ทำไมเมืองแมนเชสเตอร์ จึงมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการลงทุนแห่งใหม่ และเมืองที่น่าอยู่ที่สุดใน UK

เกริก บุณยโยธิน 11 August, 2017 at 08.00 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


หากนึกถึงประเทศในแถบทวีปยุโรป ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับคนไทยมาช้านาน เป็นแม่แบบของวัฒนธรรมสมัยนิยม (Popular Culture) ในหลายๆด้าน ทั้งดนตรี กีฬา วรรณกรรม การศึกษา ศิลปะ ภาษา ระบอบการเมืองการปกครอง ฯลฯ ก็คงหนีไม่พ้นประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) มีช่องแคบอังกฤษเป็นทางคั่นระหว่างเกาะน้อยใหญ่ ไปสู่แผ่นดินใหญ่ยุโรป โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอังกฤษจะตั้งอยู่บริเวณตอนกลางและตอนใต้ของเกาะ Great Britain เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร เมื่อพูดถึงประเทศอังกฤษสิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวของคนไทยก็น่าจะเป็น ฟุตบอล English Premier League ที่มีทีมขวัญใจมหาชาวไทยอยู่หลายทีม รองลงมาก็น่าจะเป็นในเรื่องของการศึกษา และอาจจะรวมไปถึงศิลปินนักร้อง Boyband ต่างๆในยุครุ่งเรืองของ British Pop Culture เมื่อครั้งปี 90s ทั้ง Take That, Boyzone, Westlife, Blue จนมาถึง One Direction…หากนับแค่สามอย่างนี้ รวมไปถึงปัจจัยสำคัญที่ประเทศอังกฤษเป็นต้นตำรับของภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารของคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ก็คงจะเพียงพอที่จะทำให้คนไทยหลายๆคนใฝ่ฝันที่จะลองไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษดูสักครั้ง

เครดิตภาพวง Take That: www.takethat.com

ประเทศอังกฤษยังเป็นบ้านหลังที่สองของคนไทยหลายๆคน โดยเฉพาะสำหรับบรรดาเหล่าผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานไปเรียนต่อทั้งคอร์สระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว ประเทศอังกฤษก็ติดอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศที่คนไทยนิยมไปศึกษาต่อ เคียงคู่กันกับ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์มาตลอด ประเทศอังกฤษยังมีสถาบันการศึกษา และทุนการศึกษาที่ได้รับการยอมนับว่าดีที่สุดในโลกอยู่หลายทุน ไม่ว่าจะเป็น Eton College และทุนตัวท้อปที่หลายคนถวิลหาอย่าง Gates Cambridge Scholarships, Rhodes Scholarships และ British Chevening ทั้งนี้ภูมิภาคของประเทศอังกฤษยังถูกแบ่งออกเป็น 9 ภูมิภาคซึ่งมีวัฒนธรรมท้องถิ่น เศรษฐกิจ และสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกัน โดยเมืองใหญ่ที่คนไทยรู้จักมักคุ้นกันดีก็จะมีอยู่ 2 เมือง ใน 2 ภูมิภาคได้แก่ ลอนดอน ในภูมิภาค Greater London ซึ่งเป็นเขตเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และ แมนเชสเตอร์ ซึ่งอยู่ในภูมิภาค North West England ค่อนไปทางตอนเหนือของประเทศและมีพื้นที่ติดกับสก็อตแลนด์

 

ลอนดอนคือเมืองหลวงของประเทศ และในอดีตที่ผ่านมา (ก่อน BREXIT) ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงของทวีปยุโรป ความสำคัญของลอนดอนไม่ได้มีเพียงแค่การเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การลงทุนขนาดใหญ่ แต่ที่นี่ยังเป็นต้นแบบของการออกแบบฝังเมืองสมัยใหม่ เป็นมหานครสำหรับบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลก เพราะที่นี่เปิดกว้างให้กับการลงทุนหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะอสังหาฯ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นคนต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชีย เข้ามาลงทุนในกิจการต่างๆมากมาย ตั้งแต่อาคารสูง โรงแรม ช้อปปิ้งมอลล์ อพาร์ทเมนท์ ไปจนถึงสโมสรฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) เมื่อปีที่แล้ว ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงินปอนด์ที่ตกลง ราคาของอสังหาฯจึงถูกลงเป็นที่เตะตาต้องใจจากหเล่านักลงทุนทั่วโลกมากไปกว่าเดิม

 

อาคาร The Shard ซึ่งเป็นตึกระฟ้ารูปทรงปิรามิดที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ก็มีเจ้าของเป็นทุนกาตาร์

เครดิตภาพ: www.pixabay.com

 

โครงการ 9Elvaston Place ก็เป็นอพาร์ทเมนท์หรู ย่าน High Street Kensington กลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่ใน Conservation Area และเป็นย่านที่มีราคาแพงที่สุดในลอนดอน เป็นอาคารชุด 6 ยูนิต ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 60-160 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 60-160 ล้านบาท ที่ทางแสนสิริซื้อไป Refurbished ใหม่ ก็ขายจนหมดแล้วเช่นกัน

ถ้าพูดถึงลอนดอน ก็คงหลีกไม่ได้ที่จะต้องเปรียบเทียบกับเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละภูมิภาค แต่ผู้คนในสองเมืองใหญ่แห่งนี้ก็เดินทางไปมาได้สะดวกรวดเร็วในระยะเวลา 2 ชั่วโมงด้วยรถไฟ (อนาคตจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่จะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเหลือเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 8 นาทีเท่านั้น) เปรียบดั่งโตเกียวและโอซาก้า สองเมืองใหญ่แห่งญี่ปุ่น ที่มีความเจริญและมีศักยภาพในเชิงธุรกิจที่คู่คี่สูสีกัน จนเหมือนเป็นเมืองหลวงด้วยกันทั้งคู่

เครดิตภาพ: www.pixabay.com

 

เมืองแมนเชสเตอร์ เปรียบเสมือนเมืองต้นกำเนิดของเศรษฐกิจสมัยใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฎิวัติอุตสาหกรรม มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากลอนดอน เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยว ในจำนวนนี้มีนักศึกษาที่เรียนต่อที่เมืองแมนเชสเตอร์สูงถึงหลายแสนคน

ผู้คนที่เมืองนี้ดูจะมีสีสันการใช้ชีวิตที่มากกว่าลอนดอน เนื่องจากมีครบหมดทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ไปจนถึงผับบาร์สมัยใหม่ โดยในปัจจุบันสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองแมนเชสเตอร์มากที่สุดก็คือวัฒนธรรม Pop Culture อย่างวงดนตรี และสโมสรฟุตบอล เรียกได้ว่าลอนดอนมีอะไร แมนเชสเตอร์ก็ไม่ยอมน้อยหน้า…ไม่ว่าจะเป็น วงดนตรีแนว alternative BLUR (ลอนดอน) และ Oasis (แมนเชสเตอร์) แนว Boyband อย่าง BLUE (ลอนดอน) และ Take That (แมนเชสเตอร์) ไปจนถึงสโมสรฟุตบอลขนาดใหญ่อย่าง เชลซี, อาร์เซนอล, สเปอร์ (ลอนดอน) ที่ขับเคี่ยวแย่งชิงแชมป์กันทุกปี กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เครดิตภาพ: www.pixabay.com

 

เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาทางเวปไซต์ Lonely Planet ได้มีการจัดอันดับเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุด 10 อันดับแรก ก็ปรากฎชื่อของเมืองแมนเชสเตอร์ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 8 ซึ่งเป็นเพียงแค่เมืองเดียวในประเทศอังกฤษที่ติด 10 อันดับแรก

ภาพ City Skyline ยามค่ำคืนของเมืองแมนเชสเตอร์ เครดิต: http://www.manchestereveningnews.co.uk

 

แมนเชสเตอร์ เมืองทันสมัยแห่งแรกของโลกยุคใหม่

 

Benjamin Disraeli, 1st Earl of Beaconsfield อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร 2 สมัย เมื่อยุคเริ่มต้นแห่งการปฎิวัติอุตสาหกรรม ในช่วงศตวรรษที่ 19 เคยกล่าวยกย่องในความล้ำหน้าของเมืองแมนเชสเตอร์ ที่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่งอุตสาหกรรมสมัยใหม่ว่า What Manchester does today, the rest of the world does tomorrow.”  สิ่งที่ชาวเมืองแมนเชสเตอร์ทำเมื่อครั้งนั้นมาจากจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทอฝ้ายแบบทำมือ ไปสู่ยุคแห่งการใช้เครื่องจักรไอน้ำ จนนำไปสู่การพัฒนาเส้นทางคมนาคม และ infrastructure สมัยใหม่อย่างเส้นทางรถไฟระหว่างเมืองแมนเชสเตอร์ ถึงเมืองลิเวอร์พูล ด้วยหัวรถจักรไอน้ำในปี ค.ศ. 1826

DNA ของความทันสมัยในเชิงเทคโนโลยีของชาวเมืองแมนเชสเตอร์ยังถูกถ่ายทอดมายังยุคปัจจุบันด้วย วัสดุสังเคราะห์แห่งอนาคต “กราฟีน (Graphene)” ที่ถูกค้นพบโดยสองนักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ กราฟีน เป็นวัสดุที่มีความแข็งแกร่งทนทานกว่าเหล็กกล้าและเพชร มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา และยังนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง สามารถนำไปใช้ได้กับวัสดุหลากหลายประเภทตั้งแต่หน้าจอโทรศัพท์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปจนถึงดาวเทียม

 

ศักยภาพของเมืองแมนเชสเตอร์ในอนาคต

 

เมื่อราวๆปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเศรษฐกิจยุโรป ประเทศในยูโรโซนหลายประเทศตั้งเป้าหมายในการรัดเข็มขัด ลดรายจ่ายของรัฐบาล แต่สิ่งเหล่านี้กลับส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ ไอร์แลนด์ สเปน กรีซ และไซปรัส และนำมาซึ่งปัญหาการว่างงานในระยาว ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และ GDP Growth ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจดๆจ้องๆว่าทางสหราชอาณาจักรจะมีแผนการอะไรที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ความถดถอยของพิษเศรษฐกิจลุกลามเป็น Domino Effect…รัฐบาลอังกฤษได้เลือกใช้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่มุ่งปรับปรุงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างศักยภาพโดยรวมให้กับภูมิภาคตอนเหนือของประเทศ ภายใต้โปรเจค “Northern Powerhouse”

Northern Powerhouse มีจุดมุ่งหมายก็คือการเพิ่มดุลอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ เพื่อไม่ให้ความเจริญเติบโตถูกอัดอยู่แต่เพียงในลอนดอน และเมืองอื่นๆทางตอนใต้ โดยรัฐบาลอังกฤษกำหนดให้แมนเชสเตอร์เป็น New Northern Gateway ที่เชื่อมต่อความเจริญไปสู่เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจอื่นๆทั่วประเทศ โปรเจค Northern Powerhouse ถูกโหมกระพือความร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีกนับตั้งแต่การมาเยือนประเทศอังกฤษของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อปี 2015 ในแบบ “เพื่อนจิบเบียร์” ที่ The Plough at Cadsden และประกาศถึงความร่วมมือกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง

เครดิตภาพ: http://www.mirror.co.uk/

 

เม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลทั้งจากภาครัฐฯและเอกชนถูกใส่ลงไปในทุกภาคส่วน เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะเสริมศักยภาพให้เมืองแมนเชสเตอร์เป็น Global City ที่มีเครือข่ายคมนาคมอันแสนสะดวก โดยมีไฮไลท์สำคัญ 3 อย่างคือ

1. รถไฟความเร็วสูง High Speed 2 (HS2) แบ่งออกเป็น 2 + 1 เฟส คือ Phase แรกจาก London ไป West Midlands, Phase 2a จาก West Midlands ไป Crewe และ Phase 2b จาก Crewe ไป Manchester และจาก West Midlands ไป Leeds ด้วยเส้นทางใหม่นี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางจากลอนดอน มาลงที่สถานี Manchester Piccadilly ภายในระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ โดยการก่อสร้างน่าจะเริ่มขึ้นในปี 2018

2. Metro Link ระบบรถไฟฟ้า Light Rail ที่ครอบคลุมเครือข่ายการเดินทางทั่วทั้ง Greater Manchester มีเส้นทางการเดินรถถึง 7 สาย ตั้งแต่สนามบินสู่ใจกลางเมือง โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เริ่มมีการก่อสร้างส่วนต่อขยาย Phase 2CC (Second City Crossing) โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020

3. ส่วนต่อขยายสนามบินแมนเชสเตอร์ “Airport City Manchester” ภายใต้คอนเซปท์เมืองท่าอากาศยานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในสหราชอาณาจักรที่ถูกยกระดับการพัฒนาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 800 ล้านปอนด์ ประกอบไปด้วย โรงแรม ช้อปปิ้งมอลล์ อาคารสำนักงาน และ Logistics Hub โดยคาดว่าภายในปี 2030 ที่แห่งนี้จะสามารถรองรับนักเดินทางทั่วโลกได้ถึง 36 ล้านคน

นอกจากการพัฒนาในส่วนคมนาคมแล้ว แมนเชสเตอร์ยังได้วางรากฐานในการเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจดิจิทัล และความคิดสร้างสรรค์ โดยบรรดาบริษัทชั้นนำด้าน IT และ Startup มักจะเปิดบริษัทรวมตัวกันอยู่ในย่าน MediaCityUK โดยสถาบันหลักที่มีส่วนในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์คือ University Of Salford, The Lowry และ BBC จนทำให้เมืองแมนเชสเตอร์มีบริษัท Startup เกิดขึ้นเยอะที่สุดในเกาะอังกฤษ

เมืองแมนเชสเตอร์ยังมี Mega Project ในด้านอสังหาฯจากภาคเอกชนอีกหลายโครงการที่รอจ่อคิวพัฒนาอยู่รอบเมือง โดยเม็ดเงินในการลงทุนส่วนใหญ่ก็มาจากกลุ่มทุนเอเชีย ทั้งจากจีนและอาหรับ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2019 อัตรา GDP Growth จะอยู่ที่ 3.5%

 

จับตาตลาดอสังหาฯในเมืองแมนเชสเตอร์ ราคาถูกกว่าลอนดอน และจับกลุ่มเป้าหมายชัดเจน

 

ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวเร่งให้ตลาดอสังหาฯในแมนเชสเตอร์ถึงจุดพีคก็คือ จำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจำนวนประชากรก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว นั่นส่งผลให้ในย่าน Greater Manchester จะขาดแคลนที่อยู่อาศัยอย่างน้อย 200,000 ยูนิตภายในปี 2040 และผลกระทบทางบวกโดยตรงกับธุรกิจอสังหาฯก็คือราคาที่อยู่อาศัยในย่านใกล้ใจกลางเมือง อย่าง Trafford พุ่งสูงขึ้นถึง 9.1% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี (เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งเมืองที่สูงขึ้นแค่ 3.2%) เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นคอนโดมือสอง หรือไม่ก็เป็น Refurbished ราคาจึงค่อนข้าง Competitive กว่า และเป็นย่านที่แม้ไม่ได้อยู่กลางเมือง เป็นจุด Interchange Station แต่ก็สามารถเดินทางเข้าเมือง และแหล่งงานใหญ่อย่าง MediaCityUk ได้สะดวก

 

ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทอพาร์ทเมนท์ยังมีจุดเด่นที่ดึงดูดนักลงทุนจากทวีปเอเชีย โดยเฉพาะคนไทย ที่มักจะนิยมส่งลูกหลานไปเรียนต่อ ด้วยอัตรา Rental Yield และ Capital Gain ที่สูงที่สุดในเกาะอังกฤษ ที่สำคัญคือมีราคาถูกกว่าที่ลอนดอนอยู่พอสมควร แถมยังจับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นเหล่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของเมืองแมนเชสเตอร์ทั้ง 3 แห่งในย่าน Greater Manchester ได้แก่ The University of Manchester, Manchester Metropolitan University และ The University of Salford ที่มีจำนวนมากเป็นลำดับที่สามของประเทศ นับเฉพาะแค่ The University of Manchester ก็มีจำนวนนักศึกษาทุกระดับรวมกันมากกว่า 39,700 คนในปี 2015 และหากนับรวมกันทุกมหาวิทยาลัยก็จะมีจำนวนมากถึงกว่า 1 แสนคน ซึ่งจำนวนนักศึกษาเหล่านี้ก็ถูกเติมเพิ่มขึ้นในทุกปี สำหรับนักศึกษาคนไทยที่มี Purchasing Power สูงก็มักจะนิยมซื้ออพาร์ทเมนท์ (จริงๆส่วนใหญ่จะเป็น Leasehold แต่มีสัญญาเช่ายาวถึง 999 ปี) แทนหอพักมหาวิทยาลัย เนื่องจากเมื่อเรียนจบก็ขายต่อหรือปล่อยให้เช่าต่อได้ โดยลูกค้ารายใหญ่ที่นิยมเข้ามาซื้อคือจากฮ่องกง จีน สิงคโปร์ ไทย และตะวันออกกลาง

 

WESTPOINT by BEECH Holdings อพาร์ทเมนท์ refurbished ราคาดีงาม ในย่าน Residential Area ที่น่าจับตามองที่สุดของแมนเชสเตอร์

เช่นเดียวกันในเมืองไทย อพาร์ทเมนท์ที่คนแมนเชสเตอร์ นิยมซื้อกันมักจะเป็นอพาร์ทเมนท์ที่ตั้งอยู่ในย่าน Residential Area มีความอุดมสมบูรณ์ และยังสามารถเดินทางเข้าสู่ย่าน CBD ได้สะดวกโดยรถไฟฟ้า โดยหากเป็นคอนโดในย่านเดียวกันผู้ซื้อมักจะเลือกซื้อจากชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์เป็นหลัก BEECH HOLDINGS เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในการพัฒนาโครงการอพาร์ทเมนท์ในเมืองแมนเชสเตอร์ มาตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นและสร้างชื่อเสียงมากมายให้ BEECH HOLDINGS ก็คือการพัฒนาโครงการอพาร์ทเมนท์ประเภท Refurbished หรือเปรียบเทียบง่ายๆก็คือการ Renovated อาคารเก่า ที่มักจะถูกปล่อยปละละเลย โดยไปซื้ออาคารมาและก็มาปรับปรุง ตกแต่งใหม่ แต่ Refurbished จะเป็นการ Renovate ทั้งรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอก เพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภับ ระบบบริหารจัดการ รวมไปถึงรูปแบบการจัดวางเลย์เอ้าท์ ตกแต่งภายในห้องทั้งหมด…อพาร์ทเมนท์ประเภท Refurbished มักจะมีราคาที่ถูกกว่าโครงการที่สร้างใหม่เกือบ 50% และประเทศอังกฤษก็นิยมที่จะ Refurbished อพาร์ทเมนท์กันมากกว่าการซื้อที่ดินเพื่อสร้างโครงการใหม่ ที่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง และอาจจะเป็นการเสียทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเก่าแก่ แถมคนที่นี่ก็เป็นคนที่ติดถิ่นไม่อยากที่จะย้ายออกไปที่ใหม่ๆสักเท่าไหร่

 

VDO Presentation ประวัติความเป็นมาของ BEECH HOLDINGS

 

อพาร์ทเมนท์ทุกโครงการที่ผ่านการ Refurbished โดย BEECH HOLDINGS ยังจุดเด่นในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากกว่าเดิม แต่ประหยัดพลังงานและมีอัตราการปล่อยสารคาร์บอนที่ต่ำ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับ Community

ตัวอย่างโครงการที่สร้างชื่อ และการันตีคุณภาพด้วยรางวัลจากหลายสำนัก

โครงการ WESTPOINT เป็นโครงการล่าสุดที่ทาง BEECH HOLDINGS เพิ่งเปิดขายไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ตั้งอยู่ในทำเลที่คนทั่วไปรู้จักกันทั้งโลก เพราะว่าอยู่เยื้องจากสนาม Old Trafford ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงแค่ไม่กี่เมตร แถมยังเดินทางไปยังย่าน CBD และ MediaCityUk ได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า

WESTPOINT เป็นอพาร์ทเมนท์แบบ leasehold 250 ปีที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่สุดในย่านนี้ โดยมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 317 ยูนิต แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน และตอบโจทย์ชาวเอเชียมากที่สุด ด้วย Gym, สวนลอยฟ้า, สวนญี่ปุ่น, ที่จอดรถ, เล้าจน์ และร้านกาแฟภายในโครงการ

