Credit รูปภาพ โครงการ Toscana Valley จาก https://www.facebook.com/ToscanaValley

ตลาดที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่เผชิญกับวิกฤตการณ์สำคัญอีกครั้งในปีพ.ศ.2557 – 2558 เนื่องจากทางรัฐบาลจริงจังในการตรวจสอบความถูกต้อง และที่มาของเอกสารสิทธิ์ของโครงการต่างๆ ในเขาใหญ่ โดยตรวจย้อนหลังไปเป็นสิบปี ทำให้เกิดภาวะชะงักงันทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และผู้ซื้อ โดยสามารถดูได้จากการที่มีโครงการเปิดขายน้อยมากในปีพ.ศ.2557 และมีผู้ประกอบการหลายรายที่ชะลอการเปิดตัว รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ หรือว่ายกเลิกโครงการไปเลยก็มี

โครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในแต่ละปี แยกตามประเภทที่อยู่อาศัย ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558

ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

ตลาดที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้งในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2551 – 2556 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายในเขาใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่เป็นบ้านจัดสรรแบบบ้านพักตากอากาศ หรือบ้านจัดสรรทั่วไป จากนั้นในปีพ.ศ.2555 จึงเริ่มมีคอนโดมิเนียมเปิดขายมากขึ้นในเขาใหญ่ เพราะว่ามีผู้ซื้อบางส่วนสนใจที่จะมีบ้านหลังที่สองในเขาใหญ่ แต่ไม่สามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ อีกทั้งไม่มีงบประมาณในการดูแลบ้าน และสวน จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายพัฒนาคอนโดมิเนียมออกมารองรับความต้องการของผู้ซื้อกลุ่มนี้ แต่จากสถิติที่รวบรวมมา พบว่าในปีพ.ศ.2557 ที่เริ่มมีการตรวจสอบเรื่องเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่รอบๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นปรากฎว่ามีโครงการเปิดขายน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดจากประมาณ 3,000 ยูนิตในปีพ.ศ.2556 เหลือเพียงแค่ประมาณ 100 กว่ายูนิตเท่านั้น เนื่องจากความไม่มั่นใจในเรื่องของการตรวจสอบที่ยังไม่ชัดเจน และการที่มีโครงการเปิดขายก่อนหน้านี้มากเกินกว่าที่กำลังซื้อต้องการ จนทำให้มีอุปทานเหลือขายในตลาดอีกประมาณ 2,500 ยูนิต โดยในจำนวนนี้เป็นโครงการบ้านจัดสรร และที่ดินจัดสรรมากที่สุด คือกว่า 72% พื้นที่ที่ได้รับความนิยมในการพัฒนามากที่สุดในเขาใหญ่คือพื้นที่ทั้งสองฝั่งตามแนวถนนธนะรัชต์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายรองรับการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่พื้นที่ตามแนวถนนผ่านศึก – กุดคล้า และถนนเขาใหญ่ – วังน้ำเขียวจะมีโครงการขนาดใหญ่ และมีราคาขายที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการบ้าน และที่ดินจัดสรรอยู่ที่ประมาณ 69% ในขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ที่ประมาณ 79% แต่จากการสำรวจเริ่มมีผู้ซื้อหลายรายที่มีความกังวลเรื่องการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์

ในปีพ.ศ.2558 มีผู้ประกอบการหลายที่ยกเลิกการขายโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบจากคอนโดมิเนียม หรือบ้านพักตากอากาศไปเป็นโรงแรมแทน เนื่องจาก สภาพตลาดที่ประสบกับปัญหาหลายอย่างที่ทำให้การขายทำได้น้อยลง ทั้งจำนวนยูนิตเหลือขายที่มีมากมายในตลาด และความกังวลเรื่องของการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ แม้ว่าจะมีโครงการที่อยู่อาศัยกลับมาเปิดขายมากขึ้นในช่วงต้นปีพ.ศ.2558 แต่ก็น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้านี้

ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่กลับมาคึกคักอีกครั้งคือการที่รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการประกาศถึงผลของการตรวจสอบที่ดิน และเอกสารสิทธิ์ให้มีการรับรู้โดยทั่วกัน เพื่อคลายความกังวลให้กับทั้งผู้ประกอบการ และผู้ซื้อ แม้ว่าจำนวนของที่อยู่อาศัยที่เหลือขายในเขาใหญ่อาจจะยังมากอยู่และคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายปีในการดูดซับ เพราะเขาใหญ่ยังไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยเมื่อเทียบกับทะเล แม้ว่าจะมีการสร้างโครงการต่างๆ ทั้งในรูปแบบของคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม รีสอร์ท และโครงการที่อยู่อาศัยที่มีความสวยงาม หรือรูปแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดความสนใจแล้วก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่น่าจะใช้เวลาในการปรับฐานสักระยะจึงจะกลับสู่ภาวะปกติแบบที่ควรจะเป็น คือ มีโครงการเปิดขายไม่มากใช้เวลาในการขายนานๆ และเป็นโครงการที่เน้นความเป็นบ้านพักตากอากาศมากกว่าโครงการบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียมแบบในกรุงเทพมหานคร