สรุปประเด็นอสังหาฯ ที่น่าสนใจตลอดปี 2025

wipawan khampuwiang 23 December, 2025 at 11.09 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


มาพบกันอีกตามเคยกับคอนเทนต์สรุปประเด็นอสังหาฯ น่าสนใจตลอดปี ปีนี้เราก็มาเจอกันในเดือนธันวาคมของปี 2025 ที่ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025 กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ต้องอาศัยการปรับตัวอย่างฉับไวและกลยุทธ์ที่คมชัดในการสร้างความเติบโต แม้ว่าภาพรวมจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับกลางถึงล่าง โดยเฉพาะโครงการราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ยังคงต้องต่อสู้กับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่เข้มงวดและภาวะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน ตลาดกลับมีจุดสว่างและโอกาสใหม่ๆ ที่น่าจับตามองอย่าง มาติดตามไปพร้อมกันว่าในรอบปีที่ผ่านมามีประเด็นเด็ดๆ เกี่ยวกับด้านอสังหาฯอะไรบ้างกันเลย

 

1. แผ่นดินไหวช็อคประเทศไทย ฉุดความเชื่อมั่นในตลาดคอนโด

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาร์ จนส่งผลกระทบถึงประเทศไทยในพื้นที่หลายจังหวัด  โดยเฉพาะในกรุงเทพฯที่และอาคารสูงและคอนโดมิเนียมหลายแห่งเกิดความเสียหายหายทั้งในเชิงสถาปัตยกรรม และโครงสร้าง คือประเด็นสุดช็อคที่ส่งผลกระทบมหาศาลต่อธุรกิจอสังหาฯทั้งทางตรงและทางอ้อมในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นอะไรใหม่ๆ สำหรับคนไทยเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังถือเป็นปัจจัยลบใหม่ที่เข้ามาซ้ำเติมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารสูงในเมืองใหญ่ แม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยจะเกิดไม่บ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภคทันทีประเด็นแผ่นดินไหวในไทยส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ เป็นอย่างมาก รวมไปถึงผู้อยู่อาศัยอีกด้วย เนื่องจากกระทบต่อ “ความรู้สึกปลอดภัย” ซึ่งเป็นพื้นฐานของการซื้อที่อยู่อาศัย ที่สามารถแบ่งเป็นผลกระทบด้านต่างๆได้ดังต่อไปนี้

– ความเชื่อมั่นสั่นคลอน: ผู้บริโภคเกิดความตระหนกต่อความแข็งแรงของ อาคาร High-Rise ทำให้เกิดการ ชะลอการตัดสินใจซื้อหรือโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้ ยอดขายและยอดโอนคอนโดมิเนียมลดลงทันที

– บ้านแนวราบเป็นทางเลือก: วิกฤตนี้ผลักดันให้ความต้องการ บ้านแนวราบ เพิ่มขึ้นชั่วคราว เนื่องจากถูกมองว่ามีความเสี่ยงจากภัยพิบัติน้อยกว่า

– งบประมาณในการเปิดตัวโครงการ ทำการตลาดน้อยลง เพราะดีเวลลอปเปอร์ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซ่อมแซมโครงการ โดยเฉพาะกับกลุ่มโครงการที่ยังอยู่ระหว่างการขายและการโอน

– มาตรฐานการก่อสร้างคือส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์: ดีเวลลอปเปอร์ถูกเร่งให้สื่อสารเชิงรุก และนำเสนอข้อมูล มาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างที่รองรับแรงสั่นสะเทือน โดยความปลอดภัยของโครงสร้างกลายเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อของลูกค้ายุคใหม่

 

