“แอล ดับเบิลยู เอสฯ” แนะ ภาคอสังหาฯ ใช้วัสดุคอนกรีตก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero ในปี 2608
ภาคอสังหาฯ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับต้นๆ ตามรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานระบุว่า ภาคอาคารและอสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับสองรองจากภาคการเกษตร โดยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 39% ในกระบวนการทำงาน ดังนั้น ภาคอสังหาฯ จึงควรเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ระบบ
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวถึงแนวทางขับเคลื่อนภาคอสังหาฯ สู่การเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Net Zero ในปี 2608 ว่า “การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์สู่การเป็นอสังหาริมทรัพย์สีเขียว และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Net Zero ให้ได้ตามเป้าหมายของประเทศในปี 2608 ซึ่งวัสดุหลักที่ใช้ในงานก่อสร้าง นั่นคือ คอนกรีต เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถปรับใช้ได้หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ก็เป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ที่สูงที่สุด โดยส่วนมากเกิดจากกระบวนการผลิต คิดเป็นประมาณ 7-8% ของการปล่อย CO₂ ทั่วโลก โดยจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงการปล่อย CO₂ ในประเทศไทยปี 2022 อยู่ที่ 247.7 ล้านตัน ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในไทย อยู่ที่ 21.15 ล้านตัน ดังนั้น การเลือกใช้คอนกรีตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สำคัญ”






