– โครงการ InterContinental Residences Bangkok Asoke คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2572

– เป็นการลงนามข้อตกลงร่วมกับ CG Capital ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในแผนการขยายธุรกิจระดับโลกของ IHG

– โครงการประกอบด้วยที่พักอาศัยระดับลักชัวรี 88 ยูนิต บนทำเลศักยภาพสูง

IHG Hotels & Resorts (IHG) หนึ่งในบริษัทโรงแรมชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำการเติบโตครั้งสำคัญ ด้วยการลงนามเปิดตัวโครงการ Branded Residences แบบสแตนด์อโลนแห่งแรกของโลก ภายใต้แบรนด์ InterContinental ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน

โครงการ InterContinental Residences Bangkok Asoke ได้ถูกออกแบบมาอย่างประณีต ให้เป็นที่พักอาศัยระดับลักชัวรีจำนวน 88 ยูนิต บนทำเลอโศก ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ไลฟ์สไตล์ และคมนาคมของกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2572

IHG ได้จับมือกับ CG Capital ซึ่งเป็นบริษัทผู้บริหารกองทุน Private Equity หนึ่งในธุรกิจของ Central Group ผู้นำทางด้านการค้าปลีก และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย

ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ InterContinental ในการเข้าสู่ตลาด Branded Residences แบบสแตนด์อโลน อย่างเต็มตัวในเวทีโลก โดย InterContinental ยังคงมุ่งมั่น และพัฒนาโครงการ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การพักอาศัย ของนักเดินทางกลุ่มลักชัวรีในสมัยนี้

คุณ ราจิต สุขุมารัน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของ IHG Hotels & Resorts กล่าวว่า “นี่นับเป็นการลงนามครั้งประวัติศาสตร์ของ IHG ที่ได้นำแบรนด์ InterContinental มาบุกเบิกตลาดที่พักอาศัย Branded Residences แบบสแตนด์อโลนในระดับโลก และในตลาดกรุงเทพฯ จากการพัฒนาในครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของเรา ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยเรามุ่งมั่นพัฒนา และสร้างโอกาสใหม่ๆ ต่อไป

“ประเทศไทยนับเป็นตลาดสำคัญสำหรับโครงการที่พักอาศัย Branded Residences ในเอเชียแปซิฟิก โดยมีสัดส่วนถึง 23% ของโครงการทั้งหมด ตลาดนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แซงหน้าประเทศจีนที่มีสัดส่วน 17% ซึ่งเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ CG Capital เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ และส่งมอบโครงการที่พักอาศัยระดับระดับลักชัวรีนี้ โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Branded Residences ภายใต้แบรนด์ InterContinental ในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงโครงการ InterContinental Residences ที่ฟู กว๊ก ฮาลองเบย์ และหัวหิน”

โครงการ InterContinental Residences Bangkok Asoke จะตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 16 ในย่านอโศก ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่พักอาศัยระดับลักชัวรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางอาคารสำนักงานเกรด A ศูนย์การค้าหรู ร้านอาหาร และบาร์ชั้นนำ

โครงการนี้มีรูปแบบให้เลือกตั้งแต่ 2 ห้องนอน ไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ขนาด 4 ห้องนอน โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 139 – 547 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร, สระน้ำร้อนและน้ำเย็น, ฟิตเนสแบบครบวงจร, สตูดิโอพิลาทิสและโยคะ, ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวพร้อมอุปกรณ์ครบ, พื้นที่ Co-Working Space, ห้องประชุม, ห้องเล่นเกม, ห้องศิลปะ และ Residents Lounge

คุณ ภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ IHG ในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยใจกลางสุขุมวิท ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่พักอาศัยที่ได้รับการยอมรับ และมีชื่อเสียงในระดับพรีเมียม ทั้งร้านอาหารชั้นนำ และแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา โครงการ InterContinental Residences Bangkok Asoke จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในรูปแบบ Freehold ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง บนทำเลที่ยอดเยี่ยม”

“ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ การเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของโครงการ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ IHG ในโครงการ InterContinental Residences Bangkok Asoke ทั้งนี้ CG และ IHG มีโครงการอื่นที่จะประกาศเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้”

การเปิดตัว InterContinental Residences Bangkok Asoke เป็นการตอกย้ำการเติบโตของ IHG ในตลาดที่พักอาศัย Branded Residences ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 30 โครงการทั่วโลกที่เปิดให้บริการแล้ว และโครงการที่อยู่ในช่วงเปิดขาย ในทำเลสำคัญๆ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

ปัจจุบัน แบรนด์ InterContinental ของ IHG มีโรงแรมเปิดให้บริการแล้วถึง 51 แห่ง ในภูมิภาค EAPAC โดยในประเทศไทยมี 8 แห่ง ตั้งอยู่ในทำเลสำคัญ อาทิ กรุงเทพฯ, พัทยา, หัวหิน, เกาะสมุย, ภูเก็ต, เขาใหญ่ และเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมอีก 22 แห่ง โดยอยู่ในประเทศไทย 3 แห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในภูมิภาค โดยเครือข่ายทั่วโลกของ InterContinental มีโรงแรมรวม 231 แห่ง ใน 70 ประเทศ และมีโครงการในแผนการพัฒนาอีก 105 แห่ง

*ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568