พูดถึงประเทศเวียดนาม ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่จุดหมายปลายทาง ( destination) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมากนัก แต่รู้หรือไม่ว่าเวียดนามเป็นประเทศเนื้อหอมสุดๆ สำหรับบรรดานักลงทุนหลายประเทศ นักธุรกิจชาวเกาหลีพาเหรดกันเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากมายเช่น ห้างสรรพสินค้าอย่าง Lotte โรงงาน ค้าปลีกทุกแขนง รวมถึงคนไทยอย่างเครือ Central ก็เข้าไปลงทุนค้าปลีกด้วยเช่นกัน

สาเหตุที่เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุนเพราะมีพื้นฐานที่ดีเรื่องจำนวนประชากร มีคนมากถึง 90 ล้านคน เป็นคนวัยทำงานซะส่วนมาก ซึ่งถ้าทำให้คนในประเทศเวียดนามทำงานแล้วมีเงินเพิ่มขึ้นก็จะมีกำลังจับจ่ายสินค้าและมีความต้องการสินค้าบริการมากมายและนั่นคือตัวเลขที่นักลงทุนสนใจครับ นอกจากนี้ความเชื่อและความคิดของคนเวียดนามก็ปรับตัวเข้าสู่โลกทุนนิยมได้อย่างรวดเร็ว ชาวเวียดนามหลายคนไม่นับถือศาสนา บางคนนับถือคริสต์และพุทธ ความเชื่อต่างๆ ล้วนมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภค เวียดนามเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวล้ำ  เวียดนามมีบริษัทสื่อและการสื่อสารที่พัฒนาโปรแกรมแชทสื่อสารสำหรับคนเวียดนามโดยเฉพาะชื่อ application ว่า Zalo ทำเอง ใช้เอง นอกจากนี้เวียดนามยังมีสถานการณ์การเมืองที่แน่นอนคาดการณ์ได้ ที่สำคัญคือเวียดนามใส่ใจกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยจะเห็นได้จากการตื่นตัวเรื่องการศึกษาอย่างมาก พ่อแม่สนับสนุนให้ลูกเรียนทุกอย่างทั้งวิชาการและทักษะชีวิตอื่นๆ  คนเวียดนามรุ่นใหม่พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ดีและประกอบอาชีพได้ จากแหล่งข่าวในวงการโรงแรมกล่าวว่านักศึกษาการท่องเที่ยวและโรงแรมชาวเวียดนามมีทักษะภาษาและทักษะงานที่ดีเหนือกว่านักศึกษาชาวไทยอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนได้ว่าในอนาคตการแหล่งท่องเที่ยวและประสบการณ์ท่องเที่ยวพักผ่อนที่เวียดนามจะพัฒนาและอาจจะกลายเป็น New destination of Southeast Asia ก็ได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อจะชวนให้นักลงทุนทุกท่านลองแวะไปเยี่ยมชมประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะเมืองหลวงทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามนั่นคือ โฮจิมินห์ซิตี้ ( Ho Chi Minh City นิยมเขียนย่อว่า HCMC)

HCMC เป็นเมืองที่น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ มาสำรวจกันครับ

ภาพรวมของ HCMC มีย่านอะไรบ้าง

HCMC เป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองค่อนข้างดี เพราะอดีตฝรั่งเศสเคยออกแบบผังเมืองไว้ให้ มีการออกแบบถนน Boulevard มีต้นไม้แทรกบนถนนเหมือนเมืองในยุโรป มีต้นไม้ สวนสาธารณะกลางเมืองดูร่มรื่น

HCMC แบ่งเขตต่างๆ และตั้งชื่อเป็นตัวเลขเพื่อสะดวกในการเรียกและการจัดการ เรามาดูกันว่าแต่ละ District มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

ภาพแผนที่จาก Savills Vietnam

District 1 (D1): The Sleepless District

เขต 1 เป็นย่านเมืองที่ไม่เคยหลับใหล กลางคืนมีสถานบันเทิง ร้านอาหาร ผับบาร์ กลางวันมีศูนย์การค้า ตลาดกลางเมือง ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน โรงแรมหรู เป็นย่านเศรษฐกิจ ถ้าเทียบกับกรุงเทพจะคล้ายกับราชประสงค์ ชิดลม นานา อโศกที่มีกลิ่นอายของ Old Town อย่างสำเพ็ง พาหุรัดผสมผสานกันไปครับ

District 2 (D2): The Expat District

เขต 2 เป็นย่าน New Town เป็นเมืองสร้างใหม่ อดีตเป็นที่ดินเปล่า แต่ทางรัฐจัดสร้างถนน Highway และอนาคตจะมีรถไฟฟ้าผ่านด้วย ย่านนี้ชาวต่างชาติหรือ expat ที่มาทำงานในเวียดนามนิยมอยู่เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่่ถูกใจชาวต่างชาติ ย่านนี้จะมีอารมณ์คล้ายๆ กับพร้อมพงศ์ รัชดาภิเษก ผสมกับรัตนาธิเบศร์เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นที่ดินเปล่า

District 3 (D3): The Budget Traveling District

เขต 3 เป็นย่านแหล่งท่องเที่ยวราคาไม่แพง คล้ายๆ ถนนข้าวสาร ถนนพระอาทิตย์ เป็นเมืองเก่า

District 4 (D4): The Cargo Area & Sea port (Mafia Area)

เขต 4 เป็นท่าเรือและโกดังเก็บสินค้า คล้ายๆ คลองเตย ย่านนี้มีเจ้าถิ่นปกครองอยู่ ยังไม่ขอกล่าวถึง

District 5 – 6 (D5, D6): The China Town

เขต 5 และ 6 คล้ายย่านเยาวราช เป็นย่านคนจีน

District 7 (D7): The High-end District

เขต 7 เป็นเมืองใหม่สำหรับผู้มีรายได้สูง คล้ายๆ กับ District 2 มีห้างสรรพสินค้า โครงการบ้านเดี่ยวหรูและคอนโดมิเนียม ถ้าเทียบกับไทยจะคล้ายๆ กับราชพฤกษ์ ประดิษฐ์มนูธรรม

Tan Binh District : The Airport District

เขตเตินบิง ย่านนี้คล้ายกับดอนเมือง เพราะมีสนามบินนานาชาติดั้งเดิมชื่อว่าเตินเซินเยิต (Tân Sơn Nhất) มีประชากรหนาแน่น ตึกแถวบ้านเรือนก่อสร้างชิดติดขอบสนามบิน เป็นภาพที่แปลกตาหวาดเสียวกลัวว่าเวลาเครื่องบินกำลังแลนดิงลงจะไปเกี่ยวหลังคาบ้านคนเข้าหรือเปล่า (ฮา)

Thu Duc District: The Education District

เขตถูดึ๊ก ย่านนี้คล้ายๆ รังสิต เป็นย่านที่ไกลจากเมืองกรุง ทางรัฐจึงปั้นให้เป็นดินแดนแห่งการศึกษา ถ้ามหาวิทยาลัยใดจะขยายสาขาจะไปรวมกันที่่ย่านนี้ครับ เยาวชนเพียบ!

การคมนาคมใน HCMC เป็นอย่างไร

เรามาดูโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของ  HCMC กันก่อน ในอดีตคนเวียดนามเดินทางบนถนนด้วยจักรยาน หลังจากนั้นพัฒนามาเป็นรถจักรยานยนต์ รถเมล์และรถยนต์ ปัจจุบันคนเวียดนามก็ยังใช้จักรยานยนต์เพื่อสัญจรเป็นหลัก เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาประมาณปี 2010 ยังไม่มีการจัดระเบียบสัญญาณไฟจราจร ใช้ระบบ “ต่างคนต่างไป ขับช้า หักหลบกันเอง” แต่วันนี้ระบบจราจรจัดระเบียบเรียบร้อยแล้ว มีสัญญาณไฟแดงไฟเขียวตามแยก เนื่องจากในเมือง HCMC มีจักรยานยนต์จำนวนมากจึงทำให้เกิดมลภาวะ แต่ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้า (Metro) ผ่านไปตามถนนสายหลัก อำนวยความสะดวกให้กับประชากรจำนวนมากในเมือง HCMC ด้วยราคาค่าโดยสารไม่แพง แค่ 2,500 VND ประมาณ 4 บาทเท่านั้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า (เมื่อเทียบกับค่ารถเมล์ 5,000 VND ก็ถือว่ารถไฟฟ้าถูกกว่า)

ภาพแผนการสร้างรถไฟฟ้าใน HCMC

ภาพจาก wikipedia

เส้นทางที่เริ่มก่อสร้างลำดับแรกคือ Line 1 สายสีแดง ตลาดเบ๋นถ่าง-สวนสนุกสวยเตียน (Bến Thành Market–Suối Tiên Park, District 9)

ปัจจุบันกำลังก่อสร้าง คาดว่าจะสร้างเสร็จปี ค.ศ. 2020

Line 1 เป็นเส้นทางที่ออกจากตลาดเบ๋นถ่างศูนย์กลางการค้าตั้งแต่อดีตเป็นย่าน Old Town ผ่านศูนย์กลางย่านธุรกิจ Modern Town ต่างๆ แล้วข้ามแม่น้ำ Sai Gon แล้วผ่านย่าน District 2 ซึ่งเป็นย่านคนต่างชาติแล้ววิ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านสวนสนุกสวยเตียนซึ่งเป็น landmark ของ District 9 และปลายทางของ Line 1 จะไปเชื่อมต่อกับ Bus Terminal สำหรับคนที่จะออกไปต่างจังหวัดขึ้นไปทางภาคกลางของเวียดนาม

ในอนาคตจะมีสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ขนาดใหญ่โตกว่าเดิม ตั้งที่แถวเขตลงถั่ง (Long Thành) จังหวัดด่งนาย (Đồng Nai) อยู่ทางตะวันออกของ HCMC คล้ายสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรา

ตอนนี้กำลังวางแผนก่อสร้างกัน ออกมาเป็น Master Plan ตามภาพนี้

ภาพ Master Plan ของ Long Thanh International Airport ของโครงการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ใกล้โฮจิมินห์ซิตี้

การเดินไปสนามบินแห่งใหม่จะต้องผ่าน District 2 ด้วย ดังนั้นทำให้ District 2 เป็นย่านใหม่ที่น่าสนใจลงทุนเพราะเป็นทางเชื่อมระหว่างศูนย์กลางเศรษฐกิจกับสนามบิน ดังนั้นอนาคตย่าน District 2 จะมี traffic คนจำนวนมากขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจโตขึ้นตามจำนวนคนที่เข้ามาอยู่และทำงาน

ภาพตึกรามบ้านช่องของโฮจิมินห์ซิตี้ ถ่ายภาพจาก Skydeck บนตึกใบบัวหรือ Bitexco Financial Tower

ภาพรวมของเมือง HCMC เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากจาก 5 ปีที่แล้วผมไปเที่ยว HCMC แล้วกลับไปอีกครั้งพบพัฒนาการของเมืองที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อนในวงการอสังหาฯ ที่เวียดนามแซวว่า “รีบมาลงทุนเวียดนามสิเพราะเราเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะ” เหมือนมีนัยแฝงว่าแล้วที่ไทยน่ะเป็นยังไงบ้างเอ่ย ผมก็ได้แต่ตื่นเต้นตะลึงกับความกระตือรือร้นและอนาคตอันสดใสของประเทศเวียดนาม

เดี๋ยวบทความต่อไปผมจะนำเสนอเกี่ยวกับตัวอย่างโครงการอสังหาฯ ในเวียดนามนะครับ รอติดตามชม วันนี้เอาภาพไปชมกันก่อนครับ

อู้วหู…มันคือโครงการอะไรนะ

แหล่งข้อมูล

Savills Vietnam

Vietnam Online