Nursing Home to Aging in Place บ้านพักคนชราอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจกว่า
ก่อนหน้านี้วิธีการดูแลผู้สูงอายุในอเมริกาจะโน้มเอียงไปทางการให้บริการบ้านพักคนชราหรือ Nursing Home แต่วันนี้วัฒนธรรมการดูแลผู้สูงอายุในอเมริกาเริ่มเปลี่ยนไป และคล้ายกับวัฒนธรรมของชาวเอเชีย แต่แตกต่างกันในรายละเอียด จะเป็นอย่างไรเรามาดูกันครับ
เรื่องราวของชารอนกับทางเลือกที่มากขึ้นสำหรับการดูแลคนวัยชรา
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมปี 2543 เมื่อ Sharon Mile ดูแลแม่วัยชราของเธอ ทั้งสองอาศัยอยู่ในเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโกมาเป็นเวลายี่สิบกว่าปีและกำลังเริ่มเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่ผ่านมาชารอนดูแลแม่มาด้วยตนเองเพียงลำพัง โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆ การช่วยแม่อาบน้ำ จัดหาอาหารให้แม่ และอื่นๆ นั้นยากลำบากเกินกว่าจะรับมือไหว ในที่สุดชารอนต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ทั้งเธอและแม่ก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น นั่นคือการส่งแม่ไปที่ “บ้านพักคนชรา” (Nursing Home)
แต่ในปัจจุบัน ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่ชารอนเคยทำอีกแล้ว หากไม่ได้มีเรื่องที่จำเป็นสุดๆ จริงๆ การใช้ชีวิตในวัยสูงอายุที่บ้านของตัวเองหรือ ‘Aging in Place’ เริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกทั้งยังมีราคาย่อมเยา แนวคิดนี้เริ่มมีความเป็นไปได้ในการนำมาปรับใช้จริงกับผู้สูงวัยหลายคน และชารอนเองก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหานี้ด้วย
หลังจากเกิดเรื่องราวที่แม่และชารอนต้องประสบ ชารอนตัดสินใจกลับไปเรียนต่อด้านสังคมสงเคราะห์สาขาการศึกษาเกี่ยวกับผู้สูงอายุ และผ่านประสบการณ์การดูแลผู้สูงวัยที่องค์กรด้านการบำรุงรักษาสุขภาพ (Health Maintenance Organizations, HMO) จากนั้นชารอนได้กลายมาเป็นสมาชิกผู้เชี่ยวชาญคนใหม่ของผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุและก่อตั้งบริษัทของตนเองขึ้นมา ลูกค้าปัจจุบันของชารอนล้วนอยู่ในวัยประมาณ 80 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านของตัวเองและไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกใดๆ