พาชม 2 โปรเจกต์ Mixed Use ยักษ์ใหญ่ จาก โตคิว คอร์ปอเรชั่น ผู้นำอสังหาฯ ในย่านชิบูย่า

wipawan khampuwiang 07 June, 2018 at 12.39 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางแสนสิริ (Sansiri) ที่เป็นผู้นำทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ได้ยกทัพนักข่าวกว่า 20  ท่าน ร่วมชมโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของบริษัทร่วมทุนอย่างบริษัทโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในด้านอสังหาฯ ในย่านชิบูย่า โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางแสนสิริและโตคิวฯ ได้ร่วมมือกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรก ภายใต้ชื่อ “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) บนทำเลเอกมัย 12 มูลค่าของโครงการร่วม 2,000 ล้านบาททีเดียว และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติอย่างคนญี่ปุ่นเองก็ตาม จึงทำให้ตอนนี้ทำให้มียอดขายแล้วถึง 95% ใกล้ปิดโครงการขายแล้วนั่นเอง

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความรีวิวโครงการ taka HAUS : https://propholic.com/prop-verdict/taka-haus/

 

ซึ่งการพาทัพนักข่าวมาเยือนไกลถึงประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะพามาเที่ยวหรือดูโปรเจกต์ของบริษัทร่วมทุนเพียงอย่างเดียว ไฮไลท์ของงานก็จะเป็นการจัดงานแถลงข่าวของทั้งสองบริษัทฯ จัดขึ้นที่โรงแรม Cerulean Tower Tokyu Hotel ของบริษัทร่วมทุนนั่นเอง ซึ่งทั้งสองบริษัทฯ ได้ประกาศจับมือเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นที่เมืองไทยอีกไม่นานนี้ ในทำเลสุดฮิตที่เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหนก็อยากลงทุนในย่านนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องศักยภาพของทำเลที่อยู่ใจกลางถนนสุขุมวิท และความสะดวกของเส้นทางการจราจร นั่นก็คือทำเลเอกมัยและทำเลสุขุมวิท 50 ซึ่งมีมูลค่ารวมของทั้ง 2 โครงการกว่า 5,000 ล้านบาท และทั้งสองบริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นการพลิกโฉมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตอบรับไลฟ์สไตล์จากเทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่ของญี่ปุ่น และเตรียมเผยโฉมคอนโดฯ รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ เดือนสิงหาคมนี้

โดยทางแสนสิริได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นของทั้ง 2 โครงการว่า โครงการแรกจะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Hi Rise ความสูง 38 ชั้น อยู่บนทำเลเอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และการสัญจรที่สะดวกสบาย การเดินทางที่รวดเร็วด้วยโครงการรถไฟฟ้า และได้รับจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น โดยจะเปิดขายในปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ ส่วนรายละเอียดชื่อของคอนโดทั้งสองโครงการนั้น ทางผู้บริหารของแสนสิริบอกมาว่าอยู่ในช่วงกำลังเลือกอยู่ ถ้ามีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกที

และโครงการที่ 2 เป็นคอนโดฯ แบบ Low Rise ความสูง 8 ชั้น มีด้วยกัน 2 ตึก จำนวน 300-400 ยูนิตเท่านั้น ที่พัฒนาภายใต้แนวคิดมอบความสงบและเป็นส่วนตัวให้กับชีวิตเมือง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่คนอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กำลังต้องการ ตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิท 50 ใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชเพียง 500 เมตร และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมตามหลังโครงการแรกมาติดๆ

ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองบริษัทฯ ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท สิริ ทีเค ทรู (Siri TK Two Company Limited) และบริษัท สิริ ทีเค ทรี (Siri TK Three Company Limited) โดยสัดส่วนของการถือหุ้นนั้น กลุ่มแสนสิริถือหุ้น 70% และกลุ่มโตคิว คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นสัดส่วน 30% เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ ที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั่นเอง

 

