“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ประกาศแผนธุรกิจปี 65 เตรียมเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง 10 – 12 โครงการ มูลค่า 7,000 – 8,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 8,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 7,200 ล้านบาท
ลลิลฯ ประกาศแผนธุรกิจปี 2565 เดินหน้าขยายธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น National Housing Company และผู้นำของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบของประเทศ ตั้งเป้าเติบโตโดดเด่นเหนือภาพรวมตลาดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยในปี 2565 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 10 – 12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 – 8,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 8,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 10% จากผลงานที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการปี 2564 แม้จะเป็นปีที่ต้องเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นหลายระลอก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมในวงกว้าง ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยมีการชะลอตัวลงจากปี 2563 ทั้งในแง่อุปสงค์และอุปทาน แต่สำหรับ ลลิลฯ ซึ่งเน้นการทำตลาดแนวราบที่เป็น Real Demand ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น ประกอบกับการนำเสนอโครงการที่เข้าถึง Customer Insight อย่างแท้จริง ทั้งการคัดสรรทำเลที่มีศักยภาพ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างความสามารถในการแข่งขันในด้านต่างๆ อย่างมุ่งมั่น ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี 2564ฃ
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr.Chaiyan Chakarakul, Chairman of Executive Board, Lalin Property Plc.) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ที่ผ่านมาว่า เป็นปีที่เกิดรูปแบบการฟื้นตัวที่ขาดสมดุลขึ้น หรือการฟื้นตัวแบบ K-Shaped เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีการฟื้นตัวได้ดี โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2564 จะกลับมาขยายตัวได้ราว 5.9% จากที่หดตัว 3.1% ในปี 2563 ในขณะที่เศรษฐกิจของอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยมีการฟื้นตัวที่ช้า โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวได้เพียงเล็กน้อยที่ราว 1% จากที่หดตัวถึง 6.1% ในปี 2563 ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากังวล