V-ZUG ผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติสวิส เดินหน้าขับเคลื่อนการออกแบบเพื่อความยั่งยืน
V-ZUG (เฟา-ซูก) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สานต่อความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในงานเสวนา V-ZUG Thailand Sustainability Talk 2025 ภายใต้แนวคิด “Form, Function & Flavour: มุมมองข้ามวงการว่าด้วยความยั่งยืนในเชิงสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ไลฟ์สไตล์ และศาสตร์การปรุงอาหาร” ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน และวงการอาหาร มาร่วมแบ่งปันมุมมองในการผสมผสานมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลกเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างกลมกลืน เวทีนี้จัดขึ้นที่ V-ZUG Studio Bangkok ได้จุดประกายบทสนทนาอันทรงคุณค่า เพื่อร่วมกำหนดอนาคตอย่างรับผิดชอบและตระหนักรู้ของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แบรนด์ V-ZUG ก่อตั้งขึ้นที่เมืองซูก (ZUG) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลาถึง 112 ปี พร้อมความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นและนวัตกรรมระดับ Swiss-made รวมถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อพันธกิจด้านความยั่งยืน โดย V-ZUG ดำเนินงานตามกรอบ 3Ps ได้แก่ Planet (โลก), People (ผู้คน) และ Profit (ผลกำไร) สร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทานและสามารถบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรต่าง ๆ เช่น น้ำ สารทำความสาอาด และพลังงาน นอกจากนี้ V-ZUG ยังชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโครงการ V-Forest ที่ช่วยฟื้นฟูผืนป่า จนถึงตอนนี้มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วประมาณหนึ่งล้านต้น ทั้งยังส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบโดยการให้ความรู้แก่ลูกค้าในเรื่องการลดปริมาณขยะจากอาหารอีกด้วย
V-ZUG ผสมผสานความแม่นยำแบบสวิสเข้ากับความยั่งยืน โดยลงทุนกว่า 300 ล้านฟรังก์สวิสในกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% มีการออกแบบโรงงาน Zephyr East เป็นแนวตั้งเพื่อลดการใช้พื้นที่ดิน มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนประกอบ อาทิ ไม้จากท้องถิ่นในสวิตเซอร์แลนด์ และเหล็กรีไซเคิล โดย 80% ของขยะทั้งหมดจะนำมารีไซเคิล และดำเนินกิจการบนแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ถือได้ว่า V-ZUG สามารถกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการผลิตที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ยังออกแบบภายใต้หลักการ “Design to Circularity” ที่เน้นย้ำเรื่องความทนทานและสามารถรีไซเคิลได้ ขณะที่นโยบายภาษีคาร์บอนยังมีส่วนช่วยผลักดันการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม สิ่งของต่าง ๆ หมุนเวียนมาใช้ใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น โต๊ะ “Adora Table” ที่ผลิตจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ V-ZUG ในการพัฒนานวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ
แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ V-ZUG ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงแนวทางความยั่งยืนแบบองค์รวมของแบรนด์ว่า “ที่ V-ZUG เราเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนควรเริ่มต้นจากการปลูกฝังแนวคิดให้แก่คนรุ่นใหม่เพื่อสร้างจิตสำนึกต่อโลก อย่างการหลีกเลี่ยงการบริโภคอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งหลักคิดนี้ได้แทรกอยู่ในกระบวนการการออกแบบของเราทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน มุ่งลดสิ่งที่เกินจำเป็น แต่ยังคงรักษาความหรูหราอันยั่งยืนไว้ได้อย่างลงตัว V-ZUG ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุจากแหล่งท้องถิ่น การใช้แสงธรรมชาติ และการชดเชยการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยผลกระทบจากการนำเข้าสินค้า ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายด้วยตัวชี้วัด (KPIs) จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคภายในองค์กร ให้เน้นการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สอดรับกับแนวทางการดำเนินกิจการที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญของ V-ZUG”
การคัดสรรวัตถุดิบและรังสรรค์อาหารอย่างสร้างสรรค์
เชฟตาม – ชุดารี เทพาคำ เชฟและเจ้าของร้านอาหารบ้านเทพา ระดับ 2 ดาวมิชลิน และเชฟแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ V-ZUG ที่ได้ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์เบื้องหลังความสำเร็จของ บ้านเทพา ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ตั้งอยู่ในบ้านเก่าที่ได้รับการบูรณะใหม่ โดยยึดมั่นแนวคิดความยั่งยืนมาโดยตลอด บ้านเทพามีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเกษตรกรท้องถิ่น และยึดมั่นในหลักการเลือกใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย ปลอดสารเคมี และมีคุณภาพสูง โดยกว่า 85% ของผักที่ใช้ในร้านมาจากสวนเกษตรอินทรีย์ของทางร้าน ซึ่งได้รับการบำรุงด้วยปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในครัว พนักงานทุกคนได้รับการอบรมเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ การถนอมอาหาร และการหมักดองอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณขยะจากอาหารให้เหลือเพียง 8 – 10 กิโลกรัมต่อวันภายในปี 2026 นอกจากนี้ บ้านเทพายังได้ร่วมมือกับกลุ่มดีไซเนอร์ไทย Waste Matter ในการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้จากอาหารให้กลายเป็นของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ เช่น เชิงเทียนจากเปลือกไข่และเปลือกอาหารทะเล
เชฟตาม เชื่อมโยงความหลงใหลของเธอในเรื่องความยั่งยืนเข้ากับค่านิยมของแบรนด์ V-ZUG โดยมองบทบาทแบรนด์แอมบาสเดอร์ว่าเป็นโอกาสเพื่อรวมแนวคิดนี้ไว้ในผลงานของเธอ โดยกล่าวว่า “การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นทั้งไลฟ์สไตล์และทางเลือก เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน ล้วนทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น การออกแบบที่สวยงามและใช้งานง่ายไม่เพียงช่วยให้เพลิดเพลินกับการทำอาหาร แต่ยังทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงวัสดุที่ใช้ก็ช่วยถนอมอาหารได้นานขึ้น ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันหมด ความสะดวกสบายเป็นหัวใจสำคัญ เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่เอื้อให้ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้ง่ายขึ้น ก็ทำให้คนเปิดใจและทำได้จริงในชีวิตประจำวัน”