ใกล้ชิดธรรมชาติที่โอบล้อม พร้อมรับวิว 180 องศา บนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า ที่ Supalai Riva Grande

ทำเลที่ดินในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่นิยมนอกจากใกล้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแล้ว พื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็น่าจะเป็นอีกทำเลหนึ่ง ที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างจับจองพื้นที่เพื่อพัฒนา รวมทั้งเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อหลากหลายกลุ่ม บริเวณพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยามีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่เจ้านัก ที่จะเชี่ยวชาญคอนโด High Rise ริมแม่น้ำฯ และหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์คอนโดฯริมแม่น้ำ ที่มีการพัฒนาโปรเจคริมแม่น้ำมาแล้วอย่าง SUPALAI CASA RIVA ที่พักอาศัยบนที่ดิน 14 ไร่กว่า ประกอบด้วยอาคาร 4 อาคาร ตั้งอยู่บริเวณย่านสะพานพระราม 3 , SUPALAI RIVER RESORT คอนโดฯสไตล์ Modern Oriental ที่ออกแบบเป็น Y shape ให้ทุกยูนิตสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญนคร ใกล้กันเป็น SUPALAI RIVER PLACE ใกล้สะพานสาทร เห็นทั้งวิวแม่น้ำและวิวเมือง , SUPALAI PRIMA RIVA คอนโดฯวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและคุ้งบางกระเจ้า Oasis ของคนกรุงฯ ที่มียอดขาย Sold out และล่าสุดทางศุภาลัยก็ได้เปิดตัวคอนโดฯใหม่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า Oasis ของคนกรุงฯอีกแห่งบนถนนพระรามที่ 3 คือ SUPALAI RIVA GRANDE (ศุภาลัย ริวา แกรนด์) ที่จะพาทุกท่านไปชมในวันนี้

เรามารู้จักทำเล ย่านพระราม 3 กันก่อน… พระราม 3 ในอดีตเป็นย่านโกดังสินค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไม่มีการพัฒนามากนัก จนในยุคหนึ่งที่กรุงเทพมหานครเคยมีแนวคิดพัฒนาให้ย่านพระราม 3 เป็นศูนย์กลางการเงินของกรุงเทพมหานคร มี Developer จำนวนไม่น้อยที่ซื้อที่และพร้อมพัฒนาเพื่อรองรับศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ แต่กลับโดนวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 จนทำให้หลายๆบริษัทที่เริ่มพัฒนาโครงการในย่านพระรามที่ 3 ประสบปัญหาไปตามๆกัน หลงเหลือเพียงซากอาคารก่อสร้างที่สร้างไม่เสร็จ แทรกตัวไปกับโกดังร้างริมแม่น้ำอยู่หลายปี เช่นเดียวกับที่ดินโครงการฯใหม่ของศุภาลัย ที่ Take over มา จากเดิมที่เคยเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการ SV Gardens ของกลุ่มสหวิริยา บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เจอพิษเศรษฐกิจปี 2540 จนได้หยุดก่อสร้างลง จึงโอนโครงการไปอยู่กับ บสท. และบริษัท APEX เคยจะพัฒนาต่อเป็นโครงการ Rivergate แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ จนปัจจุบันที่ดินตกมาถึงมือศุภาลัย

 
อ่านต่อได้ที่: เผยทำเลและข้อมูลโครงการใหม่ Supalai Riva Grande คอนโดริมน้ำโครงการใหญ่ส่งท้ายปี 2558

แต่พระรามที่ 3 ก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวในช่วงปี 2545 ทั้งการขยายตัวของย่าน CBD สาทร รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำของกรุงเทพฯชั้นใน ก็หนาแน่นและแทบจะไม่มีพื้นที่ว่างเหลือ ทำให้พื้นที่ริมน้ำย่านพระราม 3 ที่เป็นพื้นที่รอยต่อสาทร กลับมาเป็นที่จับตาของนักลงทุนอีกครั้ง เพราะนอกจากทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว เรื่องวิวยังเป็นอีกข้อได้เปรียบ เพราะย่านพระราม 3 ฝั่งตรงข้ามก็คือคุ้งบางกระเจ้า ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ปอดหรือพื้นที่สีเขียว ของคนกรุงฯ  นอกจากนี้ยังได้เปรียบเรื่องการเดินทางเข้าออกเมือง ที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนนราธิวาสที่เชื่อมกับสีลม สาทร หรือใช้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ในการเดินทางสู่พื้นที่ในของเมือง หรืออยากเดินทางออกนอกเมืองก็สามารถใช้สะพานภูมิพล(สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม) ที่อยู่ใกล้เพียง 850 เมตรได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีระบบขนส่งมวลชน BRT สถานีวัดด่านที่ห่างไปเพียง 900 เมตร และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาวัชรพล รามอินทรา – ท่าพระ ระยะทางกว่า 39.91 กิโลเมตร 39 สถานี ในอนาคต ที่พาดผ่านพื้นที่ย่านพระราม 3 และน่าจะสร้างความคึกคักได้ไม่น้อยในอนาคต

การที่ศุภาลัย เลือกทำเลย่านพระราม 3 มาพัฒนาโครงการฯขนาดใหญ่หลายแห่งส่วนหนึ่ง นอกจากการวิเคราะห์ศักยภาพ ทิศทางการเติบโตของย่านแล้ว ก็น่าจะมาจากความเชี่ยวชาญในทำเลพระราม 3 แห่งนี้ ที่อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด ตั้งอยู่ในย่านพระราม 3 และเคยทำโครงการฯขายจน Sold out มาแล้ว ทำให้น่าจะเข้าใจวิถี และความต้องการของพื้นที่มากกว่าใครๆ ที่สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการ SUPALAI RIVA GRANDE ที่เน้น Target หลักของขนาดพื้นที่ ที่เหมาะสมกับการอยู่เป็นครอบครัว จึงออกแบบโครงการเน้นห้องขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว บนทำเล 11 ไร่ ประกอบด้วยอาคาร 3 อาคาร อาคาร A B C เรียงตามลำดับจากแม่น้ำสู่ถนนพระราม 3 ออกแบบตกแต่งสไตล์รีสอร์ท ด้วยการนำแรงบันดาลใจของสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหินมน มาสร้างเป็นลายเส้นบนตัวอาคาร

โดยเน้นความโปร่ง โล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติที่โอบล้อม ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่อนุรักษ์บางกระเจ้า และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่จากถนนพระราม3 เชื่อมผ่านโถงใต้อาคาร สู่พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา(บริเวณตึก A) และยังมี Roof garden ที่ดาดฟ้าชั้นบนสุดของทุกอาคาร โดยตกแต่งสวนสไตล์รีสอร์ท เพื่อให้ทุกวันคือวันพักผ่อน ของทุกคนในครอบครัว

และมาพร้อมกับความสะดวกสบายกับที่จอดรถใต้ดิน กว่า 130% แบบ Fix คัน ห้องละ 1 คันสำหรับ 1 Bedroom และ 2 Bedroom และ Fix 1 คัน ไม่ Fix 1 คัน สำหรับห้อง 3 Bedroom และยังมีที่จอดรถชั่วคราวบนชั้น Ground โดยรอบตัวอาคารอีกด้วย

ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 3 อาคาร โดยมีความแตกต่างกันที่ Type ห้อง โดย อาคาร A  สูง 37 ชั้น รวมดาดฟ้า เน้นห้องใหญ่ มี floor ละ 4 ห้อง ซึ่งทุกห้องเป็นห้องหัวมุม มี 3 Type คือ

2 Bedroom ขนาด 145 Sq.m. (Riva Grande Suite) ที่ชั้น 4-35 มีชั้นละ 2 ห้อง เป็นห้องหน้ากว้าง ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้ทั้งหมด ได้ทั้งวิวแม่น้ำ พื้นที่ส่วนกลางริมน้ำและวิวคอร์ทสวนอาคารที่ชั้น 4

3 Bedroom 283 Sq.m. (Chao Phraya Suite) ที่ชั้น 4-35 มีชั้นละ 2 ห้อง เป็นห้องที่ได้วิวแม่น้ำ และพื้นที่ส่วนกลางริมน้ำ แบบ 180 องศา จุดเด่นอยู่ที่ระเบียงโอบล้อมห้องนอนใหญ่และห้องนั่งเล่นเป็นรูปตัวL และทุกพื้นที่ในห้องสามารถเห็นวิวโค้งแม่น้ำและพื้นที่บางกระเจ้าได้แบบเต็มอิ่ม

ส่วนชั้น 36 ของตึก A เป็น Penthouse มีอยู่เพียง 2 ห้อง มีระเบียงยาวเชื่อมกันเป็นตัว L รอบห้องทำให้ทุกพื้นที่ในห้องสามารถรับลม ชมวิวโค้งแม่น้ำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของห้อง

แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า เห็น Tower A มีแต่ห้องขนาดใหญ่ แต่ก็จะ Sold out แล้วเพราะเหลือเพียง 2 unit สุดท้าย (ข้อมูล ณ วันที่ 24 สิงหาคม2559) หากใครอยากใกล้ชิดธรรมชาติ ติดริมน้ำแบบวิว Panorama ก็ต้องรีบตัดสินใจเลยตอนนี้

แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ ลองมาดูตัวเลือกอื่นๆ ที่ก็มีข้อดีไม่น้อย กับ Unit อื่นๆที่ size เล็กลงมาหน่อย แต่ก็ยังคงคอนเซปห้องสำหรับครอบครัวอยู่ อย่างที่อาคาร B และ C แปลนอาคารทั้ง 2 อาคาร เหมือนกัน ด้วยความสูง 36 ชั้นรวมดาดฟ้า มีชั้นละ 9 ห้อง

ประกอบด้วยห้อง 1Bedroom ขนาด 53.5 Sq.m. (Exclusive suite) มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 2 ห้อง วิวของห้อง Type นี้ ตึก B จะโดนตึก C Blockวิว แต่ยังได้วิวสวนคอร์ทบนอาคาร ส่วนตึก C จะเป็นวิวถนนพระราม 3 และด้านหน้าโครงการ Type นี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่เน้นห้องใหญ่ แต่อยากอยู่ในย่านพระราม 3 หรือคนเริ่มสร้างครอบครัว เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือจริงๆซื้อไว้สำหรับเผื่อลูกหลานขยับขยาย แต่ยังอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกันได้

1 Bedroom 62 Sq.m. (Deluxe suite) มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง เป็นห้องวางตัวแนวลึก พื้นที่ห้อง living ติดระเบียงใหญ่ ได้วิวแม่น้ำด้านสะพานภูมิพล น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก เน้นใช้พื้นที่ส่วนกลาง

ขยับมาดูห้อง 2 Bedroom ที่มีให้เลือกกันถึง 5 ขนาด คือ

เริ่มกันที่ขนาดแรก 2Bedroom 75.5 Sq.m.(Premier suite) มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง เป็นห้อง2ห้องนอนหัวมุม 1 ห้องน้ำ ห้องนอนทุกห้องมีหน้าต่างชมวิว วิวหลักคือวิวแม่น้ำด้านสะพานภูมิพล

ห้อง 2 Bedroom 89 Sq.m. (Family Suite) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง ห้องหัวมุม ด้านถนนพระราม 3 ฝั่งตัวเมือง ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ชม

2 Bedroom อีก Type เป็นห้องขนาด 99.5 Sq.m. (Imperial Suite) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง ห้องนอนทุกห้องและห้องนั่งเล่นมีระเบียงชมวิว แม่น้ำด้านสะพานภูมิพล

2 Bedroom ขนาด 127.5 Sq.m. (River View suite) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน หรือสามารถปรับเป็นห้องนอนเล็ก ห้องนั่งเล่นได้ มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง เป็นห้องที่มีระเบียงยาวจากห้องนอนเล็กผ่านห้องนั่งเล่นไปสู่ห้องนอนใหญ่ ได้วิวพระราม 3 และวิวแม่น้ำด้านตัวเมือง

ห้อง 2 Bedroom Type สุดท้าย ขนาด 130 Sq.m. (Presidential suite) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน หรือสามารถปรับเป็นห้องนอนเล็ก ห้องนั่งเล่นได้ มีที่อาคาร B และ C ที่ชั้น 4-35 ชั้นละ 1 ห้อง เป็นห้องหัวมุมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านสะพานภูมิพล

Type สุดท้ายเป็นห้อง 3 Bedroom ที่ตกแต่งเป็นห้องตัวอย่าง ขนาด 148.5 Sq.m. (Riva Vista suite) 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ได้วิวแม่น้ำด้านพระราม 3 และตัวเมือง

ในส่วนของห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ชม อย่างที่เกริ่นไปมีทั้งหมด 2 Type คือ  2 Bedroom 89 Sq.m. และ 3 Bedroom 148.5 Sq.m. โดยทางโครงการเน้นขายแบบห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์ฯ Built-in (ยกเว้นส่วนครัวและห้องน้ำ)

เรามาเริ่มกันที่ห้อง 2Bedroom ขนาด 89 Sq.m. กันก่อน

ห้องขนาด 89 Sq.m. เป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แบ่งเป็นพื้นที่ Living area, ครัวปิด , ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ มีแอร์แบบ Ceiling ให้ทุกห้อง

พื้นห้องส่วน Living area ปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า ที่โครงการให้เป็นประตู Digital door lock เข้ามาจากประตู ห้องนี้จะมีผนังกว้างรับประตูทางเข้า ที่สามารถ Built-in หรือตั้งเฟอร์นิเจอร์รับทางเข้าไว้ใช้งานได้

เข้ามาด้านขวาจะเป็นส่วนของ Living area ที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้องที่ค่อนข้างใหญ่ ที่ออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคอนโดฯริมแม่น้ำของศุภาลัย คือเป็นระเบียงโค้งที่ได้แรงบันดาลใจจากคลื่นน้ำ

บริเวณ Living area กว้างพอที่จะวางโซฟารับแขกพร้อมโต๊ะเตี้ย หรือเป็นพื้นที่นั่งดูทีวี พบปะ สำหรับครอบครัวได้ถึง 3 ที่นั่ง และยังมีพื้นที่เหลือพอในการวางเก้าอี้เสริม หรือโซฟาไซท์ใหญ่ สำหรับคนที่เน้นการใช้งานพื้นที่Living area

ทางโครงการเดินงานระบบสำหรับติดตั้งทีวี ไว้ที่ผนังด้านขวา ที่สามารถจัดเป็นมุม Home theater ไว้พักผ่อน ฟังเพลง ดูหนัง พร้อมชมวิวนอกระเบียงได้ทั้งครอบครัว

ใกล้กันสามารถจัดวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งบริเวณติดทางเดิน ใกล้ทางเข้าออกครัวได้

ครัวสำหรับห้อง 2 Bedrooms โครงการให้เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างครัวและห้องLiving

ภายในครัวแบ่งเป็น2ด้าน ซ้ายขวา ด้านซ้ายเป็นเคาท์เตอร์ครัว Built-inที่โครงการเตรียมไว้ให้ ทั้งด้านบนและด้านล่าง เป็นเฟอร์นิเจอร์ของ Modernform บานเปิดปิดแบบ Soft close เป็นเคาท์เตอร์และชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัว Top เคาท์เตอร์ ฝังอ่างล้างจานไว้ให้ แต่โครงการไม่ได้ให้เตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน และเตาไมโครเวฟ โครงการฯเดินงานระบบไว้ให้ ทางผู้ซื้อต้องเจาะและติดตั้งเอง

ด้านขวาของครัวเป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in เฉพาะด้านบน ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น และเครื่องซักผ้าฝาหน้าไว้ให้

ถัดจากทางเข้าครัวเข้าไปด้านใน เป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวามือ ทางเข้าห้องนอนเล็กที่ด้านซ้ายมือ และตรงกลางเป็นห้องน้ำ สำหรับห้องนอนเล็กและห้อง Living

ห้องน้ำยกพื้นขอบประตูห้องน้ำ ด้านในแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสันขอบกั้นน้ำที่พื้น และบานกระจกกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องหินอ่อน

บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จากเคาท์เตอร์ อ่างล้างมือ ถึงโถสุขภัณฑ์ ด้านล่างอ่างล้างมือเป็นตู้เก็บของและเก็บงานระบบ

บริเวณส่วนเปียก โครงการให้ Rain shower และ Hand shower พร้อมระบบน้ำร้อนในตัว

ด้านล่าง Shower เป็นเคาท์เตอร์นั่งโทนโทนสีดำ เข้าชุดกับที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ที่ผนังห้องน้ำมีเจาะช่องกระจกระบายอากาศไว้เหนือผนังด้านบน เพื่อระบายอากาศและป้องกันความอับชื้นภายในห้อง

ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน สำหรับครอบครัวเล็กได้

ภายในห้องปูด้วยลามิเนตไม้ โครงการวางงานระบบไฟฟ้า ทีวี ไว้ที่ผนังด้านขวามือ

และยังมีระเบียงอยู่ที่ด้านใน ปลายสุดของห้องอีกด้วย เป็นประตูบานเลื่อนแบบมีที่จับ และระบบล็อกมือ 2 ชั้น

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว

ที่ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอน ยกพื้นขอบประตูห้องน้ำ

ด้านในแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสันขอบกั้นน้ำที่พื้น และบานกระจกกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน

บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จากเคาท์เตอร์ อ่างล้างมือ ถึงโถสุขภัณฑ์

บริเวณส่วนเปียก โครงการให้ Rain shower และ Hand shower ด้านล่าง Shower เป็นเคาท์เตอร์นั่ง ตรงกันข้ามเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ที่ผนังห้องน้ำมีเจาะช่องกระจกระบายอากาศไว้เหนือผนังด้านบน เพื่อระบายอากาศและป้องกันความอับชื้นภายในห้อง

ภายในห้องนอนใหญ่ กว้างพอที่จะแบ่งพื้นที่เป็นฝั่งผนังด้านขวาเป็นมุมแต่งตัว ด้วยการ Built-in หรือจัดวางตู้เสื้อผ้าไว้ใกล้ทางเข้าออกห้องน้ำ

ด้านในโครงการตกแต่งด้วยการวางเตียง Queen Size ก็มีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียง และเก้าอีกนั่งปลายเตียง สำหรับใครที่ชอบเตียงใหญ่ ห้องนอนก็ยังกว้างพอที่วางเตียง King size  ได้ สำหรับนอนพักผ่อนได้แบบเต็มๆ พร้อมชมวิวที่หน้าต่างบานใหญ่ติดเตียง บานหน้าต่างสามารถเปิดเป็นบานกระทุ้งระบายอากาศ หรือรับลมในบางเวลาได้

อีกห้องที่ทางโครงการตกแต่งให้ชมเป็นห้องขนาด 148.5 Sq.m. เป็นห้อง 3 Bedrooms ด้านในแบ่งเป็นพื้นที่ห้อง Living area ห้องครัว ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องนอนใหญ่

พื้นที่ส่วนกลางปูด้วยกระเบื้องโทนสีขาวตั้งแต่ประตูทางเข้าที่โครงการให้แบบ Digital door lock ปูยาวเป็นทางเดินเชื่อมส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน ไปจนถึงปลายสุดที่เป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ด้านหน้าติดประตูทางเข้าเป็นส่วนของห้องน้ำสำหรับรับแขก และสำหรับบริเวณห้องLiving ที่ขอบประตูห้องน้ำยกพื้นแบ่งสัดส่วน ด้านในแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสันขอบกั้นน้ำที่พื้น และบานกระจกกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องหินอ่อน

บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จากเคาท์เตอร์ อ่างล้างมือ ถึงโถสุขภัณฑ์ ด้านล่างอ่างล้างมือเป็นตู้เก็บของและเก็บงานระบบ

บริเวณส่วนเปียก โครงการให้ Rain shower และ Hand shower พร้อมระบบน้ำร้อนในตัว

ด้านล่าง Shower เป็นเคาท์เตอร์นั่งโทนโทนสีดำ เข้าชุดกับที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ติดกันเป็นห้องนอนเล็ก ที่สามารถปรับเป็นห้องรับแขก หรือห้องทำงานได้ แต่สำหรับห้องนี้ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องสำหรับเด็กๆ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตไม้ ด้านในไม่กว้างมาก แต่สามารถจัดวางเตียงเล็กๆสำหรับเด็กๆได้ พร้อมมุมแต่งตัว หรือมุมจัดวางของเล่น ที่ปลายห้องเป็นบานหน้าต่างกระจก เกือบเต็มผนัง มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดรับลมและระบายอากาศได้

ด้านขวาของห้องเป็นส่วนของห้องครัว ซึ่งครัวสำหรับ Type 3 Bedrooms โครงการให้เป็นห้องเปล่ามา

ไม่มีเคาท์เตอร์ Built-in แต่วางงานระบบที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้ เพื่อให้ลูกค้าได้ตกแต่งเองตามใจชอบ ซึ่งสามารถวางเคาท์เตอร์ยาวเป็นตัว L แบบห้องตัวอย่าง หรือวางยาวติดผนังด้านเดียวก็ได้ โดยงานระบบที่วางไว้ให้ ระบบดูดควัน หรือเตาไฟฟ้า อยู่ที่มุมห้องด้านซ้าย ถัดมาเป็นระบบน้ำ ตามตำแหน่งอ่างล้างจาน

ด้านในแบ่งเป็นห้องเล็กๆด้านใน สำหรับห้องรอซักล้าง หรือประยุกต์เป็นห้องเก็บของเพื่อความเป็นระเบียบก็ได้

ตรงกลางห้องเป็นพื้นที่ Living area ที่กว้างมาก กว้างพอที่จะวางโซฟาเข้ามุมติดประตูออกระเบียง และนั่งดูทีวี

และกว้างพอที่จะวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6 ที่นั่งที่อีกมุมหนึ่งของห้อง Living

เพิ่มความกว้างของห้องด้วยประตูบานเลื่อนเชื่อมไปถึงระเบียงห้องขนาดใหญ่ที่โค้งเข้าออกเป็นเหมือนคลื่น เชื่อมจากห้อง living ไปถึงห้องนอนใหญ่

ผนังห้อง Living บริเวณติดระเบียง เป็นกระจกเข้ามุมสามารถเห็นวิวเชื่อมต่อระเบียงได้ถึงอีกมุมห้อง แต่ต้องอาศัยการติดตั้งผ้าม่านที่ไม่บังวิวกระจกนี้

ที่ปลายสุดของห้องเป็นทางเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องนอนขนาดกลางที่ด้านขวามือของทางเดิน และห้องนอนใหญ่ที่ซ้ายมือของทางเดิน มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงในตัวทั้งสองห้อง

ห้องนอนด้านขวา เป็นห้องนอนขนาดกลาง แบ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ด้านซ้ายของห้อง สามารถวางเตียง Queen size ได้ มีประตูบานเลื่อนออกสู่ระเบียง ที่ระเบียงมีส่วนกั้นวาง Air Compressor แบบแขวน

ด้านขวาของห้องนอนเป็นส่วนของห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัว

ทางเข้าห้องน้ำ ยกพื้นขอบประตูห้องน้ำ ด้านในแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสันขอบกั้นน้ำที่พื้น และบานกระจกกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน

บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จากเคาท์เตอร์ อ่างล้างมือ ถึงโถสุขภัณฑ์ ด้านล่างอ่างล้างมือเป็นตู้เก็บของและเก็บงานระบบ

บริเวณส่วนเปียก โครงการให้ Rain shower และ Hand shower พร้อมระบบน้ำร้อนในตัว

ด้านล่าง Shower เป็นเคาท์เตอร์นั่งโทนโทนสีดำ เข้าชุดกับที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ แบ่งเป็นห้องน้ำและมุมแต่งตัวที่ด้านขวาของห้อง ห้องแต่งตัวสามารถ Built-inตู้เสื้อผ้าทั้งสองฝั่ง หรือออกแบบให้เป็นห้องแต่งตัวแบบเปิด หรือปิดตามความต้องการได้

ในส่วนของห้องน้ำ พื้นขอบประตูห้องน้ำยกสูงกันน้ำออก ด้านในแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสันขอบกั้นน้ำที่พื้น และบานกระจกกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระเบื้องหินอ่อน

บริเวณส่วนเปียก โครงการให้ Rain shower และ Hand shower พร้อมระบบน้ำร้อนในตัว

ด้านล่าง Shower เป็นเคาท์เตอร์นั่งโทนโทนสีดำ เข้าชุดกับที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังฝั่งตรงข้าม

บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จากเคาท์เตอร์ อ่างล้างมือ ถึงโถสุขภัณฑ์ และอ่างอาบน้ำ

ที่มุมผนังอ่างอาบน้ำมีเจาะช่องกระจกระบายอากาศเข้ามุมไว้ เพื่อรับแสง ระบายอากาศและป้องกันความอับชื้น

ในส่วนของพื้นที่ห้องนอน สามารถวางเตียงใหญ่ King Size ได้แบบที่ยังเหลือพอให้วางเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอื่นๆ

และเนื่องจากห้อง 3 Bedrooms เป็นห้องหัวมุม ทำให้ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่ได้วิวมุมตัว L คือ มีทั้งประตูบานเลื่อนออกระเบียงที่ด้านซ้ายของเตียง และยังมีวิวปลายเตียง ที่เป็นกระจกบานเต็มผนัง ให้ได้นอนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 180 องศาในทุกๆวัน

นอกจากวิวโค้งแม่น้ำที่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้จากภายในห้องแล้ว ทางโครงการฯ ยังจัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางติดแม่น้ำแบบ Full facility ที่ชั้น 1 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่แท้จริง ทั้ง สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ The Riva Pool ที่มีมุมมองเชื่อมถึงแม่น้ำเจ้าพระยา

Fitness , Sauna & Stream , Aerobic , Board room , Game room , The Riva Library Broadway Theater ที่รายล้อมด้วยสวนธรรมชาติภายในโครงการฯ

แถมยังมีมุมสร้างจินตนาการให้กับสมาชิกตัวน้อยในครอบครัว อย่าง โซน Alice in Wonderland Kid’s Room

รวมทั้งยังมีพื้นที่สวนที่ชั้น 4 , rainbow sky lounge , Roof garden ที่ดาดฟ้าของทุกอาคาร ให้ได้เปลี่ยนมุมมองสัมผัสแบบหลากหลายบรรยากาศ

สำหรับ SUPALAI RIVA GRANDE น่าจะเหมาะกับกลุ่มครอบครัว เน้นการใช้รถยนต์เป็นหลัก ที่อยากมีคอนโดห้องใหญ่ ระเบียงกว้างมากกกกไว้ชมวิว และรับลมริมแม่น้ำเสมือนได้พักผ่อนในทุกๆวัน ที่นี่พื้นที่ส่วนกลางติดริมแม่น้ำที่ใหญ่มาก สมฐานะคอนโดที่ได้เปรียบในเรื่องของมีพื้นที่ติดริมแม่น้ำอย่างแท้จริง ที่สำคัญคือมีราคาต่อตารางเมตรที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับ Value ของโครงการที่พื้นที่ทำเลติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเอาเฉพาะในเขตกทม.นะคุณจะไปหาคอนโดใหม่ริมน้ำที่ไหนได้ที่มีราคาเริ่มต้นแค่ตรม.ละเจ็ดหมื่นปลายๆ ยิ่งเส้นพระรามสามตอนนี้คอนโดริมน้ำอื่นๆมีราคาถูกสุดแตะที่หลักตรม.ละเป็นแสน จนสูงสุดถึงเกือบสองแสนแล้ว ขนาดไปทางฝั่งเมืองนนท์ยังมีราคาเหยียบแสนบาทต่อตรม.เลยคุณ และด้วยจำนวนยูนิตเพียงแค่ 706 ยูนิต จาก 3 อาคาร ยิ่งทำให้สัดส่วนความหนาแน่น มีน้อยมากสุดๆเมื่อเทียบกับคอนโดริมน้ำแท่งอื่นๆในย่านนี้ ด้วยราคานี้และเป็นห้องขนาดใหญ่แน่นอนว่าย่อมดึงดูดกลุ่มผู้สนใจที่จะซื้อโครงการแนวราบแถวนี้แน่นอน เพราะว่า SUPALAI RIVA GRANDE ได้เปรียบอย่างชัดเจนในเรื่องของการได้รับวิวแม่น้ำในระยะประชิด โดยที่มีมุมมองที่สูงกว่า แตกต่างจากการอยู่ในทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวที่อื่น… จึงสามารถเรียกได้อีกอย่างนึงว่าอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการมีบ้านริมแม่น้ำเลย

ยิ่งในอนาคตทำเลพระราม 3 จะถูกปลุกให้หลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยการริเริ่มโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งแล่นผ่านทั้งย่าน residential area และ CBD ที่สำคัญอย่าง ฝั่งธน-พระรามสาม-สาทร-ทองหล่อ-พระราม 9 – ลาดพร้าว-จนไปสุดที่ย่านวัชรพล ยิ่งเป็นหลักประกันที่มั่นคงว่า ทำเลพระรามสาม จะพลิกฟื้นกลายเป็นย่านที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ทั้งติดรถไฟฟ้า และริมแม่น้ำ ไม่แพ้ย่าน เจริญกรุง และเจริญนคร อย่างแน่นอน

และเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ  เพราะราคาต่อตารางเมตร เฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 บาท ถ้าดูในแบรนด์ศุภาลัยเดียวกันที่ Sold out ไปอย่าง SUPALAI PRIMA RIVA ราคา resale ตอนนี้อยู่ที่ 90,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนคอนโดใกล้ๆกันอย่าง The Pano ที่ได้วิวติดสะพานภูมิพลมากกว่าราคาก็กระโดดไปที่ 135,000 บาท/ตารางเมตร หรือ U Delight Residence Riverfront ราคา Resale ก็อยู่ที่ 110,000 บาท/ตารางเมตร สำหรับห้องหน้าแม่น้ำ และหากขยับไปหน่อยใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครอย่าง Starview ที่มองเห็นได้จากสะพานพระราม 9 ราคา resale และห้องที่เหลือของโครงการฝั่ง City View ก็อยู่ที่ 87,000 บาท/ตารางเมตร และ Canapaya Residences ก็ขายตอนนี้อยู่ที่ 197,000 บาท/ตารางเมตร นี่ยังไม่รวม Supply คอนโดไฮเอนท์ใหม่ๆที่คาดว่าน่าจะเปิดตัวในอนาคต ด้วยราคาที่สูงมากอย่าง Starview 2 และ โครงการจาก HKRI ทีมผู้พัฒนาโครงการ Super Luxury อย่าง The Sukhothai Residences

จึงถือว่า SUPALAI RIVA GRANDE ราคาถูกไปเลย เมื่อเทียบกับคอนโดฯในย่านพระราม 3 ติดริมแม่น้ำแบบนี้  และอย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าเมื่อเป็นคอนโดริมแม่น้ำ ผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุดก็ต้องยกให้ศุภาลัย หรืออาจดูจากยอดขายของอาคาร A ที่กำลังจะ Sold out ด้วย Type ห้องขนาดใหญ่ แถมยังไม่เริ่มก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสร้างกลางปี 60 (เพราะทุบปล่องลิฟท์ยากเหลือเกิน จะระเบิดทิ้งก็ไม่ได้เพราะติดย่านชุมชนมากเกินไป) และแล้วเสร็จปลายปี 63 แต่ก็ถูกจับจองจนเกือบเต็ม ก็น่าจะการันตีได้ว่าหลายคนน่าจะเห็นศักยภาพของทำเลนี้ และเชื่อมือ ศุภาลัย ผู้เชี่ยวชาญคอนโดริมแม่น้ำที่จะสรรค์สร้าง SUPALAI RIVA GRANDE ให้เป็นพื้นที่พักอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติบนทำเลเหนือระดับ ที่อาจหาราคาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วในอนาคต

ตอนนี้ห้องตัวอย่างเพิ่งสร้างเสร็จ และเปิดให้เข้าชมได้หมาดๆเลยครับ วันที่ผมไปมาก็มีลูกค้าเข้ามาทำสัญญาจอง กับดูห้องพอสมควร สำหรับใครที่สนใจก็ขอเชิญในวันงานพรีเซลได้ 27-28 สค. นี้ที่โครงการจริงเลยครับ