ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม Vacation Home หรือ กลุ่มตลาดอสังหาเพื่อการพักผ่อนในเมืองท่องเที่ยวตากอากาศเป็นกลุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และกำลังร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วง High Season จากปัจจัยสนับสนุนอย่าง Mega Trend ด้านการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก จนส่งผลมาถึง Consumer Trends ในแง่ต่างๆ ทั้งในเรื่องของสายการบินในประเทศที่เพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น, จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น, การหลีกเลี่ยงจากปัญหา Geo – Politics ในหลายประเทศ, ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบ Wellbeing, รูปแบบการทำงานทางไกลโดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ, ความได้เปรียบของค่าครองชีพที่ต่ำกว่าในประเทศไทย รวมถึงการมีบ้านพักหลังที่ 2 สำหรับเกษียณ (Second Home for Retirement) ซึ่งล้วนแล้วส่งผลด้านบวกกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ตากอากาศ หลายๆแห่งในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์บริเวณชายฝั่งทะเลทางภาคใต้ ในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง ภูเก็ต

โดยข้อมูลจาก Knight Frank เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ตแสดงถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรก ของปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมถึง 4.3 ล้านคน ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดเพียง 7% เท่านั้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นถึง 2.6 ล้านคน ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 42% เมื่อเทียบกับปีต่อปี และยังเกิดความต้องการในการอยู่อาศัยแบบ Long-stay หรือการอยู่ระยะยาวเป็นบ้านหลังที่ 2 กันมากขึ้นทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและคนต่างชาติ

สอดคล้องกับข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ REIC ที่เผยว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวม 13,218 หน่วย มูลค่า 108,419 ล้าน แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 2,674 หน่วย มูลค่า 13,837 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 10,544 หน่วย มูลค่า 94,582 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 4,791 หน่วย เพิ่มขึ้น 190.5% มูลค่า 46,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 829.8% และแม้จะการเปิดขายเยอะ แต่ก็ขายได้เยอะมากเช่นกัน กับจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ถึง 5,253 หน่วย เพิ่มขึ้น 75.7% คิดเป็นมูลค่า 43,907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.4% โดยข้อมูลที่สำคัญพบว่า พื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุดอันดับแรกในครึ่งแรกของ ปี 2567 คือโซนหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 2,216 หน่วย มูลค่า 26,055 ล้านบาท

ทั้งนี้ แสนสิริเป็นดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่รายแรกที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการบนทำเลภูเก็ต โดยเป็นหนึ่งใน Strategic Location หรือพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำ แสนสิริ 40 ปี มุ่งสู่ International Luxury Real Estate Brand ผู้นำแบรนด์อสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่อันดับหนึ่งในใจลูกค้าระดับบน กับการเดินทางเคียงคู่ภูเก็ตมากว่า 13 ปี ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งทั้งในด้านดีไซน์ คุณภาพ และการบริการ จนเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 22,600 ล้านบาท ทั้ง City Condo และ คอนโด Segment A อย่าง Baan Mai Khao (2013) ที่แม้โครงการผ่านไป 10 ปีก็ยังได้รับการดูแลให้สวยงามเรียบร้อยไม่เปลี่ยน ด้วยทีมงานมืออาชีพจาก Plus Property ทำให้มั่นใจเรื่องบริการหลังการขายได้ พร้อมรองรับการเติบโตจากการเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตและสานต่อความสำเร็จด้วยแผนการเปิดตัวโครงการที่พร้อมเป็น Landmark ใหม่ในย่านยอดนิยมอันดับหนึ่งอย่างหาดบางเทา – เชิงทะล ทั้ง The TALES (เดอะ เทลส์) พูลวิลล่าคอลเลคชันแรกจากแสนสิริ, “The Society” (เดอะ โซไซตี้) ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ของแสนสิริในภูเก็ต และ “CANVAS Cherngtalay” (แคนวาส เชิงทะเล) คอนโดมิเนียมแสนสิริแห่งแรกในโซนเชิงทะเล ที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ OASIS แห่งโซนเชิงทะเล ภายใต้แนวคิด UNREVEALED BEAUTY มีไฮไลท์คือ 2 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ในสวนสวยสไตล์ Tropical ด้วยห้องขนาดใหญ่แบบ Fully Furnished รองรับความต้องการทั้งกลุ่มลูกค้าต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุนไทย บนทำเลที่สมบูรณ์แบบ Prime area ในโซนเชิงทะเล (Laguna zone) ซึ่งนับเป็นโซนทองหล่อ ภูเก็ต จากการเป็นทำเลยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชายหาดที่สวยงามและเป็นหาดที่ยาวเป็นอันดับสองในภูเก็ต รวมทั้งยังมีความโดดเด่นในการเดินทางเชื่อมทำเลอื่นๆ ของภูเก็ตได้สะดวก ห่างจากหาดบางเทา เพียง 2.3 กิโลเมตรเท่านั้น รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง Boat Avenue, Porto de Phuket, Laguna Holiday Club, Golf Club , สวนน้ำ , เฮลธ์คลับ และโรงเรียนนานาชาติ เพียงไม่กี่ก้าวถึง Boat Avenue Park & Play Ground ที่อยู่ห่างแค่ถนนกั้น ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท* ตอบโจทย์กลุ่มชาวต่างชาติ ทั้งรัสเซีย ยุโรป อเมริกัน สิงคโปร์ ที่ซื้ออยู่เองเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ในภูเก็ต รวมถึงกลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ที่ลงทุนปล่อยเช่าให้กับกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงาน Remote working ที่มาอาศัยอยู่แบบ Long Stay ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องหลังโควิดและอยู่อาศัยนานขึ้น ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงถึง 8-12%

