ศักยภาพ สามย่าน – สีลม ศูนย์รวม Education, Business & Lifestyle จะเป็นอย่างไรในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อ Ashton Chula-Silom สร้างเสร็จสมบูรณ์

ในช่วงเวลานี้ถ้าพูดถึงทำเลฮอตฮิตที่เหล่าผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน และพาณิชยกรรมมุ่งสนใจ อันดับ 1 ก็คือแยกพระราม 9-รัชดาภิเษก ซึ่งมียักษ์ใหญ่พากันตบเท้าสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนค่อนข้างใกล้จะแน่นเต็มพื้นที่แล้ว และทำเลต่อไปที่กำลังจะเป็นทำเลสุดฮอตในอนาคตนั่นคือที่ใด เท่าที่รวบรวมข้อมูลมาก็ต้องขอบอกว่าเข็มทิศการลงทุนกำลังจะเบนมาหาย่านแถบถนนพระราม 4 ครับ

บริเวณถนนสีลมตัดพระรามสี่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี Interchange ของ MRT สถานีสีลม และ BTS สถานีศาลาแดง

พระราม 4 ทำเลลงทุนอสังหาที่กำลังมาแรง

ถนนพระราม 4 มีพื้นฐานและการใช้งานที่มีศักยภาพอยู่แล้ว เพราะเป็นถนนที่เชื่อมโยงระหว่าง Old Town กับ Modern Town เข้าหากัน เช่น เยาวราชกับสีลม  เชื่อมผู้คนเข้าสู่สยามที่แยกสามย่านซึ่งสามย่านตรงนี้นี่เองกำลังจะกลายเป็น destination ของคนเมืองมากขึ้นกว่าเดิมที่มีเพียงมหาวิทยาลัยเพราะจะมีโครงการใหม่ๆ มาเปิด, พระราม 4 มีถนนเชื่อมเข้าสู่ถนนราชดำริ-ถนนวิทยุซึ่งแถวนั้นกำลังก่อสร้างโครงการระดับไฮเอนด์ Langsuan Village , มีจุดตัดเชื่อมโยงธุรกิจการค้าระหว่างราชดำริและสีลมที่แยกศาลาแดง, เชื่อมเข้าสู่ CBD อย่างอโศกได้ที่แยกพระราม 4 ที่ปัจจุบันมีโครงการอาคารสำนักงานอย่าง FYI Center ผุดขึ้นมาแล้ว, เชื่อมการเข้าออกนอกเมืองด้วยจุดขึ้นลงทางด่วนหลายจุด นอกจากนี้ Landlord ที่ดินติดถนนพระราม 4 มีการเปิดประมูลให้สัมปทานผู้พัฒนาโครงการมาสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ บนที่ดินผืนใหญ่ขององค์กรต่างๆ มากมาย

ทางหากเราโฟกัสมาที่พระราม 4 โซนจุฬา-สีลม-ราชดำริ จากการสำรวจพบว่าย่านนี้แทบจะไม่มีที่ดินที่มีแปลงขนาดใหญ่ประเภท Freehold ถือครองกรรมสิทธิ์ได้ยาวนาน เพราะนอกนั้นเป็นที่ดินประเภท Leasedhold เกือบทั้งหมด ดังนั้นโครงการแถบนี้ที่ยังเป็นประเภท Freehold จึงมีกลายเป็นของหายากและมีผู้คนปรารถนาอยากครอบครองทรัพย์สินที่มีกรรมสิทธิ์

นอกเหนือจากข้อมูลเชิงอสังหาฯแล้ว ถ้าเราแวะเวียนเดินไปแถวพระราม 4 เราจะเริ่มเห็นแนวโน้มการเดินทาง การท่องเที่ยว การกินอยู่ของชาวจีนและเอเชีย พวกเขาเริ่มแวะเวียนเข้ามาย่านพระราม 4 มากขึ้น แต่อาจจะยังไม่โดดเด่นชัดเจนเท่าย่านรัชดาเพราะพระราม 4 ยังขาดเรื่องบริการขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรสำหรับชาวต่างชาติ แต่สัญญาณเล็กๆ เหล่านี้ก็สามารถช่วยทำนายได้ว่าในอนาคตภาพของพระราม 4 อาจจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยแตกต่างจากรัชดามากนัก

