ธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยวเอาไงต่อดี? รวม Case Study และโปรโมชั่นโรงแรมดัง ช่วง COVID-19 ใครจะเด็ดกว่ากัน
“ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ” แค่ประโยคสั้นๆนี้ก็บอกได้เลยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน สิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจที่มีแนวโน้วที่จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับประเทศไทยแล้ว หลายคนคงคาดหวังให้การท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมรายได้หลักได้กลับมาบูมอีครั้งแน่นอน
ดังนั้นก็ได้เวลาที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมจะต้องเริ่มวางแผนการรับมือกับ New Normal ล่วงหน้าเพื่อเรียกความน่าเชื่อถือจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมาให้มากที่สุด
พลิกวิกฤต Supply Chain โรงแรมและการท่องเที่ยวให้เป็นโอกาส
ก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวการโรงแรมทั่วโลกต้องเผชิญกับการปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลกโดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไป อย่างของประเทศไทยก็มีกรุงเทพฯและภูเก็ตที่รั้งอันดับผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในประเทศ ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่เห็นชัดเจนมากๆอีกนั่นคือสหรัฐอเมริกาที่ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อนำหน้าเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยทั้ง 2 ประเทศที่ยกตัวอย่างมานี้มีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูงมากจึงได้รับผลกระทบเข้าเต็มๆ แต่สำหรับสหรัฐฯคงจะปวดหัวเป็นอีกเท่าตัว เพราะมีสงครามราคาน้ำมันกับกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมันในตะวันออกกลางที่ยังกินกันไม่ลงจนทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวเลยล่ะ
ภาพจาก Wow Thailand by Tatic
เมื่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มลดน้อยลง ก็ทำให้มาตรการ Social Distancing ของหลายๆประเทศเริ่มผ่อนปรนลงตามไปด้วย แต่สำหรับการท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงต้องรอกันต่อไป ในระหว่างนี้เราก็สามารถทำความเข้าใจกับคลื่นลูกใหม่ที่กำลังค่อยเข้ามามีบทบาทสำคัญมาขึ้น นั่นคือ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทีละนิดบ้างแล้ว ธุรกิจที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนที่สุดขณะนี้ คือ ธุรกิจการศึกษาที่ต่างก็หันมาสอนออนไลน์กันอย่างคับคั่งจนอาจารย์บางท่านที่อายุมากแล้วก็เกือบจะปรับตัวไม่ทันซะแล้ว เพราะสถานศึกษาจำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวอย่างไร้กำหนดเปิดทำการ ด้วยสถานการณ์ที่บีบให้ต้องปรับตัวนี้นี่เองทำให้องค์กรที่ยังคงสอนแบบเข้าห้องเรียนต้องเปลี่ยนเป็นการเรียนออนไลน์ 100%
บรรยากาศชายหาดที่ไร้เงานักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในภูเก็ตและลิงท้องถิ่น ภาพจาก urlaub-in-thailand.com
ส่วนธุรกิจการโรงแรมต่างก็พยายามปรับตัวเพื่อหาช่องทางทำรายได้กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ Food Delivery ที่สร้างสรรค์ฝีมือการทำอาหารโดยเชฟดังๆจากโรงแรมหรูหลายๆโรงแรมโดยเฉพาะในกรุงเทพฯด้วยเมนูใหม่ๆที่เอื้อต่อการขนส่ง อีกทั้งการลดราคาการจองที่พักล่วงหน้าต่างๆในราคาที่หลายคนอาจจะอึ้งไปเลย เพราะราคาที่พักโรงแรมหรูต่างปรับราคาลดลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน รวมไปถึงการเปิดบริการให้เป็นสถานที่กักตัวชั่วคราวของผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งการบริหารโรงแรมแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยแม้แต่ในช่วงการแพร่ระบาดโรคอื่นๆที่ผ่านมา นั่นก็เพราะโรคระบาดอื่นๆที่ผ่านมายังไม่เคยมีการใช้มาตราการ Social Distancing พร้อมกันทั่วโลกแบบนี้มาก่อนนั่นเอง และสิ่งที่แย่ที่สุดในเวลานี้นั่น คือ การลดต้นทุนของธุรกิจซึ่งได้กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้บริหารหลายคนต้องจำใจปลดพนักงานบางส่วนออกไปหรืออาจจะปรับลดเงินเดือนของพนักงานลงตามผลประกอบการที่ลดลงในช่วงนี้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปิดน่านฟ้า น่านน้ำ และการเดินทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กลับมาพักที่โรงแรมอีกครั้ง ดังนั้นการเตรียมตัวและวางแผนการรับมือกับ New Normal ในธุรกิจโรงแรมที่กำลังจะเปลี่ยนไปย่อมจะเป็นข้อได้เปรียบเพื่อแก้เกมตอนจบของโควิด-19 ได้แน่นอน
ส่วนของการท่องเที่ยว Airbnb มองว่าเทรนด์การท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปหลังจากการแพร่ระบาดจบลง เพราะผู้คนจะหันมาเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวมากว่าการเดินทางเพื่อทำงาน นั่นเพราะการประชุมออนไลน์ที่ละดวก รวดเร็วและลื่นไหลทำให้คนประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างมาก การเที่ยวแบบ Road Trip จะหวนกลับมาอีกครั้ง เพราะผู้คนสนใจที่จะอยู่ในสถานที่ที่ตนเองชอบมากกว่าการเที่ยวแบบปักหลักในแหล่งท่องเที่ยวเพียงแหล่งเดียว เสริมด้วยมุมมองของ Turo (แพลตฟอร์มการใช้รถ) ที่เล็งเห็นว่าการเที่ยวแบบ Road Trip จะฟื้นตัวเร็วกว่าการเที่ยวแบบอื่นๆแน่นอน เพราะความสำดวกสะบาย เป็นส่วนตัว และสามารถควบคุมระยะห่างได้ จึงทำให้การท่องเที่ยวง่ายนิดเดียว
New Normal เทรนด์ระยะสั้นการท่องเที่ยวหลังจบ COVID-19 มีอะไรน่าจับตามองบ้าง ?
1. โครงการไทยชนะโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย New Normal ที่ทุกคนต้องปรับตัว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผลักดันโครงการไทยชนะหรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆมันคือ Healty Passport เพื่อให้นโยบาย Social Distancing อยู่ในการควบคุมในพื้นที่สาธารณะทั่วประเทศ โดยสามารถลงทะเบียนใช้งานได้จากเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ฟรี โครงการนี้จะจำกัดคนเข้า-ออกจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่อื่นๆที่มีผู้คนเข้าออกเป็นจำนวนมากได้อย่างง่ายๆด้วยการแสกน QR CODE เพื่อเชคอิน-เชคเอาท์ เพื่อจำกัดคนในพื้นที่นั้นๆไว้ให้มีประสิทธิภาพในการรักษาระยะห่างระกว่างกัน แต่สำหรับคนที่ปรับตัวไม่ทันหรือมีธุระรีบๆก็อาจจะลืมเชคเอาท์ออกก็จะทำให้พื้นที่นั้นมีจำนวนคนเชคอินที่ค้างไว้อยู่ ซึ่งยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่พวกเราต้องรีบปรับตัวให้ทันกับ New Normal นี้อย่างจริงจัง พร้อมดาวน์โหลดสัญลักษณ์ SHA เพื่อติดไว้ที่สถานบริการต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
สามารถอ่านคู่มือเตรียมความพร้อมได้ที่ thailandsha.tourismthailand.org/index?strip=2#Home
2. โรงแรมยุโรปปรับระบบระบายอากาศครั้งใหญ่ หวังเพิ่มความน่าเชื่อถือกลับมา
ภาพจาก blueswandaily.com
อากาศ คือ สิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกัน ยิ่งเป็นสถานที่ปิดด้วยแล้วยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงกลายเป็นชื่อเสีย ดังนั้นโรงแรมฝั่งยุโรปจังได้ยกระดับและปรับปรุงระบบระบายอากาศและระบบฆ่าเชื้อในอากาศให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เริ่มจากสหราชอาณาจักร (United Kingdom) มี 342 โปรเจคที่จะจัดทำระบบระบายอากาศให้โปร่งและสะอาดขึ้นสำหรับ 52,231 ห้อง ต่อด้วยเยอรมันนีอีก 323 โปรเจค สำหรับ 58,935 ห้อง ฝรั่งเศสมีจำนวน 172 โปรเจค สำหรับ 21,070 ห้อง โปรตุเกสมีจำนวน 120 โปรเจค สำหรับ 13,049 ห้อง และในโปแลนด์อีกจำนวน 92 โปรเจค สำหรับ 14,529 ห้อง โดยรวมแล้วก็เป็นตัวเลขที่สูงพอสมควรสำหรับการริเริ่ม New Normal นี้ให้กลายเป็นอีกจุดขายที่จะเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมาได้
3. เข้าร้านอาหารที่เกาหลีใต้อย่างหายห่วง ด้วยการบริการโดยหุ่นยนต์
การนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยบริการที่สนามบินอินชอน เกาหลีใต้ ภาพจาก alkhaleejtoday.co
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้นำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในส่วนของการบริการในร้านอาหาร อย่างการเสิร์ฟอาหาร การเติมน้ำซุป ชงชา และชงกาแฟ ซึ่งการใช้หุ่นในการบริการนี้ทำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกันระหว่างลูกค้าและพนักงานได้อย่างไม่ต้องกังวล เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลเกาหลีใต้จึงได้ทุ่มเงิน 103 ล้าน USD. เพื่อสนับสนุนการนำ AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงการติดติดเชื้อจากการสัมผัสในงานบริการและร้านอาหาร ด้วยความตั้งใจของรัฐบาลครั้งนี้คาดว่าการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานบริการจะส่งผลให้กลายเป็นกระแส New Normal ในระยะยาวก็เป็นได้
4. Tourism Bubble เปิดการท่องเที่ยวด้วยกลยุทธ์ระยะสั้น
การเปิดให้ท่องเที่ยวได้ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านก่อนการเปิดให้เที่ยวได้อย่างเต็มรูปแบบเป็นวิธีค่อยเป็นค่อยไปที่สามารถทำได้อย่างระมัดระวัง โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆในอาเซียนก่อนก็น่าจะเป็นไอเดียที่สมเหตุสมผลในการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวได้ง่ายกว่าการเปิดให้เที่ยวระหว่างประเทศในทวีปที่อยู่ห่างไกลกัน เพราะจะทำให้ง่ายต่อการติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้ง่ายและสะดวกมาก
5. Premium Tour กลุ่มเล็ก คนน้อยกว่า โอกาสติดเชื้อยิ่งน้อยลง
การทำทัวร์ย่อมให้ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและป้องกกันติดเชื้อหรือสัมผัสมากกว่าการเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่แน่นอน แต่สำหรับบางคนการเที่ยวกลุ่มใหญ่ๆก็น่าจะสนุกและมันกว่าการเที่ยวกลุ่มเล็กๆ จึงจำเป็นต้องปรับตัวสำหรับช่วงการท่องเที่ยวช่วงแรกหลังจากการผ่อนผันการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสครั้งนี้ไปก่อนเห็นจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และปลอดภัยที่สุด