื้นที่ติดต่อกัน โดยได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์เป็นค่าตอบแทน’ ซึ่งการจัดสรรสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทหลัก ที่มากรมที่ดิน
1) จัดสรรขนาดเล็ก : จำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 99 แปลง หรือน้อยกว่า 19 ไร่
2) จัดสรรขนาดกลาง : จำนวนแปลงย่อย 100-499 แปลง หรือ 19 ไร่ ถึง 100 ไร่
3) จัดสรรขนาดใหญ่ : จำนวน 500 แปลงขึ้นไป หรือ 100 ไร่ขึ้นไป
ซึ่งโครงการจัดสรรที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ก็มักจะพบเป็นจัดสรรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เนื่องจากที่ดินในเมืองมีอยู่อย่างจำกัดและมีราคาสูงขึ้นทุกวัน
ภาพจาก: Google Maps
เมื่อเราพอเข้าใจกันคร่าวๆแล้วว่าการจัดสรรคืออะไร มาดูกันต่อข้อควรพิจารณากันบ้าง ถ้าเป็นในเงื่อนไขที่งบประมาณไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเลือกบ้าน แล้วรู้แล้วว่าความต้องการเราเป็นแบบไหน ข้อที่ควรพิจารณาอย่างแรกเลยในการเลือกตำแหน่งภายในบ้านจัดสรร คือ
1) ขนาดความกว้างของถนนหน้าบ้าน
โดยต้องพิจารณาว่าความกว้างของถนนมีความกว้างเพียงพอตามมาตรฐานไหมที่จะไม่ก่อเกิดปัญหาการจอดรถในอนาคต ซึ่งตามปกติถนนในโครงการก็จะมีขนาดตั้งแต่ 6 เมตร 8 เมตร 9 เมตร 12 เมตร หรือ 18 เมตร ขึ้นอยู่กับขนาดโครงการนั้นๆ เช่น หมู่บ้านขนาดไม่เกิน 99 แปลงหรือไม่เกิน 19 ไร่ ต้องมีขนาดถนนไม่ต่ำกว่า 9 เมตร
2) ตำแหน่งบ้านตั้งอยู่ใกล้สวน หรือ CLUBHOUSE ของโครงการ
โดยตำแหน่งบ้านที่อยู่ติดสวนจะมีข้อได้เปรียบ เพราะบ้านที่อยู่ตำแหน่งใกล้สวน หรือ Clubhouse ของโครงการ จะสามารถเพิ่ม Value ในการขายต่อในอนาคตได้ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด มีความสะดวกที่สุดในการจะเดินไปออกกำลังกาย ว่ายน้ำ วิ่ง หรือแม้กระทั่งพาสัตว์ไปเดินเล่น ทำให้เป็นตำแหน่งที่มีความต้องการสูง และมักจะขายหมดเร็วกว่าตำแหน่งแปลงอื่นๆ
3) ตำแหน่งบ้านที่หันไม่ตรงกับบ้านหลังอื่นๆในโครงการ
ตำแหน่งบ้านที่หันไม่ตรงกับบ้านหลังอื่นๆ หมายถึงฝั่งตรงข้ามอาจจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ในโครงการ หรือเป็นรั้วโครงการ ซึ่งบ้านในตำแหน่งลักษณะนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องกลัวว่าบ้านตรงข้ามจะมองเข้ามาบ้านเราไหม