ถ้าหากจะโฟกัสว่าจุดไหนของพระราม 4 ที่กำลังเป็นที่สนใจช่วงนี้ (2559) ก็ขอตอบว่าพระราม 4 บริเวณ “แยกสามย่าน” ครับ เนื่องจากในช่วงนี้ ปี 2559 มีประกาศเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการอสังหาฯ  (สร้างจริงๆ ไม่ใช่แค่แผนลอยๆ) ของเอกชนหลายเจ้าและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็น Landlord ใหญ่ที่สุดของสามย่านครับ ต่างยกทัพพาเหรดมาเพิ่มสีสันให้สามย่านคึกคักกว่าที่เคยเป็นมา เช่น Ananda ที่กล้าลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กลางเมืองจำนวน 1,598 ยูนิตอย่าง Ideo Q Chula-Samyan ที่ขายดีเทน้ำเทท่าแถมประสบความสำเร็จสูงจนมีการ resale ขายต่อกันไปมาหลายมือเนื่องจากราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับทำเลและความสะดวกสบายที่ได้รับ

ทำให้ Ananda ต้องออกภาคต่อระดับไฮเอนด์อย่าง ASHTON Chula-Silom มาสร้างสีสันให้ตลาดกันต่อ นอกจากคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อนแล้ว สามย่านกำลังจะมีเม็ดเงินเข้ามาสู่ย่านนี้มากขึ้นด้วยอานิสงส์โครงการ Samyan Mitrtown ประกอบกับ landlord อย่างจุฬาฯ ก็จัดสรรพื้นที่ติดห้าง I’m Park สร้างสรรค์เป็นอุทยานจุฬาฯ 100 ปี เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนเมืองกรุง เป็นสวนพื้นที่สีเขียว พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง และยังปรับปรุงทางเดินร่มไม้สวยงามปลอดภัยเพื่อดึงดูดผู้คนจากสยามและสามย่านเข้าสู่อุทยาน ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ของคนแถวนี้ให้มีความสุขมากขึ้นอีกด้วย

หลังจากนี้ต่อไปขอฉายภาพโดยรวมของโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ในทำเลสามย่านให้ชมไปทีละโครงการนะครับ จะได้นึกออกว่าย่านนี้กำลังจะหน้ามีหน้าตาเปลี่ยนแปลงไปทิศทางใด

โครงการสามย่าน มิตรทาวน์ (Samyan Mitrtown) พระเอกใหม่ของสามย่าน

บริเวณหัวมุมถนนพระราม4 ตัดถนนพญาไท ฝั่งตรงข้ามจามจุรีสแควร์ หรือถ้าคนคุ้นเคยแถวนี้จะรู้ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวคือตลาดสามย่านเก่านั่นเอง แปลงนี้คาดว่าปลายปี พ.ศ. 2562 จะมีโครงการ Mixed-use สร้างแล้วเสร็จ ชื่อว่า “สามย่าน มิตรทาวน์” (Samyan Mitrtown) พัฒนาขึ้นโดยการร่วมหุ้นระหว่างทีซีซี แอสเซ็ทส์ และโกลเด้นแลนด์ จะเป็นอาคารสำนักงานระบบอัจฉริยะ 35 ชั้น, พื้นที่ค้าปลีก, อาคารจอดรถ และที่พักอาศัย 35 ชั้น แบ่งออกเป็นคอนโดมิเนียม 554 ยูนิต เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ 104 ยูนิต โครงการนี้จะช่วยเสริมทัพความคึกคักจากเดิมที่จามจุรีสแควร์เคยทำได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีพระเอกคนใหม่เกิดขึ้นมาจะยิ่งมีสีสันมากขึ้นแน่นอน ต้องรอชมครับ

ภาพจาก http://www.dcs-digital.com/setweb/downloads/2559q1/20160601_gold.pdf

โครงการจัตุรัสจามจุรี หรือนิยมเรียกว่า จามจุรีสแควร์ (Chamchuri Square)

โครงการ Mixed-use ที่มี Office สูง 40 ชั้น มีบริษัทใหญ่อย่าง DTAC และบริษัทอื่นๆ มาใช้อาคาร, Retail ที่ประสบความสำเร็จเป็นห้างสำหรับน้องๆ นักเรียนนักศึกษา, Car Park ลานจอดรถ นอกจากนี้มีอาคารที่พักอาศัยสูง 24 ชั้น ขายแบบ Leasehold Condominium ที่ชื่อว่า Chamchuri Square Residence แรกๆ ก็เงียบเหงาแต่หลังจากผ่านการปรับปรุงวิธีการแบ่งห้อง ตรงใจ ตอบโจทย์ Demand และขายออกหมดไปหลายส่วน แต่ปัจจุบันก็ยังมียูนิตขนาดใหญ่มากที่ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการขายเท่าใดนัก ถึงแม้จามจุรีสแควร์จะมีจุดบกพร่องบางส่วน แต่โดยรวมแล้วโครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จดีมากทีเดียวครับ มีการจัดวาง เลือกร้านค้า ออกแบบเส้นทาง Traffic เข้าออกได้อย่างเหมาะสม เช่น เจาะทางเดินจากมหาวิทยาลัยตรงเข้าโครงการทันที เป็นต้น ทำให้เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นพื้นที่มูลค่าน้อยกลายมาเป็นโครงการที่ดึงเม็ดเงินและผู้คนเข้ามาสู่ทำเลนี้ได้มากมาย ขอปรบมือให้กับ Developer คนเก่งอย่างสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับผม

โครงการอุทยานจุฬาฯ 100 ปี ของขวัญกล่องใหญ่ที่จุฬาฯ มอบให้ชาวกรุงเทพ

เป็นสวนสาธารณะใหม่ที่กำลังจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนสามย่าน ตั้งอยู่ซอยจุฬาฯ 9 ยาวไปจนถึงถนนบรรทัดทอง

โมเดลของอุทยานจุฬาฯ 100 ปี

ตำแหน่งที่ตั้งของอุทยานจุฬาฯ 100 ปี อยู่ใกล้ห้าง I’m Park ซึ่งถ้าดูจากแผนที่แล้วอุทยานฯ จะอยู่ตรงกลางของอาณาจักรที่ดินจุฬาฯ มีระยะเดินที่ค่อนข้างไกลจากแหล่งความเจริญในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีการคิดสร้างทางเดินใต้ร่มไม้และถนนสวยงามวิ่งเข้าไปสู่โครงการอุทยานฯ ครับ

ภาพตัวอย่างของโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ซอยจุฬาฯ 5 ให้กลายเป็น “ถนนจุฬาฯ 100 ปี” ที่เชื่อมระหว่างถนนพระราม 1 กับถนนพระราม 4 เปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถจากเร็วเป็นช้าลง เพื่อให้เหมาะกับเป็นทางเดินเท้าของผู้คนด้วย ในอนาคตถนนจุฬาฯ 100 ปีจะเป็นเสมือนเส้นเลือดใหม่ที่นำพาคนจากฝั่งมาบุญครองและฝั่งสามย่านให้เชื่อมเข้าหากัน และเกิดกิจกรรม กิจการ มูลค่า และการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม ส่งผลดีต่อผู้คนโดยรอบสถานที่แห่งนี้

ภาพหน้าตาของอุทยานที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง พื้นที่สวนสาธารณะมีทั้งหมด 28 ไร่

อุทยานจุฬาฯ 100 ปีจะเป็นสถานที่ออกกำลังกาย ใช้ชีวิต พักผ่อนหย่อนใจ โครงการนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560

และนี่คือภาพ perspective ของอุทยานจุฬาฯ 100 ปี ที่ทางสํานักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ปล่อยภาพนี้ออกมาให้เราได้ชมกัน เอ…ดูจากภาพตึกมากมายรอบๆ ตัวอุทยานฯ ดูเหมือนว่าทางสํานักงานจัดการทรัพย์สินฯ จะต้องมีแผนการก่อสร้างโครงการใหญ่แบบนี้หรือเปล่านะ ถ้าเป็นจริงตามภาพนี้ก็คงจะเป็นปัจจัยบวกให้กับย่านนี้อีกเยอะเลยครับ แต่ตอนนี้ก็คงต้องรอฟังประกาศกันต่อไป

ภาพจาก http://www.property.chula.ac.th/

โครงการ ASHTON Chula-Silom คอนโดมิเนียม Facility ลอยฟ้าสูงที่สุดในย่านพระราม 4-จุฬาฯ-สีลม

จากความสำเร็จ ของ Ideo Q Chula-Samyan ซึ่ง Demand ซื้อห้อง Resale ขายต่อกันไปกันมาอย่างคึกคักมากกว่าโครงการอื่นๆ เป็นประวัติการณ์ เหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพราะเรื่อง Investment Demand ประเภทมาซื้อๆ ขายๆ ใบจองเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าทำเลสามย่านนี้มี Real Demand ที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริงเพราะเป็นทำเลที่สะดวกสบายครบทุกความต้องการนั่นเอง

ทาง Ananda จึงต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับ High-end ขึ้นมาอีกแบรนด์ ตอบสนอง Real Demand ที่ยังคงมีอยู่ในทำเลสามย่าน-สีลม-พระราม 4 นั่นคือ ASHTON Chula-Silom  ตั้งอยู่ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ โครงการห่างจากสถานี MRT สามย่าน เพียง 180 เมตร และ เพียง 550 เมตร จาก Interchange Station ได้แก่ MRT สีลม – BTS ศาลาแดง

ซึ่งการออกแบบของอาคารมีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยความเรียบ นิ่ง เท่ สะท้อนรสนิยม ตาม Concept ของ แบรนด์ ASHTON และยังมีนวัตกรรมการออกแบบที่แตกต่างมีเอกลักษณ์โดยการนำเอากระจกโค้งมาใช้เพื่อสร้างมิติใหม่ของการอยู่อาศัย และไม่เพียงแค่ตัวอาคารที่ถูกออกแบบมาอย่างโดดเด่น ทางโครงการยังจัดพื้นที่ส่วนกลางที่มีความ Exclusive มากกว่าคอนโดโครงการอื่นๆ ในย่านนี้

ด้วยระดับชั้นของ Facility ที่ลอยฟ้าเหนือชั้นกว่าทุกโรงแรมหรูๆ ในย่านนี้อีกครับเพราะผู้พัฒนาโครงการได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบ Facility ที่ไม่ได้แค่อยู่ชั้นเตี้ยๆ ที่ชั้น 8 ชั้น 9 เหมือนโครงการอื่นๆ แต่เลื่อนระดับ Pool Gym Jacuzzi Onsen Social club ห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ยกความอลังการทุกอย่างขึ้นไปสูงระดับชั้น 49! แล้วตั้งชื่อเท่ๆ ว่า “Cloud 49”

ภาพ Cloud 49 พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า ณ ชั้น 49 สูงที่สุดเหนือกว่าตึกรอบข้างครับ

Sunken Court ที่นั่งพักดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น

Private Library มอบบรรยากาศการอ่านหนังสือ พักผ่อน ฟังเพลงที่เป็นส่วนตัวมากกว่า พร้อมชมวิวเมืองอย่างเป็นส่วนตัวแบบ PANORAMA

Lifestyle Club & Wine Bar จุดเด่นมี Grand Piano สำหรับพาเพื่อนมาสังสรรค์ปาร์ตี้สุด Exclusive กันที่่นี่่

ห้องออกกำลังกายออกมาในรูปแบบ Panoramic Fitness Atrium เสมือนวิ่งออกกำลังกายกลางเวหาครับ

สระ Onsen ระบบน้ำร้อน ผ่อนคลายชิลๆ มองดูวิวเมืองจากมุมสูง

อีกจุด peak จุดหนึ่งของโครงการสรรค์ที่สร้างสระว่ายน้ำแบบ Infinity-edge swimming pool ยาวถึง 50 เมตร ให้คุณได้ว่ายน้ำออกกำลังกายระดับมองเห็นเมฆตามคอนเซปต์ชื่อ Cloud 49 เลยทีเดียว

เรียกได้ว่าจะมีผู้สิทธิ์พักอาศัยในโครงการไม่กี่คนที่จะได้ใช้ชีวิตในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่บนชั้นสูงขนาดนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดที่แสดงถึงความเป็น Rare Item ของโครงการนี้ครับ

ภาพวิวจากห้อง Social Club ลอยฟ้ากับวิวสูงที่สวยตะลึง

ซึ่งประสบการณ์ความเหนือระดับแบบนี้จึงทำให้ราคาซื้อขายแลกเปลี่ยนของโครงการ ASHTON Chula-Silom ก็ต้องออกมาเหนือระดับมากกว่าโครงการรอบข้างเป็นปกติครับ

และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ระดับความสูงของ facility ในโครงการ ASHTON Chula-Silom ที่สูงเด่นเกินกว่าโครงการใดๆ ในย่านพระราม 4 สามย่าน สีลม ตรงนี้เป็นจุดเด่นที่แข็งแกร่งที่สุดที่ทำให้เป็นจุดตัดสินใจในการเลือกซื้อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในใจกลางเมืองครับ

และนับเป็นตัวแปรสำคัญที่จะดันให้มูลค่าของตัวตึกเพิ่มขึ้นได้อย่างดีซึ่งจะเห็นภาพได้ชัดจนในอนาคตเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์

หลังจากพาไปดูความสวยงามของพื้นที่ส่วนกลางโครงการ ASHTON Chula-Silom ไปแล้ว เราจะมาพูดถึงลักษณะห้อง ลักษณะยูนิตภายในที่ยังมีให้จองกันดีกว่าครับ มี 3 แบบ ได้แก่ 1 Bedroom 30.5 , 34.5 และ 2 Bedroom 63 ตารางเมตร