เผยรายละเอียด Canvas Cherngtalay (แคนวาส เชิงทะเล) โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ OASIS ภายใต้แนวคิด “UNREVEALED BEAUTY หรือความงดงามที่ถูกเปิดเผย” ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร

“CANVAS Cherngtalay” เป็นคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่แบบ Low-Rise จากแสนสิริแห่งแรกใจกลาง โซนเชิงทะเล ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ บนถ.ป่าสัก-โคกโตนด มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท จำนวน 175 ยูนิต มาพร้อมเลย์เอาท์ที่หลากหลายแบบ Fully Furnished รองรับทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ราคาเริ่มต้น 8.9 – 20.5 ล้านบาท* เริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 39.25 – 49.75 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 58.50 – 82.75 ตารางเมตร ไปจนถึงห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 83.00 – 105 ตารางเมตร มอบส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร มาพร้อม FACILITIES ครบครัน อาทิ 2 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่สวนสีเขียวสไตล์ Luxury Tropical, SKY lounge และคลับเฮาส์แบบครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย อาทิ Golf Simulator Suite, Fitness Centre และ Sunset BBQ Terrace มาพร้อมกับการดูแลลูกบ้านและการอยู่อาศัยแบบเหนือชั้นจาก PLUS PROPERTY ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขาย ดูแลความสวยงามของโครงการ ดูแลเรื่องการปล่อยเช่า รวมถึง LIV-24 ศูนย์ควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์มาตรฐานระดับสากล

โดยตัวโครงการจะเป็นอาคารพักอาศัยจำนวนทั้งหมด 4 อาคาร มีความสูงอยู่ที่ 5 ชั้น และมีอาคารจอดรถแยกออกมา 1 อาคารความสูง 7 ชั้น

อาคารจอดรถ สูง 7 ชั้น พร้อม Sky Facilities ที่มี SKY LIVING LOUNGE & CO – WORKING SPACE , GOLF SIMULATOR SUITE , FITNESS CENTRE , SUNSET BBQ TERRACE

มีการจัดวางพื้นที่ส่วนกลางกระจายทั่วทั้งโครงการภายใต้คอนเซปท์ Oasis ใจกลางเชิงทะเล มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระ ให้บรรยากาศร่มรื่นสไตล์ Luxury Tropical การออกแบบการวางตำแหน่งของทุกอาคาร ถูกคิดมาอย่างพิถีพิถัน ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบโครงการ และตอบโจทย์ของบ้านหลังที่ 2 ไว้อย่างดี ด้วยการวางตัวอาคารตามที่ดินแนวยาว ให้กระจายระยะห่างในแต่ละอาคารไปตามแนวที่ดิน ทำให้ลมถ่ายเทได้ทั่วถึงทั้งโครงการ มีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นทั่วถึงทั้งโครงการ และการจัดวางต้นไม้ใจกลางโครงการทำให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นสบายตา เช่นเดียวกับการออกแบบให้มุม Sunset BBQ Terrace เป็นตำแหน่งที่เห็นวิวของพระอาทิตย์ตกได้สวยงามชัดเจนที่สุด

ไม่ว่าจะเลย์เอาท์แบบไหน ก็ถูกดีไซน์อย่างใส่ใจทุกดีเทล เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตพร้อมเป็นบ้านหลังที่ 2 ให้กับผู้อยู่อาศัย

ซึ่งไฮไลท์ที่สำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับโครงการนี้ ก็คือรูปแบบ Layout ห้องในโครงการ Canvas เชิงทะเล ถึงแม้ว่าจำนวนยูนิตทั้งโครงการจะมีเพียง 175 ยูนิตเท่านั้น แต่ทุกๆยูนิตและทุกๆเลย์เอาท์ในโครงการ จะได้รับการดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อตอบโจทย์ และเติมเต็มการใช้ชีวิตพร้อมเป็นบ้านหลังที่ 2 ให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งทุกห้องจะมี feature Highlight ที่สำคัญคือ การเป็นเลย์เอาท์ห้องหน้ากว้าง เพดานสูงกว่า 3 เมตร มาพร้อมระเบียงด้านนอกขนาดใหญ่รูปทรงโค้งรับกับดีไซน์ภายนอกอาคาร และใส่เฟอร์นิเจอร์มาให้ครบเซ็ต

ตัวโครงการมียูนิตเลย์เอาท์แบบหน้ากว้างให้เลือกหลากหลายมาก โดยที่ยังมีแบบพิเศษคือห้อง Pool access และห้อง Penthouse พร้อม Rooftop ส่วนตัวที่มีจำนวนจำกัด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มห้องที่ตอบโจทย์ความต้องการในการซื้อและใช้งานที่แตกต่างกันออกไป 3 ประเภท ได้แก่

กลุ่มแรก: เป็นห้องที่เหมาะกับการลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า กับห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 39.25 – 49.75 ตรม.

โดยห้องที่เหมาะกับด้านการลงทุนจะเป็นห้องในรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 39.25 – 49.75 ตารางเมตร ถึงแม้จะเป็นห้องเริ่มต้น 1 ห้องนอน แต่ได้เป็นห้องหน้ากว้าง เพดานสูง 3 เมตร ทำให้ห้องมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงธรรมชาติส่องถึง ส่วนฟังก์ชันภายในห้องสามารถแบ่งได้เป็นสัดเป็นส่วน ตั้งแต่พื้นที่โซน นั่งเล่น พื้นที่โซนรับประทานอาหาร และพื้นที่โซนห้องนอนที่มาพร้อม Walk-in closet ได้ Balcony ขนาดใหญ่ สามารถตั้งเซ็ท Daybed หรือเก้าอี้อาบแดดได้อย่างสบาย มานั่งจิบกาแฟยามเช้า ในบรรยากาศที่ร่มรื่น

ในส่วนของห้องน้ำถ้าเป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 49.00 – 49.75 ตารางเมตร จะมาพร้อมกับพื้นที่อ่างอาบน้ำใส่เข้ามาให้ด้วย อีกทั้งยังได้ระเบียงที่มีพื้นที่มากกว่า

ห้องแบบนี้จะตอบโจทย์นักลงทุนที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ได้ห้องแต่งครบ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ต เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ* มากไปกว่านั้นห้องนี้ยังมาพร้อมกับ Package Property Care จาก Plus Property ฟรี 1 ปี ดูแลความสะอาดเรียบร้อยหลังการขาย* ถึงแม้ว่าเจ้าของห้องจะไม่ได้อยู่ที่ภูเก็ตก็สบายใจได้ กับทีมงานมืออาชีพที่พร้อมดูแล

กลุ่มสอง: เป็นห้องที่สามารถตอบโจทย์ครอบครัวที่มองหาบ้านหลังที่สอง ด้วยห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 58.50 – 82.75 ตรม.

โดยห้องที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวได้จะเป็นห้องในรูปแบบ 2 Bedroom ขนาด 58.50 ตารางเมตร ซึ่งก็มาพร้อมกับห้องหน้ากว้าง เพดานสูง 3 เมตร เช่นกัน มีส่วน Living, Dining และ Kitchen ที่เชื่อมต่อพื้นที่เข้าถึงกัน และเปิดออกสู่ระเบียงกว้างได้ และด้วยความที่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น จะทำให้ห้องนอนมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ทั้งห้อง Master Bedroom ที่สามารถวางเตียง king size ได้สบายๆ รวมไปถึงห้องนอนก็สามารถวาง เตียง Queen size ได้ มีประตูห้องน้ำรองแบบ Double Access รองรับการใช้งานของสมาชิกได้ทั้งครอบครัว

ในส่วนของห้องที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 78.00 – 82.75 ตารางเมตร พื้นที่ห้องนอน Master Bedroom จะมีพื้นที่เหลือเพิ่มเติม สามารถมีมุมวางโซฟา Daybed ไว้นอนเล่นเอกเขนกได้ และพื้นที่ของห้องน้ำก็ยังมีใส่อ่างอาบน้ำมาให้เช่นกัน ในส่วนพื้นที่การใช้งานอื่นๆ อย่างพื้นที่ครัวก็จะออกแบบมาเป็นทรง U Shape ที่เพิ่มสัดส่วนของ Island ให้สามารถรองรับพื้นที่ทานอาหารได้เพิ่มมากขึ้น ใครเป็นคนรักหรือชอบการทำอาหาร เป็นชีวิตจิตใจเหมาะสมเลย นอกจากนี้ยังแยกส่วนของตู้วางเครื่องซักผ้าไว้ชิดกับระเบียงด้วย ประตูห้องน้ำรองเป็นแบบ double access เพิ่มความ private ให้ลูกบ้าน เวลามีแขกมาไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน โดยสามารถเลือกตำแหน่งห้องที่เป็น Garden access และ Pool access ได้ด้วย

กลุ่มสาม: ห้องไฮไลท์ Rare Unit ขนาดใหญ่ ทั้งแบบ Pool access และ Penthouse มี Rooftop ส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่อยู่เองแบบยาวๆก็สบาย

ห้อง Rare Unit จะเป็นห้องที่มีมุม Garden access และ Pool access โดยห้อง Penthouse จะมีพื้นที่ Rooftop ส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟขึ้นไปนั่งเล่นชมวิวได้ โดยจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 83.00 – 105.00 ตารางเมตร สามารถใช้อยู่อาศัยเองแบบยาวๆ Long stay ได้เลย ให้ความรู้สึกการพักอาศัยสุดพิเศษในแบบที่ทุกวันคือการพักผ่อน (Sense of Luxury Vacation) และที่สำคัญในอนาคตยังมีโอกาสในการทำกำไรจากการขายต่อได้มากกว่าห้องแบบปกติ เพราะเป็นรูปแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตน้อย ราคาพรีเมียมที่สุดของโครงการ เรียกได้ว่าเป็นของแรร์สุดๆ

โซนเชิงทะเล ย่าน Prime Area ที่ชาวต่างชาติ รัสเซีย ยุโรป อเมริกัน นิยมอยู่อาศัยมากว่า 10 ปี

โครงการจะตั้งอยู่ในทำเลโซนเชิงทะเล บนเนื้อที่ดินโครงการประมาณ 6 ไร่ ติดถนนป่าสัก-โคกโตนด ห่างจากหาดบางเทา เพียง 2.3 กิโลเมตร รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ทั้งชาวรัสเซีย ยุโรป อเมริกัน ที่นิยมอยู่อาศัยกันมากว่า 10 ปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เองหรือมองหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าได้ดีที่สุดในตอนนี้ โดยมีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงถึง 8-12% ต่อปี ทำราคาเช่าได้ราวๆ 1,000 – 1,200 บาทต่อตรม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม ทั้ง Boat Avenue, Porto de Phuket, Laguna Holiday Club, Golf Club , สวนน้ำ , เฮลธ์คลับ และโรงเรียนนานาชาติ เพียงไม่กี่ก้าวถึง Boat Avenue Park & Play Ground ที่อยู่ห่างแค่ถนนกั้น ในอนาคตก็กำลังจะการพัฒนา Future Development หลายๆโครงการตามมา เช่น The Standard Residences, Phuket Bang Tao,  VitalLife Scientific Wellness Center ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติเปิดใหม่ และแสนสิริก็เพิ่งเปิดตัว “The Society” (เดอะ โซไซตี้) ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ของแสนสิริในย่านนี้ ที่คัดสรรและรวบรวมไลฟ์สไตล์ชั้นนำอย่างพิถีพิถันมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นอาหารเลิศรสสไตล์สเปนที่ “Vamos” ร้านกาแฟสุดเก๋ “BEANS Roaster” พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ ตลอดจนเป็นพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ และเชื่อมต่อกันได้มากยิ่งขึ้น จึงเรียกได้ว่าเป็นโซนศักยภาพ Prime Location ที่กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังเป็นตำแหน่งที่อยู่ไม่ได้ไกลจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก หรือจะเดินทางเข้าโซนเมืองเก่า Phuket Old town ก็สะดวกเช่นกัน

หากใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัยแนว Vacation Home อยู่หรือเป็นนักลงทุนที่ชื่นชอบในแบรนด์แสนสิริอยู่แล้ว เตรียมตัวเลยเพราะ CANVAS Cherngtalay จะเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง ในวันที่ 24-26 ตุลาคมนี้ (พร้อมกับวันพรีเซล) ที่ The Society (Sansiri’s social space in Phuket) โดยได้จัดโปรโมชั่นเปิดจอง Early Bird แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 ต.ค.*  โดยมาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 600,000 บาท* ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ต ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า* พร้อมรับ Package Property Care จาก Plus Property ฟรี 1 ปี มีบริการดูแลความสะอาดเรียบร้อยหลังการขาย* ถึงแม้ว่าเจ้าของห้องจะไม่ได้อยู่ที่ภูเก็ตก็สบายใจได้ เพราะมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลให้ ทั้งนี้โครงการผ่านการอนุมัติจาก EIA และดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ และส่งมอบห้องชุดให้กับลูกค้าได้ช่วงต้นปี 2569

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการ และรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ https://siri.ly/C4JEnF9

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

#CANVAS #คอนโดมิเนียม #เชิงทะเล #Sansiri40years #Sansiri #YouAreMadeForLife #SansiriCondo#SansiriNo1Brand #แสนสิริแบรนด์อันดับหนึ่ง