12 Developers – 4 Main Contractors ชั้นนำของเมืองไทย ชูแนวคิดใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก หวังผลักดันลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อก้าวสู่สังคม NET ZERO สร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ที่ผ่านมาการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) ครั้งที่ 28 เน้นย้ำถึงเป้าหมายการรักษาระดับไม่ให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกเพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และตระหนักว่าจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 43% ภายในปี 2030 และ 60% ภายในปี 2035
ทั้งนี้เป้าหมายของประเทศไทยที่กำหนดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% ภายในปี 2030 แม้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่หลายๆ องค์กรธุรกิจให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์มีความสำคัญต่อภาคการก่อสร้าง และไม่อาจมองข้ามผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้ จึงเป็นภารกิจที่ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา พร้อมเดินหน้ากระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero
งาน Inclusive Green Growth Days Empowered by SCG : เติบโตและยั่งยืนไปด้วยกัน จัดขึ้น ณ Hall 1 อาคารอเนกประสงค์ชั้น 10 เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ โดย Cement and Green Solution Business ภายใต้เอสซีจี จัดขึ้นเพื่อมอบโล่เกียรติคุณให้กับ กลุ่ม Developer ชั้นนำของเมืองไทย เป็นการขอบคุณที่ร่วมกันสร้างอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียว ด้วยการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกในกลุ่มซีเมนต์ คอนกรีต และกรีนโซลูชัน ในอาคารระดับ Masterpiece ของไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการประกาศจุดยืนในการร่วมกัน ระหว่างบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำกับเอสซีจีเพื่อเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) และสร้างสังคมสีเขียวแบบยั่งยืน
นายสุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน เปิดเผยว่า เอสซีจี โดย Cement and Green Solution Business (CGS) ยกระดับอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นสู่ Net Zero ในปี 2050 ผ่านการพัฒนาสินค้า บริการ และโซลูชัน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินงานตามแผนงานหลัก 4 รูปแบบ ได้แก่
– Green Product พัฒนาสินค้า Low Carbon Cement นวัตกรรมปูนซีเมนต์รักษ์โลก ที่มีการนำเชื้อเพลิงชีวมวล และลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตมาเป็นเชื้อเพลิงและพลังงานทดแทน ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายของเอสซีจีที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปี คือพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นที่ 3 โดยจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 50%
– Green Process ปรับปรุงขั้นตอนการผลิต โดยในปี 2566 เราสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทน (Alternative Fuel) เพื่อลดการใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตปูนซีเมนต์ในอนาคต เพิ่มขึ้นมา 40% แต่ปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็น 50% นับเป็น The Best Record
– Green Construction พัฒนาแพลต์ฟอร์มการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น การนำเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างผ่านกระบวนการออกแบบ และก่อสร้างอาคารตั้งแต่เริ่มต้น รวมไปถึงแพลตฟอร์ม KIT CARBON ซึ่งใช้งานโดยการเชื่อมข้อมูลจาก BIM เพื่อนำมาคำนวณปริมาณคาร์บอนจากการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม
– Green Society ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว หนึ่งในนั้นคือโครงการ Saraburi Sandbox ซึ่งจังหวัดสระบุรีเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตปูนซีเมนต์เยอะที่สุด จึงมีความเหมาะสมที่จะริเริ่ม โดยดูในเรื่องของกลไกจากทุกภาคส่วนให้เป็นเมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำ