‘Phygital Retail’ เทรนด์ค้าปลีกยุคใหม่แบบไร้รอยต่อ
ภาคค้าปลีกเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่มีพลังขับเคลื่อนมากที่สุด มีการพัฒนาและปรับตัวเข้ากับความนิยมและความคาดหวังของผู้บริโภคอยู่เสมอ ในปัจจุบัน ผู้บริโภคเลือกซื้อของออนไลน์แทนการซื้อที่ร้านมากขึ้น และคาดว่าแนวโน้มจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม บทบาทของร้านค้าที่มีหน้าร้านจะยังไม่หายไป แม้จะมีการเปลี่ยนแปลง การช้อปปิ้งแบบผสมผสาน (Hybrid Shopping) หรือการค้าปลีกที่ผสมผสานการซื้อขายแบบออนไลน์และหน้าร้าน (Phygital Retail) ได้กลายเป็นเทรนด์ที่โดดเด่นในปี 2567 ด้วยการผสมผสานตั้งแต่ประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์เสมือนจริงของคนรุ่น Gen Z ไปจนถึงความต้องการของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ที่ยังชอบความสะดวกสบายของการช้อปปิ้งภายในร้าน
การค้าปลีกที่ผสมผสานอย่างไร้รอยต่อระหว่างการช้อปปิ้งออนไลน์กับหน้าร้าน (Phygital Retail) ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าออนไลน์ เช็คว่ามีสินค้าในร้านหรือไม่ และซื้อผ่านช่องทางที่ตัวเองต้องการ แนวทางแบบผสมผสานนี้ยกระดับจากการซื้อขายแบบเดิมให้เป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตรงตามความชอบของลูกค้าแต่ละรายมากขึ้นและดึงดูดใจมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยข้อมูลการช้อปปิ้งที่เฉพาะตัวของลูกค้า ส่งผลให้แบรนด์สามารถพัฒนาการให้บริการและสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สอดคล้องกับผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุได้
จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น จอแบบอินเตอร์แอคทีฟ และเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าสามารถทดลองสินค้าแบบเสมือนจริง (AR Try-ons) นับเป็นการที่ผู้ค้าปลีกสามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ลูกค้าประทับใจได้ นอกจากนี้ คิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชันบนมือถือ และการเก็บข้อมูลตามเวลาจริง ยังช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจในพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้แบรนด์สามารถวางกลยุทธ์ด้าน Phygital Retail ให้ได้ผลสูงสุด โดยผลการศึกษาในเดือนมีนาคม 2567 ของแมคคินซีย์ (McKinsey) ระบุว่าการปรับแต่งประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ตรงตามความชอบของลูกค้าสามารถเพิ่มรายได้ถึง 15% และลดค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าลง 50% นอกจากนี้ยังส่งผลให้ร้านค้าปลีกสามารถเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำของลูกค้า สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นมาก
ความเข้าใจในความชอบของคนแต่ละรุ่นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ค้าปลีกในการที่จะปรับเปลี่ยนเข้าสู่การค้าปลีกแบบ Phygital Retail คนรุ่นเก่ามักจะชอบประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้านที่จับต้องสินค้าได้ แต่ก็มีความคุ้นเคยและเต็มใจมากขึ้นที่จะซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ลูกค้ารุ่นใหม่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อศึกษาเกี่ยวกับสินค้า เปรียบเทียบราคา และสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งเฉพาะตัวมากขึ้น แต่ก็ยังชอบที่จะช้อปปิ้งหน้าร้านเช่นกัน ดังนั้น อนาคตของภาคธุรกิจค้าปลีกจึงขึ้นอยู่กับการผสมผสานวิธีซื้อขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ แบรนด์ที่สามารถผสมผสานประสบการณ์ซื้อของออนไลน์เข้ากับการซื้อหน้าร้านได้จะสามารถดึงดูดและรักษาลูกค้าในวัยต่าง ๆ ไว้ได้มากที่สุด