1 Bedroom 30.5 ตารางเมตร ชีวิตสงบกลางเมือง

Layout ของห้อง 30.5 ตารางเมตรเป็นแบบนี้ จุดเด่นคือถึงแม้ห้องจะขนาดเล็กกว่าแบบ 34.5 ตร.ม. แต่สิ่งที่ได้รับมาแทนคือบานหน้าต่างที่ใหญ่กว่า มุมมอง การชมวิวที่กว้างกว่า

ห้องขนาดนี้จริงๆ สามารถอยู่อาศัยได้ถึง 2-3 คน (2คนอยู่ในห้องนอน อีก 1 คนนอน sofa bed ที่ห้องนั่งเล่น เหมาะกับใช้เป็นที่พักใจกลางเมืองสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาหรือญาติพี่น้องที่ต้องการอยู่ในทำเลใกล้สถานศึกษาในวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็กลับบ้านใหญ่

โครงการออกแบบครัวขนาดเล็กไว้ ไม่เน้นมากเพราะทราบพฤติกรรมของผู้พักอาศัยแถบนี้ว่าไม่ใช่ผู้ที่ตั้งอกตั้งใจทำครัวหนักๆ อย่างมากแค่อุ่นอาหารหรือคลุกสลัดทาน เตรียมอาหารเล็กน้อยเท่านั้น

บานประตูทางเข้า ให้ Digital door lock ยี่ห้อ Yale ที่มีชื่อเสียง เมื่อเดินเข้ามาจะพบเคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า และอ่างล้างจาน

เดินผ่านครัวมากลายเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน

ภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า

ความสูงของพื้นถึงเพดานเท่ากับ 2.7 เมตร

ระเบียงมี double window เราสามารถปิดหน้าต่างไว้กันฝุ่นกันเสียงกันฝนตกเข้าระเบียงได้

หน้าต่างด้านห้องนั่งเล่นเป็นบานกระทุ้ง เปิดออกลักษณะนี้ได้

เดินมาที่เตียงนอน แล้วลองนั่งบนเตียง นี่คือมุมมองจากเตียงนอนมองไปที่โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นครับ จากภาพคาดว่าถ้าอยู่อาศัยจริงอาจจะต้องเพิ่มขนาดโทรทัศน์ให้ใหญ่เต็มตามากขึ้น

เครื่องแอร์จะซ่อนในฝ้าเพดาน ทำให้ดูสะอาดเรียบร้อยงามตา

เหลือบมองด้านบนมีรางประตูบานเลื่อน เพื่อปิดกั้นให้เป็นสัดส่วนแยกระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ลากบานประตูมาปิดได้แบบนี้  ทำให้บรรยากาศห้องดูน่านอนหลับสนิทคล้ายนอนในถ้ำพักผ่อนส่วนตัว นี่คือที่มาของชื่อห้องนี้ครับ ชื่อว่า ชีวิตสงบกลางเมือง

ลงจากเตียง หันขวาจะเจอกับห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอน สะดวกดี

เปิดประตูเข้าไป มีการตกแต่งห้องน้ำด้วยวัสดุต่างๆ สีสันแบบนี้ครับ

บริเวณอาบน้ำมีฝักบัว 2 แบบ ทั้ง Rain shower และแบบธรรมดา

พาชมห้อง 30.5 ตารางเมตรหมดแล้วครับ เดี๋ยวไปห้องขนาดใหญ่ขึ้นกันต่อ

1 Bedroom 34.5 ตารางเมตร ชีวิตสองบรรยากาศ

ลักษณะ Layout ของแบบ 34.5 ตร.ม. จุดเด่นจะอยู่ตรงที่ระเบียงกว้างมากกว่าแบบ 30.5 ตร.ม. ซึ่งจะถูกใจชาวตะวันตกและผู้ที่ชื่นชอบนั่งชิลล์ดูพระอาทิตย์สูบบุหรี่ชมวิวเมือง

ห้องแบบนี้เปิดประตูทางเข้ามาเจอครัวและห้องนั่งเล่นเหมือนกัน

มุมครัวและเครื่องซักผ้า

ท็อปครัวมีพื้นที่เพิ่มขึ้นได้ด้วยฝาปิดอ่างล้างจาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่ามากขึ้น

มองจากครัวไปทางระเบียง เป็นห้องนั่งเล่น ดูโทรทัศน์ มุมกินข้าว

มุมกินข้าวนี้จะทำเป็นตู้ Built-in สูงชิดเพดานเพื่อใช้เก็บของให้ดูเรียบร้อยก็ได้

มุมพักผ่อน เอนกายดูหนัง ฝ้าเพดานทำลดระดับลงมาเพื่อซ่อนรางม่าน

มุมมองหันไปห้องนอน ด้านบนจะเห็นว่ามีรางสำหรับบานประตูเลื่อนกั้นห้องนอน-ห้องนั่งเล่นออกจากกันเหมือนแบบ 30.5 ตร.ม.

