คนวงการเกมคิดอะไรอยู่ ประยุกต์เข้ากับอสังหายังไงได้บ้าง
พอดีผมได้มีโอกาสเข้าร่วมงานใหญ่แห่งปีอย่าง gamescom asia x Thailand Game Show ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16-17 ตุลาคม 2568 เฉพาะวัน business day งานนี้เกิดจากการรวมตัวของสองอีเวนต์ยักษ์ใหญ่ ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์ม B2B2C ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานเต็มไปด้วยโซนธุรกิจขนาดใหญ่ การประชุมเชิงวิชาการสำหรับอุตสาหกรรมเกม และโซนความบันเทิงที่เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผู้เผยแพร่เกม และแฟน ๆ เข้าไว้ด้วยกัน
จากโอกาสนี้ ผมเลยสร้างสรรค์คอลัมน์ใหม่ขึ้นมาชื่อว่า “Cross-industry Learning” เพื่อเก็บแนวคิดที่น่าสนใจจากคนนอกวงการอสังหามาประยุกต์ใช้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเชื่อมั่นว่าสามารถผสานรวม blend เข้ากับทุกอุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว เพราะอสังหาฯ คือส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนโดยแท้จริง สำหรับแนวคิดที่นำมาฝากนี้ ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรบอกกันได้เลยนะครับ และหากมีวงการอื่น ๆ ที่อยากเชิญไปร่วมรับฟังความรู้ข้ามวงการเพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อไอเดีย ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
ผมจะสรุปเนื้อหาที่ได้จากงานสัมมนาแล้วประยุกต์ให้เข้ากับวงการอสังหาเพื่อเป็นประโยชน์กับคนอสังหา มีทั้งหมด 4 เรื่องที่น่าสนใจ
1. ศิลปะแห่งการออกแบบอสังหา คือการคิดเป็นระบบ Visual System
ในวงการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นเกมหรืออสังหาริมทรัพย์ หลักสำคัญที่เหมือนกันคือ “การมองให้เห็นระบบ Visual system” งานออกแบบที่ดีไม่ใช่แค่การทำให้สิ่งหนึ่งดูสวยขึ้น แต่คือการเข้าใจว่าทุกองค์ประกอบมีหน้าที่สื่อสารอะไร สร้างอารมณ์แบบไหน และส่งผลต่อผู้ใช้หรือผู้อยู่อาศัยอย่างไร
ถ้ามองในมุมของคนทำอสังหา การออกแบบโครงการก็ไม่ต่างจากการสร้างเกมหนึ่งเกม ทุกอย่างต้องทำงานสัมพันธ์กัน ทั้งวัสดุ แสง เงา พื้นที่ส่วนกลาง และบรรยากาศโดยรวม สิ่งเหล่านี้คือ “ภาษาภาพ” ที่บอกตัวตนของโครงการ เช่นเดียวกับนักออกแบบเกมที่ต้องคิดถึงประสบการณ์ของผู้เล่น นักออกแบบอสังหาก็ต้องคิดถึงประสบการณ์ของคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่นั้น
แนวคิดหนึ่งจากผู้บรรยายบอกว่า “การออกแบบไม่ใช่แค่ทำให้สิ่งหนึ่งดูดี แต่คือการสื่อสารให้ชัดภายใต้ข้อจำกัด” ซึ่งเข้ากับโลกอสังหามาก เพราะทุกโครงการล้วนมีข้อจำกัดทั้งงบ พื้นที่ หรือเวลาสร้าง แต่ภายใต้ข้อจำกัดนั้น กลับเปิดโอกาสให้เราแสดงตัวตนและความคิดสร้างสรรค์ผ่านดีไซน์ที่มีความหมาย
ภาพจาก https://duneawakening.com/
จะเห็นว่าทุกองค์ประกอบทางศิลป์ในเกมนั้นเป็นคอนเซปต์เดียวกัน เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ visual system
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ “การเสพวัฒนธรรมอย่างมีสติ” เพราะแรงบันดาลใจที่แท้จริงไม่ได้มาจากการตามเทรนด์ แต่มาจากการเข้าใจวัฒนธรรม ความเชื่อ และความรู้สึกของผู้คน นักออกแบบอสังหาที่ดีจึงไม่หยุดอยู่แค่การดูว่าอะไรฮิต แต่ต้องรู้ว่า “ทำไม” มันถึงฮิต และจะหยิบแก่นของสิ่งนั้นมาใช้สร้างคุณค่าให้โครงการอย่างยั่งยืนได้อย่างไร
ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในงานออกแบบมากขึ้น ความท้าทายคืออย่าให้เทคโนโลยีทำให้เราขี้เกียจคิด เพราะเครื่องจักรสร้างภาพได้เร็วและแม่น แต่ไม่มีทางสร้าง “ความหมาย” ได้เหมือนมนุษย์ คนทำงานออกแบบยังคงต้องใช้หัวใจและประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดสิ่งที่เครื่องมือไม่อาจเข้าใจ
สุดท้ายแล้ว การออกแบบอสังหาไม่ใช่เรื่องของความสวยงามหรือฟังก์ชันเพียงอย่างเดียว แต่คือการเข้าใจ “ระบบของความรู้สึก” ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จริง แสงเงา วัสดุ และมุมมองล้วนสื่อสารกับผู้คนอย่างเงียบ ๆ เหมือนเรื่องเล่าที่ไม่ต้องใช้คำพูด
และเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีใครสร้างผลงานยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นทีมออกแบบเกมหรือทีมพัฒนาอสังหา ทุกคนต้องร่วมมือกัน ทั้งดีไซเนอร์ วิศวกร การตลาด และนักลงทุน เพราะสิ่งที่เราสร้างไม่ใช่แค่ “อาคาร” แต่คือ “ประสบการณ์ของการใช้ชีวิต” ที่คนจะได้สัมผัสจริง
สำหรับคนทำอสังหาที่คลุกคลีงานดีไซน์ ลองมองให้ลึกกว่าเพียงรูปลักษณ์ แล้วจะเห็นว่าเบื้องหลังของทุกความงามคือ “ระบบความคิด” ที่ชัดเจนและตั้งใจ นั่นแหละคือศิลปะที่แท้จริงของการออกแบบเพื่อชีวิตมนุษย์.