ศุภาลัย ชวนพันธมิตรธุรกิจ “สร้างดี” เพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน จ.นครราชสีมา พร้อมตั้งเป้าลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ใน 3 ปี
บมจ.ศุภาลัย แท็กทีม ตลาดหลักทรัพย์ฯและกรมป่าไม้ มอบพื้นที่สีเขียวให้ชาวบ้านชุมชนบ้านโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ชวนผู้บริหาร ซัพพลายเออร์ สื่อมวลชนและพนักงานร่วมปลูกต้นไม้นานาพันธุ์จำนวน 2,000 ต้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าจำนวน 10 ไร่ในโครงการ “ศุภพนาลัย by Care the Wild” ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ภายใน 3 ปี
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบและให้ความสำคัญต่อสังคมในทุกด้าน (CSR) ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยต่อจากนี้กิจกรรมทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ชื่อโครงการ “ศุภาลัย สร้างดี” เพราะนอกจากการสร้างบ้านที่ดีให้กับลูกค้ามาตลอด 33 ปีแล้ว บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าหากมีความตั้งใจที่ดีแล้วก็สามารถขับเคลื่อนและสร้างคุณค่าต่างๆให้เกิดในสังคมได้อย่างมากมาย อาทิ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับโลก สร้างการศึกษาที่ดีให้กับเยาวชน ก่อให้เกิดการสร้างสังคมที่ดีแก่ประเทศชาติ รวมไปถึงการเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี โดยการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับที่บริษัทฯได้ยึดมั่นและปฏิบัติตลอดมา
ในปัจจุบันวิกฤตด้านพลังงานและสภาพอากาศที่โลกกำลังเผชิญนั้นส่งผลกระทบต่อทุกชีวิต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งทำให้เกิดวิกฤตภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกประเทศต้องรวมพลังเพื่อร่วมกันลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปี 2565 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ภายใน 3 ปี และตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับการดำเนินธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมาโดยตลอด โดยในจังหวัดนครราชสีมาที่บริษัทฯได้เข้ามาพัฒนาธุรกิจมานานกว่า 8 ปีแล้ว จึงได้เข้าร่วมโครงการ “ศุภพนาลัย by Care The Wide” ร่วมกับพันธมิตรคือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกรมป่าไม้ เพื่อพลิกฟื้นผืนป่าชุมชน ณ บ้านโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา
โดยบริษัทฯ ได้ชวนผู้บริหาร พนักงาน พันธมิตรกลุ่มบริษัทคู่ค้า ทั้งกลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด, เอสซีจี, ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด, สื่อมวลชนรวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ปลูกต้นไม้ จำนวน 2,000 ต้น ในพื้นที่ป่าชุมชนขนาด 10 ไร่ โดยมีชาวชุมชนบ้านโคกพลวงเป็นกำลังสำคัญในการรักษาป่า ให้อยู่รอดและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนได้ 100% อีกทั้งชาวบ้านยังสามารถใช้ป่าชุมชนนี้เป็นแหล่งทำมาหากิน เพราะจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทั้งไม้ยืนต้นและไม้กินได้ อาทิ สัก, ปีบ, พะยูง, ยางนา, ประดู่, มะม่วง จำนวนมากถึง 2,000 ต้น ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การรักษาระบบนิเวศ และพัฒนาชุมชนให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อเนื่องไปได้หลายสิบปี