สำหรับบริษัทโตคิว คอร์ปอเรชั่น (Tokyu Coporation) เริ่มต้นทำธุรกิจโดยการก่อสร้างทางรถไฟสาย เมกุโระ – คามาตะ ในปี 2565 จวบจนมาถึงปี 2560 กลุ่มบริษัทโตคิวมีบริษัทในเครือทั้งสิ้น 220 บริษัท และ 8 บริษัทจดทะเบียนภายใต้การดูแลของ โตคิว คอร์ปอเรชั่น ธุรกิจต่างๆ เหล่านี้ถูกจัดรวมเข้าเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่ง/คมนาคม กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทัพย์ กลุ่มธุรกิจบริการเพื่อการใช้ชีวิตที่สุขสบาย และกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต ซึ่งกลุ่มธุรกิจโตคิว สามารถที่สรรค์สร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการดำเนินชีวิตที่สวยงามสำหรับทุกกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปโดยการรวมฟังก์ชั่นของธุรกิจต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน

และโตคิว คอร์ปอเรชั่น ในฐานะธุรกิจหลักของกลุ่ม ได้พัฒนาความเป็นอยู่ของคนในเมือง ด้วยการนำบริการด้านการคมนาคม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ มาพัฒนาในระยะยาว พร้อมค้นคิดและพัฒนาการให้บริการที่รองรับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค

ขบวนรถไฟที่ทางโตคิว คอร์ปอเรชั่น ใช้กับงานขนส่งสาธารณะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

แผนที่เส้นทางรถไฟของโตคิว คอร์ปอเรชั่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีหลายบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟจึงทำให้แผนที่เส้นทางรถไฟมีหลายสายกระจายกันไปตามเขตต่างๆ แค่ของโตคิวฯ ยังมีหลายสายขนาดนี้ ถ้ารวมกับของเจ้าอื่นคงจะทำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการอยากใช้รถไฟเพื่อเดินทางเป็นครั้งแรกคงปวดหัวไม่ใช่น้อย

ภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A7_%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99

 

เสร็จจากงานแถลงข่าวในช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็มีแพลนไปชมโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของทางโตคิวฯ ที่อยู่ในย่าน TAMAKAWA ใช้เวลาเดินทางจาก Cerulean Tower Tokyu Hotel เพื่อไปยัง Futako Tamakawa Rise

ย่าน TAMAKAWA ก็เป็นอีกย่านนึงที่โตคิวได้เข้ามาพัฒนาเมืองให้มีความก้าวหน้าและแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ด้วยโปรเจกต์ FUTAKO TAMAKAWA” ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม และออฟฟิศ มีหลายตึกด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Futako Tamakawa Rise Office, Futako Tamakawa Rise Rakuten Crimeson House, Futako Tamakawa Excel Hotel Tokyo, Futako Tamakawa Rise Tower & Resistance, Futako Tamakawa Rise Shopping Center, Futako Tamakawa Rise Birds Mall และ Futako Tamakawa Rise Dogwood Plaza โครงการทั้งหมดถูกพัฒนาขึ้นในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่

ซึ่งพื้นที่ที่ตั้งของโปรเจกต์ดังกล่าว เมื่อก่อนเคยเป็นสวนสนุกมาก่อน แต่เนื่องด้วยไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการจึงถูกปิดกิจการไป ทางโตคิวจึงมองเห็นประโยชน์ของพื้นที่ส่วนจึงนำมาพัฒนาต่อ โดยมีรูปภาพเปรียบเทียบความแตกต่างของย่าน Tamakawa เมื่อ 51 ปีที่แล้วที่ถูกบันทึกไว้

อีกตึกหนึ่งในโปรเจกต์ FUTAKO TAMAKAWA ที่น่าสนใจคือ Futako Tamakawa Rise Office ซึ่งในตึกจะมี 4 ส่วนด้วยกัน คือ สวนสาธารณะ ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า และคอนโดที่พักอาศัย

โดยเจ้าหน้าที่ของทางโตคิวฯ ได้พานักข่าวไปที่ชั้น 8 ของตึก Futako Tamakawa Rise Office เพื่อชมระบบปฏิบัติการณ์พิเศษที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ยุค 4.0 ที่เน้นถึงความสะดวกสบายแถมความปลอดภัยควบคู่ไปด้วย ซึ่งไฮไลท์จะเป็นแอพพลิเคชั่น intelligent HOME ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ เปิดแอร์ หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงเพื่อเปิด-ปิดม่าน ซึ่งจะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุด โดยแอพพลิเคชั่นนี้ ทางแสนสิริได้นำเข้ามาใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมเรียบร้อยแล้ว

ง่ายๆ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับ WIFI และใช้แอพพลิเคชั่น LINE ควบคุมการสั่งงานระบบไฟฟ้าภายในห้อง แอพพลิเคชั่นสามารถใช้งานได้หลายภาษาโดยการเซ็ทภาษาเองได้จากสมาร์ทโฟน

ระบบประตูใช้เป็นแบตเตอรี่ และใช้งานได้นานถึง 1 ปี

ลำโพงที่สามารถสั่งการด้วยเสียงเพื่อเปิด-ปิดม่านได้ สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้

ลงมายังชั้น 6 ของตึกยังมีส่วนของ Co-Working Space ไว้รองรับผู้คนที่อยากใช้พื้นทำงานนอกบ้านแต่ยังได้รับความสะดวกสบายเหมือนกับอยู่ที่บ้าน มีโต๊ะเก้าอี้ไว้รองรับเพียงพอต่อความต้องการ และมีส่วนครัวไว้ให้ดื่มน้ำ ดื่มกาแฟ ทานขนมได้ ราคาเฉลี่ยต่อเดือนก็ประมาณ 3,000 บาทไทยเท่านั้น และสามารถมาใช้พื้นที่ได้ทุกวัน

มีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของให้กับสมาชิกที่มาสมัครใช้ในส่วนของ Co-Working Space

มองจากมุมนี้ก็จะเห็นรถไฟสถานี Tamakawa ที่โตคิวเป็นผู้พัฒนา

อีกส่วนหนึ่งที่ทางโตคิวได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโตเกียว ทำ Campus ที่เป็นห้องให้นักศึกษาสาขา Engineering ได้เข้ามาใช้บริการในการเรียน อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ก็ได้ ถือได้ว่าทางโตคิวได้พัฒนาในย่าน Tamakawa ให้มีความเจริญก้าวหน้าเพื่อความสะดวกสบายของผู้คนอย่างแท้จริง

บรรยากาศโดยรอบของตึก Futako Tamakawa Rise Office ที่มีคนพลุกพล่านอยู่ตลอด เพราะมีทั้งสถานีรถไฟตึกข้างๆ ก็เป็น Shopping Center และที่นี่ก็มีการจัดงานอีเว้นท์บ่อย จึงทำให้มีผู้คนเข้า-ออกอยู่ตลอด ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Center ของคนในย่าน Tamakawa เลยก็ว่าได้

ทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟ Tamakawa

มาถึงอีกหนึ่งโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของทางโตคิวที่ช่วยตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำอสังหาฯ ในย่านชิบูย่า คือโปรเจกต์ “SHIBUYA +FUN PROJECT” ประกอบด้วยโครงการ Mixed use ขนาดใหญ่ที่มีหลายอาคาร ส่วนใหญ่เป็นตึกที่ให้เช่าเป็นสำนักงานส่วนชั้นล่างของตึกก็จะเป็นห้างสรรพสินค้า

ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวของโปรเจกต์นี้ ได้รับกฎหมายผ่านพิเศษในการสร้างตึก และมีพื้นที่ทั้งหมดขนาดประมาณ 100 ไร่ จะมีด้วยกันถึง 4 ตึกใหญ่ด้วยกันคือ Shibuya Hikaria, Shibuya Station south area, Shibuya Station area และ Shibuya Dogen-zaka area ซึ่งตึก Shibuya Hikaria แล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2012 ส่วนตึกอื่นๆ คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2019 เพื่อรองรับการบูมของโอลิมปิคที่จะเกิดขึ้นปี 2020 นี้