จุดที่แตกต่างคือในห้องนอนมีมุมเล็กๆ  ริมหน้าต่างสามารถทำเป็นโซฟานั่งคนเดียวแบบห้องตัวอย่างด้านล่างนี้ก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นมุมโต๊ะทำงานชมวิวก็ได้ครับ

กลับหลังหันจากมุมเล็กๆ ริมหน้าต่าง แล้วมองเข้ามา จะเห็นโซนห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอน

ห้องน้ำตกแต่งเหมือนกับห้องขนาด 30.5 ตร.ม.

ขอพากลับมาปิดท้ายห้อง 34.5 ตร.ม. ที่ระเบียงครับ จุดเด่นของระเบียงคือมี double window ปิดด้านนอกกันฝุ่นและฝนได้ เป็นฟังก์ชั่นที่ดีและเหมาะกับเวลาที่่เราจะนั่งเก้าอี้ฟังเสียงเม็ดฝนได้แบบไม่เปียก จะนั่งชิลล์ดูวิวเมืองก็นั่งได้นานเพราะเปิดแอร์ได้

มุมมองหันไปที่ระเบียงจากปลายเตียงนอนครับ ยูนิตนี้ทำให้เราใช้ชีวิตบาลานซ์ระหว่างชีวิตติดแอร์และชีวิตแบบเปิดรับอากาศ ทำให้ห้องนี้ถูกขนานนามโดยผมไปว่า “ชีวิตสองบรรยากาศ” นั่นเอง

เจ้าพระยา-มหานคร

โดยส่วนมากถ้าเราอยู่ในคอนโดมิเนียม High-rise ในเขตเมือง City condominium วิวที่เราได้มักจะเป็นตึกที่ตั้งอยู่ชิดๆ กัน อาการหนักก็คือตึกบังตึกกัน หรือบางทีก็ได้วิวตึกสูงไกลๆ ห่างๆ กัน ซึ่งการมองเห็นแต่ตึกปูนอย่างเดียวไม่มีจุดธรรมชาติเข้ามาปะทะสายตาเราบ้างเลยก็อาจมีผลต่อสุนทรียภาพในการพักอาศัย แต่จุดเด่นอีกอย่างของ ASHTON Chula-Silom ที่นอกเหนือจาก facility ชั้นสูงสุดในย่านก็คือ เป็น City view condominium ที่มียูนิตสูงมองเห็นฝั่งสีลม ยิงยาวไปถึงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งวิวแบบนี้ค่อนข้างหายากในโครงการใจกลางเมืองย่านนี้ครับ เรียกได้ว่าถ้าไม่สูงจริง มองไม่เห็นครับ นอกจากนี้ยังมียูนิตที่มองเห็นตึกสูงที่สุดของไทยตึกใหม่นั่นคือ มหานครเป็นโบนัสให้กับสายตาครับ ผมขอตั้งชื่อยูนิตตำแหน่งเหล่านี้ว่า  ตำแหน่งวิว“เจ้าพระยา – มหานคร” ครับ

สำหรับราคาแลกเปลี่ยนมาซึ่งไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายและคุณค่าทางสายตาของยูนิตฝั่งเจ้าพระยานี้ ห้องขนาด 34.5 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 7.2 ล้านบาทครับ ราคาขนาดนี้อาจจะดูสูงนะครับ แต่จริงๆ ถือว่ายังราคาต่ำกว่ายูนิตแบบเดียวกันที่อยู่ top floor ชั้น 55 ในโครงการเดียวกันที่ราคาแตะถึง 290,000 บาทต่อตารางเมตรหรือประมาณ 10 ล้านบาทต่อยูนิตครับ!

ถือว่า diff แตกต่างกันอยู่เยอะทีเดียว เอาเป็นว่า…ถ้าเราชอบทำเลสามย่านแต่อยากมองเห็นเจ้าพระยาก็อาจจะลองหันมาเลือกห้องที่ไม่ต้อง top floor ก็ได้ครับ ชั้น 12-45 ราคาวิ่งวนๆ อยู่ประมาณหลัก 7 ล้านกว่าๆ ไม่เกิน 8 ล้านบาท ก็สัมผัสวิว “เจ้าพระยา-มหานคร” ได้เหมือนกัน

ในตอนนี้ ทางโครงการมี  PROMOTION พิเศษ สำหรับวิว “เจ้าพระยา-มหานคร” มอบบัตรกำนัลล่องเรือยอร์ชส่วนตัว เมื่อจองซื้อห้องชุดภายในเดือนกันยายน 2559 นี้เท่านั้น! ลองติดต่อที่สำนักงานขาย ASHTON Chula-Silom ได้เลยครับ

ASHTON Chula-Silom ไม่ได้มีแค่ 1 Bedroom แต่ยังมียูนิตแบบ 2 Bedroom ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วห้อง 2 Bedroom ส่วนใหญ่ขายหมดไปหลายชั้นแล้ว หมดก่อน 1 Bedroom ซะอีกเพราะจุดเด่นที่เอาหัวใจคนชื่นชอบคอนโดมิเนียมไปเลยคือ “ห้องนั่งเล่นกระจกมุมโค้ง” ที่เปิดรับวิวสูงแบบ 180 องศาเหินเวหา แต่ว่า ณ ตอนนี้ทางโครงการบอกว่ายังมีเหลืออยู่บางชั้นยังมีให้จับจองได้ครับ เรามาดูกันดีกว่า

2 Bedroom 63 ตร.ม. ชีวิตไร้ขอบเขต

Layout ยูนิตเป็นแบบนี้ครับ เปิดประตูทางเข้ามาพบกับโถงทางเดิน ไม่เจอห้องนั่งเล่นห้องนอนทันทีเหมือนยูนิตอื่นๆ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวสูงสุด มีห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก ห้องน้ำ 2 ห้อง แบ่งออกเป็นห้องน้ำภายในห้องนอน 1 ห้องและห้องน้ำรวม 1 ห้อง จุดสำคัญที่โดดเด่นอย่างมากคือห้องนั่งเล่น ห้องครัวที่่รับบรรยากาศและวิวเมืองผ่านกระจกมุมโค้งครับ นอกจากนี้ยังมีระเบียงขนาดจิ๋วแยกต่างหากออกมาด้วย

เปิดประตูเข้ามาเจอโถงทางเดินครับ บรรยายคร่าวๆ คือ เลี้ยวซ้ายแรกคือห้องนอนใหญ่ เลี้ยวซ้ายที่ 2 คือห้องนอนเล็กและโถงเข้าห้องน้ำรวม เดินตรงสุดทางเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนถ้าเลี้ยวขวาเป็นระเบียงจิ๋วครับ

เลี้ยวซ้ายแรกมาเป็นห้องนอนใหญ่และห้องน้ำในตัว

ไม่ธรรมดาครับ พิเศษมากเพราะเป็นห้องน้ำแบบ sexy bathroom ด้วย อูวว…กระจกใสเข้ามุม

ออกจากห้องนอนใหญ่มาห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกัน วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมตู้เสื้อผ้าอีกหนึ่งหน่วย

ออกมาเลี้ยวซ้ายเจอห้องน้ำรวมครับ บริการพื้นที่ได้ดีโดยย้ายอ่างล้างหน้าไปที่มุมครับ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ดี

ออกมาที่โถงทางเดินแล้วเดินตรงมาสุดทาง เจอกระจกโค้งสุดยอดครับ

มุมนั่งเล่นสามารถออกแบบตู้ built-in โค้งแบบนี้ก็ได้ครับ

เดินเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นครัวและโต๊ะกินข้าว แต่บริเวณนี้ให้ออกแบบเป็นเคาน์เตอร์บาร์ก็ได้นะครับ จะได้ เหมาะกับงานเลี้ยงสังสรรค์ปาร์ตี้ส่วนตัว

งานสังสรรค์มีได้ทุกวันที่นี่ครับ ASHTON Chula-Silom

ทำไมต้องสามย่าน

ASHTON Chula-Silom ตั้งอยู่ในย่าน สามย่าน-สีลม ซึ่งจะได้รับอิทธิพลจากความเจริญมากขึ้นในอนาคตของถนนพระราม 4 สามย่านเป็นทำเลดีมีอนาคตที่มีแผนการพัฒนาจริงที่จับต้องและมองเห็นได้ อย่างที่กล่าวไปตอนต้นแล้ว นอกจากนี้ ASHTON Chula-Silom อาจจะเรียกได้ว่า เป็นคอนโดมิเนียม freehold ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ได้ชั่วลูกชั่วหลาน โครงการสุดท้าย ท่ามกลางที่ดินที่มีการจัดการแบบ Leasehold อย่างที่ดินของจุฬาลงกรณ์ ซึ่งข้อดีของการอยู่อาศัยใกล้โครงการ Leasehold คือสภาพแวดล้อม การดูแลรักษาของทำเล leasehold นั้นจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกระยะที่หมดสัญญาเช่าเสมอ ซึ่งเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินย่อมไม่ปล่อยให้ทรัพย์สินของตนเองเสื่อมมูลค่า จึงทำให้จะต้องมีโครงการใหม่ๆ การรีโนเวต การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอยู่เรื่อยๆ ครับ และข้อนี้เองเป็นจุดที่เราควรนำมาพิจารณาเวลาเลือกสรรค์อสังหาริมทรัพย์เข้ามาในพอร์ตการลงทุนหรือเพื่อการพักอาศัยของเราและลูกหลานเรา

นอกจากนี้ ASHTON Chula -Silom เป็นโครงการที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสามย่านแบบอึดใจเดียว เพียง 180 เมตร เท่านั้น และยังตั้งอยู่ใกล้ CBD สีลมแค่เดินเท้าก็สามารถเข้าสู่ Interchange อย่าง MRT สีลม และ BTS ศาลาแดงได้ง่ายๆ

ราคาขายปัจจุบันต่อตารางเมตร ของโครงการคอนโดมิเนียมรอบๆ สามย่าน จะเห็นได้ว่า ASHTON Chula-Silom มีราคาอยู่ในเกณฑ์ของ Segment A

ด้วยความที่ ASHTON Chula-Silom ตั้งอยู่ในทำเลที่มีจุดเด่นที่ชัดเจน คืออยู่บนถนนสายหลักของกรุงเทพมหานครอย่างพระราม4  ตั้งอยู่ใกล้จุฬาฯมากที่สุด ได้มุมมองวิวที่เปิดโล่งสบายมากกว่า และเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือระบบขนส่งมวลชน ทั้งการเดินทางด้วย MRT & BTS (MRT  สามย่าน , และ INTERCHANGE STATION MRT SILOM-BTS SALADAENG)

พร้อมกับความแตกต่างด้วย Design Concept ที่โดดเด่น เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยส่วนกลางแบบจัดเต็มตอบโจทย์ Lifestyle ในแบบ Exclusive บนชั้น 49 ซึ่งอยู่บนระดับความสูงที่เหนือกว่าโครงการอื่นๆด้วยมุมมองและวิวที่ได้สัมผัสครับ

ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ASHTON Chula-Silom ไม่ใช่โครงการที่ต้องตัดสินใจด้วยเหตุผลทางด้านตัวเลขอย่างเดียว แต่ต้องมาสัมผัสเองและตัดสินใจด้วยอารมณ์และความรู้สึกครับเช่นเดียวกับคอนโดมิเนียมชายทะเล เพราะมันคือการซื้อหาประสบการณ์และไลฟ์สไตล์พิเศษเหนือกว่าและแตกต่างจากคนอื่นครับ

สรุปจุดเด่นของ ASHTON Chula-Silom ที่ทำให้เป็นคอนโดมิเนียมที่มูลค่าสูงที่สุดในสามย่าน

เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางระดับพรีเมียมอยู่บนชั้นที่ 49 โครงการตั้งในทำเลที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่วิ่งตรงเข้าสู่ 3 CBD สำคัญของกรุงเทพอย่างพระราม 9-อโศก-สีลม นอกจากนี้ยังใกล้สถานศึกษาชั้นนำแบบแค่เดินก็ถึง ใกล้แหล่งการค้า สถาบันการเงิน สังคมผู้มีรายได้สูงและเพื่อนบ้านที่มีคุณภาพสูง ในอนาคตจะมีโครงการอื่นๆ พัฒนารอบข้างที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดมูลค่าระยะยาว เหตุผลทางอารมณ์อีกข้อคือ take วิวจากชั้นสูงและมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาจากในเขตใจกลางเมืองได้โดยไม่ต้องย้ายไปอยู่ริมแม่น้ำที่อาจจะเดินทางไปมาไม่สะดวกเท่าในเมือง

ถ้าสนใจโครงการ สามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่สำนักงานขาย ASHTON Chula-Silom ริมถนนพระราม 4 ถ้าขับรถจากแยกศาลาแดงไปหัวลำโพง สำนักงานขายอยู่ตรงก่อนแยกสามย่าน ฝั่งซ้ายมือครับ ตรงข้ามจามจุรีสแควร์มีที่จอดรถสะดวกสบาย

แวะเข้ามาชมโมเดล ห้องตัวอย่างและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://ananda.co.th/condo/projects/ashton-chula-silom/index.php