ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ผมเป็นนักลงทุน version รายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินม๊ากกก (ที่หาตัวจับยากมากด้วย เพราะส่วนมากนักลงทุนเค้าจะรวยกันหมด 555) เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆเดินดินกินข้าวแกงคนนึงที่กว่าจะมีเงินซื้อคอนโดได้สักห้องนั้นสุดแสนจะยากเย็นแสนเข็ญสุดสาหัสมากครับ อีกทั้งผมยังเน้นการลงทุนแบบไม่กล้าเสี่ยงแบบสุดๆ (เพราะถ้าไม่รอดที กรี๊ดแน่นอนครับท่าน)

ในการเลือกลงทุนนั้น ผมไม่อยากให้ท่านผู้อ่านที่แสนจะน่ารักมองแค่ว่า ทำเลที่เราจะซื้อนั้นมันใกล้รถไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้นครับ เพราะรถไฟฟ้าบางสายก็ไปผ่านสถานที่ ที่คนส่วนมากเค้าอาจจะไม่ได้อยากไปกัน(ซึ่งมันจะส่งผลให้ Target group ของเรามีปริมาณน้อยลง) แถมก็อย่างที่เราๆท่านๆรู้กันอยู่ว่า การ connect กันของแต่ละสายของรถไฟฟ้าใน กทม. นั้น สุดแสนจะสะดวกสบายและมีประสิทธิม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ฉะนั้นแล้ว เลือกแบบไม่ต้องเข้าๆออกๆหลายสาย หลายเส้นจะดีที่สุดครับ

โดยผมจะเริ่มจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่า

1.ประชาชนคนธรรมดา(เน้นคนธรรมดานะจ๊ะ)ส่วนมาก ชอบไปที่ไหนกันบ้าง?

คำถามนี้ สามารถตอบได้จากสถานที่ ที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นสุดๆ เช่น ย่าน shopping center อย่าง สยาม CentralWorld ชิดลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ หรือย่าน Office อย่าง สีลม เพลินจิต อโศก สาทร เป็นต้น

หลังจากนั้นผมก็ขอแนะนำให้ไป google หาแผนที่รถไฟฟ้าทั่วทั้ง กทม. ฉบับ update ล่าสุดมาเปิดดู แล้วปักหมุดลงไปครับ จากนั้นให้ลองดูว่า

2.ทำเลเหล่านั้นมีรถไฟฟ้าสายสีอะไรผ่านบ้าง?

อันนี้ให้มองเผื่ออนาคตไปเลยนะครับ (แล้วก็ไปเอาสวดภาวนาว่าแกอย่าเปลี่ยนเส้นทางอีกละ 555)

ตอนนี้เราก็จะได้ เส้นรถไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพน่าลงทุนออกมาแล้ว

อันนี้ส่วนตั๊วส่วนตัว ผมให้ความสำคัญตามนี้ครับ

1. สายสีเขียว = เป็นเส้นที่ทรงพลังมากที่สุดครับ ถ้าเกาะเส้นนี้ได้ ก็เหมือนได้อยู่ในเส้นเลือดใหญ่ของ กทม. ละครับ เพราะเป็นสายที่ผ่านสถานที่ ที่สุดแสนจะมีความสำคัญต่อชาว กทม. อย่างสุดๆ อีกทั้ง BTS ยังมีผลประกอบการที่ดี สามารถเพิ่มจำนวนโบกี้และความถี่เพื่อรองรับปริมาณประชากรได้อย่างน่าพอใจอยู่ (แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มแน่นมากกกกกกก ก็ตาม)

2. สายสีน้ำเงิน – อันนี้ส่วนตั๊วส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะรู้สึกว่าทำเลที่ผ่านยังไม่ค่อยโดนใจ แต่ก็ถือว่าดีกว่าสายอื่นๆมากครับ อีกทั้งผมไม่ค่อยแน่ใจเรื่องผลประกอบการณ์ ไม่รู้ว่าตอนนี้เริ่มมีกำไรบ้างหรือยัง จะได้มีเงินมาเพิ่มโบกี้ เพิ่มความถี่กันหน่อย คนแน่นแบบไม่ไหวแล้ววววววว

3. สายสีเทา (อันนี้ชอบส่วนตัว 555) – เท่าที่ทราบเหมือนว่าจะอนุมัติช่วง ทองหล่อ-วัชรพลไปแล้ว แต่เป็นช่วงที่ผมไม่ได้สนใจเท่าไร เพราะช่วงที่ผมสนใจคือ พระโขนง-ตลาดพลู ครับ เพราะเส้นนี้จะวิ่งผ่านสาทรช่วงต้นๆและช่องนนทรี ที่เป็นย่านที่จะได้เบียดหนุ่มออฟฟิตกล้ามปู เอ้ย ย่านตึกออฟฟิตกระจุกกันแน่นขนาดใหญ่ทีเดียว อีกทียังผ่าน Dean and Decula สาขาใหญ่ร้านโปรดผม (เอะ อันนี้ส่วนตัวไปปะ 555)

4. สายสีที่วิ่งไปสนามบิน – ในยุคที่ Low Cost Carrier หรือสายการบินต้นทุนต่ำมาแรงแซงทุกโค้งแบบนี้ แถม Full Service Carrier ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ถล่มราคาโปรโมชั่นกระหน่ำซัมเมอร์ sale กันขนาดนี้ เถียงไม่ได้เลยว่า การท่องเที่ยวนั้นเป็นเรื่องที่คน กทม love ม๊ากกกก จนขนาดที่ว่า ช่วงสงกรานทีโตเกียวนี้แทบจะเป็น กทม 2 ไปเลยทีเดียว (ช่วงนี้เปิด Facebook มา อยู่ญี่ปุ่นกันหมดเลย ทิ้งฉ้านนน T-T) ฉะนั้นแล้ว การเดินทางไปสนามบินได้สะดวกสบาย จึงถือว่าเป็น Option เสริมที่น่าสนใจมาก

ฉะนั้นแล้วสำหรับผมนั้น หากทำเลที่มีรถไฟฟ้า 3-4 นี้ตัดกัน ผมจะชอบมั๊กๆ แต่!!! มันก็ไม่ได้แปลว่าจะดีเสมอไปครับท่านผู้อ่านที่หน้าตาดีทั้งหลาย

สิ่งนึงที่ผมสังเกตุเห็นจากการขายทำกำไรคือ คนเรามักจะมี “ความโลภ” และ “ความกลัว” ทำเลไหน ที่มีคอนโดใหม่ๆที่ราคาแพงกว่าตัวเก่ามาขึ้น มันจะช่วยปั่นราคาตัวเก่าได้ดีมาก แต่หากท่านเลือกทำเลสุดแสนจะเงียบเหงา ไม่ค่อยมีเพื่อนบ้านหน้าใหม่ๆมาโผล่ ท่านอาจจะต้องรอนานสักนิด เพราะราคามันจะแอบนิ่งมาก

ผมแอบแนะนำให้ท่านเลือกทำเล ที่ท่านยังเห็นมีที่ดินผืนใหญ่พอจะขึ้นคอนโดได้ในอนาคต (แต่ก็ต้องเจริญบ้างแล้วนะครับจะได้ไม่ต้องรอนาน) และแอบติดตามคุณพี่คอนโดแมนสุดหล่อ(แอบเลีย แผลบๆ)ว่า Dev เจ้าไหน แอบไปสอยที่ดินย่านไหนกันไปแล้วบ้าง ในอนาคตท่านก็จะมีเพื่อนบ้านราคาร้อนแรงมาช่วยดันราคาให้ทำกำไรได้มากขึ้นไปอีกครับ

ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เกรงว่าบรรยายไปอีก 3 วันก็ไม่จบ ที่ต้องเอามาตัดสินใจประกอบการลงทุน

ผมจึงขอแนะนำให้ขยันติดตามพี่ๆกูรูทุกท่านไว้ครับแล้วจะดีเอง (อ้าว ตัดจบดื้อๆ 555)

สุดท้าย ท้ายสุดผมขอฝากสักกะนิดว่าผมคงไม่เลือกทำเลที่แบบ ต้องต่อรถไฟฟ้า 3 สี เพื่อไปสยามแน่ๆครับ ไม่ใช่ว่ามันจะไม่กำไรนะคับ แต่คนไม่เสี่ยงแบบผมมองว่ามันอาจจะช้าครับ และผลตอบแทนอาจจะไม่ wow ถ้าเราจะลงทุน ผมอยากให้เน้นไปที่คนหมู่มากอย่าเอาตัวเองเป็นหลัก ถ้าคนหมู่มากมองว่าดี โอกาสขายออกมันก็สูงครับ 🙂