“โนเบิล”สยายปีกรับปีมังกรทอง จ่อเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 14,310 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท แจกปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ “บริษัทฯ” ประกาศข่าวดีปีมังกรทอง ปักธงรายได้รวมปี 2567 แตะ 14,000 ล้านบาท และยอดขาย (Pre-sale) ที่ระดับ 18,000 ล้านบาท หลัง Backlog ในมือมูลค่ากว่า 19,700 ล้านบาท พร้อมจ่อเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 14,310 ล้านบาท และเดินเกมรุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง จ่อทุ่มงบซื้อที่ดินย่านพระราม 9 ประชาชื่น และบางนา-ตราด ผุดโครงการใหม่ๆ ปูทางขึ้นสู่การเป็น Top 5 ในวงการผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทย จ่อสยายปีกต่อยอดธุรกิจให้ครบวงจร หนุนสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) พร้อมแจกข่าวดีจ่อปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 29 มกราคม 2567 นี้
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) “NOBLE” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จจากการขายโครงการตลอดทั้งปี ซึ่งสามารถกวาดยอดขาย (Pre-sale) ได้กว่า 14,900 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) จำนวน 6,600 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกจำนวน 8,300 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,900 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องด้วยสินค้าที่มีคุณภาพและอยู่ในทำเลศักยภาพที่ดี ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจอยู่ในช่วงที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้นแต่บริษัทฯ ยังคงสร้างยอดขายได้ในระดับที่น่าพอใจ นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 2566 ในมือรวมมูลค่ากว่า 19,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเห็น Sentiment (ความเชื่อมั่น) ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดย Segment ที่ยังคงสร้างยอดขายที่ดีให้กับบริษัทฯ เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบระดับ Luxury และคอนโดมิเนียมในเมือง
นายธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยมีสัดส่วนยอดขายที่ระดับกว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) สำหรับโครงการที่ได้การตอบรับที่ดีเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมระดับ Luxury บนทำเลถนนทองหล่อ ถนนสุขุมวิท และถนนวิทยุ เช่น โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ โครงการโนเบิล สเตท 39 และโครงการ ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ โดยขณะนี้โครงการดังกล่าวมียอดขายต่างชาติเข้ามากว่า 2,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการขยายตลาดของลูกค้าต่างชาติไปในตลาดใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เมียนมา ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่าในปี 2567 กลุ่มลูกค้าจีนจะกลับมามากขึ้นหลังเศรษฐกิจของจีนกลับมาดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะหนุนให้ยอดขายจากลูกค้าต่างชาติของบริษัทฯ กลับมามากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีมติอนุมัติปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/2566 จำนวน 0.20 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 51.2% โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 29 มกราคม 2567 และจ่ายเงิน ปันผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นก้าวสู่ระดับ Top 5 ในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยทำให้บริษัทฯ เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดินเพิ่มอีก จำนวน 3 แปลง ประกอบด้วย 1. ที่ดินบนทำเล พระราม 9 เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท 2.ที่ดินทำเลย่านประชาชื่น เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ 3.ที่ดินบนทำเลบางนา-ตราด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม BTS และสหพัฒน์ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยังคงแข็งแกร่งและยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง