ตลอดช่วงชีวิตของคนเรา ย่อมมีหลายครั้งที่เรารู้สึกท้อแท้ เหนื่อยใจกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ดูมันจะไม่เป็นใจไปซะทั้งหมด ในชีวิตของผมเองก็มีบางวันที่รู้สึกไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้ากับปัญหา ฝ่าฟันกับความเป็นจริง ที่พุ่งเข้ามาหาเราราวกับคลื่นซัดชายฝั่งในวันมรสุม…จริงอยู่ ที่อุปสรรคหลายๆอย่างนั้น ไม่นานมันก็จะผ่านพ้นไป พร้อมกับสร้างเสริมประสบการณ์และภูมิคุ้มกันให้เรากล้าแกร่งขึ้น สำหรับความท้าทายใหม่ๆในภายหน้า แต่เชื่อแน่ว่ามีหลายคนที่มักจะรู้สึกถอดใจ ยอมแพ้ต่ออุปสรรค จนพาลที่จะเลิกทำสิ่งที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้กลางคัน กลายเป็นคนจับจดไปซะหยั่งงั้น…

ในอดีตผมก็เคยเป็นคนที่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคมาก่อนครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็มักที่จะเดินหนีปัญหา และมองหาทางเลือกอื่นๆ จนเมื่อเราโตขึ้นจึงได้พบว่าการหนีปัญหา และนั่งเฉยๆเฝ้ารอโชคชะตาฟ้าลิขิต มันไม่ใช่ทางออกที่ฉลาดเลย เพราะว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้เรายิ่งห่างไกลจากความสำเร็จที่แท้จริงมากขึ้น…ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาผมเปลี่ยนตัวเองจากคนช่างฝัน และพอใจกับความสำเร็จในปัจจุบัน มาเป็นคนล่าฝัน เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆที่เก็บไว้ในใจมาตั้งนานแล้ว ให้มันเป็นรูปธรรมจับต้องได้สักที สิ่งๆหนึ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นคือ “Passion” ครับ

สำหรับผมคำว่า Passion นั้นเป็นคำที่มีคุณค่ามากกว่าที่จะตีความเป็นแค่ความหมายทางตัวอักษร หลายๆคนเมื่อเอ่ยถึงคำว่า Passion ก็มักที่จะโยงไปถึง ความปรารถนาที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชั่วขณะหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นความลุ่มหลง อยากได้อยากมีในทุกสรรพสิ่งที่เราใฝ่ถวิลหา… ในทางตรงกันข้าม Passion นั้นคือพลังบวก ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และเติมพลังกายให้เราสามารถก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายได้ตามที่วาดฝันไว้ Passion เป็นพลังที่ไม่มีวันหมด ถึงแม้ว่าเส้นทางนั้นจะต้องใช้เวลายาวนานนับสิบปีกว่าจะถึงปลายทาง

Passion ที่มีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์จะสามารถสร้างหัวใจสุดแกร่งที่ไม่ยอมแพ้ นำมาซึ่ง แรงศรัทธาให้เราเชื่อได้ว่ามีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่ตอนท้ายสุด และในขณะเดียวกัน ก็เป็นแรงผลักดันในทุกครั้งที่รู้สึกท้อแท้ ฉุดให้ลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้มลง และในที่สุดก็จะพาเรากลับมา อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีงานโฆษณา Corporate Branding ของบริษัทอสังหาฯรายหนึ่ง ที่เผยแพร่ออกมาให้ชมกันทางช่องทาง Online หลายๆ Channel ซึ่งแน่นอนว่าทางผมเองในฐานะที่เป็นคนที่เคยทำงานอยู่ในองค์กรแห่งนี้ และก็พอที่จะมีความรู้ในเรื่องแบรนดิ้งอยู่บ้าง ก็เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบยกงานชิ้นนี้มากล่าวถึง ซึ่งเป็นแคมเปญภายใต้ชื่อว่า #LIVEWITHPASSION โดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

การสื่อสารแคมเปญ #LIVEWITHPASSION ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของอนันดาฯ ที่มีการทำโฆษณาในเชิง Corporate Branding จากเดิมที่ผ่านมาทางบริษัทฯเน้นหนักไปในการทำ Product Branding ซะมากกว่า… การเดินทางของแบรนด์คอนโดที่อยู่ภายใต้ร่มเงาอนันดาฯ อย่างแบรนด์ไอดีโอนั้น (จริงๆแล้วก็มีทั้งแบรนด์ แอชตัน เอลิโอ และยูนิโอ ด้วยนะครับ) นับไปนับมาก็เข้าสู่ปีที่ 9 แล้วครับ ที่มีโครงการออกมาอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพักแม้แต่ปีเดียว เก็บเกี่ยวชื่อเสียงและประสบการณ์มาเรื่อยๆ ใช้กลยุทธ์การจัด brand portfolio ในแบบ single brand strategy ที่มีคำต่อท้าย เช่น ชื่อโครงการ ทำเล หรือชื่อรหัส…และผลลัพธ์ที่ออกมา มันก็ออกมาตามใจหวังของท่าน CEO ถึงแม้ว่าอาจจะมีติดขัดบางเป็นบางช่วงเวลา แต่ที่สำคัญคือลูกค้าจดจำแบรนด์ไอดีโอได้ โดยที่แบรนด์ไอดีโอเป็นแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนที่สุด ในบรรดากลุ่มแบรนด์คอนโดติดรถไฟฟ้า >> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของแบรนด์ไอดีโอได้ใน บทบาทของแบรนด์ที่ชัดเจนคือพื้นฐานในการกำหนด Customer segmentation

จุดกำเนิดของแบรนด์ไอดีโอนั้น ต้องบอกว่ามาจากการเอาธาตุลมและธาตุไฟจากตาราง archetype มาผสมกันครับ การปั้นแบรนด์ไอดีโอคือการนำเอา DNA จากพ่อที่มีความเป็น Sage และจากแม่ที่มีความเป็น Changemaster มาผสมกันครับ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเราได้ลูกที่มีความฉลาดสามารถเป็นเพื่อนคู่คิด เป็นนักวางแผน เป็นที่ปรึกษา และในขณะเดียวกันที่ปรึกษาคนนี้ก็ยังสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้คุ้นชินกับบรรยากาศใหม่ๆได้อย่างลงตัวครับ ไม่ว่าจะเป็น Mode Live-Work-Play การนำเอา archetype ทั้งสองตัวมารวมกัน ผสานกับจุดเด่นของตัวโครงการที่เน้นคอนโดติดรถไฟฟ้า และ relevance ของกลุ่มลูกค้าที่ชอบที่จะอาศัยอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เบื่อรถติด active รักอิสระ อยากจะทำอะไรวันไหน ตอนไหนก็ทำ มันนำมาซึ่ง brand idea คือ “คิดเพื่อขยายมิติชีวิต” ครับ

มาถึงบรรทัดนี้ ก็คงจะต้องบอกว่า brand journey ของไอดีโอ นั้น ได้เดินทางมายาวนานเกือบจะครบ 1 ทศวรรษแล้วครับ ในขณะที่แบรนด์อื่นๆมีล้มลุกคลุกคลาน ออกนอกเส้นทางไปบาง แต่แบรนด์ไอดีโอ ก็ยังคงแผ่ขยายตามแนวรถไฟฟ้าอยู่เรื่อยๆทุกปี ความสำเร็จแบบนี้แน่นอนครับว่าไม่ใช่เพียงแค่ทำเลเท่านั้นที่สำคัญ แต่ยังรวมถึง brand strategic platform ที่ชัดเจนตั้งแต่แรกด้วยครับ คำว่า Gen C นั้น พื้นฐานมาจาก brand DNA ที่มีเอกลักษณ์ มี character ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ Gen C จะแตก segmentation ออกมาอีกเรื่อยๆ ตามแต่ lifestyle ในอนาคตของเหล่าคนกรุงเทพที่จะแสดงออกมาให้เห็น

ในขณะที่อนันดาฯประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ไอดีโอ ให้ติดตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชนิดที่ว่าเปิดขายโครงการขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็แต่คนจับตาว่าจะผลตอบรับจะดีมากน้อยแค่ไหน ยอดรีเซลจะวิ่งหรือไม่…ก็ถึงเวลาที่จะต้องหันกลับมามองที่ Corporate Brand อย่างอนันดาฯ ที่เป็นผู้ให้กำเนิดแบรนด์ไอดีโอกันบ้างครับ คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบริษัทอนันดาฯ ไม่ได้มีเพียงแค่คอนโดไอดีโอขายเพียงอย่างเดียวครับ แต่ยังรวมถึงโครงการแนวราบอย่าง ATOLL, Arden และอีกหลายธุรกิจที่น่าจะตามมาในอนาคตอันใกล้ แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่เมื่อพูดถึงอนันดาฯทีไร Top of mind ที่อยู่ในใจของผู้บริโภคส่วนใหญ่กลับนึกไปถึง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ซะงั้น!! ต้องมีการ aiding ต่อด้วยแบรนด์ไอดีโอ ทุกที

แน่นอนครับทางอนันดาฯนั้น ย่อมต้องคาดหวังว่าแบรนด์แม่ของตัวเองจะต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ที่มีความแตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น อย่างเห็นได้ชัดกว่านี้แน่นอนครับ โดยการสร้าง Corporate Branding Campaign #LIVEWITHPASSION ในครั้งนี้ ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ที่ตระหนักและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง มีความท้าทายที่มุ่งมั่นในการพัฒนา Urban Living Solution เพื่อนำคุณภาพชีวิตบวกกับความเป็นอยู่ ที่ดีกลับสู่ชีวิตคนเมือง และเพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น

ตลอดการดำเนินเรื่องของโฆษณา #LIVEWITHPASSION นั้นเราได้เห็นถึง Passion ที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ถึง 5 Passions ไม่ว่าจะเป็น

• Passion for Convenience ที่ถูกสื่อความหมายออกมาด้วย Extreme Biker สุดเท่ห์ที่มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของความยาก

• Passion for Innovation ดำเนินเรื่องโดยสถาปนิคผู้มีความต้องการที่จะเปลี่ยนทุกๆ การออกแบบให้ตอบสนองการใช้งานตามแบบฉบับวิถีชีวิตคนเมือง

• Passion for Environment & Eco สาวนักจัดสวนขวดแก้วที่มักจะมองหาแรงบันดาลใจ จากสิ่งรอบกาย

• Passion for Design ศิลปินกราฟฟิตี้สุดแนวที่ต้องการให้คนทั้งโลกสัมผัสได้ถึงความงามในแบบของตัวเอง

• Passion for Life-Balance นักวิ่งบ้าพลัง ผู้มีแรงปรารถนาที่จะคว้าชัยในการแข่งขันอันสุดทรหด

Passions ทั้ง 5 แบบนี้ ล้วนแล้วแต่บอกเล่าถึง Brand Promise ของอนันดาฯ ที่เปรียบดั่งความรัก ความลุ่มหลง และความศรัทธาของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นอย่างไม่หยุดนิ่งในการหามุมมองใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าที่จะมอบพลัง มอบความสุข และสามารถตอบทุกโจทย์ชีวิตของคนเมืองได้อย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตกับ Passion ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

และหากพิจารณาให้ลึกลงไปถึงบทบาทของแบรนด์อนันดาฯแล้ว ก็ยังคงไว้ซึ่ง DNA ของแบรนด์ไอดีโอ เอาไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยมาในครั้งนี้ Brand Idea เดิมของไอดีโออย่าง “คิดเพื่อขยายมิติชีวิต” ถูกนำขัดเกลาให้มีความ Larger Than Life มากขึ้น ใส่จิตวิญญาณของ Hero ลงไปเพิ่มเติมจาก Sage และ Changemaster เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้โลกได้รับรู้ว่าอนันดาฯ ไม่ได้ถนัดเพียงแค่การสร้างคอนโด แต่ยังนำเสนอ Urban Living Solution ในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการใช้ชีวิตเมืองอย่างมีคุณภาพทั้งสิ้น

ทั้งหมดนี้ คือ บทสรุปของ Passion ที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของคนเมือง ในแบบฉบับของ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์

#LIVEWITHPASSION

ANANDA | URBAN LIVING SOLUTION

www.ananda.co.th/urbanlivingsolution