แนวคิดที่ชัดเจน จะช่วยเลื่อนวันหนี้นิเวศโลกให้ไกลออกไปได้อย่างไร
โดย เอสเธอร์ ฟินิโดริ ผู้จัดการฝ่ายประสิทธิภาพด้านสภาพแวดล้อม และกลยุทธ์ CO2 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ทำไมต้องเป็น 1 สิงหาคม?
วันหนี้นิเวศโลกในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 สิงหาคม โดยวันหนี้นิเวศโลกเป็นวันที่กำหนดขึ้น เมื่อถึงจุดที่ความต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ในแต่ละปี มีมากเกินกว่าที่ระบบนิเวศของโลกจะผลิตขึ้นมาใหม่ได้ทันในปีนั้นๆ แล้ววันที่ว่าหมายถึงอะไรกันแน่
โดยในปีนี้เราจะใช้ “งบประมาณด้านทรัพยากร” หมดภายในวันที่ 1 สิงหาคม นั่นหมายความว่าหลังจากวันที่ 1 สิงหาคม เราจะต้องหยิบยืมทรัพยากรในอนาคตมาใช้ล่วงหน้า โดยจากอัตราการใช้ทรัพยากรในปัจจุบัน เราจะต้องมีโลกถึง 1.7 ใบถึงจะมีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการใช้ในหนึ่งปี
เพื่อแปลงค่าการใช้งานทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ เป็นมาตรวัดในเชิงปริมาณ ทางเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก (Global Footprint Network) ได้ใส่ความต้องการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของมนุษย์เข้ามาเพื่อประเมินทรัพยากรธรรมชาติที่โลกต้องฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ หรือทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น โดยสรุปทุกพื้นที่ที่ก่อให้เกิดผลผลิตทางชีวภาพ ในการหมุนเวียนกลับขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า “รอยเท้านิเวศ (Ecological Footprint)” ของมนุษย์ ประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับอาหาร ป่าไม้ การดูดซับของเสีย (โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไหมเชื้อเพลิงฟอสซิล) รวมไปถึงพื้นที่ในการตัดถนน และสร้างเมืองเพื่ออำนวยความสะดวก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ data.footprintnetwork.org.
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินจุดสมดุล จะถูกแปลงค่าออกมาเป็นวันที่กำหนดชัดเจน และเลื่อนเร็วขึ้นจากปลายเดือนกันยายนปี 1997 จนล่าสุดเป็นวันที่ 1 สิงหาคมในปีนี้ ซึ่งนับว่ามาถึงเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกที่วันที่เราเป็นหนี้นิเวศ เลื่อนเข้ามาเร็วขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 1970 เรื่อยมา นั่นหมายความว่ามนุษยชาติมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเร็วขึ้นถึง 1.7 เท่า เกินกว่าที่ระบบนิเวศจะสามารถสร้างทดแทนขึ้นมาใหม่ได้ เทียบเท่ากับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลก 1.7 ใบ