โมเดลจำลองตึกที่อยู่ในโปรเจกต์ “SHIBUYA +FUN PROJECT” ของทางโตคิว และย่านชิบูย่าโดยรอบ

ตึก Shibuya Hikaria ที่แล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2012 เริ่มใช้งานได้ก่อนตึกอื่นๆ ที่อยู่ในโครงการเดียวกัน

โดยภายในตึก Shibuya Hikaria จะมีการแบ่งโซนการใช้งานในแต่ละชั้นที่แตกต่างกันไป เช่น Shopping Area, Café & Dinning, Creative, Hikaria Hall, Sky Lobby, Tokyu Theatre Orb และ Office เป็นการแบ่งสัดส่วนของตึกให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ความพิเศษของตึก Shibuya Hikaria ที่โซนด้านนอกจะไม่ติดแอร์ฯ เนื่องจากในตึกมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ชั้นใต้ดิน แล้วจะมีช่องให้ลมสามารถผ่านขึ้นมาบนตึกได้ ทำให้อากาศถ่ายเทตลอดเวลา

เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายถึงเรื่องลมที่ตีขึ้นมาด้านบนเมื่อมีรถไฟวิ่งผ่านอยู่ข้างล่าง ทำให้ลมกระจายตัวขึ้นไปถึงด้านบนของตึก ในตึกจึงมีอากาศถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ

ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่อยู่ใจกลางของย่านชิบูย่าเลยก็ว่าได้

ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 นาที จากโรงแรม Shibuya Excel Hotel ที่เป็นโรงแรมในเครือของโตคิว มายังตึก Shibuya Hikaria เพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น

มุมมองจากตึก Shibuya Hikaria ที่สามารถเห็นวิวของแยกชิบูย่าที่มีผู้คนและการจราจรอย่างหนาแน่น

ในทริปนี้ที่ได้ไปชมโปรเจกต์ใหญ่ของทางโตคิวฯ ทั้ง 2 ที่ ถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์ Mixed Use ที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว ซึ่งทางส่วนของย่าน Tamakawa ที่อยู่ห่างจากชิบูย่าไม่มากนัก ทางโตคิวฯ ก็ได้ทำการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการหาจุดศูนย์รวมของผู้คนในย่าน Tamakawa จึงเกิดเป็นโปรเจกต์ “Futaka Tamakawa Rise” ขึ้น ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ตึกสำนักงาน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และตึกที่พักอาศัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนในย่าน Tamakawa และเป็นการปรับปรุงเมืองให้มีความน่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย และ SHIBUYA +FUN PROJECT” ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ผู้นำด้านสังหาฯ ในย่านชิบูย่า อย่างโตคิวฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนา ให้เป็นตึกที่รวบรวมความต้องการของผู้คนในย่านชิบูย่าและเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Office, Theatre Ord, Shopping Center และ Creative Space แถมยังเพิ่มความสะดวกในการเดินทางด้วยการเชื่อมต่อด้วยใต้พื้นดินกับ Tokyu Toyoko Line, Tokyo Metro Fukutoshin Line สถานี Shibuya เพื่อเป็นการพัฒนาเมืองให้มีความก้าวหน้า และยังเป็นการต้อนรับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกที่จะเกิดขึ้นใน 2020 นี้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

 

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ล่าสุดในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างสองบริษัทอย่างแสนสิริและโตคิวฯ นั้น รายละเอียดอื่นๆ ผู้ชมน่าจะได้ทราบในเร็วๆ นี้ ไม่นานเกินรอแน่นอน

wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์

เนอวานา แอทเวิร์ค กรุงเทพกรีฑา

นิว เมกา พลัส บางนา

นิว เรน แจ้งวัฒนะ

Nue REN Chaengwattana (นิว เรน แจ้งวัฒนะ) คือโครงการ...

10 October, 2025

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน - วงเวียนใหญ่

ย่านฝั่งธนฯ นับว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้ว...

29 September, 2025

โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร

เอสซี แอสเสท ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและนวั...

22 September, 2025

ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39

"คอนโด High Rise ใหม่แบบ 2 ห้องนอนในย่านพร้อมพงษ์ ยั...

7 August, 2025

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง