LIV-24 หารือสภาหอการค้าไทย ดัน Smart Technology ยกระดับ Future Food อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต
บริษัท ลิฟ-24 จำกัด (LIV-24) ผู้นำ Smart Tech Solutions เพื่อความปลอดภัยและยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจ เข้าร่วมหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงประเด็นการนำสมาร์ทเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมความปลอดภัยและคุณภาพในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต หรือ Future Food ซึ่งมีมูลค่าความเติบโตสูง โดยคาดการณ์เป้าหมายมูลค่าอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทยในปี 2570 ไว้ถึง 500,000 ล้าน รับเทรนด์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่มองหาอาหารคุณค่าโภชนาการสูง ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟ-24 จำกัด เป็นตัวแทนเข้าร่วมพูดคุยกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำโดย ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการยกระดับและขับเคลื่อนขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารไทย ซึ่งมีสัดส่วนถึง 24.6% ของ GDP และมีมูลค่าการส่งออกในปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,638,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และแปรรูปขั้นต้น
นางสาวนิรมล เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตของ Future Food จำเป็นต้องมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลและเครื่องมือดิจิทัล เพื่อปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิภาพการผลิต พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของ ความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) และ การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าสินค้าอาหารสู่ตลาดโลก โดยสิ่งที่ได้หารือกับสภาหอการค้าฯ คือการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยยกระดับในกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อเสริมคุณภาพและความปลอดภัย (Food Quality & Safety) อาทิ:
– ระบบ AI ตรวจจับการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) แบบ Real-time: เพิ่มความมั่นใจสูงสุดให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง ด้วยระบบ AI ของ LIV-24 ที่สามารถตรวจจับการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หมวกคลุมผม ถุงมือ หน้ากากอนามัย ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนและเพิ่มสุขอนามัยในสายการผลิต หากไม่สวมใส่ตามกฎ จะเกิดการแจ้งเตือนทันที
– ระบบตรวจสอบย้อนกลับ – Food Traceability: การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ และติดตามอาหาร รวมถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตอาหาร ตั้งแต่การผลิต วัตถุดิบ กระบวนการแปรรูป จนถึงการกระจายผลิตภัณฑ์อาหารสู่ผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้ามีมาตรฐานและความปลอดภัย
– ระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Data Privacy): ในโลกของ Future Food ระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการจัดการและจัดเก็บข้อมูลละเอียดอ่อน (Sensitive Data) เช่น Biometrics ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า หรือ ม่านตา ที่อาจนำไปใช้ในการปลอมแปลงตัวตนเพื่อแก้ไขข้อมูลในระบบ ทำให้การตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารผิดพลาด การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นหัวใจสำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และส่งเสริมให้ผู้บริโภคพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตได้อย่างเต็มที่