 

ดู Presentation โครงการที่ที่นี่ครับ

อย่างที่บอกว่าใกล้ Old Trafford มาก เดินเพียงแค่ 4 นาทีก็ถึง สถานี Trafford Bar Station แถมนั่งรถไฟฟ้าแค่ 2 สถานีก็ไปย่าน CBD ได้

ที่นี่ยังใกล้แหล่งงานสำคัญ และย่านนักศึกษาอย่าง Manchester University อีกทั้งยังเป็นทำเลที่เดินทางไป MediaCityUK ได้ไม่ยาก โดยที่ราคาถูกกว่าอพาร์ทเมนท์ในย่านนั้นเยอะครับ ที่สำคัญก็คือ Supply โครงการใหม่ๆในอนาคตมีน้อยกว่า จึงทำให้ Capital Gain มีโอกาสขึ้นสูงกว่าย่าน MediaCityUk ที่คาดการณ์กันว่าจะมีอพาร์ทเมนท์อีกราวๆ 3,000 ยูนิตสร้างเสร็จในปี 2019

 

Trafford ยังเป็นที่ตั้งของ Trafford Park นิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่เป็นที่ตั้งของบริษัทมากถึง 1,500 แห่ง และมีคนทำงานในเขตอุตสาหกรรมนี้มากถึง 40,000 คน ดังนั้นพื้นที่ของ Trafford จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า จะกลายเป็นศูนย์รวมของธุรกิจในอนาคต และด้วยราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.1% ในปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3.2% ของ Manchester โดยรวม ถือเป็นการยืนยันได้ว่าพื้นที่บริเวณนี้ เป็นแหล่งการลงทุนที่น่าสนใจมากที่สุดในขณะนี้

อย่างที่บอกว่าจุดเด่นของโครงการที่ได้รับการพัฒนาโดย BEECH HOLDINGS ก็คือดีไซน์ที่เพิ่มพื้นที่การใช้สอยให้มากกว่าเดิม โดยที่ WESTPOINT แต่ละยูนิตจะฝัง Heater ไว้ที่ใต้พื้นจากเดิมที่ต้องแขวนผนัง ใช้ระบบทำความร้อนจากส่วนกลาง ไม่เปลืองพื้นที่ในการวาง Boiler เอาเครื่องซักผ้าออกจากห้องเพราะในระยะยาวมันยากต่อการบำรุงรักษา โดยจัดให้มีห้อง Laundry แยกไว้ที่ส่วนกลาง รวมถึงการเพิ่มพื้นที่เก็บของและแพคเกจเฟอร์ที่พอดีกับขนาดห้องแต่ละห้อง

 

การจัดวางเลย์เอ้าท์ห้องแบบใหม่นี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ประโยชน์จากทุกอณูของพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ดังภาพด้านล่างที่แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ห้องของโครงการจะมีขนาดเล็กกว่าโครงการอื่น แต่ก็อยู่สบายกว่า โดยนำเอาของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในห้องมาไว้ที่พื้นที่ส่วนกลาง ที่ให้ครบ คุ้ม มากกว่าที่อื่นๆครับ

ขายแบบ Fully Furnished รายละเอียดของที่ได้มีตามนี้เลยครับ

โครงการ WESTPOINT เหมาะมากสำหรับการซื้อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากสามารถปล่อยเช่าเป็นรายสัปดาห์ได้ และมีทีมบริหารโครงการครบรอบด้านจาก BEECH HOLDINGS ผู้ที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าจะได้ Rental Guarantee ที่คาดว่าจะได้ Yield สูงถึง 7.5-8% ต่อปี ยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดในย่านนี้

 

สำหรับในเรื่องของ Payment Plan โครงการ WESTPOINT มีแพคเกจการจ่ายเงินที่ไม่สูงมาก

โดยจ่ายค่าจองเพียงแค่ 100,000 บาท

ชำระเงิน 50% เมื่อมีการทำสัญญาภายใน 30 วันนับจากวันที่จอง

ชำระเงินอีก 50% เมื่อครบกำหนดสร้างเสร็จ ใน Quarter แรกของปี 2018

 

โดยคนไทยคนไหนที่สนใจที่จะซื้อโครงการก็สามารถทำได้โดยสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร จัดหานิติกร เพราะว่ามีบริษัทตัวแทนอสังหาฯที่เชี่ยวชาญเฉพาะในด้านการขาย Overseas Property อย่าง Landscope Thailand เป็นผู้จัดการให้ทั้งหมดครับ

ยูนิตแบ่งออกเป็น Studio และ 1 Bedroom โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 79,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3.5 ล้านบาทเท่านั้น!!! และเป็นการขายแบบ Fully Furnished

ห้อง Studio มีขนาดตั้งแต่ 13 – 29 ตรม. / ห้อง 1 Bedroom มีขนาดตั้งแต่ 21 – 45 ตรม. โดยห้อง 1 Bedroom มีราคาเริ่มต้นที่ 117,000 ปอนด์ หรือราวๆ 5.2 ล้านบาท

 

โดยในวันที่ 19-20 สิงหาคม นี้ ทางบริษัท Landscope จะมีการจัดงาน Exclusive Launched ที่โรงแรม The St. Regis ติด BTS ราชดำริ ในราคาเริ่มต้นที่ถูกซะยิ่งกว่าคอนโดในกรุงเทพฯซะอีกคือ 2.9 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกได้ว่าจะเอาส่วนลดหรือเป็น Rental Guarantee ที่ 8% ยาว 3 ปี และยังฟรีค่าส่วนกลางใน 3 ปีแรก หลังจากนั้นก็จะเสียค่าส่วนกลางราวๆตารางฟุตละ 2 ปอนด์ หรือ 1,184 บาทต่อเดือน ซื้อแล้วก็แค่นั่งรอรับเงินค่าเช่าที่จะส่งเข้าบัญขีคุณทุกเดือนเฉยๆที่บ้านครับ

ทั้งนี้การลงทุนอสังหาฯในสหราชอาณาจักร ควรมองถึงประโยชน์ในการใช้สอย และการลงทุนในระยะยาวมากกว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย รวมถึงภาษีค่อนข้างแพง การลงทุนอพาร์ทเมนท์ในเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าจะกำลังมาแรงแทนที่อสังหาฯในลอนดอน เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษได้ทุ่มเทเต็มที่กับโปรเจค Northern Powerhouse ที่มีเมืองแมนเชสเตอร์เป็นจุดศูนย์กลางแห่งความเจริญ ลงทุนอพาร์ทเมนท์ในลอนดอนตอนนี้อาจจะคาดหวังผลตอบแทนได้ราวๆ 3% ต่อปี และอัตรา Capital Gain ค่อนข้างช้า เมื่อเปรียบเทียบกับแมนเชสเตอร์ที่ราคาอสังหาฯค่อนข้างถูกกว่า สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้ราวๆ 7-8% ต่อปี แถมโอกาสปล่อยเช่าได้มีสูงมาก เนื่องจาก Supply ไม่เพียงพอกับ Demand ในปัจจุบัน

 

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อโครงการ WESTPOINT สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวปไซต์ WestPoint – UK Investment Registration เพื่อรับสิทธิพิเศษ**ฟรี ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายมูลค่ากว่า 45,000 บาท เมื่อลงทะเบียนก่อนเริ่มงาน**

หรือที่ บริษัท Landscope (Thailand) จำกัด คุณรูน (โทรศัพท์: 063 – 429 – 6546, อีเมล: watcharajitt@landscopethailand.com)

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค

นิว โคสต์ คูคต สเตชัน

ศุภาลัย เอสเซ้นส์ บางนา - สุวรรณภูมิ

“เราเชื่อว่าบ้านที่ดีที่สุด คือบ้านที่ทำให้รู้สึกคิด...

4 March, 2025

นิว เอปิค อโศก-พระราม 9

โครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดิน...

6 January, 2025

นิว คอร์ คูคต สเตชัน

NUE Core Khu Khot Station เป็นคอนโดใหม่เพียงหนึ่งเดี...

20 December, 2024

ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์

ทำเลฝั่ง “ธนบุรี” ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง...

6 November, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง