“รีโว กรุ๊ป” ขยายโซนไปย่านเพชรเกษม เปิด “เรซิโอ โฮม เพชรเกษม110” ทาวน์โฮมสไตล์ญี่ปุ่นเริ่มต้นเพียง 2.49 ลบ.* เปิดจองครั้งแรกรอบ V.VIP 13-14 ก.ค.67 นี้
กลุ่มบริษัทรีโว อสังหาฯ เล็กพริกขี้หนู เดินหน้าทำตลาดบ้านระดับกลางอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายโซน เปิดโครงการในย่านเพชรเกษม “เรซิโอ โฮม เพชรเกษม110” ทาวน์โฮมสไตล์ญี่ปุ่น เติมเต็มทุกความต้องการของวิถีชีวิตคนเมืองยุคใหม่ LOVE AT FIRST HOME รัก หลัง แรก ให้ครบทุกฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย เพื่อให้คุณ ได้คบบ้านหลังแรก ที่ถูกใจเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท* เปิดจองครั้งแรก รอบ V.VIP 13-14 กรกฎาคม 2567 นี้
นางสาวสุทธิสินี อยู่สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ รีโว กรุ๊ป ปิดเผยว่า จากภาวะราคาที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะที่ดินบริเวณพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีการขยับราคาสูงขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของเมือง มีการขยายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหลายสาย รวมถึงแผนการก่อสร้างโครงการขนส่งมวลชนระบบรางทั้งเส้นทางใหม่และส่วนต่อขยาย ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณชานเมืองเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ประกอบกับราคาที่ดินบริเวณชานเมืองยังคงมีราคาไม่สูงมากนัก สามารถนำไปใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยได้ รีโวกรุ๊ปเองก็เช่นกัน เราได้มองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและช่องว่างในตลาดแนวราบระดับกลางอยู่เสมอ ล่าสุด จึงได้เตรียมรุกเข้าไปเปิดโครงการใหม่ในย่านถนนเพชรเกษม โดยนำสินค้าแบรนด์ “เรซิโอ โฮม” โดยนำแบบบ้านขายดีของบริษัท คือ ทาวน์โฮมสไตล์ญี่ปุ่น มาออกแบบฟังก์ชั่นและพัฒนาเพื่อเติมเต็มทุกความต้องการของวิถีชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ “เรซิโอ โฮม เพชรเกษม 110” (Reseo Home Phetkasem 110)
ในส่วนของการพัฒนาโครงการ และสินค้าที่อยู่อาศัยนั้น กลุ่มบริษัทรีโวมีแนวคิดการสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ ที่จะพลิกเปลี่ยนมิติการใช้ชีวิตของคนเมืองยุค New Normal ให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 9 ตามตำรา ฮวงจุ้ยดาว 9 ยุค เพื่อรับพลังงานที่ดี ความเจริญก้าวหน้า โชคลาภทรัพย์สินเงินทอง เพราะบ้านและที่อยู่อาศัยในวันนี้ต้องสามารถตอบรับและต่อยอดบริบทการใช้ชีวิตครบทั้ง 4 มิติที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่อาศัยในอนาคต คือ
1. มิติแห่งสุนทรียภาพ (Leisure & Artistry) นำนวัตกรรมการคิดการออกแบบเชิงจิตวิทยาที่เข้ามาประยุกต์ใช้ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม การออกแบบภูมิทัศน์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ภายใต้แนวคิด Sensational Living Design ที่ทุกสัมผัสให้ความรู้สึก อบอุ่น ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด
2. มิติแห่งศักยภาพ (Optimum & Practicality) พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ส่งเสริมให้การดำเนินชีวิตประจำวันของลูกบ้านมีความคล่องตัว สะดวกสบายสูงสุด ผ่านเทคโนโลยี Smart Living Tech รวมถึงการออกแบบฟังก์ชั่นจัดสรรพื้นที่ที่ยืดหยุ่น และตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ตอบสนองการใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. มิติแห่งสุขภาพ (Healthy & Security) ปรับใช้นวัตกรรมด้านการออกแบบทางวิศวกรรมศาสตร์ เข้ามายกระดับสุขภาวะภายในที่อยู่อาศัยให้ได้มาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด Well Living Design การออกแบบพื้นที่ชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพ
4. มิติแห่งสัมพันธภาพ (Harmony & Sustainability) ผสานนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตยุคใหม่อย่างกลืมกลืน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการต่อยอดคุณภาพชีวิตที่ดีและการรักษาความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน Sustainable Living Standard