ซึ่งวิกฤตแผ่นดินไหวตอกย้ำความเปราะบางของตลาดคอนโดฯ และบีบให้ผู้ประกอบการต้องลงทุนด้านความน่าเชื่อถือทางวิศวกรรมอย่างหนัก เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา และวิกฤตการณ์ดังกล่าวยังเป็นตัวเร่งให้ผู้พัฒนาโครงการต้องเร่งสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น พร้อมยกระดับมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ตามมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้น เพื่อทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ และเหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นตัวชี้วัดได้ว่าดีเวลลปอเปอร์เจ้าไหน โครงการอะไร มีความใส่ใจต่อตัวและทรัพย์สินของลูกบ้านมาเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อเรียกคืนความมั่นใจและความปลอดภัยแก่ลูกบ้านในโครงการของตัวเองได้นั่นเอง

2. ห้างค้าปลีกยักษ์ แข่งกันปั้น Landmark ใหม่ทั่วเมือง

ปัจจุบัน โครงการเมกะโปรเจกต์ในกรุงเทพฯ ก็ผุดขึ้นรัวๆ ตามย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยแต่ละโปรเจกต์ก็ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ และคนทั้งประเทศ เพื่อรองรับการใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ และให้คนเข้ามาเดินจับจ่ายซื้อซื้อของได้ทุกวัน ทั้ง Dusit Central Park กับ สวนดุสิตอรุณ / Asiatique กับ Jurassic World และ Skyflyers รวมถึง Siam Paragon กับ Nextopia และ MeLand ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ของไทย กำลังระดมทุนและกลยุทธ์เพื่อยกระดับพื้นที่ค้าปลีกให้กลายเป็น แลนด์มาร์กใหม่ระดับโลก ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างคึกคัก โดยโครงการยักษ์ใหญ่อย่าง Dusit Central Park คือตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างโรงแรมหรู อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัยระดับพรีเมียม และพื้นที่ค้าปลีกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวบนทำเลทอง ซึ่งถูกมองว่าจะเข้ามาพลิกโฉมย่านสีลมให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

 

ในขณะที่โครงการสร้างสรรค์อื่นๆ ก็เกิดขึ้นพร้อมกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง เช่น การปรับปรุงพื้นที่ของ Asiatique The Riverfront ให้มีชีวิตชีวาขึ้นด้วยการนำเอาความบันเทิงระดับโลกอย่าง Jurassic World มาสร้างเป็นประสบการณ์เสมือนจริง และการเปิดตัว Skyflyers ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดชมวิวและประสบการณ์ทางอากาศที่น่าตื่นเต้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเดียวกัน Siam Paragon ก็ไม่หยุดนิ่งในการตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับอัลตราลักชัวรี ด้วยการประกาศแผนงานพัฒนาพื้นที่และประสบการณ์แห่งอนาคตผ่านแนวคิด Nextopia และ MeLand ที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่สำหรับเทคโนโลยี นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงกับโลกเสมือนจริง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์ที่เชื่อมโยงระหว่างโลกจริงและโลกดิจิทัล การแข่งขันครั้งใหญ่ในการปั้นแลนด์มาร์กเหล่านี้จึงเป็นการยืนยันว่า ตลาดค้าปลีกไทยกำลังก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบที่สุดแก่ผู้บริโภค

Nextopia

MELAND

Skyflyers

Jurassic World: The Experience

Dusit Central Park

สวนดุสิตอรุณ ณ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค

3. กำลังซื้ออ่อนแอและเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนพุ่งกู้ไม่ผ่าน

ในปีนี้เรียกได้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศไม่สู้ดีนัก สืบเนื่องมากจากการเกิดวิกฤติจากหลายอย่างรวมกัน ทำให้คนไม่กล้าใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อสินค้า รวมถึงตลาดอสังหาฯ มาปีนี้ที่มีความตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด หลายฝ่ายมองว่าเป็นช่วงที่แย่ที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคระดับกลางและล่างลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และในสภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมมีการขยายตัวที่ชะลอตัวและขาดแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง กำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศจึงอยู่ในภาวะอ่อนแออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครัวเรือนต้องแบกรับภาระหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นจนทำสถิติใหม่และยังคงเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่งภาระหนี้สินที่สูงนี้ได้กัดกินรายได้ส่วนใหญ่ ทำให้ความสามารถในการจับจ่ายสินค้าขนาดใหญ่ หรือแม้แต่การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลดลงเป็นอย่างมาก

 

ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อ โดยเมื่อผู้บริโภคที่มีหนี้สูงยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงินจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงอย่างเข้มงวดและรัดกุมตามหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ จนนำไปสู่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้กู้รายได้น้อยถึงปานกลางและกลุ่มที่ต้องใช้สินเชื่อเต็มวงเงิน ซึ่งปัญหาการกู้ไม่ผ่านนี้ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยและสร้างความกดดันให้ผู้ประกอบการต้องเร่งระบายสต็อก แต่ยังสะท้อนถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากของครัวเรือนไทยอีกด้วย

 

4. ดีเวลลอปเปอร์ทยอยรุกตลาดรับสร้างบ้าน

ปัจจุบันนี้บริษัทดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าก็หันมารับสร้างเองแล้ว ต่างจากเมื่อก่อนที่มีการพัฒนาโครงการแนวสูงและแนวราบตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย แต่ในปัจจุบันที่ยุคสมัยได้เปลี่ยนไป คนหันมาจับปลาหลายมือเพื่อให้สามารถมีรายได้เข้ามาหลายทาง ดีเวลลอปเปอร์ก็เช่นกัน หันมาจับตลาดรับสร้างบ้าน ที่มีการออกแบบ ดูแลการก่อสร้างไปจนเสร็จสมบูรณ์ ไม่ได้เน้นขายเฉพาะโครงการของตัวเองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบโครงการใหญ่เผชิญกับความท้าทายจากกำลังซื้อที่อ่อนแอและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ หลายรายจึงได้เริ่มปรับกลยุทธ์เชิงรุกด้วยการขยายขอบเขตธุรกิจเข้าสู่ตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นการให้บริการสร้างบ้านบนที่ดินของลูกค้าโดยเฉพาะ (Custom-Built Homes) เพื่อกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและมีที่ดินพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการกู้ไม่ผ่านมากนัก การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของดีเวลลอปเปอร์ ทั้งในด้านความน่าเชื่อถือของแบรนด์ มาตรฐานการควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง ประสบการณ์ในการบริหารจัดการซัพพลายเชน รวมถึงการออกแบบที่มีความทันสมัยและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ทำให้พวกเขาสามารถเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการแข่งขันกับบริษัทรับสร้างบ้านแบบดั้งเดิม โดยการรุกตลาดรับสร้างบ้านนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่มั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อเทรนด์ของผู้บริโภคที่ต้องการความยืดหยุ่นและการสร้างบ้านที่สะท้อนรสนิยมเฉพาะตัวบนที่ดินเดิมของครอบครัว โดยการรุกตลาดรับสร้างบ้านของดีเวลลอปเปอร์เป็นการปรับตัวอย่างชาญฉลาดเพื่อกระจายรายได้ ใช้ประโยชน์จากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการความเป็นส่วนตัวและปรับแต่งเฉพาะ ในขณะที่ตลาดโครงการจัดสรรแบบเดิมเริ่มอิ่มตัวมากขึ้นนั่นเอง

Sansiri

Pruksa

Property Perfect

Britania

5. ขาดแคลนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯในแบบ Quick Big Win มีแค่ยาหม่อง เช่น การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ในปี 2568 ที่แม้จะปลดล็อคทุกระดับราคา แต่ยังขาดความร่วมมือจากธนาคาร เพราะหลายๆ แห่งก็ยังตั้งการ์ดสูงอยู่ ปล่อยไม่เต็มอยู่ดี

จากการประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยอมผ่อนปรนมาตรการ LTV ให้สามารถกู้ซื้อบ้านได้เต็ม 100% ในทุกระดับราคาและทุกสัญญา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2569 ถือเป็นยาแรงที่สุดของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อพยุงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังซบเซาอย่างหนักและเสี่ยงต่อภาวะวิกฤตจากปัญหาสต็อกค้างคาและกำลังซื้อที่อ่อนแรง เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสะสม โดยมาตรการนี้จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดของผู้ซื้อที่ต้องการบ้านหลังที่สองและกลุ่มนักลงทุนให้กลับเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้นเนื่องจากไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนใหญ่ ซึ่งเมื่อนำมาผนวกกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดโอนและยอดสินเชื่อในปี 2568 ให้กลับมาขยายตัวได้มากกว่า 10% จริงหรอ! อย่างไรก็ตามกลับพบว่าธนาคารพาณิชย์หลายๆแห่งก็ยังคงต้องการ์ดสูงอยู่ด้วยการ ไม่ปลดล็อค LTV ให้กับผู้กู้บ้านหลายราย จนทำให้ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ถึงกับส่ายหัวว่า ลูกค้ามีปัญญาผ่อนจ่ายรายเดือน แค่ไม่อยากควักเงินก้อนมาจ่ายค่าดาวน์ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังแย่ทำไมถึงใจแข็งไม่ยอมปล่อยให้ ซึ่งก็ส่งผลให้ธุรกิจการปล่อยกู้โดยกลุ่ม Non-Bank ได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนตรงกับดีเวลลอปเปอร์ Rent to Own หรือการกู้ในแบบ peer to peer leading  ซึ่งบางทีหากการปล่อยกู้รูปแบบนี้เป็นที่นิยมมากขึ้น ก็อาจกดดันให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มปลดล็อคลงบ้างก็ได้ เพราะใครๆก้รู้ดีกว่าธุรกิจอสังหาฯจะโตหรือตกยังไงก็ขึ้นอยู่กับแหล่งเงินหกู้เป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่อสังหาฯไทย (ยกเว้นภูเก็ต) เริ่มกระแสตกในหมู่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนแล้ว และราคาที่ดินก็ไม่ได้ตกตามลงมาอย่างมีนัยสำคัญ

6. Branded Residence ยังคงแข็งแกร่ง สำหรับกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่/ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 

Branded Residence โครงการที่พักอาศัยระดับพรีเมียมที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับ แบรนด์ระดับโลก ส่วนใหญ่เป็นเครือโรงแรมหรู เช่น Four Seasons, Mandarin Oriental, InterContinental หรือแม้แต่แบรนด์แฟชั่นระดับโลก เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่ามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว โดยความแข็งแกร่งของตลาดนี้มาจากปัจจัยหลัก 3 ประการคือ บริการเหนือระดับ คุณภาพและมาตรฐาน และ มูลค่าเพิ่มในระยะยาว

 

1. การบริการและไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ผู้ซื้อกลุ่มลักซ์ชัวรี่ไม่ได้ต้องการแค่ “ที่อยู่อาศัย” แต่ต้องการ “คุณภาพชีวิตและประสบการณ์” ที่สะท้อนตัวตนและความสำเร็จ โดย Branded Residence ตอบโจทย์นี้ด้วยการมอบบริการแบบโรงแรมหรูเต็มรูปแบบในชีวิตประจำวัน เช่น บริการเจ้าหน้าที่ดูแลส่วนตัว, บริการทำความสะอาด, รูมเซอร์วิส หรือแม้แต่โปรแกรมเวลเนส ที่ได้รับการบริหารจัดการตามมาตรฐานของแบรนด์ระดับโลก และโครงการมักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและแตกต่าง เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว ฟิตเนส และพื้นที่สังคมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์

 

2. คุณภาพและมาตรฐานระดับสากล: แบรนด์ที่เข้ามาควบคุมการพัฒนาจะดูแลตั้งแต่การออกแบบสถาปัตยกรรม การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงการบริหารจัดการหลังการขาย ทำให้โครงการมีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก ทำให้ Branded Residence กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนตัวตน และการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือสูง

 

3. มูลค่าเพิ่มและโอกาสในการลงทุน รายงานระบุว่า Branded Residence สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการได้สูงถึง 25–30% เมื่อเทียบกับโครงการที่ไม่ได้มีแบรนด์ในทำเลเดียวกัน ในด้านการลงทุน โครงการประเภทนี้มักมีอัตราค่าเช่า และราคาขายต่อที่สูงกว่าโครงการทั่วไปถึง 50-80% เนื่องจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่ดึงดูดทั้งนักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติ และกลุ่ม Digital Nomad ที่ต้องการมาตรฐานการอยู่อาศัยระดับโลก และในด้านของกำลังซื้อสูงไม่กระทบ แม้ภาพรวมตลาดจะซบเซา แต่ตลาดอสังหาฯ ระดับบนยังคงมีกำลังซื้อจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองและโครงการ Branded Residence ยังคงเปิดตัวและทำยอดขายได้ดี

 

InterContinental Residences Bangkok Asoke

PEYLAA Phuket

7. กระแส “เช่า” และ “เช่าซื้อ” (Rental & Rent-to-Own) มาแรงต่อเนื่อง

การเช่าและเช่าซื้อ เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกของคนเมือง เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากมีปัญหาเรื่องการกู้ไม่ผ่าน การเช่าจึงเป็นทางเลือกหลัก นอกจากนี้ โมเดล “เช่าซื้อ” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เช่าสามารถเปลี่ยนเป็นเจ้าของได้ในอนาคตกำลังได้รับความสนใจและเป็นกลยุทธ์ใหม่ของผู้ประกอบการ และเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยสูง หนี้ครัวเรือน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำลังซื้อลดลง ส่งผลให้กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นหันมาเลือกการ “เช่า” แทนการเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพสูงใกล้รถไฟฟ้า ส่วนโมเดล “เช่าซื้อ” ได้รับความสนใจในฐานะทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่ยังกู้ไม่ผ่านหรือยังไม่พร้อมทางการเงินสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที โดยค่าเช่าส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสะสมเป็นเงินดาวน์เพื่อรอจังหวะซื้อในอนาคต ซึ่งโมเดลนี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคในการสร้างความพร้อมทางการเงิน และต่อผู้ประกอบการในการระบายสต็อกสินค้าคงค้าง ด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศตอนนี้ที่ทุกคนต้องรัดเข็มขัดในการใช้เงินอย่างมีสติ ซึ่งการจะต้องใช้เงินก้อนใหญ่อาจจะไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายคน ฉะนั้นการเช่าอยู่และเช่าซื้อก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครหลายๆคนในช่วงนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับคนเจนใหม่

8. เทรนด์ Universal Design และ Health & Wellness

เป็นเทรนด์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสังคมสูงอายุ คือ การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อคนทุกวัย และการพัฒนาโครงการที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี กลายเป็นเมกะเทรนด์สำคัญเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัว และแนวคิด Universal Design กำลังก้าวสู่การเป็นมาตรฐานใหม่ของการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยน เช่น ทางเข้าไม่มีขั้นบันได ทางเดินกว้าง และการใช้วัสดุป้องกันลื่น ซึ่งช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุอย่างปลอดภัย และเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์สิน ขณะเดียวกัน Health & Wellness Real Estate ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนตระหนักว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อสุขภาพ โดยการออกแบบจะนำหลักการ Neuro-architecture และ Biophilic Design มาใช้ เน้นการเข้าถึงแสงธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ การใช้วัสดุที่ไม่เป็นพิษ และการติดตั้งระบบกรองน้ำ/อากาศคุณภาพสูง นอกจากนี้ ในระดับโครงการยังเน้นการจัดให้มีพื้นที่สีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการออกกำลังกาย และพื้นที่สำหรับการรวมกลุ่มทางสังคม ซึ่งการผสานระหว่าง UD และ Wellness นี้ ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นของอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวอีกด้วย

