Source - ฐานเศรษฐกิจ Wednesday, July 01, 2015 Credit ภาพ: http://www.noblehome.com/condominium/revolve-ratchada2/th/home คอลลิเออร์ส ชี้จับตาพื้นที่รอบแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม เชื่อตลาดอสังหาฯบูมแน่ เหตุที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมไม่สอดคล้องกับราคาที่ดินที่เปลี่ยนแปลง ดันคอนโดฯ-อาคารสำนักงานโต ด้านกูรูที่ดินฟันธงเริ่มก่อสร้างราคาที่ดินพุ่ง 3 เท่า โนเบิล เผยรัชดาฯอนาคตซีบีดีใหม่ ยอดขายโครงการในพื้นที่เป็นที่น่าพอใจ นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เส้นทางของรถไฟฟ้าทุกเส้นทางมีผลต่อความเจริญเติบโต และช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนตลอดแนวเส้นทาง ล่าสุด แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน - มีนบุรี) ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติให้ยึดตามแนวเส้นทางเดิมคือเริ่มจากถนนราชปรารภแล้วขึ้นเหนือไปทางถนนประชาสงเคราะห์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และวกลงมาทางถนนวัฒนธรรมเพื่อมาบรรจบกับถนนพระราม 9 ซึ่งเส้นทางดังกล่าวมีการจัดทำรายละเอียด รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็ผ่านการอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว "เมื่อใดที่โครงการรถไฟฟ้าเกิดขึ้น จะทำให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางสายสีส้มนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในอนาคต เพราะปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมอาจจะไม่เหมาะกับราคาที่ดินที่มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจจะเห็นการปรับเปลี่ยนไปเป็นโครงการอาคารชุด หรืออาคารสำนักงานมากขึ้นในอนาคต"นายสุรเชษฐกล่าวและว่า ปัจจุบันบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมที่คาดว่าจะเป็นสถานีที่มีความสำคัญในอนาคต ในฐานะที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางสายสีส้ม (รัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตรจากสถานี) พื้นที่นี้มีคอนโดมิเนียมทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการสร้างอยู่ 8 โครงการ จำนวน 5,076 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ 6 โครงการ และโครงการเก่าอีก 2 โครงการ ซึ่งมีอัตราการดูดซับมากกว่า 85% รวมทั้งมีอาคารสำนักงาน 3 - 4 อาคาร และอาคารสำนักงาน/ศูนย์การค้าของกลุ่มทีซีซี ซึ่งสถานีนี้ยังไม่ไกลจากอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโมเดอร์น พร็อพเพอตี้ คอลซัลแตนท์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึง ราคาที่ดินในพื้นที่แนวรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า ปัจจุบันยังคงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากยังไม่มีการเปิดประมูลการก่อสร้างอย่างชัดเจน จะมีก็เพียงแค่การหมายตามองหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการเท่านั้นและยังไม่มีการเจรจาซื้อขาย แต่เมื่อใดที่มีการเปิดประมูลการก่อสร้างราคาที่ดินจะมีการเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเฉลี่ยปีละเท่าตัว สำหรับราคาที่ดินในส่วนของพื้นที่แนวสายสีส้ม ช่วงประชาสงเคราะห์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ราคาอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทต่อตร.ว. ซึ่งน้อยกว่าราคาที่ดินย่านรัชดาฯที่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดให้บริการ ราคาขายอยู่ที่ 6-7 แสนบาทต่อตร.ว.หากโครงการเริ่มมีการประมูลก่อสร้าง คาดว่าราคาที่ดินย่านประชาสงเคราะห์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ จะขยับขึ้น 3 เท่าตัว ด้านนายธีรพล วรนิธิพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในบริเวณแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 2 โครงการ ซึ่งใกล้สถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ได้แก่ โครงการโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา1 (Noble Revolve Ratchada1) ปัจจุบันปิดการขาย อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2560 และโครงการโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2 (Noble Revolve Ratchada2) ที่เปิดขายเมื่อปลายปี 2556 ปัจจุบันมียอดขาย 70% ซึ่งกลุ่มลูกค้าประมาณ 30% เป็นชาวจีนและชาวต่างชาติ "ทำเลย่านรัชดาฯ เป็นทำเลที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่นของการเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ทำให้ราคาซื้อขายที่ดินดิบมีการปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะรัชดาฯกำลังจะกลายเป็นแหล่งธุรกิจที่เกิดการลงทุนทั้งในด้านอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และศูนย์ความบันเทิง ที่รองรับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯจะเป็นจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟใต้ดินสายต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิสายสีส้ม อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังบีทีเอสและแอร์พอร์ตลิงก์ได้อย่างสะดวกสบาย"