LPP ออกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นลูกบ้าน ตั้งทีมฉุกเฉินสกัดแพร่ระบาด COVID-19
LPP คงเดินหน้า 8 มาตรการฉุกเฉินดูแลนิติบุคคลอาคารชุดกว่า 180 ชุมชน ตามแผนปฏิบัติการดูแล ”เจ้าของร่วม-ผู้อยู่อาศัย” ในโครงการให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส COVID-19 พร้อมตั้งทีมฉุกเฉินเข้าพื้นที่กรณีพบผู้ป่วยในโครงการและดำเนินการควบคุมจัดการพื้นที่เสี่ยงตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ในด้านการจัดการได้แบ่งทีมงานเป็น 2 ชุด ทำหน้าที่ทดแทนกันได้เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการบริการ และแม้สถานการณ์แพร่ระบาดมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังวางใจไม่ได้ โดยสร้างรูปแบบการสื่อสารกับผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมขอบริจาคพลาสม่าช่วยผู้ป่วยCOVID-19
นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการชุมชนในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า “จากประสบการณ์การทำงานมา 3 ทศวรรษของทีมงานบริหารจัดการชุมชนภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” ทำให้ LPP ได้วางแผนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มาตั้งแต่ระยะเริ่มเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวในประเทศไทย แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ขณะนี้ เริ่มมีสัญญาณบวกเมื่อติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันที่มีแนวโน้มลดลง แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เพราะมีตัวแปรมากมายต่อสถานการณ์แพร่ระบาด ดังนั้น LPP ก็ยังคงเดินหน้ามาตรการที่วางไว้ทั้ง 8 มาตรการอย่างเข้มข้น”
นางสาวสมศรี กล่าวว่า เนื่องจาก LPP มีชุมชนภายใต้การบริหารอยู่ถึง 180 ชุมชน ชุมชนที่พัฒนาโดย LPN และนิติบุคคลอื่น ครอบคลุมห้องชุดกว่า 150,000 ห้อง มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 200,000 คน ผู้อยู่อาศัยในชุมชนส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานที่ต้องออกนอกบ้านจึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนั้น LPP จึงมุ่งมั่นที่จะให้ความสำคัญกับการวางมาตรการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนและสังคม เริ่มจากให้ความสำคัญกับการทำแผนปฏิบัติการ จัดสัมมนาให้ความรู้กับทีมงานและผู้จัดการชุมชนของ LPP ทุกคน โดยเชิญวิทยากรจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาให้ความรู้กับทีมงาน และนำองค์ความรู้ดังกล่าว มาออกแบบมาตรการเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวในชุมชน
LPP ได้ตั้งทีมฉุกเฉิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทีมม้าเร็ว กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อในโครงการที่ LPP บริหารอยู่ ซึ่งทีมฉุกเฉินนี้ ต้องเป็นทีมที่พร้อมปฏิบัติการทันทีที่ได้รับแจ้งจากผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด และต้องดำเนินการควบคุมจัดการพื้นที่เสี่ยงในโครงการ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่ดังกล่าว เข้มงวดในการตรวจตราผู้ที่เข้ามาในอาคารทุกคน ทุกวัน และกำหนดแนวปฏิบัติของแต่ละชุมชนตามข้อเท็จจริงที่ทีมฉุกเฉินตรวจแจ้ง ตรวจสอบเส้นทางที่ผู้ติดเชื้อเคลื่อนที่ในชุมชนอย่างน้อย 7 วัน ด้วยการตรวจสอบ ผ่าน CCTV ประเมินความเสี่ยงและทำการสื่อสารให้เจ้าของร่วมรับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโครงการ
นางสาวสมศรี ระบุด้วยว่า แผนดังกล่าวนี้ จะมีการปรับเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงการที่หน่วยต่างๆ จะมีประกาศ หรือมีคำสั่งออกมา โดยในระหว่างวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นี้ LPP ได้ทำแผนจัดสรรอัตรากำลังและลักษณะงานออกเป็น 2 ทีม แต่ละทีมจะแยกพื้นที่ทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงให้ทีมงานและชุมชน หากเกิดการแพร่ระบาดจนต้องปิดสำนักงานนิติฯ หรือต้องกักบริเวณทีมงานใดทีมงานหนึ่ง LPP ยังมีทีมงานอีกทีมที่แยกพื้นที่ทำงานเข้าทดแทนกันได้ทันที ดังนั้น เจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัยจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพียงแต่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การบริการบางอย่างอาจถูกจำกัดเพื่อความปลอดภัยทั้งกับทีมงานและผู้อยู่อาศัย