ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เคยไปเที่ยวฮ่องกง และได้แวะขึ้นไปที่ The Peak ที่ตั้งอยู่บนเขาวิคตอเรีย ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมวิวฮ่องกงได้ทั้งเมือง ก็คงจะเคยเห็นอพาร์ทเมนท์ตึกหนึ่ง ที่มีรูปทรงค่อนข้างประหลาดตา ไม่เหลี่ยมไม่มน แต่ดูบิดเป็นเกลียว แลดูไม่สมมาตรกันเลย ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ครับ แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าไอ้ตึกบิดๆ 12 ชั้นตึกนี้เนี่ย คือหนึ่งในโครงการคอนโดที่แพงที่สุดในโลก และเป็นน่าจะเป็นคอนโดที่มีวิว และฮวงจุ้ยดีที่สุดในโลกด้วยครับ…OPUS Hong Kong

เมื่อเดือนที่แล้วมีรายงานว่าห้อง Duplex ที่มีอยู่แค่ 2 ยูนิตในตึก จากยูนิตทั้งหมด 12 ยูนิต!!! ได้ถูกขายไปแล้ว (ซะที) ในราคา 497 ล้าน HKD ครับ (คิดเป็นเงิน US ก็ราวๆ 64.24 ล้าน USD หรือจะคิดเป็นเงินไทยก็ 2,169 ล้านบาทครับ!!!) สำหรับห้อง Duplex โคตรแพงนี้มีขนาดที่เป็น living space อยู่ที่ 5,188 ตารางฟุต (ประมาณ 467 ตรม.) และขนาดของสวนส่วนตัวอยู่ที่ 3,245 ตารางฟุต (ประมาณ 292 ตรม.) บวกกันแล้วก็เป็นพื้นที่ทั้งหมด 759 ตรม. หรือเท่ากับขายตรม.ละ 2,857,707 บาทครับ!!!! การซื้อขายดังกล่าวถือว่าเป็นดีลที่แพงที่สุดลำดับที่สามต่อจากยูนิตคอนโดหรูที่ลอนดอน และโมนาโก

โดยห้อง duplex ทั้งสองห้องที่ OPUS Hong Kong จะอยู่ที่ชั้น Ground Floor และชั้น 1 ครับ ความพิเศษของห้องนี้ก็คือมีสระว่ายน้ำส่วนตัว มีระเบียงที่ใหญ่มาก รวมถึงสวนส่วนตัวขนาดใหญ่พอที่จะเตะฟุตบอลได้ครับ…ตาม Plan นี้ละครับ เผื่อใครอยากจะไปซื้อห้องรีเซล ^^

ชั้น G

ชั้น 1

ส่วนมหาเศรษฐีที่ซื้อห้องนี้ไป ค่อนข้าง surprise มากครับ ที่ไม่ใช่เศรษฐีจากแผ่นดินใหญ่ ที่ระยะหลังมักจะเป็นขาประจำของการซื้อคอนโดที่ฮ่องกง แต่เป็นชาวเดนมาร์ค นามว่า Daniel Aazman ซึ่งห้องที่เค้าซื้อก็นับว่ามีราคาที่ถูกว่าตอนที่เริ่มขายในปี 2012 ที่ขายในราคา 520 ล้าน HKD หรือ 67.1 ล้าน USD (ก็น่าจะเป็นห้อง duplex ที่อยู่ข้างๆกันน่ะหละ)

หากไม่นับในเรื่องของโลเคชั่นที่ทำให้ราคาแพงมหาศาลถึงเพียงนี้แล้ว OPUS Hong Kong ยังมีอีกจุดสำคัญที่การันตีได้ถึงคุณภาพครับ นั่นคือมันถูกออกแบบโดยสุดยอดสถาปนิคแห่งศตวรรษนามว่า Frank Gehry (แฟรงก์ โอเวน เกห์รี) ครับ ซึ่งนับว่านี่เป็นครั้งแรก และน่าจะเป็นครั้งเดียวที่คุณแฟรงก์แกออกแบบคอนโดในแถบเอเชียครับ

สำหรับใครก็ตามที่พอจะศึกษางานด้านสถาปัตยกรรมมาบ้าง ก็จะพบว่าสถาปนิคชาวแคนาดาคนนี้มีผลงานระดับโลกอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Guggenheim Museum ที่เมืองบิลเบา ประเทศสเปน / Walt Disney Concert Hall ที่ลอสแองเจลิส / New York by Gehry ซึ่งเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในย่าน Western Hemishere ที่มี facade เป็นลอนคลื่นแนวตั้งทำด้วยแสตนเลสทั้งหมด!!

Credit ภาพ Guggenheim Museum Bilbao จาก: en.wikipedia.org/wiki/Guggenheim_Museum_Bilbao

Walt Disney Concert Hall

Credit ภาพ New York by Gehry จาก www.newyorkbygehry.com

ผลงานของ Frank Owen Gehry จัดว่ามีความท้าทายทางด้านวิศวกรรมมากพอสมควรครับ เนื่องจากลักษณะเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบจะเป็นไปในแนวโค้ง ขดเป็นวงก้นหอย หรือเกลียวคลื่น รวมถึงวัสดุในการก่อสร้างที่เป็นการผสมผสานกันระหว่าง metal และ glass  (Guggenheim Museum Bilbao นี่ใช้ไทเทเนียมเป็นวัสดุหลักนะครับ) ซึ่งทาง Gehry มักจะให้คำนิยามในการออกแบบว่า ผมต้องการสร้างตึกที่แสดงออกถึงถึงท่วงทำนองเพลง มีคำร้องและจังหวะที่สื่อถึงความสุข  “I wanted to create musical buildings, lyrical buildings with a lot of delight”

ในการออกแบบ OPUS Hong Kong นั้น Gehry เล่าว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมของตัวโครงการ ที่เค้าต้องการทำให้ตัวตึกมีลักษณะเหมือนกับต้นหญ้าที่ปลิวพลิ้วไหวท่ามกลางสายลมแห่งหุบเขาวิคตอเรีย จึงออกแบบ facade ให้เป็นเสาแก้วบิดเป็นเกลียวขึ้นจากฐานตึกถึงยอดตึก (ชั้นดาดฟ้าเป็นสระว่ายน้ำนะครับ ถ้าได้ขึ้นไปคงฟินที่สุดของที่สุดครับ)

ด้วยการที่ตึกมีลักษณะขดเป็นเกลียว เป็นแท่ง facade แบบนี้แหละครับ ก็ช่วยให้โครงการมีระบบผนังรับน้ำหนักที่ไม่ต้องการเสาและคาน ทำให้การตกแต่งภายในนั้นมันทำได้ง่ายๆ แสงและอากาศผ่านได้เต็มที่ไม่มีบล๊อควิวครับ…แถมมีแค่ชั้นละยูนิตเท่านั้น ทำให้วิวที่แต่ละห้องมองจากระเบียง (หลายระเบียงเลยแหละ) เป็นแบบนี้ครับ………

ด้านล่างนี้คือรูปการตกแต่งห้องตัวอย่างโดยบริษัท Yabu Pushelberg

และนี่คือ 8 unique features ที่ทาง Swire Properties เจ้าของโครงการ OPUS Hong Kong เค้าสรุปให้ดูครับ

1. BOAT DECK Balconies – ระเบียงที่เหมือนดาดฟ้าของเรือที่สามารถดื่มด่ำวิวแบบ 360 องศาได้เต็มที่

2. Curving Columns – เสาโค้งหุ้มด้วยกระจก เปรียบดั่งต้นหญ้าพริ้วไหวท่ามกลางสายลม

3. Sky Terrace – จุดชมวิวบนดาดฟ้า

4. Double – Level garden apartments – อันนี้มีเฉพาะห้อง duplex 2 ห้องนะจ๊ะ น่าจะกระโดดจากหน้าต่างลงไปสระ หรือสวนได้เลยครับ

5. Stone Foundations – ส่วน facade โครงสร้างชั้นใต้ดินจนถึงชั้น 1 ทำด้วยหินแท้จากสเปน

6. Wraparound Windows – หน้าต่าง floor to ceiling บานกระจกใหญ่เป็นพิเศษ

7. Stone Towers – ด้านตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ จะ design เป็นโครงสร้างหินและมีรูปแบบหน้าต่างบริเวณครัวที่ยื่นออกมาจากตัวตึก

8. Space and Shape – ด้วยการที่มี spiral facade เป็นแท่งบิดเกลียวทำให้วิวที่ได้ของแต่ละห้องจะแตกต่างกันไปทุก

ห้อง

Credit รูป: http://www.opushongkong.com/

ที่มา : Asia’s most expensive apartment finally has an owner