9. กำลังซื้ออสังหาฯ จากต่างชาติยังเป็นหัวใจสำคัญ

เป็นความจริงที่สะท้อนถึงโครงสร้างของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดพรีเมียมและลักซ์ชัวรี่ ในด้านกำลังซื้อจากชาวต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่ม คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรี ในทำเลทองของกรุงเทพฯ รวมถึงโครงการวิลล่าและคอนโดมิเนียมพรีเมียมในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต และพัทยา โดยรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนโครงการวีซ่าระยะยาว และนโยบายที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น เป็นแรงดึงดูดสำคัญ นอกจากกรุงเทพฯ แล้ว จังหวัดใน EEC และภูเก็ต ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยกำลังซื้อจากต่างชาติจึงเปรียบเสมือนเครื่องจักร ที่ค้ำจุนตลาดอสังหาฯ ระดับบนของไทยไว้ ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยเองก็ต้องเร่งปรับตัวไปสู่การพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพและบริการระดับโลก เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเหล่านี้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

10. ตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลาง – ล่างยังคงเผชิญความท้าทาย

สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงล่างในปัจจุบัน ซึ่งมีราคาประมาณ 1-5 ล้านบาท ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่เผชิญความท้าทายหนักที่สุดในปี 2025 โดยปัญหาหลักไม่ใช่เรื่องของ “อุปทาน” แต่เป็นเรื่องของ “อุปสงค์” และ “การเข้าถึงสินเชื่อ”โดยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยยังคงซบเซาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ หนี้ครัวเรือนสูง และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่เข้มงวดและอยู่ในระดับสูง คอนโดมิเนียมและออฟฟิศบางพื้นที่ยังคงมีปัญหาอุปทานส่วนเกิน ทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่ และเน้นการระบายสต็อกสินค้าคงเหลือ และผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการอย่างระมัดระวัง เน้นโครงการในระดับราคาที่ยังมียอดขายดี และเน้นทำเลที่เชื่อมโยงกับแหล่งงาน โรงเรียน หรือศูนย์การค้าแทน ขณะเดียวกันปัญหาคอขวดที่รุนแรงที่สุดคือ วิกฤตกู้ไม่ผ่าน โดยธนาคารยังคงตั้งการ์ดสูงในการปล่อยสินเชื่อ เพราะกังวลเรื่อง DSR และ NPLs ทำให้มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50-60% ในบางพื้นที่ ส่งผลให้ยอดขายที่เกิดจากความต้องการจริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และผู้ประกอบการต้องชะลอการเปิดโครงการใหม่ในเซกเมนต์นี้ไปก่อน

ปี 2025 สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ในยุคที่กำลังซื้อภายในซบเซา และความเชื่อมั่นถูกสั่นคลอน อสังหาฯ ไทยจะอยู่รอดได้ต้องอาศัยเงินต่างชาติ การใช้เทคโนโลยี และการพัฒนาสินค้าที่แตกต่างจากเดิมสุดขั้ว เพื่อดึงดูดเม็ดเงินในตลาดที่ยังเหลืออยู่ให้ได้ และปีหน้ามาดูกันว่าแวดวงการอสังหาฯ ไทยจะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนได้บ้าง มาพบกันใหม่ในปีหน้า 2026 พร้อมกับแนวโน้มและบทสรุปที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม และจะมีประเด็นไหนที่น่าสนใจกว่านี้ ต้องรอชมกันด้วยนะ ฝากติดตาม Propholic ทั้งทางแฟนเพจ Facebook และช่อง tiktok กันด้วยน้า มีข่าวสารน่าสนใจและคลิปเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ให้ดูเพียบเลย

wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์

นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ

คัลเจอร์ จุฬา

เนอวานา แอทเวิร์ค กรุงเทพกรีฑา

โครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha มีหัวใจหลักขอ...

10 November, 2025

นิว เมกา พลัส บางนา

คอนโดภายใต้แบรนด์ Nue คือโครงการ Flagship ที่สำคัญจา...

3 November, 2025

นิว เรน แจ้งวัฒนะ

Nue REN Chaengwattana (นิว เรน แจ้งวัฒนะ) คือโครงการ...

10 October, 2025

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน - วงเวียนใหญ่

ย่านฝั่งธนฯ นับว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้ว...

29 September, 2025

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง